สวัสดีค่ะทุกท่าน,, เมื่อสัปดาห์ที่แล้วนิกมีโอกาสได้อ่านสรุปบทเรียน “Winning the Room: ทักษะการนำเสนอที่ชนะใจผู้บริหาร” สอนโดย คุณเอกพล พงศ์สถาพร สัปดาห์ที่ 5 จากหลักสูตร Executive Communication Program (EXCOM) ซึ่งล้วนแล้วแต่มีประโยชน์และน่าสนใจมากๆ สอดคล้องกับแพลนของบทความในสัปดาห์นี้ที่นิกจะมาแนะนำ 5 AI Tools ที่จะช่วยเราสร้างการนำเสนอที่ชัดเจน น่าจดจำ เข้าใจง่าย และไม่เปลืองพลังงานผู้ฟังในการย่อยเนื้อหา
โดย 5 Key Takeaways ของการนำเสนอให้โดนใจ (ที่ไม่ใช่แค่เข้าใจ) ในคลาส EXCOM ของคุณเอกพล กล่าวไว้ดังนี้ค่ะ
Key 1 ผู้บริหารตัดสินใจด้วยอารมณ์มากกว่าข้อมูล
สำหรับในข้อนี้เป็นเรื่องของ Story telling ค่ะ โดยเราอาจเริ่มหน้าแรกของ Presentation ด้วยเรื่องราว หรือภาพของอนาคต ที่(คาดว่า)เป็นสิ่งที่เป็น Target ของที่ประชุม หรือเป็นสิ่งที่ผู้บริหารต้องการจะเห็นก่อน แล้วค่อยให้ข้อมูลสนับสนุน เช่น กราฟต่างๆ ตามหลัง ซึ่งจะช่วยให้ผู้เข้าร่วมประชุมเห็นภาพ และรู้สึกมั่นใจกับข้อมูลมากขึ้น โดยข้อสำคัญคืออย่ารีบเปิดด้วยตัวเลขหรือตารางที่มีข้อมูลแน่นๆ เป็นหน้าแรกค่ะ
Key 2 เตรียมทั้งคน เนื้อหา และสไลด์ให้พร้อม
สิ่งที่นิกเชื่อว่าเป็นสิ่งที่หลายๆ ท่านน่าจะทราบกันดีอยู่แล้ว นั่นคือเรื่องของการเตรียมตัว ไม่ว่าจะเป็นการลองซ้อมพูดให้คล่อง เหมือนพูดจริงหลายรอบ และเตรียมคำถามที่อาจโดนถามไว้ล่วงหน้า เวลาอยู่ในห้องจริงทำให้ลดความตื่นเต้นลงได้ค่ะ
Key 3 ใช้โครงสร้างการสื่อสารอย่างง่าย เช่น Magic of Three หรือ SCQA
เพราะสมองคนเราจำได้ดีสุดเมื่อข้อมูลมีโครงสร้าง ลองจัดเนื้อหาให้มี 3 ประเด็นหลัก หรือเล่าเรื่องตามลำดับ Situation แล้วไป Complication หลังจากนั้นตามด้วย Question แล้วตบด้วย Answer ซึ่งจะทำให้ผู้เข้าร่วมประชุมตามทัน และเข้าใจทิศทางของการนำเสนอ หรือการประชุมในครั้งนี้
Key 4 ใช้สไลด์เป็นผู้ช่วย ไม่ใช่ตัวแทน
พูดง่ายๆ ก็คืออย่าให้สไลด์พูดแทนเราค่ะ ให้ตัว Presentation เป็นเหมือนฉากหลังที่ช่วยเน้นจุดสำคัญ ใช้ภาพมากกว่าตัวหนังสือ และพูดจากความเข้าใจของเราให้มากกว่าการอ่านสิ่งที่ปรากฎอยู่บนหน้าจอ
key 5** เป้าหมายของการพรีเซนต์คือ “ทำให้เขาตัดสินใจง่าย” ไม่ใช่ “ทำให้เขารู้ว่าเรารู้เยอะ”
และข้อนี้คือข้อที่สำคัญที่สุด และเป็นสิ่งที่หลายท่าน(อาจจะ)เคยพลาดมาแล้ว 😅 นั่นคือเวลาเราเตรียมข้อมูลเยอะ เรามักอยากพูดให้ครบ เพราะกลัวว่าถ้าไม่เล่าทั้งหมด คนฟังจะไม่เข้าใจเนื้อหาที่เราต้องการสื่อสาร ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ผิดมหันต์ค่ะ
เพราะในความเป็นจริงคือ “ยิ่งพูดเยอะ ผู้ฟังยิ่งเหนื่อย และยิ่งตัดสินใจยาก”
ลองนึกภาพดูนะคะ เวลาเราอยู่ฝั่งผู้บริหารที่ต้องฟังพรีเซนต์วันละหลายรอบ สิ่งที่ผู้บริหารอยากได้ไม่ใช่ “ความรู้ทั้งหมดที่เรามี” แต่คือ “ทางเลือกที่ชัดเจน” และ “เหตุผลที่ทำให้ตัดสินใจได้ง่ายที่สุด”
เพราะฉะนั้น เวลาจะพูดอะไร ให้ลองถามตัวเองก่อนค่ะว่า👇👇👇👇
“สิ่งนี้จำเป็นต่อการตัดสินใจไหม?”
“สิ่งนี้ช่วยให้ผู้ฟังเข้าใจภาพรวมเร็วขึ้นไหม?”
“ถ้าเราตัดประโยคนี้ออก การตัดสินใจจะยากขึ้นไหม?”
ถ้าคำตอบคือ “ไม่” ก็ตัดไปได้เลยค่ะ อย่ากลัวว่าพูดน้อยไป เพราะบางครั้ง “ความชัด” ดังกว่า “ความเยอะ” และถ้าเราทำให้คนฟังเห็นภาพได้ในไม่กี่นาที หรือสามารถทำให้ผู้บริหารเข้าใจทิศทางและได้ข้อมูลสำคัญที่ครบถ้วนเพื่อการตัดสินใจอย่างชัดเจน แปลว่าเราประสบความสำเร็จตั้งแต่ต้นแล้ว
การนำเสนอที่ดี ไม่ได้วัดที่จำนวนสไลด์หรือข้อมูลที่เยอะที่สุด แต่วัดที่ว่า “หลังจากจบแล้ว ผู้บริหารรู้ว่าควรทำอะไรต่อ” นี่แหละค่ะคือความสำเร็จของการนำเสนอที่แท้จริง
วันนี้นิกเลยอยากชวนทุกท่านเข้าสู่ The Future of Presentation ซึ่งในบทความนี้จะแนะนำ 5 AI Tools ที่จะช่วยเราสร้างการนำเสนอที่ชัดเจนและน่าจดจำ ที่จะเปลี่ยนชีวิตการทำสไลด์ของเราในปี 2025 และปีต่อๆ ไป
เพราะทุกวันนี้การ Present งานไม่ได้วัดกันที่จำนวนสไลด์หรือความแน่นแบบล้นๆ (ที่ยัดเข้ามาแต่ไม่มีนัยยะ) ของเนื้อหา แต่คือการ “เล่าให้ผู้บริหารตัดสินใจง่าย” และ “เข้าใจสิ่งที่ทีมต้องการสื่อ” ว่าแล้วก็มาดูไปพร้อมๆ กันเลยค่ะ =>> Let’s go (☞゚ヮ゚)☞
#1. Synthesia เปลี่ยนสไลด์เป็นวิดีโอพร้อม AI Avatar
สำหรับ AI Tools ที่นิกจะมาแนะนำเป็นตัวแรกคือนี่เลยค่ะ => https://www.synthesia.io ซึ่งเหมาะสำหรับใครก็ตามที่ อยากทำ VDO Presentation แบบมีคนบรรยายแต่ไม่อยากถ่ายเอง โดย Synthesia จะให้เราเลือก AI Avatar ได้มากกว่า 230 แบบ พูดได้ 140 ภาษา ซึ่งเหมาะมากสำหรับการทำสื่ออบรม คลิปขายสินค้า หรือวิดีโอสรุปผลดำเนินการสำหรับผู้บริหาร
ซึ่ง Tool ตัวนี้มีจุดเด่นก็คือ เราสามารถแต่งตัว เปลี่ยนพื้นหลัง ใส่โลโก้ ใส่เสียงตัวเอง หรือให้ระบบแปลเป็นหลายภาษาได้โดยอัตโนมัติ และวิธีสร้างวิดีโอก็ง่ายมากๆ เพียง 3 ขั้นตอน ดังนี้ค่ะ
*ป.ล. เข้ามาแล้วก็ Continue with Google กันเพื่อเข้าใช้งานฟรีได้เลยนะคะ
Step 1: Create a new video
กด “New video” แล้วเลือกเทมเพลตที่ต้องการ เช่น Corporate Pitch หรือ Training Video
Step 2: Browse video templates
เลือกเทมเพลตที่เหมาะกับแนวงานของเรา หรือจะเริ่มจากศูนย์ก็ได้ค่ะ
Step 3: Customize your video prompt
ใส่สคริปต์ที่อยากให้ Avatar พูด พร้อมบอกว่าเราพูดกับใคร เช่น ลูกค้าต่างชาติ หรือ ผู้บริหารสายเทคนิค AI จะเลือกน้ำเสียงและสไตล์คำพูดให้เหมาะเองเลย
เสร็จแล้วก็กด “Generate” ไม่กี่นาทีได้วิดีโอมืออาชีพพร้อมใช้เลยค่ะ
สำหรับเพื่อนๆ ท่านไหนที่เบื่อการจัดสไลด์ นิกรับรองว่า SlideSpeak จะเป็น AI Tools ตัวใหม่ที่จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยคนโปรดของทุกท่านแน่นอนค่ะ เพียงเข้าไปที่ https://slidespeak.co แล้วอัปโหลดไฟล์ Word หรือ Text เข้าไป หลังจากนั้น AI ของ SlideSpeak จะจัดเรียง และออกแบบให้เป็น Presentation สำเร็จรูปในเพียงไม่กี่คลิก ในเพียง 3 ขั้นตอน ดังนี้ค่ะ 😁😎
Step 1: Upload your document
เข้า app.slidespeak.co จากนั้นเลือกโหมด “Generate from Document” แล้วอัปโหลดไฟล์ของเรา
Step 2: Edit Presentation Outline
SlideSpeak จะสรุปหัวข้อให้โดยอัตโนมัติ เราสามารถสั่ง AI เพิ่ม ลด หรือขยายหัวข้อได้เลย แบบคุยกับเพื่อน
Step 3: Customize and Download
เลือกรูปแบบ จำนวนสไลด์ ภาษา และโทนเสียง แก้ไขภาพหรือข้อความได้ใน AI Editor แล้วดาวน์โหลดเป็น PPT, Google Slides หรือ PDF ได้ทันที
ซึ่งผลลัพธ์ที่เราจะได้คือ Presentation slide ที่พร้อมใช้ เรียบเรียงได้สวยงาม สำหรับใครก็ตามที่ไม่ถนัดเรื่องการจัด Template ค่ะ
สำหรับ https://www.jasper.ai/ เกิดมาเพื่อช่วยแก้ปัญหาที่ว่า “รู้ว่าจะพูดอะไร” แต่ไม่รู้จะเขียนยังไงให้สละสลวย โดย jasper จะช่วยเขียนหัวข้อ สรุป และ Speaker Notes ให้อัตโนมัติ และนิกขอแอบกระซิบค่ะว่า AI Tools นี้ยังสามารถรักษา Mood and Tone ของเราได้ด้วยค่ะ ซึ่งการใช้งานก็มี 4 ขั้นตอนง่ายๆ ดังนี้ค่ะ (^∀^●)ノシ
Step 1: Specify your writing task
เลือกประเภทงาน เช่น Presentation Content แล้วพิมพ์โจทย์ เช่น “สรุปโครงการ EV Station สำหรับ CEO”
Step 2: Improve your prompt
เพิ่มรายละเอียด เช่น กลุ่มเป้าหมาย Mood&Tone และ URL ของบริษัท เพื่อให้ AI เข้าใจแบรนด์
Step 3: Make your edits
เมื่อได้ข้อความ สามารถขอให้ AI ปรับโทน ย่อ หรือขยายได้ทันที แค่ไฮไลต์แล้วเลือกคำสั่ง Rewrite หรือ Tone Change
Step 4: Copy to slides
คัดลอกข้อความที่ได้ไปวางในสไลด์ได้เลยค่ะ^^
4. ElevenLabs: เพิ่มเสียงบรรยายให้สไลด์
สำหรับใครก็ตามที่อยากให้ Presentation desk นี้พูดแทนเรา https://elevenlabs.io/ ช่วยได้ค่ะ เพราะนี่คือ AI Tools ที่เป็น AI Voice ที่สมจริงสุดๆ ในปี 2025 ที่มีเสียงกว่า 5,000 แบบ รองรับ 29 ภาษา และสามารถ Clone เสียงเราเองได้ด้วย 😎😉
โดยวิธีใช้งานการทำ Voiceover ก็ง่ายๆ เพียง 3 ขั้นตอนดังนี้ค่ะ
Step 1: Open Text-to-Speech
ให้ทุกท่านเข้าไปที่เมนู “Text to Speech” แล้ววาง Script ที่เราต้องการใช้ลงในช่องข้อความ
Step 2: Paste and Adjust Text
ใส่เนื้อหาจาก Speaker Notes หรือ สไลด์เล็กน้อยเพื่อปรับคำพูดอย่างที่เราต้องการ (เอาไว้ป้องกันการ Robot เกินไป) เช่น เปลี่ยน “1” เป็น “ข้อแรก”
Step 3: Download your voice file
ปรับ Mood & Tone และ ความเร็ว ของเสียง จากนั้นกด Download ไฟล์เสียง แล้วนำไปใส่ในสไลด์ หรือ Video Presentation ได้เลยค่ะ^^
และแล้วเราก็เดินทางมาถึง AI Tools ตัวสุดท้ายค่ะ นั่นก็คือ https://venngage.com/ai-tools/chart ซึ่งเป็นตัวที่เหมาะมากสำหรับท่านใดก็ตามที่ต้องนำเสนอข้อมูล หรือผลวิเคราะห์ โดย AI จะช่วยแปลงไฟล์ Excel หรือข้อมูลใน Google Sheets ให้เป็น Graph แผนภาพ หรือ Infographic ที่ดูดีมากๆ ให้เราภายใน 3 ขั้นตอนดังนี้ค่ะ
Step 1: Describe what you want to create
พิมพ์บอกว่าอยากให้ AI สร้างกราฟแบบไหน เช่น “กราฟเปรียบเทียบยอดขายธุรกิจเกี่ยวเนื่องรายเดือน”
Step 2: Click the graphic
AI จะสร้างกราฟต้นแบบให้ กด “Customize with AI” เพื่อปรับแต่งเพิ่มเติม
Step 3: Edit your graphic
ปรับสี ฟอนต์ และ ข้อมูล ได้เอง หรืออัปโหลด CSV ใหม่ แล้วกด Download ปุ่มเขียวมุมขวา Graph ที่เราได้มา ก็สามารถนำไปใส่ใน Presentation ที่เราต้องการได้เลยค่ะ^^
Last but not Least,,
อ่านมาถึงตรงนี้ ทุกท่านจะพบว่าจาก AI Tools ทั้ง 5 ที่เราได้ทำความรู้จักกันไป จะทำให้การสร้าง Presentation ของเราไม่ใช่เรื่องยากอีกแล้วค่ะ เพราะวันนี้เราไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ แค่มีข้อมูล และ Target การประชุมที่เราต้องการ ก็สามารถให้ AI จะช่วยจัด เขียน พูด และสร้างให้แล้วเสร็จได้
แต่ทั้งนี้อย่าลืมนะคะว่า…..☜(⌒▽⌒)☞
เป้าหมายของการพรีเซนต์ ไม่ใช่ทำให้คนรู้ว่าเรารู้เยอะ แต่คือทำให้ใครก็ตามที่ได้ฟังตัดสินใจได้ง่ายที่สุด
ท้ายสุด เข้าไตรมาส 4 ของปี 2025 แล้ว นิกอยากชวนทุกท่านมาลองใช้ AI ช่วยในสิ่งที่ใช้เวลาเยอะ แล้วเก็บพลังไว้สำหรับสิ่งที่สำคัญกว่านั่นคือ “การเล่าเรื่องให้คนเชื่อ เข้าใจ และอยากลงมือทำให้สำเร็จไปพร้อมกับเรา”