ทำความเข้าใจ Insight Baby Boomers กลุ่มผู้บริโภคที่แบรนด์ไม่ควรมองข้าม

ในยุคที่นักการตลาดส่วนใหญ่มักจับจ้องไปที่ Gen Z และ Millennials การมองข้ามกลุ่ม Baby Boomers อาจทำให้แบรนด์พลาดโอกาสทางธุรกิจที่สำคัญค่ะ เพราะกลุ่มนี้ไม่เพียงมีกำลังซื้อสูงแต่ยังมีพฤติกรรมการใช้จ่ายที่น่าสนใจและแตกต่างจากที่หลายคนคิดจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลยค่ะ

เมื่อพูดถึง Baby Boomers หรือกลุ่มคนที่เกิดระหว่างปี 1946-1964 (ปัจจุบันอายุ 60-70 ปี) หลายคนอาจนึกถึงภาพของผู้สูงอายุที่ล้าหลังเทคโนโลยีหรือระมัดระวังการใช้จ่ายมากเกินไปค่ะ แต่ว่ากลุ่มนี้มีความหลากหลายและซับซ้อนกว่านั้นมาก จากข้อมูลพบว่า 3 ใน 10 ของ Baby Boomers เป็นกลุ่มผู้มีรายได้สูง และ 75% มีเงินสดหรือเงินออมมากกว่าทุกเจเนอเรชั่นที่อายุน้อยกว่า ซึ่งหมายความว่ากลุ่มนี้มี spending power ที่แข็งแกร่งแต่จะดึงดูดพวกเขาให้จับจ่ายได้นั้นต้องเข้าใจ insight ที่แท้จริงค่ะ เราไปดู 7 พฤติกรรมการใช้จ่ายที่แบรนด์ต้องรู้กันค่ะ

สิ่งที่น่าแปลกใจคือ คนกลุ่มนี้กลับเป็นกลุ่มที่ซื้อทัวร์ท่องเที่ยวแบบ impulse มากที่สุดค่ะ โดยมีแนวโน้มสูงกว่าผู้บริโภคทั่วไปถึง 159% และเพิ่มเป็น 211% ในกลุ่มที่เกษียณแล้ว

Baby Boomers

ทำไมแบรนด์ท่องเที่ยวต้องปรับกลยุทธ์ เพราะพฤติกรรมนี้สะท้อนว่า Baby Boomers มี financial freedom และความมั่นคงทางการเงินที่พร้อมจะใช้จ่ายเมื่อมีโอกาส แบรนด์ท่องเที่ยวจึงควรเน้น last-minute deals, flash sales หรือ exclusive offers ที่สร้าง sense of urgency และต้องเน้นว่าเป็น “value for money” ให้ชัดเจน

สิ่งที่พวกเขาชื่นชอบคือ sightseeing trips มากกว่า cruise (ซึ่ง Gen Z กลับสนใจมากกว่า) แบรนด์จึงควรนำเสนอ organized tours และ cultural experiences ที่เน้นความลึกซึ้งพร้อม recommendations และรีวิวจากลูกค้าเดิมเป็น key influencers

แม้จะซื้อทัวร์แบบ impulse แต่กลุ่มนี้กลับเป็นกลุ่มที่คำนึงถึงราคามาก รายการใช้จ่ายหลักในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ได้แก่ การท่องเที่ยว ประกันรถยนต์ และแว่นตา ซึ่งเป็นสินค้าที่ให้ value หรือความจำเป็น

กลยุทธ์ที่แบรนด์ควรทำคือ

  • เน้น loyalty programs และ membership rewards เพราะพวกเขาใช้งานโปรแกรมเหล่านี้อย่างจริงจังเพื่อหาดีลที่ดีที่สุด
  • นำเสนอ store-brand หรือ private label products ที่มีคุณภาพดีแต่ราคาต่ำกว่า premium brands
  • สื่อสารเรื่อง quality และ cost-effectiveness อย่างชัดเจน มากกว่าการใช้กลยุทธ์ brand prestige

เหตุผลที่แบรนด์ต้องทำแบบนี้เพราะ Baby Boomers ไม่ได้ซื้อเพราะความฟุ้งเฟ้อแต่ซื้อเพราะ rational decision-making พวกเขาประเมิน ROI ของการใช้จ่ายทุกบาททุกสตางค์

มากกว่า 20% ของ Baby Boomers มี smartwatch หรือ smart wristband และ 4 ใน 5 ใช้งานเพื่อ health & fitness tracking มากกว่าทุกเจเนอเรชั่น นอกจากนี้เกือบ 25% เชื่อว่าเทคโนโลยีสามารถช่วยปรับปรุงสุขภาพได้ โอกาสสำหรับแบรนด์ คือพวกเขาออกกำลังกายด้วยการแอโรบิก วิ่ง และเข้ายิม และ พวกเขาทำ home workout เท่ากับ Gen X, Millennials และมากกว่า Gen Z อีกด้วย

Baby Boomers

โอกาสของแบรนด์

  • Online fitness subscriptions ที่เหมาะกับวัยและความสามารถ
  • Home gym equipment ที่ user-friendly
  • Virtual personal training ที่ให้คำปรึกษาเฉพาะบุคคล
  • Health tracking apps ที่มี interface ที่ง่ายต่อการใช้งาน

เหตุผลที่แบรนด์ต้องโฟกัสตรงนี้เพราะ Baby Boomers มองสุขภาพเป็น long-term investment พวกเขาพร้อมจ่ายเพื่อ quality of life ที่ดีขึ้น

คนกลุ่มนี้มีแนวโน้มสูงกว่าเจเนอเรชั่นอื่น 58% ในการมี e-reader พวกเขาเป็นเจ้าของ smart TV และ smart speaker มากกว่าคนรุ่นใหม่ และ 25% มีอุปกรณ์มากกว่า 5 ชิ้น กลยุทธ์สำคัญ คือจุดแข็งที่แบรนด์เทคต้องใช้ประโยชน์เกือบครึ่งหนึ่งของ Baby Boomers บอกว่าพวกเขา loyal ต่อแบรนด์ที่ชอบมากกว่าคนรุ่นใหม่ซึ่งหมายความว่าเมื่อได้ใจพวกเขาแล้วจะได้ repeat purchase และ cross-selling ได้ง่าย

สิ่งที่พวกเขาให้ความสำคัญในการเลือกซื้อเทคคือ

  1. User-friendliness – UI/UX ต้องไม่ซับซ้อน
  2. Value for money – คุ้มค่าการลงทุน
  3. Reliability – ทนทาน ใช้งานได้จริง

แบรนด์เทคจึงควรเน้นสื่อสาร features เหล่านี้ในการทำ marketing communications

กลุ่มนี้ค้นพบแบรนด์และผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางแบบดั้งเดิมมากกว่าคนรุ่นใหม่ค่ะ เช่น บทความ และโฆษณาทางทีวี เป็นต้น ข้อมูลที่น่าสนใจคือ 32% ของ Baby Boomers ที่ใช้ Netflix เลือกแพ็กเกจที่มีโฆษณาเทียบกับ Gen Z เพียง 9% และ 45% ค้นพบแบรนด์ใหม่ผ่านโฆษณาทีวี สูงกว่าผู้บริโภคทั่วไป 39% ทำไมแบรนด์ต้องปรับ media mix แทนที่จะเท media budget ไปที่ digital ทั้งหมด แบรนด์ที่ target Baby Boomers ควรทำ

  • ลงโฆษณาใน streaming platforms ที่พวกเขาใช้ ad-tier
  • ยังคงใช้ traditional media เช่น TV commercials
  • ทำ marketing แบบ personalized
  • ใช้ direct message ที่มี quality และ value proposition ชัดเจน

นี่เป็นเหตุผลที่แบรนด์หลายตัวที่ target กลุ่มนี้ยังคงใช้ integrated marketing communications ที่ผสมผสาน traditional กับ digita ค่ะl

กลุ่มนี้เป็นแฟนกีฬาตัวยงโดย 1 ใน 5 เข้าชมการแข่งขันกีฬามืออาชีพ สูงกว่าคนรุ่นใหม่ 19% และ 60% ติดตามกีฬาทางทีวีหรือออนไลน์ พวกเขายังสนใจงาน festivals ต่างๆ (food, seasonal, music festivals) โดยเกือบ 1 ใน 3 วางแผนเข้าร่วมกิจกรรมเท่าเดิมหรือมากกว่าปี 2024 และ 75% บอกว่าไม่สนใจ livestream festival ที่ไม่สามารถไปได้ ต้องเป็น on-site experience เท่านั้น

Baby Boomers
ขอบคุณภาพจาก Shutterstock AI Generator : a happy senior couple in their late 50s–60s shopping in a modern mall, smiling, carrying colorful shopping bags, wearing casual smart outfits, bright natural lighting, lifestyle photography, joyful atmosphere, realistic photo style

กลยุทธ์สำหรับแบรนด์

  • พัฒนา sports subscription bundles ที่ตอบโจทย์
  • สร้าง event marketing ที่เน้นประสบการณ์จริง
  • นำเสนอ VIP packages หรือ premium experiences ที่คุ้มค่า
  • ทำ partnerships กับ sports teams, festivals, events

เหตุผลที่แบรนด์ต้องโฟกัส experiential marketing เพราะ Baby Boomers ยินดีจ่ายเพื่อ meaningful experiences มากกว่าสินค้าทางกายภาพ

เมื่อเทียบกับปี 2020 เห็นการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญในการ subscribe บริการต่างๆ เช่น

  • Movie/TV streaming services
  • Premium web services
  • News services
  • Mobile apps

สิ่งสำคัญที่แบรนด์ต้องเข้าใจแม้จะมี disposable income สูง แต่ Baby Boomers ไม่ยอมจ่ายแบบไร้เหตุผลพวกเขาต้องการ subscriptions ที่ให้ประโยชน์ที่จับต้องได้ คอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และราคาที่สมเหตุสมผล แบรนด์ digital services จึงควรจะ

  • เน้น value proposition ที่ชัดเจน
  • มี free trial หรือ money-back guarantee
  • แสดง testimonials และ reviews จากผู้ใช้วัยเดียวกัน
  • ทำ content ที่เกี่ยวข้องกับ lifestyle ของพวกเขา

หลังจากอ่านมาถึงตรงนี้จะเห็นว่ากลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีความซับซ้อนและท้าทายใช่ไหมคะ แม้จะมีกำลังซื้อสูงกว่าเจนเนอเรชั่นอื่น ๆ แต่พวกเขาระมัดระวังในการใช้จ่ายและต้องการ value ที่แท้จริงในทุกการซื้อ

กุญแจสำคัญในการทำการตลาดกับกลุ่มนี้คือ เน้น Value Proposition การสื่อสารให้ชัดเจนว่าผลิตภัณฑ์/บริการของคุณให้คุณค่าอย่างไร จากนั้น Quality over Hype พวกเขาไม่หลงกับ marketing gimmicks แต่ต้องการ proven quality ต่อด้วย Experience Matters ที่พร้อมจ่ายเพื่อประสบการณ์ที่มีความหมาย ตามมาคือ User-Friendly Always เพราะไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีหรือบริการใดๆ ต้องใช้งานง่าย และสุดท้าย Loyalty Creates Value คือเมื่อได้ใจพวกเขาแล้วจะได้ long-term customers ที่มีคุณค่าค่ะ

การเข้าใจ Baby Boomers แบบเจาะลึกจะช่วยให้แบรนด์สามารถสร้าง marketing strategy ที่ตอบโจทย์กลุ่มนี้ได้อย่างแท้จริง และเปิดโอกาสทางธุรกิจที่หลายแบรนด์อาจมองข้ามไป

Source, Source, Source

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ และสามารถอ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่นี่

อุ๋มอิ๋ม Marketing Content Creator และ Data Insight Researcher ของการตลาดวันละตอน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *