บทความนี้พามาดูแคมเปญสุดสนุกจาก การตลาด MK ที่หยิบตัวการ์ตูนดังระดับโลกอย่างมินเนี่ยน มาเติมสีสันให้หม้อสุกี้กลายเป็นมื้อที่น่ารักและน่าจดจำขึ้นครับ ในยุคที่แค่ของอร่อยอาจยังไม่พอ MK เลือกใช้ความสนุก เข้ามาสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้า ผ่านการ Collaboration ใครจะไปคิดว่าลูกชิ้นหน้ามินเนี่ยน กับหม้อแดงล้อมสติ๊กเกอร์ จะช่วยทำให้ MK กลายเป็นร้านที่คนพูดถึงบน TikTok ได้อีกครั้ง วันนี้เราเลยอยากชวนมาดูว่าเบื้องหลังแคมเปญ “อร่อยล้นสุขกับแก๊งสุดป่วน” นี้กันครับ
ที่มาของแคมเปญ อร่อยล้นสุขกับแก๊งสุดป่วน
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา MK Restaurants ยังคงยืนหนึ่งในใจคนไทยในฐานะ “สุกี้ครอบครัว” ที่เป็นสัญลักษณ์ของการกินพร้อมหน้าครับ แต่ในยุคที่ผู้บริโภคเริ่มมองหารูปแบบการกินที่หลากหลาย และมีความบันเทิงมากขึ้น ใช่ครับกินอย่างเดียวไม่พอต้องบันเทิงด้วย อย่างที่ทุกคนเห็นในหลาย ๆ คลิปในโซเชียล ร้านไหนที่มีประสบการณ์ที่สนุกมักจะเป็นไวรัล เช่น Haidilao
ทำให้การจะรักษาพื้นที่ความสุขบนโต๊ะอาหารไว้ในใจทุกเจน โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นและครอบครัวรุ่นใหม่ จึงเป็นโจทย์สำคัญของแบรนด์ครับ และนั่นคือที่มาของแคมเปญ MK x Minions “อร่อยล้นสุขกับแก๊งสุดป่วน” การจับมือกับการ์ตูนระดับโลกที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่รู้จัก เพื่อสร้าง Emotional Connection ใหม่ให้กับลูกค้าในมื้อสุกี้เดิม ๆ ให้กลับมาสดใส สนุก และน่ารักอีกครั้ง
การเลือกใช้มินเนี่ยน ไม่ใช่แค่เพราะความดังของ แต่เพราะมินเนี่ยนมีคาแรกเตอร์ “ซน ป่วน และเป็นมิตร” ซึ่งจากแคมเปญที่ MK ได้ปล่อยออกมาในช่วงหลัง ๆ ผมขอเดาว่าน่าจะเข้ากับ Positioning ใหม่ของ MK ที่ต้องการเปลี่ยนภาพจากแบรนด์แบบเดิม สู่แบรนด์ที่ สดใส สนุก และเข้าถึงง่ายกับทุกเจนครับ
รายละเอียดแคมเปญ อร่อย ป่วน ครบทุกจุดสัมผัส
MK x Minions ออกแบบประสบการณ์ให้ล้นสุข สมชื่อแคมเปญจริง ๆ ตั้งแต่เดินเข้าร้าน ยันเช็กบิลกลับบ้าน เราจะเจอกับความป่วนแบบน่ารัก ๆ ของแก๊งมินเนี่ยนทุกจุด เรียกว่าแคมเปญนี้ทำครบทั้ง เมนู, บรรยากาศ, ของสะสม และโปรโมชั่น
เมนู Collaboration พิเศษ
ลูกชิ้น Minions: ลูกชิ้นปลาแบบโฮมเมด ปั้นมาในรูปหน้ามินเนี่ยน น่ารักจนไม่กล้ากิน
ซาลาเปา Minions: ไส้ครีมนมสด หวานหอมกำลังดี ลายมินเนี่ยนเต็มลูก
ซุปคอร์นบัตเตอร์: กลิ่นข้าวโพดหอมมัน เด็กกินได้ ผู้ใหญ่กินเพลิน
ซุปต้มยำ: รสเข้มข้นถึงเครื่อง หอมสมุนไพรแบบไทยแท้
เครื่องดื่มพิเศษ 2 สี:
น้ำมะม่วงปั่น (สีเหลือง): หอมหวาน สดชื่น
น้ำลิ้นจี่อัญชัน (สีฟ้า): เปรี้ยวหวาน สดใส ถ่ายรูปสวยมาก
บรรยากาศร้าน & Table Experience MK จัดเต็มการตกแต่งร้านให้เข้ากับธีมมินเนี่ยนแบบเห็นแล้วต้องอมยิ้ม
Window Sticker: แค่เดินเข้าร้านก็เจอแก๊งมินเนี่ยนแปะอยู่เต็มกระจก
Hotpot Sticker: รอบหม้อแดงจะมีสติ๊กเกอร์ลายมินเนี่ยนล้อมโต๊ะ ให้ความรู้สึกเหมือนนั่งกินกับแก๊งตัวเหลือง
หมวกพนักงาน: พนักงานใส่พร็อพลายมินเนี่ยน เพิ่มความน่ารักเวลามาเสิร์ฟ
ทำให้โต๊ะสุกี้ที่เคยนิ่ง ๆ กลายเป็นโต๊ะที่อยากถ่ายรูป
ของสะสมลายพิเศษ MK Premium Collection MK เอาใจนักสะสมและสายของน่ารัก ด้วยคอลเลกชันของพรีเมียมลายมินเนี่ยน “เฉพาะในประเทศไทย”
กล่องข้าว Minions (2 ลาย): แจกฟรีเมื่อสั่งชุดใหญ่ 1,199 / 1,299 บาท
ตุ๊กตาพวงกุญแจ Minions: แจกฟรีเมื่อสั่งชุด 899 / 999 บาท
แก้วน้ำ Minions (2 แบบ): แก้วอโลฮ่า (เหลือง) / แก้วซัมเมอร์แก๊ง (ฟ้า) รับฟรีเมื่อสั่งเครื่องดื่มในแคมเปญ
กลยุทธ์เบื้องหลังแคมเปญ Collaboration ที่มากกว่าแค่ของน่ารัก
1. Emotional Connection Reboot เชื่อมทุกเจนด้วยความสนุกแบบเดียวกัน
ต้องบอกว่า MK ไม่ได้เลือกมินเนี่ยนเพราะแค่ดัง แต่เป็นตัวกลางที่เชื่อม Gen Gap ได้จริง เด็กชอบเพราะหน้าตาน่ารัก สีสันสดใส ผู้ใหญ่ก็รู้จักเพราะเคยดูเรื่อง Despicable Me มาก่อน ทำให้เกิดบทสนทนาร่วมกันได้ครับ พ่อแม่พาลูกไปกินแล้วมีเรื่องให้คุย ปู่ย่าตายายเห็นหลานยิ้มก็หัวเราะตาม บรรยากาศบนโต๊ะอาหารเลยกลายเป็น Moment ที่ทุกคนมีความสุขพร้อมกันครับ MK เข้าใจว่า แบรนด์ที่คนจำได้ ไม่ใช่แค่แบรนด์ที่ขายของดี แต่ต้องสร้างอารมณ์ร่วมได้ด้วย
ขอบคุณภาพจาก Shutterstock AI Generator : a modern MK restaurant interior, multi-generational Thai family enjoying hotpot together, lively and heartwarming moment, grandparents, parents, and children interacting joyfully, contemporary decor, warm ambient lighting, cinematic depth of field
2. Brand Refresh Strategy รีเฟรชแบรนด์ให้สดใส โดยไม่ทิ้งความอบอุ่นแบบเดิม
หลายคนยังติดภาพว่า MK เป็นร้านสำหรับพาครอบครัวมากินข้าว อบอุ่น แต่ต้องบอกว่าช่วงหลัง MK พยายามขยับภาพแบรนด์ให้ดูสดใสขึ้น สนุกขึ้น และมีอะไรให้พูดถึง มากกว่าแค่ของอร่อยครับ การ Collaboration กับมินเนี่ยนเลยเหมือนเป็นจิ๊กซอว์ที่ลงล็อคพอดีครับ ถึงจะดูขี้เล่น แต่ก็ไม่หลุดธีมครอบครัว คือยังอบอุ่นเหมือนเดิม แต่เพิ่มสีสันให้ MK ดูน่ารัก เข้าถึงง่าย และร่วมสมัยขึ้นโดยไม่ต้องทิ้งตัวตนกลายเป็นว่า MK ไม่ได้มีแค่ภาพร้านของครอบครัว แต่ขยับมาเป็นร้านที่มากับเพื่อนก็สนุกได้ครับ
3. Drive Frequency ด้วย Experience Marketing เปลี่ยนร้านให้เป็นอีเวนต์ที่อยากกลับมาอีก
ทุกวันนี้คนออกไปกินข้าวนอกบ้านไม่ใช่แค่เพราะหิวอย่างเดียวครับ แต่อยากได้ประสบการณ์บางอย่างกลับมาด้วย เช่น ได้ถ่ายรูป หรือได้ฟีลดี ๆ MK จึงใช้มินเนี่ยนมาสร้างประสบการณ์แบบจัดเต็มทั้งร้าน ตั้งแต่ตกแต่งหน้าร้าน เมนูพิเศษ ไปจนถึงของสะสมครับ ทุกจุดถูกออกแบบให้มีอะไรให้แชร์ ไม่ว่าจะถ่ายลง IG Story หรือ TikTok ทำให้คนอยากกลับมากินอีก เพราะรู้สึกว่าแต่ละช่วงมีสิ่งใหม่มาให้เล่น เพิ่ม Frequency และ Top of mind เป็นการเอา Experience Marketing มาใช้ได้เป็นอย่างดีครับ
สรุป การตลาด MK x Minions ทำ Collaboration Marketing ปรับภาพลักษณ์ให้เข้าถึงได้ทุกวัย
แคมเปญ MK x Minions เป็นตัวอย่างที่ดีของการทำ Collaboration Marketing ครับ ตั้งแต่การวางแผนตั้งแต่การสร้างอารมณ์ร่วม บรรยากาศในร้าน ไปจนถึงของสะสมที่กระตุ้นให้ลูกค้ากลับมากินซ้ำ MK ใช้ความน่ารักของมินเนี่ยนมารีเฟรชภาพลักษณ์แบรนด์ให้ดูสดใสและร่วมสมัยขึ้น โดยไม่ทิ้งความอบอุ่นแบบเดิม เป็นแคมเปญที่ช่วยให้ MK เข้าใกล้กลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ทั้งวัยรุ่น กลุ่มเพื่อน และครอบครัวยุคใหม่ สุดท้ายแคมเปญนี้แสดงให้เห็นว่า ในยุคที่แค่ของอร่อยไม่พอ แบรนด์ที่ทำให้ “มื้อธรรมดา” กลายเป็น “โมเมนต์ที่อยากแชร์” ได้ คือแบรนด์ที่ชนะใจผู้บริโภคครับ
บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ