Liquid Death x Amazon เมื่อน้ำกระป๋องกลายเป็นตัวช่วยสอบอัจฉริยะของนักศึกษาจากแคมเปญ Certified Smart Water

วันนี้จะพามาดูเคสของแบรนด์น้ำเปล่าที่เหมือนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่าง Liquid Death คือแบรนด์น้ำกระป๋องจากอเมริกาที่สร้างชื่อจากการทำ Marketing แบบสุดโต่งค่ะ รวมกับการเล่นกับจริตวัฒนธรรมวัยรุ่นและการทำแบรนด์น้ำดื่มให้เหมือนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์จนกลายเป็นเคสศึกษาด้าน Branding & Viral Marketing ที่โด่งดังไปทั่วโลก และแคมเปญล่าสุด “Certified Smart Water” ที่ทำร่วมกับ Amazon เดือนกันยายนที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่โฆษณาขายน้ำเปล่าธรรมดาอีกเช่นเคยแต่สามารถเป็นบทเรียน Strategic Partnership, Target Audience Mastery และ Brand Differentiation ที่ผู้เขียนมองว่าน่าสนใจ ไปชมกันเลยค่ะ

ก่อนจะเข้าใจแคมเปญนี้เราต้องเข้าใจ DNA ของ Liquid Death ก่อนค่ะ แบรนด์นี้ไม่ได้แค่ขายน้ำในบรรจุภัณฑ์แปลกตาแต่สร้าง Anti-Brand Positioning ซึ่งตรงข้ามกับทุกอย่างที่คนคิดว่าน้ำดื่มควรจะเป็นน้ำดื่มทั่วไปแพ็จเกจขวดพลาสติกใส ดูบริสุทธิ์ โทนสื่อสารคงความสุขภาพ ความสดชื่น ธรรมชาติ แต่ในส่วนของ Liquid Death คือกระป๋องอลูมิเนียมที่มีดีไซน์ Heavy Metal โทนสื่อสาร Dark Humor, Rebellious, Outrageous นี่คือการทำ Category Disruption โดยการสร้าง Brand Personality ที่ตรงข้ามโดยสิ้นเชิงค่ะ

แคมเปญนี้เริ่มจากไอเดียที่ดูเหมือนหนังตลก คือให้ Amazon Alexa อ่านตำราเรียนให้น้ำกระป๋อง Liquid Death ฟังในโกดังของ Amazon แล้วตั้งสมมติฐานว่าถ้าน้ำดื่มได้รับความรู้แทนนักศึกษาได้ คนที่ดื่มก็ไม่ต้องอ่านหนังสืออีกต่อไปฟังแล้วชวนให้นึกถึงขนมปังช่วยจำของโดราเอม่อนแบบเวอร์ชั่นแบรนด์น้ำดื่มเลยค่ะ แต่เบื้องหลังความฮาและความเหนือจริงนี้คือแคมเปญที่คิดมาดีมากในเชิง Cultural Targeting รวมกับ Brand Positioning และ Timing Strategy

เพราะ Liquid Death ไม่ได้ทำแคมเปญนี้เพื่อคนทั้งโลก แต่ยิงตรงไปที่นักศึกษาอเมริกันช่วง Back to School หรือ Back to College Season ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เด็กมหาวิทยาลัยเริ่มเครียดกับการเรียนและอ่านหนังสือสอบแถมยังแสวงหาทางลัดหรือวิธีเอาตัวรอดแบบตลกแต่เข้าใจได้นี่คือบริบทที่ทำให้แคมเปญเข้าถึงง่ายและกลายเป็นมีมเร็วมากอีกด้วย

Certified Smart Water
ขอบคุณภาพจาก Shutterstock AI Generator : A group of stressed American college students during Back-to-School season, surrounded by piles of textbooks, laptops, energy drinks, and sticky notes. They look exhausted but are joking around, searching for funny “shortcuts” to survive exams. The scene should feel relatable, chaotic, and humorous — like a meme moment in a college dorm or library. Tone: playful, modern, realistic, Gen-Z vibe.

นอกจากนี้ แคมเปญยังเข้าไปเล่นกับวาทกรรมสังคมที่กำลังร้อนแรง เช่น AI จะทำให้เด็กสมัยนี้เรียนด้วย ChatGPT แทนหนังสือหรือการโกงแบบยุคใหม่ไม่ได้ใช้โพยแต่ใช้หุ่นยนต์ ทำให้ Liquid Death เข้าร่วมวงได้อย่างแนบเนียนโดยยังคงบุคลิกแบรนด์ที่กวน เสียดสี และไม่แคร์ภาพลักษณ์แบบแบรนด์น้ำดื่มทั่วไป อีกสิ่งที่ถูกซ่อนไว้ในแคมเปญคือ Strategic Partnership เพราะการร่วมมือกับ Amazon และลำโพง Alexa ไม่ใช่แค่ Gimmick แต่เป็น win-win เพราะ Liquid Death ได้ความไฮเทคบวกกับ AI โดยไม่ต้องพัฒนาเทคโนโลยีเอง ส่วน Amazon ได้โปรโมท Alexa ผ่านคอนเทนต์ฮา ๆ ที่คนแชร์เองโดยไม่ต้องซื้อโฆษณา ทั้งคู่ได้ User Engagement ค่ะ

ความสนุกของแคมเปญนี้ไม่ได้อยู่ที่ความกวนของ Liquid Death อย่างเดียวค่ะ แต่อยู่ที่ความแสบที่ตั้งใจล้อคู่แข่งแบบตรงไปตรงมา เพราะนี่คือแคมเปญที่ถูกออกแบบมาเป็นการตอบโต้ Smart Water ของ Coca-Cola โดยตรง เพราะหลังจากที่ฝั่ง Smart Water เคยพยายาม Hijack กระแส Super Bowl Campaign ของ Liquid Death เมื่อปีที่ผ่านมา

Certified Smart Water
ขอบคุณรูปภาพจาก Huntly Gordon

ปีนี้ Liquid Death เลยเลือกเล่นกลับด้วยการสร้างแคมเปญ Certified Smart Water ที่จงใจใช้ชื่อเหมือนคู่แข่งและแน่นอนว่าได้ผลหลายด้านทำให้ Liquid Death ไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณาเท่าคู่แข่งแต่ได้พื้นที่สื่อแบบ Organic ทั่วโลกเพราะทุกคนอยากเล่าแบรนด์น้ำเปล่าที่กล้าล้อ Coca-Cola แบบไม่เกรงใจค่ะ พูดง่าย ๆ คือ Liquid Death ไม่ได้แค่ทำแคมเปญให้ดังแต่ทำให้แบรนด์เป็นที่รักของคนดูโดยใช้คู่แข่งเป็นแรงส่งอย่างกวนๆและนั่นคือศิลปะของแบรนด์ที่เล่นเกมด้วยอารมณ์ขันแต่คิดมาดี

ผู้เขียนมองว่าในกรณีของแคมเปญ Certified Smart Water ดูเหมือนแคมเปญกวน ๆ ที่ทำมาเพื่อเรียกเสียงหัวเราะ ถ้ามองให้ลึกจะเห็นว่านี่คือแผนที่ถูกออกแบบมาทั้งจังหวะเวลา กลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจน และการเลือก Partner อย่าง Amazon อีกทั้งยังคงคาแรกเตอร์แบรนด์ที่กวนแต่ไม่มั่วอย่างเสมอต้นเสมอปลาย

สิ่งที่ Liquid Death ทำให้เห็นชัดคือการทำแคมเปญที่ได้ผลต้องตรงที่สุด กล้าพอ และแตกต่างพอเพราะในตลาดที่เต็มไปด้วยแบรนด์ที่พูดเหมือนกันหมดการเป็นแบรนด์ที่น้อยคนเข้าใจแต่จำได้ดีกว่าเป็นแบรนด์ที่ทุกคนมองเห็นแต่ไม่มีใครสนใจค่ะ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือ รู้จริงว่าใครกันแน่คือผู้บริโภคหลักกล้าทำในสิ่งที่แบรนด์ใหญ่ไม่ทำ ยืนหยัดในอัตลักษณ์แบรนด์และใช้ความคิดสร้างสรรค์ทดแทนเงิน และใช้ไอเดียทดแทนสื่อ

สุดท้าย Liquid Death ชนะต่างที่สุดและในโลกที่ทุกแบรนด์พยายามเป็นที่รักของทุกคน บางครั้งการยอมเป็นที่รักของแค่ 10% อาจทรงพลังมากกว่าการเป็นที่ชอบแบบจืด ๆ ของคนทั้งตลาดค่ะ

ขอบคุณที่อ่านจนจบนะคะ และสามารถอ่านบทความอื่น ๆ ได้ที่นี่

อุ๋มอิ๋ม Marketing Content Creator และ Data Insight Researcher ของการตลาดวันละตอน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *