การตลาด Hatari ผ่าน 4P จากพัดลมในบ้าน สู่แรงลมคู่คิด SME

เวลาเราได้ยินชื่อ Hatari ภาพแรกที่โผล่มาในหัวหลาย ๆ คนอาจเป็น “พัดลมในบ้าน” ที่อยู่คู่ครอบครัวไทยมานาน แต่รอบนี้ Hatari ก้าวไปอีกสเต็ปด้วยแคมเปญ “พัดลมรุ่นใหญ่ พัดธุรกิจให้ติดลมบน” ที่พาแบรนด์ขยับจาก functional product ไปสู่ business partner ของผู้ประกอบการไทยค่ะ

ความตั้งใจของ Hatari คือการอยากเป็นมากกว่าผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า คือเป็นคนที่ “อยู่เคียงข้างผู้ประกอบการไทย” โดยเฉพาะ SME ที่ต้องเจอกับทั้งอากาศร้อนและการแข่งขันร้อนแรงในทุกวันของการทำธุรกิจ

AI image generated by Shutterstock (Prompt : In a quaint café with rustic charm, an Asian couple sits at a small table, sunlight streaming through large windows casting golden hues across their serene faces. A gentle breeze stirs their hair as laughter dances between them, their eyes reflecting the warmth of the day. The background blurs softly, enveloped in a gentle grain reminiscent of old film, leaving only the couple sharply in focus. The scene exudes tranquility and joy, a snapshot of shared contentment in a bustling world just beyond the glass.)

ลองคิดง่าย ๆ ว่า ถ้าเราเดินเข้าร้านอาหาร คาเฟ่ หรือร้านซักผ้า แล้วเจออากาศอบอ้าว ร้อนจนหงุดหงิดกับทุกอย่างรอบตัวแบบไม่ต้องมีเหตุผลใหญ่โตอะไรเลย โอกาสที่จะนั่งต่อหรืออยากกลับมาอีกก็คงน้อยใช่ไหมคะ? แต่ถ้าร้านนั้นมี “ลมเย็น” พัดมาให้รู้สึกสบายขึ้นทันที บรรยากาศก็เปลี่ยนเลยค่ะ เราอยากนั่งนานขึ้น คุยเพลินขึ้น ใช้จ่ายมากขึ้น จริงไหมคะ? ลูกค้าก็คิดไม่ต่างจากเราเลยค่ะ

เพื่อตอบโจทย์นี้ Hatari เลยเปิดตัวพัดลมอุตสาหกรรมรุ่นใหม่ IQ18M1 ที่แรงและทน แถมยัง “ดูดี” เพราะออกแบบร่วมกับสตูดิโอจากอิตาลี ให้กลมกลืนกับพื้นที่ธุรกิจได้ทุกแบบ ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร คาเฟ่ ร้านซักผ้า หรือแม้แต่บ้านที่มีสัตว์เลี้ยงและพื้นที่ outdoor

สิ่งที่ทำให้พัดลมรุ่นนี้ต่างออกไปคือการ repositioning จาก “สินค้าทั่วไป” ไปสู่ “สัญลักษณ์ของการสนับสนุนผู้ประกอบการไทย” เพราะ Hatari กำลังสื่อว่า “นี่คือแรงลมที่จะช่วยสร้างบรรยากาศให้ธุรกิจของคุณเดินหน้าได้อย่างมั่นใจ”

และเพื่อให้แคมเปญไม่ใช่แค่โฆษณาบนกระดาษ Hatari จึงเลือก จับมือกับ 3 แบรนด์ดัง ที่คนไทยคุ้นเคยและมีแฟนเหนียวแน่น ได้แก่

  • Otteri Wash & Dry ร้านสะดวกซักที่ขยายสาขาอย่างรวดเร็ว
  • หัวปลาช่องนนทรี ร้านอาหารไทยรสจัดจ้านขวัญใจคนกรุงเทพฯ
  • สุกี้นินจา ร้านสุกี้สไตล์ใหม่ที่มีกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่เป็นแฟนคลับเหนียวแน่น

ทั้ง 3 แบรนด์ฃร่วมกันสร้าง “Cool Zone” ให้ลูกค้าสัมผัสลมแรงของพัดลมรุ่นใหม่ได้จริงในร้าน พร้อมกิจกรรมสนุกๆ และสิทธิพิเศษเสริมตลอดช่วงแคมเปญถึงสิ้นเดือนพฤศจิกายน 2568 นี่คือการทำให้ประสบการณ์ touch & feel ของลูกค้าเกิดขึ้นจริง ไม่ใช่แค่ดูภาพในโฆษณา

เวลาแบรนด์ที่เคยถูกจดจำว่าเป็น “พัดลมในบ้าน” ขยับตัวมาเล่าเรื่องในเชิงธุรกิจ คำถามที่น่าสนใจก็คือเขาจะทำการตลาดยังไงให้ SME มองเห็นคุณค่า? ถ้าลองถอดแคมเปญนี้ด้วย 4Ps Marketing Mix เราจะเห็นภาพที่ชัดเจนเหมือนเปิดพัดลมแรงระดับ 18 เมตรเลยค่ะ

สิ่งที่ทำให้รุ่น IQ18M1 น่าสนใจ คือการตั้งโจทย์ชัดตั้งแต่แรกว่า “ใครคือคนที่จะได้ใช้พัดลมรุ่นนี้จริงๆ?” คำตอบคือวิธีคิดแบบ Customer-Centric Design ที่เริ่มจาก pain point ของผู้ใช้จริง

  • ฝั่ง SME ต้องการความคุ้มค่าและความทนทาน Hatari จึงย้ำว่า ต่อให้เปิดพัดลมวันละ 10 ชั่วโมงตลอดทั้งเดือน ค่าไฟเฉลี่ยก็ยังไม่เกิน 50 บาท หรือพูดง่าย ๆ คือจ่ายไฟทั้งเดือนแค่พอ ๆ กับค่ากาแฟ แต่ได้ลมเย็นทั้งร้าน พร้อมการรับประกันมอเตอร์นาน 3 ปี
  • ฝั่งผู้บริโภค ใส่ใจกับบรรยากาศและภาพลักษณ์ร้าน เลยมีดีไซน์โมเดิร์น 2 สี ปรับความสูงได้ 1.37 เมตร ใช้ได้ทั้ง indoor และ outdoor

พัดลมรุ่นนี้เลยกลายเป็นเหมือน “ผู้ช่วยเงียบ ๆ” ที่ทำให้ร้านหนึ่งร้านน่าอยู่ขึ้น และทำให้ลูกค้าที่เข้ามาอยากใช้เวลาในพื้นที่นั้นนานกว่าเดิม

ตัวเลข 2,098 บาท อาจฟังดูธรรมดา แต่พอเทียบกับสิ่งที่ได้ ทั้งความทนทานและค่าไฟเฉลี่ยไม่เกิน 50 บาท/เดือน มันกลายเป็น proposition ที่เจ้าของกิจการรู้สึกได้ทันทีว่า “นี่คือการลงทุน ไม่ใช่ค่าใช้จ่าย”

แทนที่จะวางสินค้าแค่ในห้างหรือออนไลน์ Hatari เลือกพาไปอยู่ “ตรงกลางประสบการณ์ลูกค้า” ผ่านพาร์ทเนอร์อย่าง Otteri หัวปลาช่องนนทรี และสุกี้นินจา ร้านเหล่านี้จึงทำหน้าที่เหมือนโชว์รูมธรรมชาติ ให้คนได้ลองสัมผัสลมเย็นจริงในชีวิตประจำวัน

Hatari ใช้ storytelling ที่เปลี่ยนจาก “ขายพัดลม” สู่ “ขายลมเย็นที่พาธุรกิจเดินต่อ” พร้อมกับ co-branding กับ 3 ร้านดัง เพื่อยืมพลังแฟนคลับและฐานลูกค้า ขยายการรับรู้ในเชิง mass และปิดท้ายด้วยกิจกรรม + สิทธิพิเศษ ทำให้แคมเปญมีทั้ง emotional appeal และ call-to-action ไปพร้อมกัน

จะเห็นว่าเมื่อเอา 4Ps มาถอดรหัส แคมเปญนี้คือการ “รีเฟรมสินค้า” ที่หลายคนเคยมองว่าเป็นของใช้พื้น ๆ ให้กลายเป็น solution ที่มีทั้ง value ทางฟังก์ชันและคุณค่าทางอารมณ์ และที่สำคัญคือเล่าได้แบบ relatable กับชีวิต SME จริง ๆ

สิ่งที่ Hatari ทำให้เราเห็นชัดคือ แม้แต่สินค้าที่หลายคนเคยมองว่าเป็นของใช้พื้น ๆ อย่าง “พัดลม” ก็สามารถเล่าเรื่องราวทางการตลาดที่มีพลังได้ ถ้ามองผ่านเลนส์ชีวิตจริงของลูกค้าและผู้ประกอบการ

  1. รีเฟรมภาพจำสำคัญกว่าการเพิ่มฟีเจอร์ ภาพของพัดลมที่เคยถูกมองว่าเป็นแค่เครื่องใช้ในบ้าน ถูกพลิกให้กลายเป็น “เครื่องมือที่ทำให้ธุรกิจน่าอยู่ขึ้น” คำถามคือ ถ้าแบรนด์ของเราเองมีภาพจำที่แข็งแรงเกินไป เราจะรีเฟรมมันยังไงให้คนเห็นคุณค่าใหม่ๆ ได้?
  2. พาร์ทเนอร์คือเวทีเล่าเรื่อง การจับมือกับ Otteri หัวปลาช่องนนทรี และสุกี้นินจา แสดงให้เห็นว่า บางเรื่องเล่าแบรนด์ไม่อาจพูดคนเดียวได้ ต้องอาศัยเวทีของคนอื่นเพื่อขยายเสียง ร้านเหล่านี้จึงทำหน้าที่เหมือน “โรงละคร” ที่ Hatari เข้าไปจัดการแสดงจริง ลูกค้าจึงสัมผัสสินค้าในฉากชีวิตประจำวันของตัวเอง
  3. ฟังก์ชันอย่างเดียวไม่พอ ต้องก่อให้เกิดอารมณ์ ตัวเลข “18 เมตร” อาจบอกได้ว่าลมแรงแค่ไหน แต่สิ่งที่ตรึงใจคือความรู้สึกเย็นที่ทำให้คนอยากนั่งร้านต่อ บทเรียนคือสินค้าเชิงฟังก์ชัน ถ้าเล่าโดยไม่มีมิติทางอารมณ์ ก็เหมือนพัดลมที่หมุนเร็วแต่เป่าไปไม่ถึงใจใครเลยค่ะ
  4. Customer-Centric Design คือกลยุทธ์ การเลือกเล่าเรื่องค่าไฟเฉลี่ย 50 บาท/เดือน หรือดีไซน์ที่เข้ากับร้านและคาเฟ่ คือตัวอย่างของการคิดจากมุมมองผู้ใช้จริง เป็นการตลาดที่วางอยู่บน customer insight ตั้งแต่แรก

ในมุมของโอปอเอง สิ่งที่แคมเปญนี้สะท้อนชัดมากคือ บางครั้งสิ่งเล็ก ๆ อย่าง “ลมเย็น” ก็สามารถต่อยอดเป็น narrative ที่ทรงพลังได้ ถ้าเรารู้จักมองมันใหม่และเชื่อมโยงกับชีวิตจริงของลูกค้า ทุกแบรนด์ย่อมมีโอกาสที่จะเล่าเรื่องให้กลายเป็นคุณค่า ไม่ว่าตัวเองจะอยู่ในอุตสาหกรรมแบบไหนก็ตาม

โอปอเชื่อว่าคนทำธุรกิจและนักการตลาดทุกคนควรถามตัวเองเสมอว่า “สิ่งที่เราขาย ทำให้ชีวิตลูกค้าดีขึ้นยังไง?” เพราะสุดท้ายแล้ว ลูกค้าไม่ได้อยากได้สินค้าเพียงชิ้นเดียว แต่เขาอยากได้ความรู้สึก ความสบายใจ หรือแม้แต่บรรยากาศดี ๆ ที่ทำให้วันหนึ่งวันนั้นน่าอยู่ขึ้นอีกนิด แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ :0)

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

โอปอ Marketing Content Creator และ Data Insight Researcher ของการตลาดวันละตอน ⋆˚✿˖° ดีใจที่ได้แชร์เรื่องราวกับทุกคนค่ะ อย่าลืมยิ้มให้ตัวเองทุกวัน และฝากติดตามบทความต่อไปด้วยนะคะ ( 。•ㅅ•。)~✧

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *