Education Marketing Campaigns ตามหาเด็กเก่งผ่าน Gamification

บทความนี้พามาดู Case Study Education Marketing Campaigns ของ Paradox Music Institute กันครับ โดยเป็นการ Lead คนเก่งให้เข้ามาเรียนผ่านแคมเปญที่ชื่อว่า Call If You Can โดยเป็นการท้าทายผู้ที่มีพรสวรรค์ทางดนตรีให้เข้าร่วมผ่านเกมทายเสียงเพลงจากโทนหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งการจะผ่านการทดสอบนี้ได้ต้องมีทักษะ Perfect Pitch ความท้าทายนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายที่มีทักษะสูง แต่ยังช่วยสร้างการมีส่วนร่วมกับสถาบันอย่างมหาศาล เรามาดูกันว่าแคมเปญนี้ใช้กลยุทธ์อะไรบ้างและทำไมถึงประสบความสำเร็จขนาดนี้

ต้นตอที่ทำให้เกิดแคมเปญ Call If You Can ของ Paradox Music Institute ในปี 2024 มีที่มาจากปัญหาคือพวกเขาต้องการเจาะกลุ่มคนที่มีพรสวรรค์ทางดนตรีที่โดดเด่น โดยเฉพาะกลุ่มคนที่มีความสามารถในการระบุโน้ตดนตรีด้วยการฟังเพียงอย่างเดียว หรือที่เรียกว่า “Perfect Pitch” ครับ ซึ่งต้องบอกว่ามีคนที่มีความสามารถนี้เพียงหนึ่งใน 10,000 คนเท่านั้น จากการศึกษาที่เผยแพร่ในวารสาร Hearing Research ปี 2018 ซึ่งทาง Paradox Music Institute เห็นว่า Perfect Pitch เป็นความสามารถที่หาตัวจับได้ยาก สามารถจุดเด่นให้กับสถาบันได้ และที่สำคัญ หาคนแบบนี้ยากซะด้วย

อีกเหตุผลสำคัญที่ทำให้ Paradox Music Institute ต้องการเปิดตัวแคมเปญนี้ คือเพื่อการเพิ่มจำนวนผู้สมัครเข้าเรียนในสถาบัน ซึ่งในโลกของ Music School การแข่งขันค่อนข้างสูง แคมเปญนี้จึงเป็นโอกาสในการสร้างกระแสและดึงดูดความสนใจจากผู้ที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่สถาบันครับ

แคมเปญ “Call If You Can” ของ Paradox Music Institute เป็นการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการท้าทายความสามารถทางดนตรีที่ไม่ธรรมดาครับ โดยสถาบันได้คิดค้นเพลงที่มีทำนองมาจากโทนเสียงของหมายเลขโทรศัพท์ และได้นำเพลงนี้ไปเผยแพร่ผ่านหลายช่องทางสื่อ เช่น วิทยุ YouTube และ Spotify เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่มีความสามารถเฉพาะตัวได้ฟัง เป็นเหมือน Gamification เลยล่ะครับ ทำให้คนที่เข้ามามีส่วนร่วมได้สนุกไปกับแคมเปญ

จุดเด่นของแคมเปญนี้คือการใช้ความสามารถเฉพาะตัว ของคนที่มี Perfect Pitch หรือความสามารถในการระบุโน้ตดนตรีเพียงแค่ได้ยินเท่านั้น โดยทำนองที่ใช้เป็นหมายเลขโทรศัพท์ในแคมเปญจะต้องถูกถอดรหัสผ่านการฟังและการกดตัวเลขบนแป้นโทรศัพท์เพื่อสร้างทำนองที่ถูกต้อง ซึ่งผู้ที่สามารถทำได้อย่างสมบูรณ์จะได้รับทุนการศึกษาฟรีเต็มจำนวนในสาขาวิชาการประพันธ์เพลง (Musical Composition) การทำแบบนี้จะทำให้ Paradox Music Institute ได้นักเรียนที่มีความสามารถที่จะพบได้หนึ่งใน 10,000 คน มาเป็นนักเรียนของสถาบันครับ

Education Marketing Campaigns

แคมเปญนี้นี้ไม่เพียงแต่กระตุ้นให้คนที่มีความสามารถในด้านดนตรีเข้าร่วม แต่ยังสร้างแรงกระตุ้นในการค้นหาความท้าทาย โดยการท้าให้ถอดรหัสหมายเลขโทรศัพท์ผ่านทักษะดนตรี คนที่แยากลองใหม่หรือยังไม่สามารถทำได้ทันทีสามารถกลับไปฟังเพลงซ้ำได้จาก Streaming Platform ของสถาบัน ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มยอดเข้าชมและการมีส่วนร่วมทางออนไลน์ครับ

นอกจากนี้การให้ทุนการศึกษาเต็มจำนวนทำให้คนที่มีความสามารถเฉพาะตัวรู้สึกว่าพวกเขามีโอกาสแสดงความสามารถ และได้รับการยอมรับในด้านดนตรีระดับมืออาชีพ ซึ่งในขณะเดียวกันก็ทำให้สถาบัน Paradox Music Institute ถูกมองว่าเป็นสถานศึกษาที่เปิดรับและให้การสนับสนุนนักดนตรีที่มีพรสวรรค์อย่างจริงจังครับ

สามารถรับชมแคมเปญได้ ที่นี่ เลยครับ

แคมเปญนี้ใช้กลยุทธ์ทางการตลาด Gamification เป็นการสร้างประสบการณ์การเล่นเกมมาผสมผสานกับการตลาด กลยุทธ์นี้เป็นหนึ่งในทฤษฎีทางจิตวิทยาการตลาดที่เรียกว่า Intrinsic Motivation หรือการสร้างแรงจูงใจภายใน ซึ่งเป็นแรงจูงใจที่เกิดขึ้นจากความสนุก ความท้าทาย และความพึงพอใจในการประสบความสำเร็จ ผู้ที่เข้าร่วมแคมเปญนี้จะรู้สึกท้าทายในการถอดรหัสเพลง และเมื่อทำสำเร็จก็จะได้รับรางวัลเป็นทุนการศึกษา ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้มีพรสวรรค์ทางดนตรีต้องการอย่างมากเลยล่ะครับ

Education Marketing Campaigns

แคมเปญนี้ได้รับผลตอบรับอย่างดี โดยตามข้อมูลจาก Paradox Music Institute แคมเปญนี้ได้สร้างสถิติใหม่ในด้านจำนวนผู้สมัครที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ของสถาบันในรอบ 26 ปี นอกจากจะดึงดูดคนเก่ง ๆ ที่มีพรสวรรค์ทางดนตรีแล้ว ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ของสถาบันในฐานะที่เป็นสถานศึกษาที่รับนักเรียนที่มีความสามารถระดับสูงเข้าสู่การศึกษาครับ

แคมเปญนี้สนุกและแปลกใหม่ เพราะเป็นการเล่นกับความท้าทายที่เกี่ยวกับทักษะดนตรีจริง ๆ คือการใช้ Perfect Pitch ในการถอดรหัสเพลงที่มาจากโทนเสียงโทรศัพท์ แถมความท้าทายนี้ยังทำให้คนที่มีความสามารถทางดนตรีรู้สึกว่า นี่คือโอกาสที่เขาจะได้โชว์ฝีมือออกมา และยิ่งทำให้แคมเปญนี้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนรักดนตรีและคนที่มีความสามารถเฉพาะตัวแบบนี้ครับ

Paradox Music Institute ตั้งเงื่อนไขของการได้ทุนการศึกษาว่าจะต้องมีทักษะเฉพาะในการฟังและระบุโน้ตดนตรีได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ใช่ทุกคนทำได้ การทำให้ทุนนี้เป็นรางวัลสำหรับคนที่มีความสามารถขั้นเทพจึงส่งเสริมภาพลักษณ์ของสถาบันให้ดูเป็นสถานที่สำหรับคนที่มีพรสวรรค์จริง ๆ เหมือนจะบอกว่าที่นี่ไม่ใช่ใครก็เข้ามาได้ แต่คุณต้องเป็นนักดนตรีที่มีคุณภาพสูงเท่านั้น ดังนั้นจึงเป็นการท้าทายคนจำนวนมากให้มาชิงทุนการศึกษานี้

การเผยปล่อยแคมเปญนี้ผ่านวิทยุ YouTube และ Spotify เป็นการกระจายแคมเปญที่ดีมากเลยล่ะครับ ทำให้เพลงจากแคมเปญนี้เข้าถึงคนหมู่มากได้ง่าย คนที่อยากลองถอดรหัสก็สามารถกลับมาฟังเพลงได้ซ้ำ ๆ ส่งผลให้มีการเข้าชมเพิ่มขึ้นและเกิดการมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งต่าง ๆ การวัดผลแคมเปญก็ง่าย ซึ่งก็ทำให้ Paradox ได้รับความสนใจมากขึ้นในโลกออนไลน์

ในตลาด Music School ซึ่งมีการแข่งขันสูง การที่ Paradox เลือกสร้างแคมเปญที่มีความสร้างสรรค์และท้าทายทักษะเฉพาะตัวของคนอย่าง Perfect Pitch ทำให้สถาบันนี้โดดเด่นกว่าสถาบันอื่น ๆ ที่อาจใช้วิธีโฆษณาทั่ว ๆ ไป คนที่ได้ยินแคมเปญนี้จะจดจำสถาบันได้อย่างชัดเจน เพราะมันไม่เหมือนใคร และยิ่งทำให้ Paradox ดูเป็นสถานที่ที่ไม่ธรรมดาและน่าดึงดูดสำหรับคนที่รักในเสียงดนตรีครับ

สรุปแล้วด้วยความคิดสร้างสรรค์ การวางแผนอย่างชาญฉลาด และการสื่อสารที่เข้าถึงคนได้จริงในหลาย ๆ ช่องทาง ทำให้แคมเปญ Call If You Can ประสบความสำเร็จ และช่วยสร้างชื่อเสียงให้ Paradox Music Institute ในฐานะสถาบันดนตรีที่ดีและเป็นที่ยอมรับในวงการดนตรีอีกด้วยครับ

Source

GenAI by Shutterstock (Prompt: a young boy with an extraordinary musical talent, sitting at a grand piano in a well lit room, his fingers gently touching the keys, eyes closed, deeply immersed in sound, capturing the pure essence of perfect pitch, documentary photography style)

แคมเปญ Call If You Can ของ Paradox Music Institute เป็นแคมเปญที่ออกแบบมาเพื่อดึงดูดกลุ่มคนที่มีพรสวรรค์ทางดนตรีโดยเฉพาะผู้ที่มีความสามารถ Perfect Pitch ซึ่งถือเป็นทักษะที่หายาก โดยสถาบันได้ใช้กลยุทธ์ Gamification เพื่อสร้างความท้าทายให้ผู้เข้าร่วมถอดรหัสทำนองจากหมายเลขโทรศัพท์ ซึ่งต้องใช้ทักษะฟังและระบุโน้ตดนตรี ท้าทายคนที่มีความสามารถเฉพาะตัว

แคมเปญนี้ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมทางออนไลน์ กระตุ้นยอดเข้าชมผ่านช่องทางสตรีมมิ่ง และสร้างภาพลักษณ์ของสถาบันในฐานะที่รับนักเรียนที่มีความสามารถสูงสุด การเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลเช่น YouTube, วิทยุ, และ Spotify ทำให้แคมเปญนี้เข้าถึงผู้คนจำนวนมาก ส่งผลให้ Paradox Music Institute มีจำนวนผู้สมัครเพิ่มสูงที่สุดในประวัติศาสตร์ 26 ปีของสถาบัน

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

ชื่อเติ้ลครับ ทำงานเป็น Data Research Insight & Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอนครับ ^^

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *