ทุ่มงบการตลาดไปมหาศาลเพื่อให้แบรนด์ของเรา “ถูกเห็น” แต่สุดท้ายกลับไม่ “ถูกจดจำ” เชื่อว่าทุกคนน่าจะเคยเจอปัญหานี้กันครับ… ปัจจุบันในโลกที่ผู้บริโภคถูกถล่มด้วยคอนเทนต์แทบจะทุกวินาที โจทย์ใหญ่ของนักการตลาดอย่างเราในการสร้าง Brand Awareness ได้เปลี่ยนไป มันไม่ใช่แค่การเข้าถึง แต่คือการสร้าง “ภาพจำ” ที่ทรงพลังจนลูกค้าต้องหยุดมอง
AI-Generated by Shutterstock (Prompt: Rear wide-angle view of a female astronaut (half body), pastel futuristic spacesuit, standing among dreamy cushion clouds, floating holographic UX elements from Facebook, Instagram, YouTube, TikTok, digital notifications and icons, cinematic soft light, pastel tones, surreal digital world –v 5.2 –ar 4:5)
ต้องยอมรับว่าเส้นทางการรับรู้แบรนด์ของผู้บริโภคยุคนี้ซับซ้อนกว่าเดิมมากครับ พวกเขาอาจเจอเราครั้งแรกจากการค้นหาด้วย AI Search, เลื่อนฟีดเจอใน TikTok, เห็นโฆษณาในแอปเกมที่เล่นประจำ หรือแม้แต่เห็นสินค้าของเราในซีรีส์เรื่องโปรด ทุกจุดล้วนเป็นโอกาสที่ทำให้แบรนด์ของเราก้าวเข้าไปสู่สายตาของผู้บริโภคได้
วันนี้ผมเลยอยากจะชวนมาเจาะลึก 7 ช่องทางสำคัญในการสร้าง Brand Awareness ที่อัปเดตสำหรับปีช่วงท้ายปีนี้ไปจนถึงปี 2026 เรามาดูกันครับว่าแต่ละช่องทางมีกลยุทธ์อะไรซ่อนอยู่ และเราจะเลือกใช้มันอย่างไรให้แบรนด์ของเราโดดเด่นและเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภคได้
1. Search Engines สมรภูมิแรกที่แบรนด์ต้องชนะใจ ในยุคดิจิทัล ผมมองว่า Search Engine ก็คยังเป็นช่องทางที่มีสำคัญมากในการสร้าง Brand Awareness เลยครับ เพราะมันเป็นจุดที่ผู้บริโภคเริ่มต้นทำความรู้จักแบรนด์ใหม่ ๆ ด้วยตัวเอง พฤติกรรมการค้นหาที่เปลี่ยนไปทั้งการถาม-ตอบกับ AI Search หรือการค้นหาผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งก็เป็นโอกาสให้แบรนด์ที่สามารถเป็นฝ่าย “ถูกค้นพบ” ได้ก่อนคู่แข่ง
ข้อมูลที่น่าสนใจ
ผลการศึกษาล่าสุดจาก FirstPageSage (ปี 2025) พบว่า เว็บไซต์ที่ติดอันดับ 1 บน Google มี CTR เฉลี่ยสูงถึง 39.8% ในขณะที่อันดับ 2 และ 3 อยู่ที่ 18.7% และ 10.2% ตามลำดับ แค่ 3 อันดับแรกก็กินส่วนแบ่งไปเกินครึ่งแล้วครับ
Business Insider (ปี 2023) รายงานว่า เกือบ 10% ของ Gen Z ในสหรัฐฯ หันไปค้นหาบน TikTok บ่อยกว่า Google แล้ว
ข้อมูลฝั่งไทยจาก STEPS Academy (ปี 2024) ก็ชี้ว่า บทความที่ยาวเกิน 2,000 คำ มีแนวโน้มติดอันดับดีกว่าบทความสั้น 15% และหากได้แสดงผลเป็น Rich Snippets ก็จะช่วยเพิ่มอัตราการคลิก (CTR) ได้ถึง 35%
กลยุทธ์สำคัญสำหรับแบรนด์คือ คือการเปลี่ยนมุมมองจากการสื่อสารจากเรื่อง “สินค้า” ไปสู่การสร้างคอนเทนต์ที่เน้น “แก้ปัญหาให้ผู้บริโภค” การทำให้แบรนด์ของเป็น “คำตอบแรก” ในใจผู้บริโภคครับ
2. Ads in Mobile Apps สร้างการรับรู้ในพื้นที่ส่วนตัว เมื่อสมาร์ทโฟนกลายเป็นปัจจัยที่ 5 เวลาส่วนใหญ่ที่ผู้บริโภคใช้ก็คือการอยู่ในแอปพลิเคชันต่าง ๆ ทำให้ Mobile App Ads กลายเป็นช่องทางที่น่าสนใจมากในการเข้าถึงผู้บริโภคได้ในทุกจังหวะของชีวิตประจำวัน แต่ความท้าทายคือ เราจะเข้าไปในพื้นที่ส่วนตัวนี้อย่างไรไม่ให้ลูกค้ารู้สึกรำคาญ
ข้อมูลที่น่าสนใจ
Insider Intelligence (ปี 2023) พบว่าคนเราใช้เวลาบนมือถือในแอปพลิเคชันสูงถึง 90% เทียบกับการใช้เว็บบราวเซอร์แค่ 10%
ผลสำรวจจาก Tapjoy (ปี 2024) พบว่า 73% ของผู้เล่นเกมบนมือถือ พอใจกับการดูวิดีโอโฆษณาเพื่อรับรางวัล (Rewarded Ads) มากที่สุด
รายงานจาก We Are Social (ปี 2024) ชี้ว่า ประเทศไทยมีผู้เล่นเกมบนมือถือมากกว่า 32 ล้านคน ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายขนาดใหญ่มากที่แบรนด์สามารถเข้าไปสร้าง Awareness ได้
หัวใจของการทำ Awareness ผ่านช่องทางนี้สำหรับผมคือ “การแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า” และ “การไม่ขัดจังหวะ”
3. TV Ads พลังจอใหญ่ในยุคดิจิทัล หลายคนอาจคิดว่ายุคของทีวีหมดไปแล้ว แต่จริง ๆ แล้ว “จอทีวี” ยังคงเป็นสื่อที่ทรงพลังในการสร้าง Mass Awareness และความน่าเชื่อถือได้อย่างรวดเร็วครับ เพียงแต่บทบาทของมันได้เปลี่ยนไปเป็น “ศูนย์กลางความบันเทิง” ที่รวมทุกอย่างไว้ในจอเดียว
ข้อมูลที่น่าสนใจ
รายงาน Digital 2025 ชี้ว่ากว่า 48.2% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตในไทยเป็นเจ้าของ Smart TV และเหตุผลหลักในการใช้อินเทอร์เน็ตของคนไทยคือ “การดูวิดีโอ, รายการทีวี, และภาพยนตร์” ซึ่งมีสัดส่วนสูงถึง 54.7%
Mobility Foresights (ปี 2024) คาดการณ์ว่า ตลาดโฆษณาผ่าน Connected TV (CTV) ในไทยจะเติบโตจาก 18.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2025 ไปเป็น 65.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2031
กลยุทธ์สำหรับช่อทางนี้ คือต้องออกแบบโฆษณาทีวีให้ทำงานร่วมกับสื่อดิจิทัล
4. Brand Websites รากฐานสำคัญสู่การถูกค้นพบในยุค AI ท่ามกลางช่องทางที่เกิดขึ้นมากมาย Brand Website ยังคงเป็น Asset ที่สำคัญที่สุดในการสร้าง Brand Awareness ครับ เพราะมันคือ “รากฐานหลัก” ที่จะทำให้แบรนด์ของคุณ “ถูกค้นพบ” ผ่าน Search Engine และ AI Search
ข้อมูลที่น่าสนใจ
ผลสำรวจของ Forbes (ปี 2023) ชี้ว่า 84% ของผู้บริโภคเชื่อว่าการมีเว็บไซต์ทำให้ธุรกิจดูน่าเชื่อถือมากกว่าการมีแค่โปรไฟล์โซเชียลมีเดีย
ข้อมูลจาก Think with Google (ปี 2023) ระบุว่า 59% ของผู้ซื้อบอกว่าเว็บไซต์ที่ใช้ง่ายบนมือถือคือปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจเลือกแบรนด์
ผมมองว่า Brand Website ในยุคนี้ควรถูกออกแบบให้เป็น “ศูนย์กลางคอนเทนต์คุณภาพสูงที่พร้อมให้ AI และผู้ใช้ค้นพบ”
5. TV Shows & Films สร้างการรับรู้ผ่านเรื่องเล่าและความบันเทิง ในยุคที่ผู้บริโภคเลือกที่จะหลีกเลี่ยงโฆษณา การนำแบรนด์เข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของเรื่องเล่าในรายการทีวี ซีรีส์ หรือภาพยนตร์ เป็นกลยุทธ์ที่แนบเนียนและทรงพลังมากครับ เพราะผู้บริโภคจะเปิดใจรับแบรนด์ในฐานะส่วนหนึ่งของความบันเทิง ไม่ใช่โฆษณาที่มาขัดจังหวะ
ข้อมูลที่น่าสนใจ
ผลสำรวจของ Hollywood Branded (ปี 2022) พบว่า 57.5% ของผู้ชมมีแนวโน้มที่จะค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าหลังจากที่ได้เห็นในรายการทีวีหรือภาพยนตร์
ข้อมูลจาก DataReportal (ปี 2025) ระบุว่าผู้ชมกว่า 54.7% ในไทยใช้อินเทอร์เน็ตเพื่อดูคอนเทนต์บันเทิงเป็นหลัก
หัวใจสำคัญของช่องทางนี้คือ “ความสอดคล้อง” และ “ความแนบเนียน”
6. Product Comparison Websites เพิ่มการมองเห็นและความน่าเชื่อถือจากบุคคลที่สาม ในยุคที่ข้อมูลล้น เว็บไซต์เปรียบเทียบสินค้าได้กลายเป็นเครื่องมือสร้าง Brand Awareness ที่ทรงพลังมากครับ เพราะมันทำหน้าที่เป็น “ผู้ช่วยตัดสินใจ” ที่ได้รับความไว้วางใจจากผู้บริโภค เมื่อแบรนด์ของเราไปปรากฏบนเว็บเหล่านี้พร้อมรีวิวเชิงบวก มันคือการสร้าง Awareness ที่มาพร้อมกับ “ความน่าเชื่อถือ”
ข้อมูลที่น่าสนใจ
DemandSage (ปี 2025) ชี้ว่า 93% ของผู้บริโภคระบุว่ารีวิวออนไลน์มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อ
Qualtrics (ปี 2023) พบว่า 79% ของผู้บริโภคเชื่อถือรีวิวออนไลน์มากพอ ๆ กับคำแนะนำจากคนรู้จัก
กลยุทธ์สำหรับช่องทางนี้ไม่ใช่การโฆษณา แต่คือ “การอำนวยความสะดวกให้ข้อมูล” แบรนด์ควรมีส่วนร่วมกับเว็บไซต์เหล่านี้ในเชิงรุก เช่น การส่งสินค้าให้รีวิว หรือการให้ข้อมูลที่ถูกต้องครบถ้วน เพราะรีวิวที่โปร่งใสและเป็นกลาง คือเครื่องมือสร้าง Awareness ที่ยั่งยืนที่สุด การทำให้แบรนด์ให้ถูกค้นพบบนเว็บไซต์เหล่านี้ในฐานะ “ตัวเลือกที่แนะนำ” คือหนึ่งในการสร้างความประทับใจแรกที่ดีที่สุด
ปฏิเสธไม่ได้เลยครับว่า Social Media Ads คือเครื่องมือสร้าง Brand Awareness ที่เข้าถึงผู้คนได้รวดเร็วที่สุดในยุคนี้ โฆษณาเหล่านี้จะปรากฏขึ้นระหว่างที่ผู้ใช้กำลังเลื่อนฟีด ทำให้การ “ค้นพบ” แบรนด์ใหม่ ๆ เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา จุดแข็งที่สุดคือความสามารถในการเจาะจงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ
ข้อมูลที่น่าสนใจ
GWI (ปี 2025) ชี้ว่า 29.7% ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลก ค้นพบแบรนด์ใหม่ ๆ ผ่านโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย
รายงาน Digital 2025 Thailand ระบุว่า ประเทศไทยมีผู้ใช้งานโซเชียลมีเดีย 51.0 ล้านคน และใช้เวลาเฉลี่ยบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ถึง 2 ชั่วโมง 32 นาทีต่อวัน
DAAT (ปี 2024) คาดการณ์ว่าเม็ดเงินโฆษณาดิจิทัลในไทยปี 2025 จะมีมูลค่าราว 34,556 ล้านบาท โดยมีโซเชียลมีเดียเป็นส่วนแบ่งที่ใหญ่ที่สุด
หัวใจสำคัญของการทำ Social Media Ads ในมุมของผมคือ “การหยุดนิ้วโป้ง” ครับ เราไม่ควรมองว่านี่เป็นแค่การ “ยิง Ads” แต่คือการสร้างสรรค์คอนเทนต์ที่น่าสนใจจนผู้ใช้ต้องหยุดดูภายใน 3 วินาทีแรก
สรุป 7 ช่องทางสร้าง Brand Awareness 2026เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับ 7 ช่องทางที่ผมนำมาวิเคราะห์ให้ทุกคน? จะเห็นได้ว่าการสร้าง Brand Awareness ในยุคนี้ซับซ้อนแต่ก็เต็มไปด้วยโอกาสนะครับ หัวใจสำคัญที่ผมอยากจะย้ำเลยก็คือ มันไม่ใช่การหว่านแหหรือทำทุกอย่างตามตำรา แต่คือการ “เลือก” โดยอาจจะพิจารณาจาก 2 ปัจจัยหลักคือ
กลุ่มเป้าหมายของเราอยู่ที่ไหน?: พวกเขาค้นหาข้อมูลอย่างไร? ใช้เวลาในแอปไหน? หรือเชื่อรีวิวจากแหล่งใด? การเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าจะช่วยให้เราเลือกช่องทางที่เข้าถึงพวกเขาได้จริงช่องทางไหนที่เหมาะกับตัวตนของแบรนด์?: หากเป็นแบรนด์ที่เน้นความน่าเชื่อถือ Search Engine และเว็บเปรียบเทียบอาจสำคัญที่สุด ในขณะที่แบรนด์ไลฟ์สไตล์อาจสร้างการจดจำได้ดีกว่าผ่าน Social Media
ท้ายที่สุดแล้ว การสร้าง Brand Awareness ที่ยั่งยืน ไม่ได้วัดกันที่ว่าใครเสียงดังที่สุด แต่คือใครที่สามารถเข้าไปนั่งในใจผู้บริโภคได้ “ถูกที่ ถูกเวลา และถูกวิธี” ต่างหากครับ
Source , Source , Source , Source , Source , Source , Source , Source , Source , Source , Source , Source , Source , Source , Source , Source , Source , Source , Source , Source
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่
