เปิดจักรวาล Data Research Insight สลัด เมนูที่ใครหลายคนต่างคุ้นเคย สำหรับผู้ประกอบการธุรกิจร้านเบเกอรี่ หรือคาเฟ่ และร้านอาหาร อยากให้ลองอ่านรีพอร์ตเล่มนี้ เพราะมันจะช่วยให้ทุกคนได้เห็นสลัดในมิติที่หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเทรนด์การกินสลัดของคนไทย ประเภทของผักและผลไม้ที่ถูกนำไปทำสลัด ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะช่วยทำให้เห็นถึงโอกาสที่ธุรกิจจะสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้นั่นเองครับ โดยในรีพอร์ตเล่มนี้เราจะใช้ข้อมูลจาก Social Listening Tools ที่ทำหน้าที่ช่วยรวบรวม Social Data โพสต์ที่มีคำว่า ‘สลัด’ อย่างเจาะจง แล้วค่อยลงลึกในการเจาะข้อมูลในมิติต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับสลัด
นี่ก็เป็นหนึ่งในเล่มโปรเจค #Dataอร่อยร้อยร้าน ที่ผ่านมาแล้วหลายเมนู ตัวอย่างเช่น ก๋วยเตี๋ยว หมูกระทะ ข้าวมันไก่ ยำ ไก่ทอด ผัดไทย ของดอง ข้าวแกง ราเม็ง ไอศกรีม ข้าวเหนียวมะม่วง ก๋วยเตี๋ยวเรือ ลูกชิ้น สเต๊ก สปาเก็ตตี้ อยากให้ทุกคนติดตามกันอย่างใกล้ชิดเพราะเราจะมีข้อมูลมากให้อ่านกันทุกเดือนอย่างแน่นอน
และโปรเจค #Dataอร่อยร้อยร้าน จากการตลาดวันละตอนจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าเราไม่ได้รับการสนับสนุนจากพาร์ทเนอร์ใจดีอย่าง SME D BANK ครับ
ซึ่งในการหา Data insight เราจะใช้ 8 ขั้นตอนกับเครื่องมือ Social Listening เพื่อเริ่มหา Insight จาก Social Data ออกมา
STEP 1 – 2 Research Keyword and Collecting Data
มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรก Research Keyword โดยตัว Keyword ที่เลือกใช้มีดังนี้
ตัว Keyword ที่ใช้คือ สลัด
ระยะเวลาดึงข้อมูลย้อนหลัง 01/11/2024 – 22/04/2025 รวมทั้งสิ้น 6 เดือนย้อนหลังกับข้อมูลจำนวน 25,541 Mentions
ปล. การเลือกใช้ Keyword สามารถอ่านศึกษาเพิ่มเติมได้ที่นี่
หลังจากเซตตัว Keyword เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ การ Collecting Data โดยระบบได้กวาดข้อมูลมาให้เราได้ทั้งหมดจำนวน 25,541 mentions ซึ่งจำนวนนี้ถือว่าเพียงพอต่อการนำไปใช้วิเคราะห์ในเบื้องต้นได้แล้วครับ
STEP 3 Cleansing Data
ก่อนที่จะได้ Insight มานั้น ต้องบอกว่าข้อมูลที่เราดึงมา มันไม่ได้มีข้อมูลที่เราจะใช้ได้ทั้งหมด 100% เพราะฉะนั้นเราจะต้องมา Cleansing data กันก่อน โดยการ Cleansing data ของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละคน
อย่างโพสต์ “แปะไว้….เป็นแรงบรรดาลใจให้กับสาว ๆ ในการดูแลรูปร่าง ลุกขึ้นมา สลัด อ้วน กันเถอะคะ” ซึ่งเราจะเห็นได้ว่าในโพสต์นี้มีคำว่า “สลัด” อยู่ในโพสต์ แต่บริบทของข้อความไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกับหัวข้อที่เราต้องการ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงต้องคัดกรองข้อมูลก่อน
โดยวิธีการลบข้อมูลที่เราไม่ต้องการออกก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้ 1. กดที่ปุ่ม Exclude 2. กดลบที่ปุ่มถังขยะ หรือ 3. เลือกคีย์เวิร์ดที่จะ Exclude ในข้อความโดยการคลุมดำคำนั้นได้เลย สามารถเลือกใช้วิธีไหนก็ได้ตามความถนัดของแต่ละคน
STEP 4 Conversation Analysis
หลังจากที่เราทำการ Cleansing Data เสร็จเรียบร้อยแล้ว สิ่งต่อมาที่เราจะเห็นก็คือข้อมูลแบบองค์รวมว่าประเด็นเกี่ยวกับครัวซองต์ที่มีการพูดถึง คนพูดถึงในแง่มุมไหนบ้าง ช่องทางไหนที่มีการพูดถึงบ้าง เทรนด์และไทม์ไลน์การพูดถึงในแต่ละช่วงเป็นอย่างไร
โดยสิ่งเหล่านี้จะช่วยไกด์ให้เราทำขั้นตอนต่อไปได้สะดวกมากขึ้น ซึ่งก็คือการทำ Categorize Data หรือการจัดข้อมูลให้อยู่เป็นหมวดหมู่นั่นเอง
ทีนี้เรามาดูกันแต่ละส่วนกันดีกว่า ว่าแต่ละแพลตฟอร์มมีการพูดถึง ‘สลัด’ มากน้อยแค่ไหน
Social Data Stat Overview
เรามาดูในมิติของแพลตฟอร์มที่แบ่งเป็น Mention, Engagement และ By Engagement ignore view กันก่อนครับ เพื่อที่จะทำให้เราได้มองเห็นภาพกว้างมากขึ้นว่าแพลตฟอร์มไหนคนมีการพูดถึงหรือมีส่วนร่วมกับประเด็นต่าง ๆ ที่ความเกี่ยวข้องกับ ‘สลัด’
By Mention: จากข้อจะเห็นว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มีการถูกใช้เพื่อถึง สลัด มากที่สุดเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ Facebook, Instagram, X และ YouTube ตามลำดับ โดยโพสต์ที่ได้รับการมีส่วนร่วมค่อนข้างมากมาจากเพจ เคยกินป่ะ ซึ่งโพสต์วิดีโอการรีวิวเมนูใหม่ของแบรนด์ S&P โดยมีเมนูอย่างซีซาร์สลัดด้วย
By Engagement: ในส่วนของด้าน Engagement แพลตฟอร์มอย่าง TikTok ก็ยังคงเป็นอันดับหนึ่ง รองลงมาคือ Youtube (นับรวมยอดวิวเข้าไปด้วย) และอื่น ๆ ตามลำดับ และคอนเทนต์ที่มียอดการมีส่วนร่วมสูงสุดมาจากช่อง farmiscooking ที่เป็นคลิปอินฟลูทำสลัดบูราต้าทานเอง
By Engagement ignore YouTube View: เพราะ YouTube มีการนับยอดวิวไปด้วย เราเลยกดเอาช่องทางนี้ออกเพื่อให้เห็นภาพรวมของช่องทางอื่น ๆ และ TikTok เป็นช่องทางที่ได้รับ Engagement สูงสุด ซึ่งคลิปที่ค่อนข้างได้รับความสนใจ คือ คลิปทำสลัดผักร็อกเก็ตทานเอง
Social Data By Timeline
มาต่อกันด้วย Social Data By Timeline ในที่นี้เราจะขอเอาแพลตฟอร์ม YouTube ออก เพราะเป็นช่องทางที่นับยอดวิวเข้าไปด้วย อีกอย่างคือเราเห็นคร่าว ๆ แล้วว่าคอนเทนต์แบบไหนที่ได้รับความนิยมบ้าง จึงเอาออกเพื่อที่จะได้ดูในแพลตฟอร์มอื่นบ้าง ว่าคอนเทนต์ไหนที่ได้รับความนิยมบ้างนั่นเอง
ซึ่งเราจะเห็นได้เลยว่าแพลตฟอร์มที่มีการพูดถึงอย่างโดดเด่นคือ TikTok และ Instagram โดยคอนเทนต์ส่วนใหญ่จะมาจากอินฟลูเอนเซอร์ที่หลากหลาย เช่น googidd ที่โพสต์คลิปวิดีโอทำสลัดแตงกวา หรือ bb_memory อินฟลูซื้อแรปสลัดของแบรนด์ Jones Salad
แสดงให้เห็นว่าอินฟลูเอนเซอร์ มีอิทธิพลในการดึงดูดให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมใน Content ที่เกี่ยวข้องกับสลัด แล้วถ้าหากสังเกตดี ๆ จะเห็นว่าคอนเทนต์ที่มี Engagement เยอะจะเป็นคอนเทนต์การรีวิวอาหหาร และคอนเทนต์การทำสลัดทานเอง
เมื่อดูเทรนด์จาก Hashtag ประกอบจะเริ่มเห็นว่าโพสต์ที่กล่าวถึงจะมาจากโพสต์ที่ติด #ร้าน แมนุ เป็นหลัก นอกจากนั้นก็จะเป็นเมนูอื่น ๆ ที่มักจะเป็น Maindish ทานคู่กับสลัดและชื่อร้าน เช่น สเต๊ก หรือ พิซซ่า รวมไปถึงชื่อร้านอย่าง Sizzler และ โอ้กะจู๋
ดังนั้น สำหรับใครที่ทำ SEO Content อยู่ลองนำคำเหล่านี้ไปปรับใช้ และหากจะโปรโมทร้านของตัวเองก็ต้องคิดแท็กทั้งประเภทสินค้า และโลเคชั่นของร้านด้วยเป็นหลัก เพื่อเพิ่มการมองเห็นให้ได้มากที่สุด หรือถ้าแบรนด์หรือผู้ประกอบการท่านใดที่อยากทำ Insight ด้วยตัวเองสามารถนำคำเหล่านี้ไปปรับใช้ในการเลือก Keyword เพื่อดึงข้อมูลใน Social Listening ได้ครับ
Top Post by Platform
ต่อไปเรามาดูภาพรวมคอนเทนต์ที่ได้รับ Engagement หรือการมีส่วนร่วมสูงสุดในแต่ละแพลตฟอร์มประกอบกัน เพื่อให้เข้าใจบริบทภาพรวมของคอนเทนต์ที่คนให้ความสนใจกันมากขึ้นครับ
Facebook: กินไปเหอะ แชร์สูตร/วิธีทำ สลัดแซลม่อน และไข่กุ้งจาก 7-11 พร้อมใช้น้ำสลัดงาเป็นเครื่องปรุง
Twitter: Jones Salad โพสต์โปรโมทสินค้า “ผงสลัด”โดยนำเสนอในรูปแบบของคอนเทนต์ให้ความรู้
Instagram: farmiscooking แชร์สูตรการทำสลัดโรล
TikTok: khonpetch68 ทำสลัดแซลมอน พร้อมทานให้ดูชวนน้ำลายไหล
YouTube: ช่องเข้าครัวกับสุจิตรา ทำคอนเทนต์รีวิวอาหารเพื่อสุขภาพใน 7-11 ซึ่งมีสลัดเชคหรือกล่อง แบบพร้อมทานอยู่ด้วย
STEP 5 Categorize Data
หลังจากที่เราคัดกรองข้อมูล ได้ข้อมูลที่พร้อมใช้งานจริง ๆ และเห็นถึงภาพรวมของการพูดถึงเกี่ยวกับโต๊ะจีนว่ามีการพูดถึงในมุมมองไหนบ้าง พูดถึงแบบใด สิ่งที่เราต้องทำต่อไปคือการ จัดกลุ่มข้อมูลนั่นเอง ซึ่งก่อนที่เราจะจัดกลุ่ม เราก็ต้องมาถามตัวเองก่อนว่า เราต้องการรู้อะไรจากมันบ้าง มีประเด็นไหนที่น่าสนใจ และข้อมูลบอกอะไรให้เราได้รู้บ้าง เพื่อที่จะวิเคราะห์ข้อมูลออกมา
จากนั้นจะใช้ Tag ในการจัดกลุ่มข้อมูล และคำที่ใช้ค้นหาเพื่อทำการจัดกลุ่มให้มีความสมบูรณ์ครบถ้วนจะเป็นตามในรูปด้านบนครับ ซึ่งใครจะแบ่งหัวข้อมากกว่านี้ก็ได้ครับ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่ต้องการจะหา และข้อมูลพาเราไปหาได้
STEP 6 Data Visualization
เมื่อทำขั้นตอนของการจัดหมวดหมู่ Data เสร็จแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 6 คือ การทำ Data Visualization วิธีการทำก็สามารถทำได้หลายทางแล้วแต่ความถนัด อย่างผู้เขียนจะเลือกทำใน Canva เพราะเป็นช่องทางที่ถนัดใช้ที่สุด โดยขั้นตอนนี้จะเป็นการนำข้อมูลทั้งหมดที่เราได้ทำการเตรียม มาทำการแปลงเป็นภาพที่เข้าใจง่ายขึ้น
STEP 7-8 Summary & Insight / Recommendation
หลังจากกระบวนการตั้งแต่ 1-6 ข้อมูลจะพร้อมให้เราใช้ประโยชน์แล้วค่ะ ผ่านการ Summary & Insight / Recommendation “สลัด” ในประเทศไทยตามเนื้อหาด้านล่างนี้ครับ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นอีกขั้นตอนที่ต้องผ่านการผัดหุงต้มนึ่งไม่แพ้อาหารเลย แต่กลวิธีของแต่ละคนอาจจะแตกต่างกันไป จากทั้งหมด 8 Step หลักวิธีการใช้ Social Listening ด้วยตัวเองแบบง่าย ๆ มาดูกันว่าผู้เขียนเตรียมข้อมูลแบบไหนมาแชร์ทุกคนกันบ้าง
Categories ที่แบ่งออกมา แบ่งตามข้อมูลที่เจอหลังอ่านและวิเคราะห์ล่วงหน้า ซึ่งผู้ที่ใช้ Social Listening ก็สามารถกำหนดหัวข้อหลัก และ Insight ที่ตัวเองอยากรู้ได้เช่นกัน มาดูกันว่า 25,541 Mentions คลีนข้อมูลที่ไม่ต้องการบางส่วนออกแล้ว นั้นเมื่อแบ่งเป็นกลุ่ม ๆ เราจะเจออะไรบ้าง
ซึ่งผู้เขียนได้เลือก Analysis การพูดถึงสลัดจัดเป็น 6 กลุ่มตามภาพด้านบน โดยไม่ได้จากมากไปน้อย แต่เรียงโดย Journey ที่ต้องการ
Serving Style (27%): รูปแบบหรือวิธีการนำเสนอและการบริโภคสลัดหรืออาหารสุขภาพที่ถูกพูดถึงบ่อย ๆ
Store Concepts (23%): ประเภทของสถานที่หรือช่องทางที่เกี่ยวข้องกับการซื้อ และการบริโภคสลัด
Protein and Topping (21%): แหล่งโปรตีนและ Topping ต่าง ๆ ที่มักเป็นส่วนประกอบในเมนูสลัด
Vegetables & Fruits (17%): ชนิดของผักและผลไม้ต่าง ๆ ที่ใช้เป็นส่วนประกอบหลักในสลัด
Salad Dressings (7%): ประเภทของน้ำสลัดที่นิยมหรือถูกพูดถึงร่วมกับสลัด
Menus (5%): หมวดหมู่นี้หมายถึงการกล่าวถึง ชื่อเรียกเมนูเฉพาะ ที่อาจมีความคาบเกี่ยวกับ Serving Style บ้าง แต่เน้นที่ชื่อเรียกหรือรูปแบบเมนูที่มีความจำเพาะมากกว่า
Top ผักและผลไม้ยอดฮิตที่ถูกพูดถึงในเมนูสลัด
หมวดหมู่ผักและผลไม้คิดเป็นสัดส่วน 17% ถือเป็นส่วนประกอบสำคัญที่เป็นหัวใจของเมนูเหล่านี้ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ละเอียดและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการวางแผนธุรกิจได้อย่างตรงจุด เลยขอเจาะลึกหมวดหมู่นี้ออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ผักสลัดที่เป็นใบโดยเฉพาะ และผักหรือผลไม้ทั่วไปอื่น ๆ ที่มักเป็นส่วนประกอบ เพื่อให้เห็นภาพรวมของวัตถุดิบในกลุ่มนี้ได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
โดยในส่วนของ ผักสลัดที่เป็นใบ จะเห็นว่ากลุ่ม Lettuce อย่างผักกาดแก้ว และผักกาดหอม เป็นผักสลัดที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุด สะท้อนถึงความคุ้นเคยและความต้องการพื้นฐานของผู้บริโภค อย่างไรก็ตามผักอื่น ๆ อย่าง Cos, Kale, Green Oak, Rocket และ Red Oak เป็นตัวเลือกที่ผู้บริโภคชื่นชอบและสามารถเพิ่มความหลากหลายให้กับเมนูได้เหมือนกัน
ในส่วนของแตงกวาและมะเขือเทศถูกพูดมากที่สุดอย่างชัดเจน เพราะเป็นผักที่ผู้บริโภคคุ้นเคย และสามารถหาซื้อได้ง่าย และยังเห็นเทรนด์การทำสลัดแตงกวาทานเองแบบง่าย ๆ เลยทำให้ผักชนิดนี้ถูกพูดถึงค่อนข้างมาก
นอกจากนี้ก็ยัง อะโวคาโด และแอปเปิล หน่อไม้ฝรั่งและถั่ว ก็มีการถูกพูดถึงด้วยเหมือนกัน ซึ่งผู้ประกอบการก็สามารถเลือกผักและผลไม้เหล่านี้ ในการนำไปประกอบการทำสลัดเพื่อเพิ่มความน่าสนใจในเมนูได้เหมือนกัน
Top ชื่อเมนูสลัดที่คนพูดถึง
ในโลกโซเชียล เวลาคนพูดถึงสลัด โดยส่วนใหญ่มักจะมีการพูดถึงพูดว่า “สลัด” เฉยๆ หรือพูดถึงตามด้วยส่วนผสมหลัก เช่น “สลัดไก่” หรือ “สลัดผัก” ซึ่งเราก็สามารถอิงได้จากการดูผักหรือผละไม้ และ โปรตีนยอดฮิตได้ แต่ในหัวข้อนี้ เราจะมาดูเฉพาะชื่อเมนูสลัดที่ “เฉพาะเจาะจง” มากขึ้น ที่คนพูดถึงเยอะ ๆ ครับ
ยำสลัด มาเป็นอันดับ 1 ด้วยสัดส่วนสูงถึง 62% เป็นเพราะว่า ยำสลัดเป็นการผสมผสานรสชาติแบบไทย ๆ ที่เข้ากับสลัด และถูกใจคนไทยที่ชอบรสชาติจัดจ้าน จุดเด่นด้านรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และถูกปากคนส่วนใหญ่อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เกิดการพูดถึงในวงกว้าง
ในขณะเดียวตามมาด้วย ซีซาร์สลัด ที่มีการพูดถึงกว่า 33% ซึ่งเป็นเมนูสลัดสากลที่ได้รับความนิยมทั่วโลกนั่นเอง นอกจากนี้ก็ยังมี สลัดบูราต้าชีส ซึ่งเกิดจากการกินตามกระแสของอินฟลูเอนเซอร์ เลยทำให้ชื่อนี้ถูกพูดถึงด้วยนั่นเอง
Top น้ำสลัดยอดฮิตที่คนมักพูดถึง
น้ำสลัดครีมถูกพูดถึงมากที่สุดด้วยสัดส่วน 54% สะท้อนความต้องการของผู้บริโภคที่มองหา “ความอร่อยเข้าถึงง่าย” มากกว่าความคลีนที่มากเกินไป แต่อย่างไรก็ตามในอีกมุมนึงอาจเพราะด้วยชื่อเมนู “สลัด” ทำให้ผู้บริโภคมองว่าน้ำสลัดชริดนี้ก็ดีต่อสุขภาพตามไปด้วยเหมือนกัน นอกจากนี้ น้ำสลัดครีมยังสามารถหาซื้อได้ง่าย และยังจับคู่กับเมนูได้หลากหลาย จึงกลายเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคในตลาดแมสนั่นเอง
และก็ยังมีการพูดถึง น้ำสลัดงาโชยุ (33%) ซึ่งจะตอบโจทย์กลุ่มรักสุขภาพที่ยังให้ความสำคัญกับรสชาติ ส่วน เทาซันไอส์แลนด์ (17%) และ ซีฟู้ด/ซีอิ๊วญี่ปุ่น มีฐานนิยมเฉพาะกลุ่ม เหมาะกับการใช้สร้างความต่างให้กับเมนูสลัดด้วย
รูปแบบการเสิร์ฟสลัดที่ไม่จำกัดแค่การอยู่บนจาน
สลัดบาร์ คือรูปแบบการเสิร์ฟที่ถูกพูดถึงมากที่สุด (31%) ด้วยจุดเด่นด้าน personalization – ลูกค้าสามารถเลือกผัก โปรตีน และน้ำสลัดได้เองตามใจ รวมไปถึงรูปแบบนี้มักปรากฏในร้านอาหารบุฟเฟต์ ที่เน้นความหลากหลายและความคุ้มค่า ซึ่งตอบโจทย์พฤติกรรม “อยากควบคุมเอง” ของผู้บริโภคยุคนี้
รองลงมาคือ สลัดจานเดียว (30%) ซึ่งเรามักจะพบตามร้านอาหารหรือคาเฟ่ทั่วไป ซึ่งก็มีทั้งร้านสไตล์อิตาลี ยุโรป หรือ ญี่ปุ่น ถัดมา คือ สลัดโรล ที่สามารถทานได้ทั้งที่ร้านและสั่งทานกลับบ้านได้ ซึ่งเน้นความสะดวกสบายในการหยิบ จับ เพื่อรับประทาน
นอกจากนี้ก็ยังมีในรูปแบบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น แรปสลัด,เชค หรือ สมูทตี้ ที่ถึงแม้ว่ารวมกันแล้วจะยังมีสัดส่วนเล็ก แต่น่าสนใจในเชิงการพัฒนาสินค้าสำหรับตลาด on-the-go และ Functional Food สำหรับผู้บริโภคยุคใหม่ที่ต้องการ “พกพา-ดื่มง่าย-ไม่ต้องคิดเยอะ” นั่นเอง
รูปแบบร้านค้าและร้านอาหารที่เสิร์ฟสลัด
ร้านอาหารซึ่งรวมถึงร้านบุฟเฟต์ มีการพูดถึงสูงสุดที่ 62% สะท้อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่ยังคงเลือก “การนั่งทานในร้าน” เป็นประสบการณ์หลัก โดยเฉพาะร้านที่มี เมนูที่หลากสลัดหลากหลาย และยังรวมไปถึงเมนูอย่าง สเต็ก สปาเก็ตตี้ ซูชิ และเมนูหลักอื่น ๆ อีกด้วย แต่ในอีกมุมนึงก็มองได้ว่าสลัดเป็นเมนูรอง ๆ จากเมนูก่อนหน้าได้เหมือนกัน
รองลงมาคือ คาเฟ่ (33%) ที่ตอบโจทย์สายกิน-ถ่าย-แชร์ โดย “สลัด” กลายเป็นหนึ่งในเมนูเบา ๆ ที่เหมาะกับคนรักสุขภาพ หรือคนที่ไม่อยากกินของหนัก
และสุดท้ายคือ Retail เช่น 7-11 หรือ Tops ยังมีสัดส่วนเพียง 5% แม้จะตอบโจทย์เรื่องความสะดวก ซึ่งจะจำหน่ายสลัดเชค หรือสลัดที่ใส่กล่องพร้อมทาน
@tops_daily ใหม่! “เชคสลัด” จากเวรี่ เวรี่ อร่อย เฮลตี้ กินง่าย มีให้เลือกถึง 3 รสชาติ ที่ท็อปส์ เดลี่เท่านั้น!! 😋🥗 Topsdaily EveryDayforEveryOne ค้นพบความสุขทุกวันในแบบคุณ รีวิวTopsdaily รีวิวท็อปส์เดลี่ ของกินในท็อปส์เดลี่ ReviewTopsdaily TikTokพากิน กินตามTikTok ห้องครัวTikTok สลัด สายเฮลตี้ ทูน่า ปูอัด อาหารคลีน อาหารเพื่อสุขภาพ
♬ เสียงต้นฉบับ – Tops_daily – Tops_daily
Top แหล่งโปรตีนและ Topping ต่าง ๆ ที่ถูกพูดถึงในเมนูสลัด
“ไก่” และ “ไข่” คือโปรตีนที่ผู้บริโภคพูดถึงมากที่สุด โดยไก่มีการพูดถึงที่ 24% รองลงมาคือไข่ต้ม 18% ซึ่งทั้งสองอย่างนี้มีจุดร่วมคือ “เข้าถึงง่าย ราคาไม่สูง และไขมันต่ำ” ทำให้ตอบโจทย์กลุ่มผู้บริโภคที่ต้องการโปรตีนคุณภาพในราคาจับต้องได้ โดยเฉพาะสายสุขภาพและกลุ่มคนทำงานที่มองหาเมนูมื้อหลักแบบเบาแต่มีสารอาหารครบถ้วน
โปรตีนกลุ่มพรีเมียมอย่างแซลมอน (16%) และทูน่า (15%) ก็ถูกพูดถึงไม่น้อย สะท้อนเทรนด์ผู้บริโภคที่พร้อมจ่ายมากขึ้นเพื่อคุณค่าและภาพลักษณ์ของอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ขณะเดียวกัน กุ้งและไข่กุ้งก็เป็นอีกกลุ่มที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในเมนูแนว “ยำสลัด” หรือ “โรลสลัด”
และถึงแม้ว่าเนื้อหมูจะมีสัดส่วนเพียง 4% แต่ก็สะท้อนว่าสลัดไม่จำเป็นต้องจำกัดอยู่ในกรอบ “อาหารคลีน” เสมอไป เพราะยังมีผู้บริโภคจำนวนหนึ่งที่เลือกสลัดจากรสชาติ ความหลากหลาย และความคุ้นเคยของวัตถุดิบมากกว่าหลักโภชนาการเพียงอย่างเดียว
TOP5 Facebook Page ที่นับยอดเอนเกจจาก “ทุกโพสต์” ในเพจที่อยู่ในระยะเวลาและคีย์เวิร์ดที่กำหนดเท่านั้น
กินไปเหอะ 40.1K Engagement
SizzlerThai 25.2K Engagement
ครัวอร่อย By เข้าฌาน 21.7K Engagement
เคยกินปะ 21.5K Engagement
Cafe Story 19% ของภาพรวม
TOP5 Instagram Account ที่นับยอดเอนเกจจาก “ทุกโพสต์” ที่อยู่ในระยะเวลาและคีย์เวิร์ดที่กำหนดเท่านั้น
phedphed_food 61.4K Engagement
farmiscooking 58.5K Engagement
pearypie 21.6K Engagement
punpromotion 14.3K Engagement
eathere.th 13.6K Engagement
TOP5 TikTok account ที่นับยอดเอนเกจจาก “ทุกคลิป” ในเพจที่อยู่ในระยะเวลาและคีย์เวิร์ดที่กำหนดเท่านั้น
khonpetch68 1.50M Engagement
bameesociety 299.7K Engagement
mejilucksika 260K Engagement
champ_achariya 237.4K Engagement
bb_memory 193.4K Engagement
TOP5 YouTube channel ที่นับจากคลิป “ยอดวิว” สูงที่สุดของช่องเท่านั้น
หิวบ่อย สตูดิโอ 559.17M Views
BODY HERO 35.76M Views
ComfeeTH 7.81M Views
Active Health 5.58M Views
JARDO – จารย์โต้ 1.97M Views
Data Research Insight สลัด
ทั้งหมดนี้คือ Data Research Insight สลัด โดยเราจะพบว่าผู้บริโภคมีการพูดถึงสลัดอย่างบนโซเชียลมีเดียโดยมี TikTok และ Instagram เป็นสองแพลตฟอร์มหลักที่มีการกล่าวถึงและสร้างการมีส่วนร่วมสูงที่สุด ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นที่ธุรกิจต้องเข้าไปมีส่วนร่วมบนแพลตฟอร์มเหล่านี้ และอาจพิจารณาการทำงานร่วมกับอินฟลูเอนเซอร์ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ในด้านของวัตถุดิบ จะเห็นว่า ผักสลัดใบยอดนิยม อย่าง Lettuce (ผักกาดแก้ว หรือผักกาดหอม), Cos, Kale, และ Green Oak ควรเป็นพื้นฐานของเมนู ขณะที่ แตงกวาและมะเขือเทศ คือผักพื้นฐานที่ถูกพูดถึงบ่อยที่สุด และมี เทรนด์ที่น่าสนใจคือการใช้แตงกวาเป็นวัตถุดิบหลักในสลัด ซึ่งเป็นโอกาสในการสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ ได้เหมือนกัน
นอกจากนี้แหล่งโปรตีนยอดนิยม ที่ธุรกิจควรมีคือ ไก่และไข่ รวมถึงพิจารณาตัวเลือกพรีเมียมอย่างแซลมอนและทูน่า สำหรับ ชื่อเมนูสลัด ที่คนพูดถึงเยอะที่สุดและควรเป็น เมนูหลักที่ต้องมี ในร้านคือ ยำสลัด ซึ่งโดดเด่นด้วยรสชาติไทยจัดจ้าน และ ซีซาร์สลัด และสุดท้าย ประเภทน้ำสลัดที่ผู้บริโภคนิยมและควรมีให้เลือก ได้แก่ น้ำสลัดครีม และ น้ำสลัดงา อย่างไรก็ตามธุรกิจก็สามารถคิดค้นสูตรพิเศษประจำร้าน เพื่อสร้าง Signature ให้กับตัวเองได้เหมือนกัน
โดยรวมแล้วสิ่งที่สำคัญคือ ผู้ประกอบการต้องการทำความเข้าใจและนำข้อมูลความนิยมในวัตถุดิบ เมนู และน้ำสลัด รวมถึงการใช้แพลตฟอร์มที่เหมาะสมเหล่านี้ไปปรับใช้ จะช่วยให้ธุรกิจสามารถ พัฒนาผลิตภัณฑ์ การตลาด และช่องทางการสื่อสาร ได้อย่างตรงความต้องการของผู้บริโภค และเพิ่มโอกาสในการแข่งขันในตลาดสลัดและอาหารสุขภาพได้ครับ
*สามารถนำบทความนี้ไปแชร์หรือต่อยอดได้ เว็บหรือสำนักพิมพ์ไหนต้องการ แค่ส่ง Backlink กลับมาให้เรา แล้วส่งลิงก์บทความที่คุณนำไปต่อยอดมาบอกเราที่ [email protected] ก็พอครับ
ทีมการตลาดวันละตอน ผู้จัดทำ Data Research insight ขอขอบคุณผู้สนับสนุน SME D BANK
คลิกเพื่ออ่านบทความ Project Data Research Insight ก่อนหน้า > ก๋วยเตี๋ยว หมูกระทะ ข้าวมันไก่ ยำ ไก่ทอด ผัดไทย ของดอง ข้าวแกง ราเม็ง ไอศกรีม สเต๊ก สปาเก็ตตี้
หรือถ้าอยากเรียนการใช้ Social Listening ให้เป็นด้วยตัวเอง ก็สามารถลงเรียนกับการตลาดวันละตอนได้ หรือจะส่งทีมมาเรียนก็ได้
คลาสเรียนออนไลน์ Social Listening Analytics
คลาสเรียนออนไลน์ Social Listening เน้น Workshop ลงมือทำจริงด้วยตัวเอง รุ่นล่าสุด เปิดแล้ว
เรียนสดทางออนไลน์ ผ่าน Zoom เต็มวัน 9:00 – 15:00
ค่าเรียนคนละ 9,900 บาท รับจำกัดรุ่นละ 20 คน (ถ้าเต็มรุ่นนี้ต้องขอให้รอรุ่นหน้า)
อ่านรายละเอียดและสมัครก่อนเต็มได้ที่ลิงก์นี้ครับ
https://bit.ly/sociallisteningclass
แล้วคุณจะรู้ว่าการเข้าถึง Insight และ Opportunity ใหม่ ๆ เป็นเรื่องง่ายแค่ใช้ Social Listening ให้เป็น
นี่คือผลงานของผู้เรียนคลาส Social Listening รุ่น 32 กับการตลาดวันละตอน
ครั้งนี้เป็นผลงานของผู้เรียนที่ไม่ได้มาจากสาย Data โดยตรง แต่สนใจอยากเข้าใจผู้บริโภคให้ลึกขึ้นเลยลองมาเรียนดูสักครั้ง
และจากหลักการ 8 Step Social Listening ที่ได้เรียนไปในคลาส ผู้เรียนก็เอาไป Apply กับหมวด Cleansing ได้อย่างดี จนออกมาเป็น Insight ที่น่าสนใจเพียบ
เริ่มจากการดูว่า Texture แบบไหนกำลังได้รับความนิยม โดยจะเห็นว่า “ไมเซลล่า/วอเตอร์” และ “บาล์ม” คือ 2 กลุ่มที่คนพูดถึงเยอะที่สุด ต่อมาก็เจาะลึกต่อว่า แล้วผู้บริโภค เลือกซื้อเพราะอะไร จะเห็นว่า Key Feature ที่มาแรงคือ “ล้าง + บำรุง” ได้ในขั้นตอนเดียว และ “ล้างเมคอัพกันน้ำได้” ส่วนเหตุผลที่ซื้อจริง ๆ กลับไม่ได้อยู่ที่แบรนด์ แต่เป็นเพราะ “ขวดใหญ่” และ “ราคาดี”
บอกเลยว่า ไม่ได้แค่ดูผิวเผิน แต่ผู้เรียนลงลึกถึงระดับ Benefit, Ingredient, Skin Concern ไปจนถึงการ Mapping ภาพรวมของ Category ได้อย่างครบถ้วน
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผู้เรียนคนหนึ่งที่ไม่เคยทำ Data มาก่อน ก็สามารถทำได้จริงในเวลาไม่กี่วัน หลังจากได้ลงมือฝึกในคลาสแบบ Workshop และถ้าทำได้ขนาดนี้ ก็รับ Certified จากพี่หนุ่ยไปเลยแบบไม่ต้องสงสัยครับ