Traditional Decision Trees เป็นอัลกอริทึมที่ใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการทำนายผลลัพธ์ เช่น การทำนายว่าลูกค้าจะซื้อสินค้าหรือไม่ (Classification) หรือลูกค้าจะทำการตอบสนองอย่างไรต่อแคมเปญใดๆ (Regression)
โดยหลักการทำงานของ Traditional Decision Trees คือการแบ่งข้อมูลออกเป็นโหนด (nodes) โดยใช้ฟีเจอร์ที่ทำให้เกิดการแยกข้อมูลที่เหมาะสมที่สุด
ตัวอย่างวิธีการทำงานของ Traditional Decision Trees
การสร้างโครงสร้างของ Tree โดย Tree จะเริ่มต้นด้วยโหนดหลัก (root node) ซึ่งข้อมูลทั้งหมดอยู่ในโหนดนี้ หลังจากนั้น Tree จะเลือกฟีเจอร์ที่ดีที่สุดในการแยกข้อมูลออกเป็นสองกลุ่ม โดยวัดจากเกณฑ์เช่น Gini Impurity หรือ Entropy เพื่อประเมินว่าฟีเจอร์ใดทำให้เกิดการแยกข้อมูลที่ชัดเจนที่สุด
การสร้างโครงสร้าง Trees ที่แตกต่างจาก Traditional Decision Trees ในขณะที่ Traditional Decision Trees มุ่งเน้นไปที่การแบ่งกลุ่มเพื่อทำนายผลลัพธ์ (เช่น การซื้อสินค้า) Uplift Trees จะเน้นไปที่การเปรียบเทียบผลลัพธ์ระหว่างกลุ่มที่ได้รับการ Treat (เช่น กลุ่มลูกค้าที่ได้รับคูปอง) และกลุ่มควบคุม ทั้งนี้ เพื่อระบุว่าฟีเจอร์ใดมีผลต่อการตัดสินใจของลูกค้ามากที่สุด
สมมติว่ามี Uplift Trees สองต้นที่แบ่งกลุ่มลูกค้าตามฟีเจอร์เดียวกัน การเปรียบเทียบ Uplift Score ระหว่างกลุ่มที่ได้รับการรักษาและกลุ่มควบคุมจะทำให้เราทราบว่า Trees ไหนที่ทำให้เกิดการยกระดับที่สูงกว่ากัน ซึ่งหมายความว่า ฟีเจอร์ที่ใช้ใน Trees นั้นๆ ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้ามากขึ้นหลังจากได้รับการ Treat ค่ะ
2.3 สรุปข้อเปรียบเทียบระหว่าง Uplift Trees และ Traditional Decision Trees
เป้าหมายการทำนาย: Traditional Decision Trees มุ่งเน้นไปที่การทำนายผลลัพธ์โดยไม่สนใจว่าลูกค้าจะได้รับการตลาดหรือไม่ ขณะที่ต้นไม้ Uplift มุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์ว่าใครควรได้รับการตลาดเพื่อเพิ่มอัตราการตอบสนอง
เกณฑ์การแยก: Traditional Decision Trees ใช้ Gini Impurity หรือ Entropy ในการแบ่งโหนด ขณะที่ Uplift Trees ใช้เกณฑ์ทางสถิติที่วัดความแตกต่างระหว่างกลุ่ม Treated และกลุ่มควบคุม
การประยุกต์ใช้งาน: Traditional Decision Trees เหมาะกับการทำนายผลลัพธ์ทั่วๆ ไป เช่น การทำนายการซื้อสินค้าหรือการตอบสนองต่อแคมเปญ แต่ Uplift Trees เหมาะกับการวิเคราะห์เชิงสาเหตุในการตัดสินใจว่าควรกำหนดเป้าหมายลูกค้าคนใดเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
Hi, I am Nick,,,,Panaya Sudta (●'◡'●)
Engineer during the daytime. Researcher at night. Reader in spare time. (❁´◡`❁) วิศวกร/นักวิจัย/ Market research ค่ะ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้แชร์มุมมองกันนะคะ
FacebookFacebookXXLINELineเมื่อธุรกิจกำลังเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ผู้นำต้องปรับตัวให้ทันกับความท้าทาย เทคโนโลยี และความคาดหวังของพนักงาน การตลาดวันละตอนได้มีโอกาสไปร่วมงาน Future Trends Ahead Summit 2025 และใน Session New Rules of Leadership: Adapting to a New World โดยคุณนภัส ศิริวรางทูรจาก Hewitt จะพูดถึงเทรนด์ของการเป็นผู้นำในยุคใหม่ว่าเป็นยังไงค่ะ ซึ่งใน Session นี้ได้ชี้ให้เห็นถึง 3 เทรนด์หลักที่กำหนดลักษณะของผู้นำในอนาคต ได้แก่ The Anatomy of Future Leaders (โครงสร้างของผู้นำแห่งอนาคต) , Insights – The Most Powerful “C’s” for Leading the Future (ปัจจัยสำคัญของความสามารถในการนำองค์กร) และ The Imperfect Leader Era (ยุคของผู้นำที่ไม่สมบูรณ์แบบ) […]