บทความนี้จะพาทุกคนไปดูแคมเปญสุดสร้างสรรค์ของ Skinny ที่ได้ทำการขยายขอบเขตการใช้งาน UGC Marketing ให้มากขึ้นไปอีก ไม่เพียงแค่ใช้ลูกค้าตัวจริงสร้างคอนเทนต์ แต่ถึงขั้นใช้เป็น Brand Ambassador โดยผสานกับเทคโนโลยี AI เข้าด้วยกัน ประเด็นที่น่าสนใจคือทำไม Skinny เลือกใช้ลูกค้าเป็น Brand Ambassador ไม่ใช้ดารา หรือ Influencer ดัง ๆ บทความนี้พามาวิเคราะห์กันครับ
ทำความรู้จัก Skinny
ก่อนอื่นพามาทำความรู้จักแบรนด์เจ้าของแคมเปญกันสักนห่อยก่อนครับว่าเป็นแบรนด์อะไร และทำอะไร Skinny คือแบรนด์โทรคมนาคมสัญชาตินิวซีแลนด์ที่มีจุดยืนชัดเจนเรื่องการนำเสนอบริการในราคาย่อมเยา ควบคู่กับการเน้นสร้างความสุขให้ลูกค้าเป็นหลักครับ แบรนด์มีความโดดเด่นในด้านการตลาดที่สนุกและแปลกใหม่ ชอบทดลองใช้เทคโนโลยีหรือไอเดียสุดครีเอทีฟในการสื่อสารกับผู้บริโภค จึงได้รับความสนใจและกลายเป็นที่พูดถึงในวงการโทรคมนาคมอยู่เสมอครับทีนี้พาไปดูที่มาของแคมเปญกันว่าเพราะอะไร Skinny จึงเลือกที่จะทำแคมเปญนี้ออกมา
จุดเริ่มต้น ที่มาของ Campaign
แคมเปญ Meet Liz ของ Skinny มีจุดเริ่มต้นจากความต้องการของแบรนด์ที่จะสื่อสารจุดขายหลักสองด้านของแบรนด์ คือราคาประหยัดและความสุขของลูกค้า ในวงการโทรคมนาคมที่มักจะถูกมองว่าน่าเบื่อ จึงเกิดแนวคิดสร้างสรรค์ให้มีตัวแทน หรือ Brand Ambassador ที่เป็นภาพลักษณ์แห่งความสุข แต่แทนที่จะเลือกพรีเซนเตอร์แบบที่เห็นกันทั่วไป ที่อาจจะเป็นดารา หรือ Influencer ชื่อดัง Skinny เลือกดึงลูกค้าจริงมาเป็นศูนย์กลาง เพื่อถ่ายทอดความรู้สึกและประสบการณ์ใช้งานได้อย่างน่าเชื่อถือ ส่วนสาเหตุที่ Skinny เลือกที่จะใช้ลูกค้าจริงมาเป็น Brand Ambassador เป็นเพราะแบบนี้ครับ
สำหรับใครที่อัปเดทเทรนด์การตลาดอยู่บ่อย ๆ ผมเชื่อว่าน่าจะพอเห็นผ่าน ๆ มากันบ้าง ว่าหนึ่งในเทรนด์ที่มาแรงมาก ๆ เลยนั่นก็คือ UGC (User-Generated Content) ผู้บริโภคเริ่มเชื่อถือ “เสียงจากลูกค้าจริง” มากกว่าการฟังโฆษณาจากแบรนด์หรือพรีเซนเตอร์มืออาชีพที่ถูกจ้างโดยตรง จะเห็นว่าการทำ Affiliate ในแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น TikTok หรือ Shopee สามารถสร้างรายได้ ได้เป็นกอบเป็นกำเป็นเครื่องพิสูจน์ชั้นดีว่าเทรนด์ UGC มาแรงอย่างมาก ดังนั้นการนำลูกค้าแท้ ๆ มาบอกเล่าประสบการณ์จริงกลายเป็นหนึ่งในกลยุทธ์ที่ทรงพลังในการสร้างความเชื่อมั่นและความใกล้ชิดกับแบรนด์มากยิ่งขึ้นครับ
ในกรณีของ Skinny เองผมมองว่าเป็นการทำตามเทรนด์ UGC และขยายขอบเขตการใช้งานให้มากขึ้นไปอีก ไม่ใช้เพียงการใช้ลูกค้าตัวจริงสร้างคอนเทนต์ แต่ถึงขั้นใช้เป็น Brand Ambassador ตอกย้ำว่าแบรนด์พร้อมรับฟังลูกค้าอย่างแท้จริง แสดงให้เห็นถึงความ Transparency และเป็นกันเองของแบรนด์ที่ไม่ปั้นแต่งภาพลักษณ์ด้วยวิธีเดิม ๆ ครับ มาดูกันดีกว่าว่าแคมเปญ Meet Liz ของ Skinny เค้าทำอะไรกันบ้าง
In the details รายละเอียดแคมเปญ
แคมเปญ Meet Liz ของ Skinny เริ่มต้นขึ้นในเดือนตุลาคม 2024 เมื่อแบรนด์ประกาศรับสมัครผู้ที่คิดว่าตนเองเป็นลูกค้าที่แฮปปี้ที่สุดให้ส่งวิดีโอออดิชันผ่านเว็บไซต์พิเศษ skinny4life.co.nz เพื่อชิงรางวัลค่าตอบแทนพร้อมสิทธิ์โทร-เน็ตฟรีตลอดชีวิตซึ่งคิดเป็นมูลค่า 5,868 ดอลลาร์นิวซีแลนด์ครับ
โดยการโปรโมตเรียกได้ว่าจัดเต็มผ่านโซเชียลมีเดียและช่องทางต่าง ๆ ของ Skinny ดึงดูดให้มีผู้เข้าร่วมกว่า 400 คน ก่อนจะคัดเลือกผู้ชนะเพียงคนเดียวโดยพิจารณาจากทัศนคติ ความเป็นธรรมชาติ และความสุขที่พวกเขามีต่อการใช้บริการของ Skinny จนได้พบกับ Liz Wright วัย 64 ปี ซึ่งเป็นลูกค้าประจำมานาน 12 ปี สะท้อนถึงความภักดีที่เธอมีต่อแบรนด์และสะท้อนถึงหลักการฟังเสียงลูกค้าจริงของ Skinny ได้เป็นอย่างดีครับ และใช่ครับชื่อของคุณ Liz นี่แหละเป็นที่มาของชื่อแคมเปญนี้
หลังจากได้ผู้ชนะขั้นตอนต่อไปคือการสร้าง AI Liz โดยทีมงานหลายฝ่าย ทั้ง Colenso BBDO, Creature Post และ Finch ลงมือเก็บข้อมูลสีหน้า แววตา น้ำเสียง และท่าทางของ Liz อย่างละเอียดตลอด 11 สัปดาห์ ก่อนจะนำเทคโนโลยี VFX และ AI มาผสานกันเพื่อสร้างโมเดลดิจิทัลที่ดูสมจริง ซึ่งสามารถดัดแปลงให้ AI Liz ปรากฏตัวในหลากหลายบทบาท ไม่ว่าจะเป็นผู้ประกาศข่าว นักกีฬา หรือคาแรกเตอร์อื่น ๆ ครับ
VIDEO
ขั้นตอนเปิดตัวเป็นวิดีโอโฆษณาความยาว 45 วินาทีที่ให้ผู้ชมเห็น Liz ในหลากหลายบุคลิกกำลังรายงานข่าวเกี่ยวกับการถือกำเนิด AI Liz พร้อมหักมุมในตอนท้ายเมื่อปรากฏ Liz ตัวจริงกำลังดูโฆษณาอยู่ที่บ้าน ก่อนจะปิดท้ายด้วยการประกาศใช้ AI Liz เป็นพรีเซนเตอร์ของ Skinny ต่อเนื่องไปอีก 2 ปี นับเป็นแคมเปญที่ผสานทั้งเทคโนโลยีและส่วนร่วมของลูกค้าจริงได้อย่างลงตัวครับ
Strategy behind the campaign กลยุทธ์เบื้องหลังของแคมเปญ
ขอบคุณภาพจาก Shutterstock AI Generator Prompt : A dynamic digital collage featuring ai liz, a 64 year old woman with short silver hair, in multiple roles: a news anchor reading headlines, a sports commentator cheering, a tech presenter explaining a product, and a fun, meme like expression. each ai liz has a slightly digital, futuristic touch, with subtle glowing lines and screen like textures. the background consists of digital screens and modern design elements in skinny’s brand colors (orange and white), emphasizing the creative use of ai in marketing.
เบื้องหลังความสำเร็จของ Meet Liz เกิดจากการผสานหลายกลยุทธ์ทางการตลาดเข้าด้วยกันครับ โดยมีแกนหลักอยู่ที่การใช้แนวคิด Customer-Centric เข้าใจว่าลูกค้าเชื่อถืออะไร อยากเห็นอะไร และเสิร์ฟสิ่งนั้นให้ลูกค้า เช่นการใช้แนวคิดแบบ UGC ที่ถูกนำมาใช้เป็นแรงขับสำคัญในแคมเปญนี้ เพราะผู้บริโภคสมัยใหม่ให้ความเชื่อถือเสียงของผู้ใช้จริง มากกว่าพรีเซนเตอร์ชื่อดัง ส่งผลให้ Skinny เปลี่ยนจากการจ้างดารามาเป็นการคัดเลือกลูกค้าตัวจริง ผ่านกิจกรรมเชิง Event Marketing เพื่อกระตุ้นให้คนเข้ามามีส่วนร่วม และสร้างกระแสไปทั่วสังคมออนไลน์
การเลือกโคลนผู้ชนะด้วย AI ก็เป็นการสร้าง PR Stunt ที่แข็งแรง สะท้อนความสร้างสรรค์ของแบรนด์ พร้อมกระตุ้นการพูดถึงในวงกว้าง ด้าน Storytelling ก็ได้รับการออกแบบให้เป็นกันเอง สอดคล้องกับบุคลิก “สนุกและประหยัด” ของ Skinny ส่วนระยะยาว แบรนด์วางแผนใช้ AI Liz ต่อเนื่อง เป็นการยืดอายุของแคมเปญและสร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์ในฐานะผู้บุกเบิกงานครีเอทีฟที่ผนวกเทคโนโลยีใหม่ ๆ เข้ากับการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคได้อย่างลงตัวครับ
Source Source
สรุป การตลาดเครือข่ายมือถือทำ UGC Marketing ใช้ลูกค้าตัวจริงเป็น Brand Ambassador ด้วย AI
โดยสรุปแล้ว Meet Liz คือแคมเปญที่สะท้อนให้เห็นถึงการผสานเทรนด์ UGC (User-Generated Content) เข้ากับเทคโนโลยีและความคิดสร้างสรรค์ได้อย่างลงตัว Skinny เลือกจะใช้ “เสียงของลูกค้าจริง” แทนดาราหรืออินฟลูเอนเซอร์แบบเดิม เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือและสร้างความผูกพันกับผู้บริโภค การโคลน Liz ผู้ชนะด้วย AI กลายเป็นจุดเด่นที่สื่อสารถึงความสนุกและความแปลกใหม่ได้ดี ขณะเดียวกันก็เพิ่มกระแส PR และการพูดถึงในวงกว้าง เรียกได้ว่าการนำกลยุทธ์ Event Marketing, Customer-Centric และ Storytelling ที่ทรงพลัง มาผนวกกับ UGC เป็นแรงขับหลัก ช่วยให้แคมเปญนี้ประสบความสำเร็จ ทั้งในแง่ภาพลักษณ์ ราคาประหยัดที่จับต้องได้ และการเน้นความสุขของลูกค้าได้อย่างน่าจดจำครับ