Volkswagen

Case Study การประยุกต์ใช้ Search data จาก Google Trends ออกมาเป็น Sentiments ใหม่ที่เรียกว่า Share of Search ที่สะท้อนถึงธุรกิจในช่วงเวลานั้น

Share of Search เมื่อ Search Data สามารถสะท้อนธุรกิจได้มากกว่าที่คิด

ใครที่อ่านหนังสือ Data-Driven Marketing หรือการตลาดแบบฉลาดใช้ดาต้า ซึ่งเป็นหนังสือเล่มที่สองของการตลาดวันละตอนจะพอรู้ว่า Google Trends เป็นหนึ่งในเครื่องมือการทำ Marketing Research เพื่อหา Consumer Insight ได้ดีมากที่ผมใช้เป็นประจำ วันนี้เลยจะเอาบทความหนึ่งที่มีคนนำเอา Search Data จาก Google Trends ไปใช้วิเคราะห์และคาดการณ์ธุรกิจว่าหุ้นจะขึ้นหรือลงด้วย Metric หรือตัวชี้วัดใหม่ที่เรียกว่า Share of Search ครับ Search Data คืออะไร? ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจ Search Data กันสักนิดก่อนจะไปต่อว่ามันคืออะไร สำหรับคนที่อาจจะยังไม่เคยได้อ่านหนังสือเล่มที่สองของผมก่อนนะครับ Search data หรือข้อมูลการค้นหาของผู้คนที่เกิดขึ้นบน Google ซึ่งเอาเข้าจริงก็น่าจะครอบคลุมทุกความต้องการหรือ Demand ที่เกิดขึ้นได้มากพอ เพราะปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าทุกวันนี้คนอยากรู้อะไรก็ล้วนแต่เข้า Google ไปหาข้อมูลกันทั้งนั้น ตั้งแต่จะหาข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์สักคัน หรือแม้กระทั่งค้นหารีวิวกะปิน้ำปลาขวดละไม่กี่สิบบาทก่อนจะตัดสินใจว่าควรจะหยิบซื้อกลับบ้านไปลองดูสักขวดหรือไม่ ดังนั้น Search data ในวันนี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายๆ ด้วยเครื่องมือที่ใครๆ ก็ใช้ได้อย่าง Google Trends […]

Nattapon Muangtum
Read more
แคมเปญการตลาดแบบ Hijack Marketing Strategy จาก Volkswagen โปรโมตระบบช่วยขับ Side Assist ด้วยโฆษณาคนอื่นที่อยู่ถัดไป

Hijack Marketing จาก Volkswagen ใช้โฆษณาคนอื่นโปรโมตระบบ Side Assist

การตลาดจะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก ก็ขึ้นอยู่กับว่าปัญหาตั้งต้นที่เราต้องแก้คืออะไร ก็เหมือนกับที่ Volkswagen ต้องการโปรโมตระบบ Side Assist ที่จะช่วยบอกคนขับให้รู้ว่ากำลังจะมีอะไรโผล่ออกมาบ้างตั้งแต่ปี 2014 เมื่อคนส่วนใหญ่คิดไม่ออกว่าเจ้าฟีเจอร์นี้จะทำงานอย่างไร พวกเขาเลยเกิดไอเดียทำแคมเปญการตลาดแบบ Hijack Marketing Strategy ที่ใช้โฆษณาชิ้นถัดไปที่คุณจะต้องเห็น ให้คนรู้สึกทึ่งกับโฆษณาชิ้นนี้ครับ โฆษณาเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไมได้ให้ความสนใจหรือสำคัญเป็นพิเศษ ตามที่ผมเคยเขียนไว้ในหนังสือ Personalized Marketing การตลาดแบบรู้ใจ ที่มีเนื้อหาช่วงหนึ่งที่บอกว่า คนสมัยนี้เกิดอาการที่เรียกว่า Auto Blindness หรือเห็นเหมือนไม่เห็น ต่อให้มีโฆษณาชิ้นเบอเร่ออยู่ตรงหน้าก็จะเหมือนมองข้ามทะลุผ่านไปโดยอัตโนมัติ ดังนั้นการทำแคมเปญการตลาดหรือโฆษณาให้น่าสนใจไม่ใช่แค่การคิดคำที่ติดหู หรือสร้างภาพวิชวลที่ดูสร้างสรรค์ แต่ต้องเป็นโฆษณาที่สามารถเรียกความสนใจจับ Attention อันน้อยนิดของคนในวันนี้ให้ได้ เพราะนั่นจะนำไปสู่การที่คนจดจำสิ่งที่คุณต้องการบอกได้ ที่จะนำไปสู่ความเข้าใจในสิ่งที่เป็นจุดขาย จนอาจจะนำไปสู่ยอดขายจริงๆ ก็ได้ในอนาคต ท่ามกลางโฆษณามากมายที่ในแต่ละวันคนเราเห็นเกินกว่าหมื่นชิ้น ดังนั้นการที่นักการตลาดจะทำโฆษณาเพิ่มลงไปอีกสักชิ้นก็ไม่มีอะไรการันตีว่าผู้บริโภคหรือกลุ่มเป้าหมายที่เห็นจะจำสื่อที่คุณอุตส่าห์ทุ่มงบทำออกมาเสมอไปจริงไหมครับ แล้วยิ่งถ้าเป็นเรื่องใหม่ที่ Volkswagen เจอเมื่อปี 2014 ในวันที่ระบบช่วยให้การขับขี่ปลอดภัยขึ้นอย่าง ​Side Assist หรือเตือนคนขับว่ากำลังจะมีรถโผล่ออกมาข้างๆ ล่วงหน้าที่เกิดจากจุดบอดสายตาของกระจกข้างคนขับ ว่าจะสื่อสารออกไปอย่างไรไม่ใช่แค่ให้จดจำแต่ยังเข้าใจในจุดขายที่ใหม่แบบนี้ในตอนนั้นได้อย่างจำฝังใจ ทางเอเจนซี่อย่าง Ogilvy & Mather จึงเกิดไอเดียขึ้นมาว่า ก็แล้วทำไมเราไม่ทำโฆษณาที่แสนจะธรรมดาที่ประหยัดงบ […]

Nattapon Muangtum
Read more
The VW eGolf Commercial - Gender Stereotypes Issue in UK

โฆษณารถยนต์ไฟฟ้าใหม่จาก Volkswagen ที่ถูกแบนเพราะ Gender Stereotypes

ประเด็นเรื่อง Gender Stereotypes หรือการเหมารวม หรืออคติทางเพศนั้น เป็นเรื่องสำคัญมากในต่างประเทศ โดยเฉพาะในซีกโลกตะวันตกที่เรื่องนี้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคมเป็นอย่างมาก บริษัทยักษ์ใหญ่ในวันนี้พยายามเพิ่มสัดส่วนการจ้างงานให้ใกล้เคียงกันระหว่างสองเพศ โดยเฉพาะในบางสายงานที่เคยเชื่อกันว่าเป็นของผู้ชายเท่านั้น ไม่ว่าจะนักกีฬา วิศวกร หรือแม้กระทั่งโปรแกรมเมอร์ (จากประสบการณ์ตรงที่ได้คุยกับเจ้าของบริษัทด้าน Data Science คนหนึ่ง) ว่าเค้ากำลังพยายามผลักดันให้เกิดความเท่าเทียมกันที่สุด แม้แต่ในเรื่องค่าจ้างก็เช่นเดียวกัน เพราะจากการสำรวจพบว่าเงินเดือนของผู้ชายและผู้หญิงนั้นแตกต่างกัน แม้จะอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน ความรับผิดชอบเท่ากัน และมีคุณสมบัติที่เทียบเท่ากันก็ตาม ดังนั้นปัญหาเรื่อง Gender Stereotypes นี้ไม่ใช่เรื่องที่จะหยวนๆกันได้ในประเทศโลกตะวันตก จนส่งผลให้โฆษณารถยนต์ไฟฟ้าใหม่ล่าสุดจาก Volkswagen รุ่น eGolf นั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์จนโดนแบนปลิวจากผัง TV ไปในที่สุด ที่ผมอยากจะให้คุณได้ลองดูก่อนอ่านต่อว่า คุณดูแล้วจะรู้สึกเหมือนตอนที่ผมดูครั้งแรกหรือไม่ อยากจะบอกว่าตอนที่ผมได้ดูโฆษณาชิ้นนี้ครั้งแรกจากพี่คนหนึ่งที่ส่งให้ผมดูแล้วบอกว่า “ทายออกมั้ยว่าโฆษณาชิ้นนี้โดนแบนเพราะอะไร?” ตอนผมดูจบรอบแรกผมสารภาพตรงๆเลยว่า ผมเดาไม่ออกจริงๆครับ แต่พอพี่เค้าเปิดเนื้อหาข่าวให้ผมดู แล้วผมย้อนกลับมาดูอีกรอบก็ทำให้ถึงบางอ้อในทันทีครับ เพราะโฆษณาชิ้นนี้ถ้าดูผ่านๆโดยไม่คิดอะไร ก็อาจจะไม่มีอะไรที่น่าสนใจากนัก ส่วนถ้าดูด้วยความตั้งใจก็จะเห็นว่าโฆษณาชิ้นนี้มีการแสดงออกถึงการเหมารวมระหว่างเพศ หรือประเด็นเรื่อง Gender Stereotypes ที่เรากำลังพูดถึงกันอยู่ในวันนี้นี่แหละครับ พอดูให้ละเมียดด้วยความละเอียดก็จะพบว่า โฆษณาชิ้นนี้ที่ใช้การดำเนินเรื่องสลับไปมาที่ไม่ได้หวือหวา แต่กลับสะท้อนภาพให้เห็นความแตกต่างทางเพศอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะผู้ชายที่พาลูกออกไปนอนริมหน้าผา สลับมาเป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังทำแซนด์วิชเรียบง่ายอยู่บ้าน และก็เสริมด้วยฉากที่เห็นแต่มือว่ากำลังเทน้ำยาจะซักผ้า แต่พอดูที่เครื่องแต่งกายก็พอเดาได้ไม่ยากว่าน่าจะเป็นผู้หญิงครับ […]

Nattapon Muangtum
Read more

การตลาด Volkswagen ทำแอพเล่านิทานเพื่อลูก เพื่อซื้อใจพ่อแม่ผู้ซื้อรถ

การตลาด Volkswagen ที่ทำแคมเปญด้วยแอพเดียวได้นกสองตัว นกสองตัวที่ว่าก็คือพ่อแม่ที่นั่งเบาะหน้า และลูกที่นั่งเบาะหลังครับ แคมเปญการตลาดเพิ่มยอดขายของ Volkswagen ที่ประเทศเนเธอร์แลนด์ เลือกทำ mobile application เล่านิทานที่สนุกมากๆขึ้นมาชื่อว่า Snelweg Sprookjes หรือภาษาอังกฤษว่า Road Trip โดยแอพนี้จะทำงานก็ต่อเมื่อรถกำลังแล่น และไม่ใช่แค่รถกำลังแล่นเท่านั้นถึงจะเล่า แต่ยังเล่านิทานที่แตกต่างกันไปตามเส้นทางที่รถกำลังวิ่งด้วย Personalized Experience เพราะนิทานแต่ละเรื่องในแอพนี้จะเล่าตามบรรยากาศรอบตัวที่สามารถมองเห็นได้จากเบาะหลังที่เด็กนั่ง เช่น ถ้ารถกำลังจะเข้าอุโมง นิทานก็จะเล่าว่า “เรากำลังอยู่บนยานอวกาศที่กำลังจะวาร์ปไปอีกโลกนึงแล้ว!” หรือถ้ามองออกไปนอกหน้าต่างจากเบาะหลังเด็กกังหันลม นิทานก็จะเล่าทำนองว่า “ดูนั่นๆ กังหันลมนั้นกำลังถูกยักษ์หยิบไปแล้ว” นิทานที่เล่นกับจินตนาการ และจินตนาการที่ล้นเหลือของเด็กก็ช่างเหมาะกับแคมเปญการตลาดผ่านแอพนิทานนี้ของ Volkswagen จริงๆ แล้วรู้มั้ยครับว่าทำไมต้องทำแอพนิทานขึ้นมาเพื่อมัดใจพ่อแม่ เพราะจากข้อมูลของ Volkswagen พบว่ากลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ของเค้าคือพ่อแม่ที่มีลูกกำลังโตที่ต้องนั่งเบาะหลังเป็นประจำนี่แหละครับ และพอนั่งเบาะหลังพ่อแม่ก็มักจะต้องยื่นโทรศัพท์หรือ iPad ให้เพื่อไม่ให้ลูกงอแง แต่บรรดาพ่อแม่ทั้งหลายก็รู้ทั้งรู้นะครับว่าไม่ดี และก็ไม่อยากให้ลูกตัวเองติดจอมากเกินไปนัก ก็เลยต้องจำใจเพื่อให้ขับรถได้สบายๆถึงปลายทาง Volkswagen เลยเอา insight ตรงจุดนี้ไปต่อยอดจนกลายเป็นแอพเล่านิทานทั้งหมดที่ผมเล่ามาในวันนี้ อ้อ ผมอาจจะลืมเล่าว่าสุดท้ายแคมเปญการตลาดด้วยแอพตัวนี้ไม่เน้นการดูหน้าจอ เพราะหน้าจอของแอพจะไม่มีอะไรเลย แต่เพราะเสน่ห์ของนิทานคือ “เสียง” ครับ […]

Nattapon Muangtum
Read more

Volkswagen กับ PrintAd ที่ Impact ใน Online

เมื่อ 4 ปีที่แล้วครับ ที่ประเทศบราซิล Volkswagen หรือ โฟล์ค นั้นเปลี่ยนสื่อสิ่งพิมพ์ธรรมดาๆ ให้กลายเป็น Router Wifi เพื่อให้คนดูโฆษณาบนหน้านั้น สามารถดูข้อมูลเต็มๆเพิ่มเติมของรถคันนั้นได้ เทคนิคไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับ ก็แค่ลงทุนเอาแผงวงจร รวมถึงซิมฝังไว้ในโฆษณาหน้านั้น เมื่อไหร่ที่คนเปิดหน้านั้นค้างไว้ วงจรก็จะเริ่มทำงานเป็น router wifi ให้ต่ออินเทอร์เน็ตได้ฟรีๆ ทุกที่ทุ…กเวลา แต่ไม่ได้ให้เล่นฟรีๆอย่างเดียว ขอขายของเพิ่มอีกนิด ด้วยการสะกดจิตคนให้พิมพ์รหัสผ่านว่า “The power of intelligence” ซึ่งก็เป็นสโลแกนของรถกระบะของโฟล์คที่หน้านั้นพอดี นอกจากจะต้องเปิดหน้าโฆษณานั้นทิ้งไว้แล้ว พาสเวิร์ดก็ต้องพิมพ์ใส่ทุกครั้ง แถมทุกครั้งที่จะเข้าเล่นก็ต้องผ่านหน้าเวปของรถรุ่นนั้นก่อนเสมอ อุแหม ทำขนาดนี้แล้วคนจะจำไม่ได้ก็ให้มันรู้ไปซิครับ แม้จะผ่านมา 4 ปีแล้ว แต่กลับมาดูวันนี้ ก็ยังรู้สึกว่าล้ำอยู่ดีครับ ลองดูคลิปสาธิตการใช้ได้ที่ลิงก์ล่างนี้นะครับhttps://vimeo.com/93404462 ติดตามเรื่องราวการตลาดวันละตอน สดใหม่ทุกวันได้ที่ : https://everydaymarketing.co/

Nattapon Muangtum
Read more