Uber Hijack Image Marketing

วิเคราะห์กลยุทธ์การตลาด Uber Eats ใช้ Hijack Image Marketing การตลาดแบบปล้นภาพลักษณ์

ในโลกของการตลาดที่เต็มไปด้วยการแข่งขันและการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การสร้างความแตกต่างจึงกลายเป็นสิ่งที่ทุกแบรนด์ต้องทำเพื่อดึงดูดความสนใจของผู้บริโภคครับ บทความนี้ผมพามาดู Uber Eats ที่ได้สร้างแคมเปญการตลาดที่น่าสนใจด้วยการใช้ Hijack Image Marketing หรือการตลาดแบบปล้นภาพลักษณ์ ผ่านฮีโร่ในท้องถิ่นอย่าง Sergio Checo Perez นักแข่งรถ Formula 1 ระดับโลก 

แคมเปญนี้ไม่ได้เพียงสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังผสานความเข้าใจในวัฒนธรรมและพฤติกรรมผู้บริโภคเม็กซิกันได้อย่างลงตัว จนกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ช่วยขยายภาพลักษณ์แบรนด์ให้เหนือกว่าการส่งอาหารทั่วไป หากอยากรู้ว่า Uber Eats ใช้กลยุทธ์นี้ได้อย่างไร เบื้องหลังแคมเปญเป็นแบบไหน และผลลัพธ์ที่ได้เป็นอย่างไร สามารถติดตามได้ในบทความนี้เลยครับ

เริ่มต้นจากปัญหาของแบรนด์ครับ แม้ว่าบริการของ Uber Eats จะขยายไปไกลกว่าแค่การส่งอาหาร เช่น การส่งของใช้ในบ้าน เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือวัตถุดิบทำอาหาร แต่หลายคนยังคงจดจำ Uber Eats ในฐานะผู้ให้บริการส่งอาหารเพียงอย่างเดียวครับ ทำให้ภาพลักษณ์ที่ถูกจำกัดนี้กลายเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับการโปรโมตบริการที่ครอบคลุมและหลากหลายมากขึ้น

มากไปกว่านั้นการแข่งขันในตลาดบริการส่งสินค้าในเม็กซิโกยังรุนแรงขึ้นโดยมีผู้เล่นหลายรายพยายามสื่อสารจุดขายที่คล้ายกัน การทำให้แบรนด์โดดเด่นจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นครับ Uber Eats จึงต้องหาวิธีสร้างความแตกต่างที่ไม่ใช่แค่การเล่าเรื่องในเชิงข้อมูล แต่ต้องเข้าถึงอารมณ์และพฤติกรรมของผู้บริโภคในท้องถิ่นด้วย

ในเวลาเดียวกัน Sergio Checo Perez นักแข่งรถ Formula 1 ซึ่งเป็นฮีโร่ของชาติในเม็กซิโก ด้วยการที่เค้าเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับหลายแบรนด์ ตั้งแต่อาหารฟาสต์ฟู้ดอย่าง McDonald’s ไปจนถึงสินค้าเฉพาะทาง เช่น น้ำมันเครื่อง Mobil และข้าวโอ๊ต Granvita การปรากฏตัวของ Checo ในหลากหลายโฆษณาทำให้เค้ามีภาพลักษณ์ที่ครอบคลุม ไม่ถูกจำกัดอยู่ที่แบรนด์ใดแบรนด์หนึ่งครับ จึงทำให้ Checo กลายเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแคมเปญ 

ขอบคุณรูปภาพจาก: IG – schecoperez

Uber Eats มองเห็นโอกาสในการพลิกจุดนี้มาเป็นประโยชน์ โดยเลือกที่จะ Hijack ภาพลักษณ์ที่หลากหลายของ Checo มาเล่าเรื่องในเชิงสร้างสรรค์ ด้วยการนำเสนอว่า Uber Eats สามารถส่งสินค้าได้แทบทุกอย่างที่ Checo เคยโปรโมต

ยิ่งไปกว่านั้น การเลือก Checo ยังสะท้อนถึงความเข้าใจเชิงวัฒนธรรมของ Uber Eats ที่ตระหนักถึงความสำคัญของตัวแทนที่เป็นที่รักในหมู่ชาวเม็กซิกันครับ ด้วยชื่อเสียงระดับโลกและความเชื่อมโยงที่ลึกซึ้งในท้องถิ่น Checo กลายเป็นตัวกลางที่สมบูรณ์แบบในการช่วย Uber Eats บอกเล่าความหลากหลายของบริการ พร้อมทั้งสร้างความสนุกและน่าสนใจให้กับแคมเปญครับ

รายละเอียดแคมเปญ

แคมเปญนี้เริ่มต้นในเดือนพฤศจิกายน 2024 โดย Uber Eats ใช้พื้นที่โฆษณากลางแจ้ง OOH Media ที่ตั้งอยู่ติดกับโฆษณาของแบรนด์อื่น ๆ ที่ Checo เป็นพรีเซนเตอร์ เช่น McDonald’s, Granvita และ Mobil บนบิลบอร์ดเดียวกัน Uber Eats ใช้ภาพ Checo เดิม แต่เพิ่มข้อความที่เล่นกับสถานการณ์ เช่น “ไม่ใช่การเดจาวู แต่นี่คืออีกหนึ่งโฆษณาของผม” หรือ “สั่งได้เกือบทุกอย่างที่ Checo มี” เพื่อแสดงให้เห็นว่า Uber Eats สามารถส่งสินค้าที่แบรนด์เหล่านี้โฆษณาได้ครับ

Uber Hijack Image Marketing

นอกจากนี้ Uber Eats ยังสร้างวิดีโอ 20 วินาทีที่รวบรวมโฆษณาของ Checo กับแบรนด์ต่าง ๆ และเพิ่มแบนเนอร์พิเศษในแอปพลิเคชันที่ให้ผู้ใช้งานเลือกซื้อสินค้าที่ Checo โฆษณาไว้ได้ในที่เดียว 

ผมมองว่าเป็นอีกตัวอย่างที่ดีของการผสมผสานความคิดสร้างสรรค์เข้ากับความเข้าใจเชิงวัฒนธรรมได้อย่างลงตัวครับ การ Hijack โฆษณาแบรนด์อื่นที่ Checo เคยเป็นพรีเซนเตอร์ด้วยข้อความที่ตลก ๆ  เช่น “ไม่ใช่การเดจาวู แต่นี่คืออีกหนึ่งโฆษณาของผม” ช่วยดึงดูดความสนใจและสะท้อนความหลากหลายของบริการ Uber Eats ได้เป็นอย่างดี 

Uber Hijack Image Marketing

อีกทั้งการใช้วิดีโอรวบรวมโฆษณาและการสร้างแบนเนอร์พิเศษในแอปพลิเคชัน ยังช่วยเชื่อมโยงประสบการณ์ออฟไลน์และออนไลน์อย่างไร้รอยต่อ พร้อมเปลี่ยนการสื่อสารให้กลายเป็นโอกาสในการขายจริงอีกด้วย ผมมองว่าด้วยบทบาทของ Checo ในฐานะฮีโร่ของท้องถิ่นทำให้แคมเปญนี้สามารถเข้าถึงหัวใจของผู้บริโภคชาวเม็กซิกัน และตอกย้ำภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ครอบคลุมและมีความสนุกสนานได้อย่างมีประสิทธิภาพครับ

กลยุทธ์เบื้องหลังแคมเปญ

Uber Eats ใช้ประโยชน์จากภาพลักษณ์ของ Sergio Checo Perez นักแข่งรถ F1 ที่เป็นที่รู้จักในเม็กซิโกและทั่วโลก จากการที่ Checo ปรากฏตัวในหลากหลายโฆษณา ซึ่งทำให้ Checo มีภาพลักษณ์ที่ไม่จำกัดอยู่กับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง  Uber Eats เลือกที่จะปล้นภาพลักษณ์นี้มาใช้ โดยไม่ต้องลงทุนมหาศาลในสัญญาเอกสิทธิ์ ด้วยการผูกตัวเองเข้ากับภาพลักษณ์ที่เป็นที่รู้จักของ Checo ผ่านการใช้พื้นที่โฆษณาติดกับแบรนด์ที่เขาเป็นพรีเซนเตอร์ครับ

ซึ่งช่วยให้ Uber Eats ได้รับความน่าเชื่อถือจากฐานแฟนของ Checo โดยอาศัยความไว้วางใจที่ Checo มีอยู่แล้วในสายตาผู้บริโภค อีกทั้งยังสร้างความเชื่อมโยงที่ชัดเจนว่าบริการของ Uber Eats ครอบคลุมถึงสินค้าและแบรนด์ต่าง ๆ ที่ Checo เคยโปรโมตครับ

Uber Eats ใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Recontextualization หรือการเปลี่ยนบริบทของสิ่งที่ผู้คนคุ้นเคย ในกรณีนี้คือโฆษณาเดิมของ Checo ในแบรนด์ต่าง ๆ โดยที่ Uber Eats ไม่ได้สร้างโฆษณาใหม่ทั้งหมด แต่เลือกที่จะเพิ่มมิติให้กับโฆษณาเดิม ด้วยการซื้อพื้นที่โฆษณาที่ติดกัน แล้วเล่าเรื่องราวใหม่ของ Uber Eats ผ่านภาพลักษณ์เดียวกันครับ

Uber Hijack Image Marketing

การนำเสนอในบริบทใหม่ เช่น การสื่อสารว่า Uber Eats สามารถส่งสินค้าหลากหลายประเภทได้อย่างสะดวกสบาย และง่ายดาย ช่วยดึงดูดความสนใจจากผู้บริโภคที่เคยเห็นโฆษณาเดิม และกระตุ้นให้เกิดการจดจำแบรนด์ในแง่มุมใหม่ ๆ โดยไม่ต้องแข่งขันกับแบรนด์อื่น ๆ โดยตรง แต่ใช้บริบทเป็นตัวสร้างจุดเด่นครับ

ผลลัพธ์ของแคมเปญ

แคมเปญนี้ช่วยเพิ่ม Brand Awareness และความเข้าใจใหม่ว่า Uber Eats ไม่ได้ส่งแค่อาหาร แต่ยังส่งสินค้าได้หลากหลาย และผู้บริโภคยังได้รับความสนุกจากการสื่อสารแบบใหม่ ๆ ที่สะท้อนถึงบุคลิกของ Checo นอกจากนี้ การใช้พื้นที่โฆษณาอย่างครีเอทีฟยังช่วยเพิ่มการมองเห็นในระดับสูง โดยไม่ต้องใช้ต้นทุนมหาศาล แคมเปญนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าด้วยความคิดสร้างสรรค์ แบรนด์สามารถพลิกข้อจำกัดให้เป็นโอกาสในการสร้างความสำเร็จได้ครับ

Source

(AI-Generated Image by Shutterstock Prompt: A cinematic shot of a green-themed food delivery brand, featuring a delivery rider in a bright green uniform surrounded by an assortment of hyper-realistic food items, beverages, and household products, arranged in a visually captivating way, set against a vibrant urban backdrop.)

แคมเปญ Hijack Image Marketing ของ Uber Eats เป็นตัวอย่างที่แสดงถึงพลังของความคิดสร้างสรรค์ในการพลิกภาพลักษณ์แบรนด์และสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ด้วยการนำภาพลักษณ์ที่หลากหลายและเป็นที่รู้จักของ Sergio Checo Perez มาเชื่อมโยงกับบริการที่ครอบคลุมมากกว่าการส่งอาหาร Uber Eats ซึ่งไม่เพียงขยายมุมมองของผู้บริโภคต่อแบรนด์ แต่ยังสร้างความสนุกสนานและความน่าเชื่อถือให้กับแคมเปญอีกด้วย ผลลัพธ์คือการเพิ่มการจดจำแบรนด์และสร้างประสบการณ์ที่เชื่อมโยงทั้งในมิติออฟไลน์และออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งหมดนี้พิสูจน์ให้เห็นว่า การตลาดที่สร้างสรรค์สามารถเปลี่ยนข้อจำกัดให้เป็นโอกาสได้อย่างแท้จริงครับ

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

ชื่อเติ้ลครับ ทำงานเป็น Data Research Insight & Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอนครับ ^^

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *