สรุปการตลาดวันละคน เจาะลึก Insight Gen Z นักเรียน นักศึกษาจีนในไทย

รายการ “การตลาดวันละคน” ครั้งนี้จะมาสัมภาษณ์ ฝ้าย ชนัตฐา ธรรมศยาธร Founder Sparkle Startup ในหัวข้อ Unpacking the behaviors of new gen Chinese students in Thailand เจาะลึก Insight Gen Z นักเรียน นักศึกษาจีนในไทย ใครอยากเจาะตลาดผู้บริโภคกลุ่มนี้ ลองไปอ่านกัน

คนจีบขยันมากทำ OT มาติดต่อการหลายเดือน มีความเครียด ต้องดูต่อเนื่องในเรื่องการต่อ ป. โท ดูมีความจริงจัง โดยเงินเดือนไม่สูง ทำให้คนอยากทำ OT ค่าครองชีพไม่ได้ต่างจากจีนมาก ดังนั้นคนที่ได้เปรียบคือคนต่างชาติ ประกอบกับสภาพแวดล้อม ทำให้เข้าใจมากขึ้น ยกตัวอย่าง มีลิฟท์แล้วขึ้นไม่ทัน ถือว่ามาสาย หรือต่อแถวกินข้าวที่มีการแซงได้จนเป็นเรื่องปกติ หากเทียบกับไต้หวันจะมีความคล้ายญี่ปุ่นมากกว่า เกิดเป็น Culture Shock

“เทคโนโลยีไม่ใช่เรื่องที่ไกลตัว ต้องเท่าทัน”

การทำวิจัยเรื่อง Unpacking the Behaviors of New Gen Chinese Students in Thailand

เพื่อเข้าใจพฤติกรรมมากขึ้น หากย้อนกลับไปว่าทำไมต้องทำ เมื่อสองปีที่แล้วที่เห็น Insight บางอย่างของความเป็นคนไทย เราค้นคว้าจากแพลตฟอร์มของไทย จากที่ไต้หวันมีค่าใช้จ่ายสูง ไม่สามารถกิน Local ได้ ต้องไปร้านแต่พบว่าทำไมถึงไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ เพราะภาษาจีนมีความเฉพาะ สุดท้ายแล้วกลุ่มคนที่มาเรียนที่เจ้อต้ากว่า 500 คนแค่ ม. เดียว เติบโตเฉลี่ย 25% เป็นนักเรียนจีน 53% ดังนั้นเป็นต่างชาติถึง 47%

เล่าประวัติจากรุ่นพี่มหาวิทยาลัย ที่แม้นักท่องเที่ยวจีนจะลดลง เพราะการควบคุมข้อมูลจากรัฐบาล จากข่าวดาราหาย หรือเขมร ประเทศไทยจึงมองว่าเป็นที่ส่งต่อ ทำให้คนกลัว และเศรษฐกิจไทยที่แย่ลง ทำให้ไม่เหมือนเดิมแบบเมื่อก่อน คนจีนรู้สึกว่าประเทศไทยฟันหัวผู้ประกอบการจีน เช่น ถ้าพูดภาษาไทยได้จะได้เมนูไทยราคานึง แต่หากพูดไม่ได้จะได้อีกเมนู แต่ตอนนี้แค่รู้ว่าเป็นคนจีนจะโดนราคาสูง จึงไม่เข้าใจว่าทำไมต้องถูกเอาเปรียบ ในขณะเดียวกันฝั่ง นศ มหาวิทยาลัย ยังน่าสนใจ เพราะมีการรองรับการจ่ายเงินที่สะดวก ค่าครองชีพ และค่าตั้วถูกกว่าเทียบกับญี่ปุ่น หากใครทำสายท่องเที่ยวอาจจะลองมากับ Gen นี้มากขึ้น

นักศึกษาจีนในประเทศไทย 300 คน ทำแบบภาษาจีนและอังกฤษ ผ่านการใช้ Google Translate ช่วย แต่เมื่อได้ผลวิจัยมาค่อนข้างยากในการถอด จาก 300 คนมีตอบอังกฤษแค่ 3 คน อีก 297 คนตอบจีน เพราะเด็กจีนพูดอังกฤษไม่ได้ มีความกลัวในการใช้จนแทบจะวิ่งหนี ถ้าเทียบกันระหว่างเมนูอาหารไทยกับอังกฤษ เเด็นจีนจะเลือกภาษาไทยมากกว่าแล้วไปแปล ผู้ให้ข้อมูลมีทั้ง เด็กแลกเปลี่ยน 27.1% ป.ตรี ป.โท และป. เอก 21.9%

พบว่า 44.8% พบว่าคนที่มาเรียนอยากกลับจีน ไม่ได้อยากทำงานที่ไทย แต่การได้ภาษาไทยแล้วกลับไปจีนสามารถเป็นแต้มต่อได้ มองว่าไทยเป็นตลาดใหญ่ที่ง่ายและสะดวก เงินจีนที่พูดไทยจะได้รายได้สูง เพื่อมูลค่าได้มากขึ้น ภาษาจีนเป็นภาษาที่คนใช้มากที่สุดอันดับที่ 2 ของโลก โดยคนจีนมี Mindset ว่าจะไม่ทำอะไรที่ไม่รู้

พฤติกรรมบริโภค

เป็นเรื่องที่น่าตกใจ นักเรียนจีนในไทย ไม่เคยใช้ Delivery คิดเป็น 52.1% โดยที่จีนมี Rider เยอะมากๆ แข่งขันกันสูง ที่ไทยมีค่าส่งที่สูงทำให้ไม่ค่อยสมเหตุสมผล จึงต้องใส่ใจเรื่องค่าใช้จ่าย ยังส่งผลต่อการทำอาหารกินเอง ผ่านแอพที่ใช้คือ Grabfood, Line Man, Food Panda, Shopee Food ตามลำดับ

การเดินทาง นิยมมากที่สุดคือ Bolt กับ Grab จากเรื่องราคา โดยจะเปรียบเทียบราคาของสองแอพแทบทุกครั้ง ร้านชานมที่นิยมคือ Mixue ที่ต้องซื่อแก้วต่างๆ ทุกอย่างจากจีน

พฤติกรรมการเข้าถึง Internet และ Banking

การเลือกใช้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือ True เป็นตัวเลือกอันดับหนึ่งที่สามารถต่อยอดทำ Collaborating Campaign ด้วยกันได้ AIS เป็นอันดับสองรองลงมา และ DTAC เป็นอันดับสามตามลำดับ

ส่วนการแลกเปลี่ยนเงินตรา แลกผ่านมนุษย์ (Agent) โดยตรง (48.4%) เพราะความเชื่อใจ และใช้ Alipay/Wechat Pay (29%) การชำระเงินใช้เงินสดเป็นหลัก แต่ก็ยังมีการใช้ Promptpay การใช้งานธนาคาร เป็นแบบไม่มีบัญชี โดยเปิดเยอะสุดด้วย KBANK (34.4%) และ SCB (20.8%)

พฤติกรรมใช้จ่ายด้วยแฟชั่น

เน้นที่ Offline Store ที่ได้สัมผัสสินค้าจริง มีโอกาสขายได้มากกว่าขายบนโซเชี่ยวมีเดีย การบริโภคสนใหญ่ 93.5% ยังซื้อที่ E-Commerce สะท้อนให้เห็นถึง Awareness ของ Brand ไทยว่าอาจจะยังทำได้ไม่ดี โดยแบรนด์ที่ดีมากๆ คือ Gentle Women แทบจะไม่รู้จักแบรนด์ไทยเลย

กิจกรรมบันเทิง

การไปร้านคาเฟ่คนไปมากที่สด เข้าถึงง่ายราคาไม่แพง ในเวลาอันสั้นทำได้ง่าย สิ่งหนึ่งกับพฤติกรรมเด็กจีนที่คล้ายคนไทยคือไม่กินเหล้า กลายเป็น Party Coffee (ปาร์ตี้กาแฟ) แทน ได้พบปะผู้คนโดยไม่ต้องเมา เพราะการกินเหล้า ไม่ได้เท่แล้ว ให้ความสำคัญของการออกกำลังกาย ใช้เวลาว่าง และเน้นที่หุ่นดีมากๆ (Beauty Standard) หุ่นดีสำคัญกว่าหน้าสวย

การใช้ Social Media

การพูดคุย การผ่อนคลาย โดยคะแนนความถี่ในการโพส รูปท่องเที่ยว เช็คอินร้านอาหาร และเซลฟี่ การใช้ชีวิตต่างประเทศทำให้ดูเท่ สร้างแรงบรรดาลใจได้ ไม่ค่อยโพสรูปตัวเอง หากเข้าใจจะสามารถได้ Earned Media เพื่อไม่ให้เสียโอกาส

ใช้ WeChat เยอะสุด Douyin และ Xiaohongshu ในขณะที่อินฟลู กว่า 44% ยังติดตามอินฟลูชาวจีนเยอะอยู่ รองลงมาคือเพื่อน ประเภทคอนเทนต์ที่มีอิทธิพลสูงสุด แนะนำที่เที่ยว How to ต่างๆ รีวิว ในเรื่องส่วนลด นั้นดันไม่ค่อยได้รับความสนใจ เพราะสนใจความเป็นจริงก่อน (Fact) หนึ่งแอพที่แนะนำคือ เตี้ยนพิน คล้าย Lineman/Wongnai

แอพแผนที่ นั้นใช้ Google Map ค่อนข้างมากกว่า AMAP แต่คนที่อยู่จีนจริงๆ จะใช้อีกแอพจะ Baidu ที่มีความละเอียดยิ่งกว่า เพราะคน Gen Z เน้นการค้นหาด้วย Google Map และใช้ Nearby ดูรีวิวและภาพแนะนำรอบๆ เพื่อตัดสนิใจ ถือว่าเป็น Hidden Gem ที่สามารถทำได้ในผู้ขายรายเล็กๆ มากกว่า Influencer ที่หลายๆ คนยังมองข้าม

ภาษาจีน

คน 46.2% มีผลกระทบต่อการตัดสินใจ เป็นแต้มต่อที่ดี จุดบริการที่มีผลต่อการตัดสนิใจคือเมนูหรือคำแนะนำ บางครั้งไม่เข้าใจชื่อ แต่หากมีคำอธิบายจะช่วยได้มากขึ้น มากกว่าแค่นักเรียนคือนักท่องเที่ยว รวมทั้งพนักงานที่พูดภาษาจีนได้ คนให้ความสนใจ Wechat น้อยมาก

อะไรที่เปลี่ยนไปบ้าง – ด้าน Customer Journey มีตั้งแต่ก่อนมาไทย ต้องค้นคว้าก่อนการมาที่ไทย ต้องรู้ว่าดาต้าจะเอาไปทำอะไร ต้องรู้อะไรบ้าง ดังนั้นเรื่องของ Keywords ที่ทำให้หาเจอคืออะไร คนจีนใช้ ChatGPT เยอะ เปลี่ยนจากการซื้อเป็นการสร้างประสบการณ์ และอีกหนึ่งจุดที่สำคัญคือ Sharing (แต่เป็นวงปิด) เป็น Norm ที่ทำให้เชื่อถือได้ บอกต่อนำไปสู่การเป็น Influencer

KeyTakeaway

  • สื่อจีนยังเป็นศูนย์กลางของความน่าเชื่อถือ (Trust Source)
  • การบริโภค เกิดในไทย แต่จบที่จีน
  • อย่ามองข้าม Google Map
  • คอนเทนต์จีนคือภาษาหลักของการตัดสินใจ

ดาวน์โหลด Report ฉบับเต็ม

ดูย้อนหลัง ‘การตลาดวันละคน Unpacking the behaviors of new gen Chinese students in Thailand เจาะลึก Insight Gen Z นักเรียน นักศึกษาจีนในไทย’ ที่

การสรุปคือการย่อยความรู้เพื่อให้ง่ายต่อผู้อ่าน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *