6 เทคนิคพาธุรกิจโต พร้อมหา New S-Curve จากงาน MKTCON2025

เคยสงสัยไหมครับว่าทำไมบางธุรกิจถึงเติบโตแบบก้าวกระโดด ในขณะที่บางธุรกิจยังคงติดอยู่ในวังวนเดิม ๆ? ความสำเร็จไม่ได้มาจากโชคช่วย แต่มาจาก “แก่น” ของธุรกิจที่แข็งแกร่ง และการใช้ “ปัจจัยเร่ง” ที่ถูกต้อง บทความนี้จะชวนคุณมาถอดรหัส 6 เทคนิคสำคัญที่ได้จากงาน MKTCON2025 ในเซสชัน Wow Laps: 6 Lens of Marketing Innovation โดย คุณบังอร สุวรรณมงคล CEO and Founder of Hummingbirds Consulting จาก Hummingbirds ที่จะช่วยให้ธุรกิจไม่เพียงแค่เติบโต แต่ยังสามารถค้นหา New S-Curve เพื่อก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน

การปั้นธุรกิจให้แข็งแกร่งต้องเริ่มจากรากฐานที่มั่นคง ซึ่งก็คือ “สิ่งที่เรามี” ซึ่งไม่ได้หมายถึงแค่การมีเทคโนโลยีเจ๋ง ๆ แต่หมายถึงองค์ประกอบที่จะช่วยส่งมอบ Value ให้กับลูกค้า ซึ่งประกอบไปด้วย

1. ผลิตภัณฑ์ (Product) สร้างสิ่งที่โลกต้องการและแตกต่างจากคนอื่น 

ในยุคนี้การจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของเราเป็นที่ต้องการของตลาดไม่ใช่เรื่องง่าย และการพยายามดันของที่ไม่มีใครอยากได้คือสิ่งที่เหนื่อยและไร้ประโยชน์ที่สุด หัวใจของความสำเร็จคือการสร้าง Customer Centric Product Innovation หรือการพัฒนานวัตกรรมโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง ซึ่งก็มีวิธีการหลัก ๆ อยู่ 2 วิธีการคือ

  • Incremental Change การพัฒนาให้คุณสมบัติที่มีอยู่แล้ว “ดีขึ้นกว่าคู่แข่งแบบเห็นได้ชัด” อย่างเช่น ตู้เต่าบินที่มีเครื่องดื่มให้เลือกถึง 300 รายการ มากกว่า Vending Machine ทั่วไปที่มีแค่ 30 รายการนี่คือการขยายขนาดของสิ่งที่ลูกค้าเคยได้รับ และสร้างความประทับใจ
  • Disruptive Change การสร้าง “คุณสมบัติใหม่” ที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อนซึ่งง่ายกว่าเพราะเป็นการสร้างตลาดใหม่ขึ้นมาอย่างรองเท้า Vibram ที่ออกแบบเป็นรูปนิ้วเท้าสำหรับนักวิ่ง Trail Running โดยเฉพาะ

นอกจากความแตกต่างและยังต้องตอบโจทย์ด้วย โดยแบรนด์ต้องเลือกว่าจะเป็น Pain (Point) Killer ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาใหม่ ๆ ให้ลูกค้าที่พวกเขาไม่เคยรู้ตัวมาก่อนว่ามีปัญหา หรือ Vitamin ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยให้ลูกค้าบรรลุความฝันที่พวกเขาไม่เคยนึกถึง ซึ่งการจะเกิดสิ่งเหล่านี้ได้ก็ต้องมาจากการเข้าใจถึง Insight ของกลุ่มเป้าหมายอย่างแท้จริง

2. การสื่อสาร (Communication) สร้างความเกี่ยวเนื่องและสะกดสายตาด้วยความสร้างสรรค์

ต่อให้ผลิตภัณฑ์ดีแค่ไหนแต่สื่อสารไม่เป็นก็เปล่าประโยชน์ การสื่อสารที่มีพลังต้องมี 2 องค์ประกอบหลักคือ

MKTCON2025
  • Relevance ลูกค้าไม่สนฟีเจอร์สินค้า แต่จะสนว่า “ชีวิตจะดีขึ้นยังไงถ้าได้ใช้” ความเกี่ยวข้องกันคือการเชื่อมโยงผลิตภัณฑ์เข้ากับ Pain Point หรือ Gain Point ของลูกค้าลองดูตัวอย่างของรีสอร์ท “บ้านน้ำดาว” ที่เปลี่ยน “ความมืด” จากปัญหาเพราะอยู่ไกลเมือง ให้กลายเป็นจุดขายที่โดดเด่นว่า “the best point for stargazing”
  • Creativity การสื่อสารต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์เพื่อสะกดคนให้ได้ปรัชญาที่ทรงพลังคือ  “Truth Well Told” คือการค้นหา “ความจริง” ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าซึ่งซ่อนอยู่ในผลิตภัณฑ์ แล้วนำมาเล่าในรูปแบบที่น่าสนใจ เช่น การขายชุดไทยด้วยแคปชันว่า “แต่งตัวสวยเด่น เทวดาเห็นก่อน” ก็ช่วยดึดูดให้คนสนใจมากกว่าแค่การบอกราคา

3. ประสบการณ์ (Experience) สร้าง Wow Factor ให้ลูกค้าจดจำไม่ลืม 

ในธุรกิจที่สินค้าคล้ายกัน การสร้างความแตกต่างที่ยั่งยืนคือ “ประสบการณ์” ที่ลูกค้าได้รับ ซึ่งต้องมาจากการวางแผนอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่ความฟลุก ซึ่งวิธีการในการออกแบบประสบการณ์ที่ดี 4 ขั้นตอนคือ

MKTCON2025
  1. Understand: เข้าใจ Insight ของ Target
  2. Design: วางแผนให้มี Wow experience
  3. Evaluate: ประเมินผล 
  4. Improve: ปรับปรุง

ซึ่งกับดักที่พบบ่อย คือการที่แบรนด์ทุ่มเงินและเวลาไปกับการวัดผลเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ได้ทำการออกแบบประสบการณ์ใหม่ (Design Wow Experience) หากแบรนด์ต้องการสร้าง New S-curve ก็ต้องให้ความสำคัญในการ “สำรวจ” (explore) Insight ของ Target เพื่อหา “Unknown” หรือ “Wow” ของกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้า

ตัวอย่าง เช่น แบรนด์ตุ๊กตา Jelly Cat ที่เปลี่ยนร้านเป็นธีมร้านอาหารและให้พนักงานสวมบทบาททำให้ลูกค้าถ่ายคลิปและแชร์ในโซเชียลจนยอดขายพุ่งถึง 246%

Catalysts Innovation แรงบันดาลใจใหม่เพื่อเพิ่มอัตราเร่ง

นอกจากจะแข็งแกร่งภายในแล้วก็ต้องมองหาโอกาสหรือปัจจัยภายนอกที่จะเป็นเหมือนตัวเร่งให้ธุรกิจเติบโต ซึ่งมี 3 องค์ประกอบหลักคือ

การมองเห็นโอกาสคือหนทางสู่ New S-Curve แบรนด์ต้องมองไปข้างหน้า แทนที่จะทำงานแบบรายวันและมองแค่สิ่งที่อยู่ตรงหน้า

MKTCON2025
  • มองหา Micro Trend ที่เจาะลึกกว่าเดิม การมองแค่เทรนด์ใหญ่ ๆ (Macro Trend) เช่น สังคมผู้สูงอายุ หรือการตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมอาจไม่เพียงพอ สิ่งที่ควรทำคือการมองหา Micro Trend ซึ่งเป็นเทรนด์ที่ส่งผลกระทบโดยตรงต่ออุตสาหกรรมของแบรนด์
  • เชื่อมโยงสู่การใช้งานจริง เทรนด์จะไม่มีประโยชน์ถ้าไม่สามารถเชื่อมโยงเทรนด์นั้นเข้ากับ Insight ของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เห็นถึงการนำไปใช้ (usage) อย่างเป็นรูปธรรม

5. คู่แข่ง (Competitor) ชวนคู่แข่งมาเล่นเกมที่พวกเขาไม่ถนัด 

แบรนด์ต้องจับตาดูคู่แข่ง ไม่ใช่เพื่อเลียนแบบ แต่เพื่อทำความเข้าใจและหาจุดอ่อนของพวกเขา ซึ่งกลยุทธ์ที่จะชนะ คือการชวนคู่แข่งมาเล่นเกมที่พวกเขาไม่ถนัด หากเราเป็นแบรนด์เล็กหรือมีงบประมาณน้อย ก็ยิ่งต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และกลยุทธ์ในการต่อสู้

MKTCON2025

แบรนด์ต้องค้นหา White Space ของตัวเอง เพราะถ้าไม่สามารถค้นพบ จุดยืนที่แตกต่าง (White Space) ของตัวเองได้ ก็จะไม่สามารถสร้าง New S-curve ได้ ตัวอย่างที่ชัดเจนคือธุรกิจขายอาหารสดที่ตั้ง Positioning ตัวเองเป็น “the Real Food Company” โดยให้นิยามความ “Real” ว่าคืออาหารที่ไม่ผ่านกระบวนการแปรรูป ปลูกมาอย่างดี หรือเลี้ยงมาอย่างดี พร้อมเล่าเรื่องราวของผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด ซึ่งทำให้ธุรกิจนี้แตกต่างจากซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไปและลูกค้าก็พร้อมที่จะจ่ายในราคาที่สูงกว่า

6. การเรียนรู้ข้ามอุตสาหกรรม (Cross Industry Learning) มองนอกวงการเพื่อไอเดียใหม่ 

MKTCON2025

เมื่อมองแต่วงการของตัวเอง ไอเดียก็จะตัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากแบรนดของเราเป็นเบอร์ 1 หรือเบอร์รองที่เอาแต่เลียนแบบเบอร์ 1 เทคนิคคือ ให้ออกไปมองนอกวงการของคุณ และไปศึกษา Best Practice ในอุตสาหกรรมอื่น แล้วหาข้อเรียนรู้มาปรับใช้

สรุป 6 เทคนิคพาธุรกิจโต พร้อมหา New S-Curve จากงาน MKTCON2025

เป็นไงกันบ้างครับกับเซสชัน Wow Laps: 6 Lens of Marketing Innovation ในงาน MKTCON2025 จะเห็นว่าการสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดไม่ได้มาจากเรื่องบังเอิญ แต่มาจากรากฐานของธุรกิจที่แข็งแกร่ง และการใช้ปัจจัยเร่งอย่างมีชั้นเชิง

AI-Generated by Shutterstock (Prompt: Futuristic vibrant backdrop, bold blue and cyan gradient, radiant light rays emanating from the center, silhouette of a person walking towards a glowing horizon, futuristic city skyline in the background, tall modern buildings with glowing lights, symbolizing innovation and forward movement, sleek professional atmosphere, ultra wide, high detail, digital art)

การสร้าง Core Innovation จากภายในทั้งในด้าน ผลิตภัณฑ์ การสื่อสาร และ ประสบการณ์ คือก้าวแรกที่สำคัญ จากนั้นจึงใช้พลังจาก Catalysts Innovation อย่าง เทรนด์ คู่แข่ง และ การเรียนรู้ข้ามอุตสาหกรรม ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่จะนำพาธุรกิจให้เติบโต และค้นพบเส้นทางใหม่ ๆ สู่ New S-Curve ได้นั่นเองครับ

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่

Marketing Content Creator and Data Insight Researcher

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *