Platform

5 เทคนิคไลฟ์ TikTok Shop ดันยอดขายจริง พร้อมอินไซต์จากแคมเปญ 9.9

ทุกวันนี้เวลาเราไถหน้าจอมือถือ ภาพของ “ไลฟ์สดขายของ” กลายเป็นกิจกรรมที่คุ้นตาไปแล้วใช่ไหมคะ? แต่สิ่งที่น่าสนใจกว่าคือ ไลฟ์เหล่านี้ไม่ได้หยุดอยู่ที่ความบันเทิงเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป มันกำลังกลายเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคใช้ตัดสินใจซื้อของจริงแบบเรียลไทม์

กระแสนี้ยิ่งชัดขึ้นจากแคมเปญ TikTok Shop 9.9 วันไลฟ์แห่งชาติ ที่เพิ่งจัดไปไม่นาน ซึ่งเผยให้เห็นว่าพลังของ “Live Commerce” ไม่ได้หยุดอยู่ที่การสร้าง Engagement แต่สามารถขับเคลื่อนยอดขายจริง และสะท้อนว่าไทยกำลังก้าวสู่ Live Economy อย่างเต็มรูปแบบค่ะ

คนไทย + ไลฟ์ = พลังมหาศาล

อินไซต์จาก TikTok Shop ชี้ว่าคนไทยอินกับการช็อปผ่านไลฟ์อย่างจริงจัง

  • ตลอดแคมเปญ มีการเข้าชม 3.57 พันล้านครั้ง และกว่า 88% เป็นสินค้าของผู้ขายไทยเอง
  • ภายใน 4 วัน มีไลฟ์พุ่งกว่า 440,000 ครั้ง ดึงผู้ชมรวม 440 ล้านวิว
  • ร้านที่ไลฟ์มียอดขายดีกว่าร้านที่ไม่ไลฟ์ถึง +14,000%
  • ไฮไลท์คือตอน 2 ทุ่มของวันที่ 9 ก.ย. ที่ผู้ชมพร้อมกันสูงสุดเป็นประวัติการณ์
  • คูปองก็แรงไม่แพ้กัน แจกไปกว่า 8.6 ล้านใบ หรือเฉลี่ย 100,000 ใบ/ชม.

ตัวเลขเหล่านี้กำลังยืนยันว่า Live Commerce ก้าวสู่แกนกลางของ E-Commerce ไปแล้ว และใครที่อยากชนะเกมการตลาดยุคนี้ ต้องรู้วิธีเล่นในสนามใหม่นี้ให้เป็นค่ะ

5 เทคนิคจาก TikTok Shop ที่ทำให้ LIVE คือยอดขายจริง

จากแคมเปญ TikTok Shop 9.9 สรุปออกมาเป็น 5 สูตรสำเร็จ ที่ใครก็เอาไปต่อยอดได้จริงเลยค่ะ

1. เตรียมพร้อมก่อนกด LIVE

ความสำเร็จเริ่มตั้งแต่ “ก่อนขึ้นไลฟ์” เลยนะคะ

  • ปลุกกระแสด้วย Teaser Video + Count down stickers ให้คนรอตั้งแจ้งเตือน
  • จัดตะกร้าสินค้าล่วงหน้า พร้อมใช้ Auto Product Sorting ที่ TikTok ช่วยเรียงสินค้าให้ตรงความสนใจลูกค้า เล่าเรื่องลื่นไหล ปิดการขายเร็วขึ้น

2. ใช้ LIVE GMV Max ยิงถึงคนที่มีโอกาสซื้อจริง

LIVE GMV Max คือ โซลูชันโฆษณาอัจฉริยะ ของ TikTok Shop ที่ช่วยให้ไลฟ์ วิดีโอสั้น และรายการสินค้า เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่ “พร้อมจะซื้อ” ได้มากขึ้น

  • ช่วงนอกไลฟ์ โปรโมตคอนเทนต์ให้คนเจอร้าน
  • ช่วงไลฟ์สด ดันการเข้าชมแบบเรียลไทม์ + กระตุ้นยอดขายตรงนั้นเลย

3. สูตร 3 นาทีปิดการขาย

ระหว่างไลฟ์ ทุกนาทีมีค่า ถ้าเล่าไปเรื่อย ๆ แบบไม่มีโครงสร้าง คนดูก็พร้อมจะกดออกได้ทุกเมื่อ TikTok เลยแนะนำสูตร “3 นาที” ที่ช่วยเปลี่ยนการมีส่วนร่วมให้กลายเป็นการปิดการขายจริงค่ะ

  • HOOK (30 วิ) เปิดด้วยข้อเสนอเด็ด/โปรเฉพาะในไลฟ์
  • ENGAGE (2 นาที) เล่าจุดเด่น โชว์รีวิว ทดลองสินค้าแบบสด ๆ ให้เชื่อมั่น
  • CALL TO ACTION (30 วิ) ปิดด้วย FOMO เช่น นับถอยหลัง สินค้าใกล้หมด ดีลจะหมดเวลา
AI image generated by Shutterstock (Prompt : an Asian person live streaming with a smartphone, selling clothes in a small boutique, casual outfits on racks, cozy warm lighting, cinematic shallow depth of field, natural indoor atmosphere –ar 16:9)

4. เข้าร่วมโปรแกรม LIVE ของ TikTok Shop

โปรแกรมที่ TikTok ออกมาให้นี้ เรียกได้ว่าเป็นตัวช่วยเสริมแรงขายแบบเต็ม ๆ ซึ่งจุดประสงค์ก็ตรงไปตรงมาเลยค่ะ ทำให้ “คนดู” กลายเป็น “คนซื้อ” ได้จริง ๆ ตั้งแต่วินาทีแรกจนถึงช่วงท้ายของไลฟ์

  • LIVE Flash Deal โปรโมชันจำกัดเวลา ร้านตั้งราคาพิเศษกับจำนวนสินค้าเองได้ จุดเด่นคือดึงครีเอเตอร์มาช่วยไลฟ์เพิ่มการเข้าถึงกลุ่มใหม่ ๆ ได้เลย และอย่าลืมตั้งคอมมิชชันให้ครีเอเตอร์ด้วย จะได้มีแรงจูงใจเข้ามาช่วยขายแบบจัดเต็ม
  • LIVE Specials คูปองลดราคาที่กดได้เฉพาะระหว่างไลฟ์ เหมือนการสร้าง FOMO เล็ก ๆ ให้คนรีบตัดสินใจ ช่วยดันยอดได้ต่อเนื่องตั้งแต่ต้นจนจบไลฟ์

5. ต่อยอดด้วย LIVE Highlights

อย่าให้คอนเทนต์ตายหลังปิดไลฟ์! TikTok จะตัดคลิปช่วงเด็ดให้แบบอัตโนมัติมาทำเป็นวิดีโอสั้น เป็น LIVE Highlights ช่วยยืดอายุคอนเทนต์ไปต่อบน Shop Tap และ For You Feed และเพิ่มยอดขายได้แม้ไลฟ์จบไปแล้ว

สรุปง่าย ๆ คือ ทำคอนเทนต์ตั้งแต่ก่อนขึ้นไลฟ์ → ยิงโฆษณาเพิ่มคนดู → ใช้สูตรเล่าเรื่องปิดการขาย → กระตุ้นด้วยโปรแกรมเสริม → ต่อยอดด้วยคอนเทนต์หลังไลฟ์ ครบวงจรแบบนี้ ไลฟ์ก็กลายเป็นเครื่องจักรทำเงินได้ค่ะ 

Key Takeaway สำหรับนักการตลาด

  1. Live = Conversion Engine ไลฟ์กลายเป็นจุดที่ปิดการขายได้จริงในทันที ไม่ได้หยุดอยู่ที่การสร้างการมองเห็นหรือ Engagement เท่านั้น
  2. Data-Driven Content การจัดลำดับสินค้าอัตโนมัติและการยิง GMV Max คือสัญญาณว่าอนาคตของ Live Commerce จะอาศัย Data และ AI ในการขับเคลื่อนมากขึ้นเรื่อย ๆ
  3. FOMO & Engagement Design สูตร 3 นาที + Flash Deal คือเครื่องมือสร้าง FOMO ที่จับต้องได้จริง นักการตลาดควรคิดโครงสร้างการเล่าเรื่องที่วางแผนมาแล้ว ไม่ใช่ขายแบบสด ๆ อย่างเดียว
  4. Post-Live Strategy สำคัญไม่แพ้ตัวไลฟ์ LIVE Highlights ทำให้การลงทุนในคอนเทนต์ 1 ครั้ง สร้างผลต่อเนื่องได้หลายรอบ

สรุป 5 เทคนิคไลฟ์ TikTok Shop ดันยอดขายจริง พร้อมอินไซต์จากแคมเปญ 9.9

สำหรับโอปอเอง แคมเปญ TikTok Shop 9.9 คือภาพสะท้อนชัด ๆ ว่าพฤติกรรมผู้บริโภควันนี้เปลี่ยนไปแล้วจริง ๆ ค่ะ คนดูไม่ได้เข้ามาเพื่อเสพความบันเทิงจากไลฟ์เท่านั้น แต่พร้อมจะกดซื้อทันทีที่รู้สึกอินกับสินค้าในจอ คำถามคือ ถ้าโลกการช้อปปิ้งออนไลน์เดินเร็วขนาดนี้ แบรนด์ของเราพร้อมก้าวให้ทันหรือยัง?

ตัวเลข +14,000% กำลังยืนยันว่า Live Commerce ได้กลายเป็น Business Model ที่สร้างยอดขายจริงแล้ว การวางแผนแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ ไม่เพียงพออีกต่อไป นักการตลาดต้องคิดกลยุทธ์ครบวงจร ตั้งแต่ก่อนเริ่มไลฟ์ ระหว่างไลฟ์ ไปจนถึงการต่อยอดหลังไลฟ์ เพื่อให้ทุกจังหวะทำงานประสานกันเหมือนฟันเฟืองในเครื่องจักร เพราะทุกการกด LIVE อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการสร้างแบรนด์ที่ผู้คนจดจำไปอีกนานค่ะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ :0)

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

Platform, Tactics

โอปอ Marketing Content Creator และ Data Insight Researcher ของการตลาดวันละตอน ⋆˚✿˖° ดีใจที่ได้แชร์เรื่องราวกับทุกคนค่ะ อย่าลืมยิ้มให้ตัวเองทุกวัน และฝากติดตามบทความต่อไปด้วยนะคะ ( ｡•ㅅ•｡)~✧

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

บทความที่เกี่ยวข้อง

OpenAI เปิดตัว ChatGPT Atlas เว็บเบราว์เซอร์ยุคใหม่จาก Browsing สู่ Delegating

FacebookFacebookXXLINELineล่าสุดการเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของ OpenAI ในการเปิดตัว ChatGPT Atlas ที่กำลังจะเปลี่ยนวิธีที่เรา “ท่องเว็บ” หรือ “เล่นอินเทอร์เน็ต” ไปอย่างสิ้นเชิงเลยทีเดียวครับ นี่ไม่ใช่แค่แอปใหม่ ฟีเจอร์ใหม่ หรือส่วนเสริมที่เราคุ้นเคยกันนะครับ แต่นี่คือเว็บเบราว์เซอร์ที่มี AI ตัวแรกของ OpenAI ที่จะช่วยเราทำทุกอย่าง และอยู่กับเราในทุกที่บนหน้าเว็บไซต์ที่เรากดเข้าไปครับ ChatGPT Atlas คืออะไร? คำถามแรกที่หลายคนอาจจะกำลังสงสัยในใจก็คือ… “เดี๋ยวนะ Microsoft Edge เขาก็มี Copilot ฝังอยู่แล้ว… แล้ว Atlas มันจะต่างกันยังไง?” บทวิเคราะห์จากต่างประเทศหลายบอกว่า Copilot ของ Edge ถูก “เพิ่ม” เข้าไปในเบราว์เซอร์ที่มีอยู่เดิม ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนการเอาเครื่องยนต์เจ็ทไปติดตั้งไว้บนรถเก๋งที่เราขับกันอยู่ทุกวันครับ แต่ ChatGPT Atlas ถูกสร้างขึ้นมาโดยมี AI เป็นแกนกลางตั้งแต่แรก (AI as the Core) พูดให้เข้าใจง่ายขึ้นไปอีกก็คือ Atlas ไม่ใช่เบราว์เซอร์ที่ มี แชตบอต […]

Sundew
Read more

3 องค์ประกอบหลักของการทำ Personalization ด้วย Marketing Automation

FacebookFacebookXXLINELineการจะทำ Personalization หรือการตลาดแบบรู้ใจที่ดูยุ่งยากเต็มไปด้วยรายละเอียดมากมาย แท้จริงแล้วกลับมีองค์ประกอบหลักแค่ 3 ส่วนซึ่งถ้าเข้าใจสามข้อนี้ก็สามารถประยุกต์ใช้กับเครื่องมือ CDP ส่วนใหญ่ในการเซ็ต Marketing Automation ได้ไม่ยากครับ ถ้าพร้อมจะทำความเข้าใจ 3 องค์ประกอบหลักของการทำ Personalization แล้วว่ามีอะไรบ้าง มาดูกันเลยครับ 1. Create Segmentation สร้างกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการทำการตลาดออกมา เพราะหัวใจหลักของการตลาดแบบรู้ใจคือการเลือกสื่อสารหรือทำการตลาดไปเฉพาะคนที่ใช่เท่านั้น แต่ในขณะเดียวกันเราก็ไม่ต้องถึงขนาดทำการตลาดแบบ 1 on 1 หรือหนึ่งต่อหนึ่งแบบจริงๆ แต่เราสามารถคัดกลุ่มคนที่เหมือนกันออกมาแล้วสื่อสารไปทีเดียวพร้อมกันได้ เช่น กลุ่มคนที่เกิดในเดือนนี้ หรือ กลุ่มคนที่เกิดในวันนี้ เป็นหนึ่งในพื้นฐานของการตลาดแบบรู้ใจที่เราทุกคนมักเจอจากแบรนด์ต่างๆ เป็นเหมือนกันมั้ยครับเวลาเข้าเดือนเกิดปุ๊บค่ายมือถือที่เราใช้งานอยู่จะส่ง SMS มาสุขสันต์เดือนเกิด พร้อมกับให้สิทธิพิเศษเล็กๆ น้อยๆ ตามลำดับขั้นสมาชิกที่คุณเป็นกับมือถือค่ายนั้นอยู่ หรือให้ดีกว่านั้นก็จะมีบางแบรนด์ส่ง SMS หรือข้อความผ่าน LINE OA หาเราก็ต่อเมื่อเข้าเที่ยงคืนวันเกิดเราเท่านั้น เพื่อให้เรารู้สึกพิเศษจริงๆ ว่าแบรนด์นี้ช่างแตกต่าง ผิดกับแบรนด์ที่ยังส่งหว่านแบบแค่เดือนเกิดแบบเดาทางได้ ดังนั้นอย่างแรกก่อนจะทำ Personalization หรือการตลาดแบบรู้ใจให้ดี ต้องเริ่มต้นจากการใส่ใจก่อนว่าควรคัดกลุ่มลูกค้าที่คล้ายกันให้ได้มากแค่ไหน ถ้าจะทำการตลาดเดือนเกิดคงไม่ต่างจากการตลาดแบบหว่าน Mass Marketing […]

Nattapon Muangtum
Read more

7 เทคนิค เพิ่ม Conversion Rate เปลี่ยนจากคนดูให้เป็นลูกค้าตัวจริง

FacebookFacebookXXLINELineเคยสงสัยไหมครับว่าทำไมเว็บไซต์มีคนเข้าเยอะแยะ แต่พอมาดูยอดขาย…กลับน้อยจนน่าผิดหวัง นี่คือปัญหาที่หลายธุรกิจเจอกันอยู่บ่อยครั้ง เพราะความจริงแล้ว การมี Traffic สูงไม่ได้การันตีว่าธุรกิจจะได้ยอดขายตามมาเสมอไป สิ่งที่สำคัญกว่าคือ Conversion Rate หรืออัตราการแปลงผู้เข้าชมให้กลายเป็นลูกค้าที่ซื้อของจริง วันนี้ผมเลยอยากจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับ 7 เทคนิค เพิ่ม Conversion Rate ที่ใช้ได้จริง ที่จะช่วยให้เปลี่ยนคนธรรมดา ๆ ที่มาดูเว็บไซต์ให้กลายเป็นลูกค้าที่จ่ายเงินจริงได้มากขึ้น 1. เริ่มต้นที่พื้นฐาน ความเร็วเว็บไซต์ = ความไว้วางใจของลูกค้า ในยุคที่ทุกอย่างต้องรวดเร็ว ความอดทนของผู้ใช้งานออนไลน์มีน้อยมากถึงขีดสุดหลสยคนอาจจะคิดว่าความเร็วเว็บไซต์เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย แต่ความจริงแล้วมันส่งผลโดยตรงต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้ามาก ๆ เลยครับ ทำไมความเร็วถึงสำคัญ? ต้องบอกว่าถ้าเว็บไซต์ของเราโหลดช้าแค่ 1 วินาที อัตรา Conversion ก็อาจจะลดลงได้ถึง 7% ทันที จากข้อมูลสถิติทั่วไป อัตรา Conversion เฉลี่ยของเว็บไซต์อยู่ที่ประมาณ 2.9% แต่ถ้าเว็บโหลดช้า ตัวเลขนี้ก็จะยิ่งลดลงไปอีก เพราะผู้ใช้ในปัจจุบันคาดหวังว่าเว็บไซต์ต้องโหลดภายใน 2-3 วินาที ถ้าเกินกว่านี้พวกเขาจะรู้สึกหงุดหงิดและกดออกจากเว็บทันที ปัญหาคือถ้าเว็บช้าเกินไป ผู้ใช้จะกดออกจากหน้าเว็บก่อนที่จะได้เห็นปุ่ม Call-to-Action (CTA) […]

Sundew
Read more