7 Smart Home ที่คนไทยเลือกซื้อและใช้มากที่สุด ปี 2025

ตลาด Smart Home ในไทยปี 2025 ที่ใช้ Smart Home Device แล้วกว่า 3.65 ล้านบ้าน เพิ่มขึ้นถึง 12% หรือกว่า 390,000 บ้าน โดยใช้ข้อมูลจาก Digital Report ของ We Are Social และ Meltwater (สำหรับอ่านตัวเต็มค่ะ) จากปีก่อนตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นชัดว่า “Smart Home” ไม่ได้ถูกมองแค่ในมิติของความสะดวกสบายอีกต่อไป

7 Smart Home

แต่ผู้บริโภคไทยเริ่มให้ความสำคัญกับปัจจัยอื่น ๆ เช่น ความปลอดภัยในชีวิตประจำวัน การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ และการเชื่อมต่อดิจิทัลที่ไร้รอยต่อ การเติบโตนี้บอกเราว่า Smart Home กำลังขยับจากเทรนด์เฉพาะกลุ่มไปสู่การเป็นวิถีชีวิตใหม่ของคนไทยและเมื่อเจาะลึกลงไป เราจะเห็นว่าอุปกรณ์ Smart Home ที่ได้รับความนิยมสูงสุดมีอยู่ 7 ประเภทหลัก ๆ ที่เข้ามาอยู่ในบ้านของผู้บริโภคไทยมากที่สุดในปีนี้ ไปดูกันเลยค่า

ประเภทนี้ที่มีมูลค่าตลาด 1,460 ล้านบาท ซึ่งหัวใจสำคัญของ Smart Home เพราะถ้าไม่มีตัวกลางที่เชื่อมอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าด้วยกัน บ้านที่เต็มไปด้วย Smart Device ก็จะกลายเป็นเพียง เกาะเล็ก ๆ ที่ทำงานแยกกัน แต่เมื่อมี Smart Hub อย่างเช่นของ Google Home, Amazon Echo หรือ Apple HomeKit ทุกอย่างในบ้านก็สามารถคุยกันได้เหมือนเป็น “สมองกลาง” ค่ะ

และที่น่าสนใจคือ ตลาดกลุ่มนี้โตพุ่งแรงถึง 32.9% ภายในปีเดียวมูลค่ากว่า 350 ล้านบาท ตัวเลขนี้บอกเราชัด ๆ ว่า คนไทยไม่ได้ซื้อ Smart Device มาใช้แค่เพราะ “อยากลอง” อีกต่อไปค่ะ แต่เริ่มจริงจังกับการสร้างระบบบ้านอัจฉริยะเต็มรูปแบบ

ตัวอย่างอุปกรณ์ยอดนิยม

@juddeskcom

สั่งเปิดปิดอุปกรณ์ Smart Home ผ่านคำสั่งเสียงด้วย Google Nest Hub #googlenesthub #smarthome #desksetup #จัดโต๊ะคอม

♬ The Lost Stray Dog – Official Sound Studio
  • Google Nest Hub ราคาประมาณ 3,000 – 4,500 บาท ควบคุมทุกอย่างผ่านหน้าจอสัมผัส
@amazonalexa

Here’s a look at the new Echo devices announced at the 2025 Amazon Devices Fall Event! 🔎 #AmazonEcho #AmazonAlexa #AlexaPlus

♬ original sound – Alexa
  • Amazon Echo (Alexa) ราคาประมาณ 2,500 – 5,000 บาท ใช้เสียงสั่งงานได้ทั้งบ้าน

สำหรับ Insight การตลาดที่น่าจับตา คือความเติบโตของหมวดนี้สะท้อนว่าผู้บริโภคไทยพร้อม “ลงทุน” กับ Smart Home ไม่ใช่เพียงซื้ออุปกรณ์ชิ้นเดียวค่ะ แต่ต้องการโซลูชันแบบครบวงจรที่ใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน นักการตลาดที่อยากเข้ามาเล่นในสนามนี้ควรคิดให้ไกลกว่าแค่ขายอุปกรณ์ แต่สร้าง Ecosystem ที่เชื่อมต่อได้หลายแบรนด์และสื่อสารว่า “นี่คือการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิต” มากกว่าเป็นแค่ Gadget

สำหรับประเภทนี้ที่มีมูลค่าตลาด 3,920 ล้านบาท นี่คือหมวดที่ใหญ่ที่สุดของตลาด Smart Home ในไทยเลยค่ะ เหตุผลก็ชัดเจนมากเพราะคนไทยรักความสะดวกสบาย โดยเฉพาะเรื่องการทำความสะอาดบ้านและการควบคุมอากาศภายในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นหุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่เดินเก็บฝุ่นเองทั้งบ้าน เครื่องซักผ้าที่สั่งงานจากมือถือได้ หรือแม้กระทั่งตู้เย็นที่คอยเตือนว่า “นมหมดแล้วนะ” สิ่งเหล่านี้ตอบโจทย์ชีวิตประจำวันแบบสุด ๆ ตลาดกลุ่มนี้เติบโตขึ้น 21.2% ภายในปีเดียวมูลค่ากว่า 700 ล้านบาท สะท้อนว่าคนไทยเริ่มมองว่า “เวลา” และ “ความง่าย” เป็นคุณค่าที่คุ้มกับการจ่ายมากขึ้น

ตัวอย่างอุปกรณ์ยอดนิยม

@bibbihome

รีวิวหุ่นยนต์ดูดฝุ่นถูพื้น Xiaomi Robot vacuum X20+ ใช้มา2-3เดือนสรุปแล้วมันโอเคน่าซื้อมั้ย? 🛋️✨ #xiaomi#xiaomirobotvacuum#หุ่นยนต์ดูดฝุ่น#หุ่นยนต์ดูดฝุ่นถูพื้น#หุ่นยนต์ดูดฝุ่นxiaomi#xiaomix20plus#งานบ้านที่รัก#ของดีบอกต่อ

♬ Fun / everyday / cute BGM(947218) – Shinnosuke Shibata
  • Xiaomi Mi Robot Vacuum ราคาประมาณ 5,000 – 15,000 บาท  ราคาเข้าถึงง่าย ใช้งานได้จริง
@samsungau

Laundry day just got a whole lot easier thanks to our SmartThings app🙌 Perfect cycles and convenience all at your fingertips! #SmartThings #laundryday #washer #dryer #Samsung *SmartThings requires internet and a WI-FI connection. Data usages may apply.

♬ Glowing Sea – Muspace Lofi
  • Samsung SmartThings Washing Machine ราคาประมาณ 15,000 – 40,000 บาท ซักผ้าอัตโนมัติผ่านมือถือ

สำหรับ Insight การตลาดที่น่าจับตาของกลุ่มนี้บ่งบอกชัดว่า “การยอมจ่ายเพื่อความสะดวก” กำลังกลายเป็น New Normal ของผู้บริโภคไทย นักการตลาดที่เล่นในสนามนี้ต้องสื่อสารให้ผู้บริโภคเห็นว่านี่ไม่ใช่ค่าใช้จ่ายแต่คือการลงทุนซื้อ “เวลา” และ “คุณภาพชีวิต” คืนกลับมา

มาถึงประเภทระบบรักษาความปลอดภัยมูลค่าตลาด 1,165 ล้านบาท ความปลอดภัยไม่มีราคาแต่คนไทยก็พร้อมควักกระเป๋าเพื่อ “ความอุ่นใจ” ค่ะ เพราะตลาดนี้โตแรงถึง 23.1% ภายในปีเดียว มูลค่ากว่า 220 ล้านบาท แปลว่า “Security” ไม่ได้เป็นของฟุ่มเฟือยอีกต่อไปแต่กลายเป็น สิ่งจำเป็นของบ้านสมัยใหม่แล้ว

จากกล้องวงจรปิดที่ดูผ่านมือถือได้ทุกที่ทุกเวลา ไปจนถึงระบบล็อกประตูอัจฉริยะที่บันทึกว่าใครเข้าออก หรือเซนเซอร์ที่ตรวจจับการเคลื่อนไหว ทั้งหมดนี้ทำให้เจ้าของบ้านรู้สึกปลอดภัยและนอนหลับสบายขึ้นจริง ๆ

ตัวอย่างอุปกรณ์ยอดนิยม

@ezviz.thailand

แกะกล่องรีวิวกล้องวงจรปิด EZVIZ C6N Pro2K ที่ฉลาดขึ้นและอัจฉริยะกว่าเดิมมมม💓👏🏻 อีซี่วิซ EZVIZ EZVIZC6NPro2K ของมันต้องมี ของดีบอกต่อ กล้องวงจรปิดภายในบ้าน แกะกล่องรีวิว

♬ เสียงต้นฉบับ – EZVIZ Thailand – EZVIZ Thailand
  • EZVIZ C6N ราคาประมาณ 1,500 – 2,500 บาท กล้องสำหรับใช้ภายในบ้าน
  • Yale Smart Lock YDM 4109+ ราคาประมาณ 8,000 – 15,000 บาท ระบบล็อกประตูดิจิทัลสุดล้ำ

สำหรับ Insight การตลาดที่น่าจับตาของ Smart Security กำลังสะท้อน “Pain Point” ใหญ่ของผู้บริโภคไทย คือ ความกังวลเรื่องความปลอดภัย ไม่ว่าจะอยู่บ้านหรือออกไปข้างนอก ผู้บริโภคยอมจ่ายเพื่อ “ความสบายใจที่จับต้องได้” สำหรับนักการตลาด จุดขายไม่ได้อยู่ที่เทคโนโลยีแต่คือ การขาย “ความอุ่นใจ” และ “การดูแลครอบครัว” ที่มากับเทคโนโลยีนั้นต่างหาก

ในส่วนประเภทของความบันเทิงมูลค่าตลาด 836 ล้านบาท นี่คืออีกหนึ่งหมวดที่คนไทยกำลังอินสุด ๆ เพราะความบันเทิงภายในบ้านไม่ได้หยุดอยู่ที่ทีวีธรรมดาอีกต่อไปค่ะ แต่ยกระดับไปสู่โลกของ Smart Entertainment ไม่ว่าจะเป็น ทีวีอัจฉริยะ, ลำโพงที่เชื่อมเสียงไปทั่วทั้งบ้าน, หรือแม้กระทั่งโปรเจคเตอร์ Smart ที่ทำให้มุมเล็ก ๆ ในบ้านกลายเป็น Home Theater ได้ในพริบตา

ตลาดนี้โตขึ้นถึง 15.1% ภายในปีเดียวมีมูลค่ากว่า 108 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนชัดเจนว่าผู้บริโภคไทยให้ความสำคัญกับ “Quality of Life” มากขึ้นอีกด้วย โดยเฉพาะหลังยุค WFH ที่ทำให้บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่ แต่กลายเป็นศูนย์รวมของการทำงานและการพักผ่อน

ตัวอย่างอุปกรณ์ยอดนิยม

7 Smart Home
ขอบคุณรูปภาพจาก Samsung The Frame TV
  • Samsung The Frame TV ราคาประมาณ 25,000 – 80,000 บาท ทีวีที่กลายเป็นกรอบภาพศิลป์ได้
7 Smart Home
ขอบคุณรูปภาพ LG OLED Smart TV
  • LG OLED Smart TV ราคาประมาณ 30,000 – 150,000 บาท ภาพคมชัดระดับโรงภาพยนตร์

สำหรับ Insight การตลาดที่น่าจับตาของหมวดนี้สะท้อนว่า “บ้าน” ไม่ใช่แค่พื้นที่พักผ่อน แต่กำลังถูกรีแบรนด์ให้เป็น Experience Hub ของทั้งครอบครัว นักการตลาดที่เข้ามาเล่นในสนามนี้ควรมองไปไกลกว่าการขายทีวีหรือโปรเจคเตอร์แต่เล่าเรื่องว่าอุปกรณ์ของคุณคือกุญแจที่เปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็น Lifestyle Space ที่ทุกคนอยากอยู่ค่ะ

สำหรับ Smart Comfort & Lighting ที่มีมูลค่าตลาด 371 ล้านบาท เคยสังเกตมั้ยคะว่า “บรรยากาศบ้าน” มีผลต่ออารมณ์เราแค่ไหน นี่คือเหตุผลที่ทำให้ Smart Lighting และ Smart Comfort กลายเป็นหมวดที่กำลังมาแรง ถึงแม้ขนาดตลาดจะเล็กกว่าหมวดอื่น ๆ แต่การเติบโตกลับสูงถึง 25.4% ภายในปีเดียว มูลค่ากว่า 73 ล้านบาท เพราะคนไทยเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับ Ambience และ Mood Setting มากขึ้นจากหลอดไฟที่ปรับสีได้ตามอารมณ์ ผ้าม่านที่เลื่อนเองอัตโนมัติไปจนถึงพัดลมที่รู้ว่าเราเริ่มร้อนแล้ว all of these ช่วยเปลี่ยนบ้านธรรมดาให้กลายเป็นพื้นที่ที่อยู่แล้ว “สบายใจ” จริง ๆ

ตัวอย่างอุปกรณ์ยอดนิยม

  • Philips Hue White & Color ราคาประมาณ 800 – 2,500 บาท/หลอด หลอดไฟอัจฉริยะตัวท็อป
  • Yeelight Smart LED Bulb ราคาประมาณ 300 – 800 บาท/หลอด ตัวเลือกที่ถูกกว่า แต่ใช้งานง่าย
  • Xiaomi Smart LED Ceiling Light ราคาประมาณ 1,500 – 3,000 บาท โคมไฟเพดานที่เชื่อมต่อแอปได้

Insight การตลาดที่น่าจับตาหมวดนี้บอกเราว่าผู้บริโภคไม่ได้มอง Smart Home แค่เรื่อง “ประโยชน์ใช้สอย” ค่ะ แต่กำลังยอมจ่ายเพื่อ “ประสบการณ์ในบ้าน” ที่ตรงกับ mood & tone ของชีวิตการตลาดในกลุ่มนี้จึงควรเล่าเรื่องว่า “บ้านไม่ใช่แค่ที่อยู่อาศัย แต่คือ Emotional Space ที่สะท้อนตัวตน”

ซึ่งการตลาดนี้มูลค่าตลาด 402 ล้านบาท ในยุคที่ค่าไฟพุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ อุปกรณ์กลุ่ม Smart Energy Management กำลังกลายเป็นตัวช่วยคู่ใจของคนไทยเพราะไม่ใช่แค่ช่วยลดค่าไฟแต่ยังช่วยให้เรามี วิถีชีวิตที่ยั่งยืนขึ้นไม่ว่าจะเป็น ปลั๊กอัจฉริยะที่บอกเราได้ว่าใช้ไฟเท่าไหร่, ตัวควบคุมแอร์ให้เย็นแต่ประหยัด, หรือแม้กระทั่งโซลาร์เซลล์ที่เช็กข้อมูลการผลิตไฟได้แบบเรียลไทม์ผ่านแอปทั้งหมดนี้ช่วยให้ผู้บริโภครู้สึกคุมค่าไฟในบ้านได้อยู่หมัด

ตลาดนี้โตขึ้นถึง 18.3% ภายในปีเดียวมูลค่ากว่า 63 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนว่าผู้บริโภคไทยเริ่มตระหนักเรื่องการใช้พลังงานอย่างจริงจังไม่ใช่แค่ประหยัดเงินแต่รวมถึงการใช้พลังงานอย่างชาญฉลาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ตัวอย่างอุปกรณ์ยอดนิยม

  • Smart Power Strip ราคาประมาณ 800 – 1,500 บาท ปลั๊กพ่วงอัจฉริยะที่ควบคุมได้ทีละช่อง
  • Sensibo Sky ราคาประมาณ 3,500 – 5,000 บาท คุมแอร์ให้เย็นแต่ประหยัดไฟ
  • Solar Monitoring System ราคาประมาณ 5,000 – 15,000 บาท ติดตามการผลิตพลังงานจากโซลาร์ได้ผ่านมือถือ

Insight หมวดนี้กำลังสะท้อนเมกะเทรนด์ด้าน Sustainability ที่มาแรงในไทยการตลาดจึงไม่ควรสื่อสารเพียงว่า “อุปกรณ์ช่วยประหยัดค่าไฟ” แต่ควรเล่าเรื่องว่านี่คือการลงทุนเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน ทั้งในมุมเศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม

ถ้ามองภาพรวมแล้วตลาด Smart Home ในประเทศไทยกำลังบูมสุด ๆ เลยค่ะด้วยมูลค่ารวมกว่า 8,155 ล้านบาท และยังเติบโตแรงถึง 22.9% ภายในปีเดียวไม่ใช่แค่เรื่องเงินเท่านั้นแต่ยังเห็นได้จากจำนวนบ้านที่ติดตั้งอุปกรณ์ Smart Home ซึ่งทะลุไปแล้วกว่า 3.65 ล้านครัวเรือนตัวเลขนี้สะท้อนชัดว่า Smart Home ไม่ใช่ของเล่นสำหรับ “Early Adopters” อีกต่อไปแต่กำลังกลายเป็น Mainstream Lifestyle ของผู้บริโภคไทย

7 Smart Home
AI image generated by Shutterstock : a modern living room designed as a smart home, featuring a samsung the frame tv displaying digital art, an lg oled smart tv with vivid colors, and a sonos one sl speaker placed elegantly on a shelf. the atmosphere is cozy yet futuristic, with warm ambient smart lighting and minimalist interior design. lifestyle mood, premium tech, netflix & chill vibe.

และ Insight น่าสนใจสำหรับนักการตลาด การเติบโตนี้ไม่ได้มาจากหมวดเดียวแต่กระจายไปทุกกลุ่มทั้ง Control, Appliances, Security, Entertainment, Lighting, Energy และ Wellness เทรนด์นี้กำลังบอกเราว่าบ้านในสายตาผู้บริโภคไทยเปลี่ยนไปแล้วจากแค่ “ที่อยู่อาศัย” กลายเป็น Smart Living Space ที่ต้องสะดวกสบาย ปลอดภัย ประหยัดพลังงาน และตอบโจทย์การใช้ชีวิตดิจิทัลแบบเต็มรูปแบบค่ะ

จากภาพรวมทั้งหมดจะเห็นว่า Smart Home ในไทยกำลังเปลี่ยนสถานะจาก “เทรนด์ใหม่” ไปสู่ “ไลฟ์สไตล์จริงจัง” แล้วนะคะ คนไทยไม่ได้มองว่าอุปกรณ์พวกนี้เป็นของเล่นหรือ Gadget อีกต่อไปแต่เริ่มเห็นคุณค่าใน 3 มิติหลักดังนี้ค่ะ

  1. ความสะดวกสบายทำให้ชีวิตประจำวันง่ายขึ้นแบบจับต้องได้
  2. ความปลอดภัยให้อุ่นใจได้แม้ไม่อยู่บ้าน
  3. การประหยัดพลังงานลดค่าใช้จ่ายระยะยาว และยังตอบโจทย์ความยั่งยืน

และสิ่งที่จะผลักดันให้ตลาดนี้โตต่อคือ ราคาถูกลงจากของพรีเมียมเฉพาะกลุ่มกลายเป็นสินค้าที่คนทั่วไปจับต้องได้ ใช้งานง่ายขึ้นไม่ต้องเป็นสายไอทีหรือมีช่างติดตั้งเก่ง ๆ ก็สามารถเซ็ตอัพเองได้ คุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นจริงทุกการลงทุนกลายเป็น “ความคุ้มค่า” ที่คนใช้เห็นผลชัดเจน นี่คือสัญญาณว่า Smart Home กำลังจะเป็น “มาตรฐานใหม่” ของการใช้ชีวิตคนไทยไม่ใช่เรื่องของอนาคตไกล ๆ อีกต่อไปแต่กำลังเกิดขึ้นแล้วในวันนี้ค่ะ

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ และสามารถอ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่นี่

อุ๋มอิ๋ม Marketing Content Creator และ Data Insight Researcher ของการตลาดวันละตอน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *