การตลาดกรุงไทย
Brand

แคมเปญ การตลาดกรุงไทย จับมือ Influencer สายท่องเที่ยว เปลี่ยน TOURIST สู่ TOURICH

กรุงไทยจับมือ Influencer สายท่องเที่ยว เปลี่ยน TOURIST สู่ TOURICH ที่ไม่ใช่แค่คำเล่นคำเก๋ ๆ แต่คือแคมเปญของ Krungthai Travel Debit Card ที่พยายามเปลี่ยนภาพจำนักเดินทางธรรมดา ที่เป็น TOURIST ให้กลายเป็นนักเดินทางยุคใหม่ที่เหนือระดับ ในแบบที่ดูมีคลาสและฉลาดใช้เงิน แบบ TOURICH ครับ มาดูว่า การตลาดกรุงไทย ทำอะไรในแคมเปญนี้

เมื่อบัตรไม่ใช่แค่เครื่องมือใช้จ่าย แต่คือไลฟ์สไตล์ใหม่

ในแคมเปญนี้ ธนาคารกรุงไทย ผสาน Krungthai Travel Debit Card กับบัญชี Global Savings ให้ดอกเบี้ยสูงถึง 2.5% เมื่อแลกเก็บเงินไว้ก่อนเดินทาง ซึ่งแคมเปญนี้ไม่ได้แค่ทำบัตรเดบิตไว้รูดจ่ายต่างประเทศ แต่เค้า Reposition ใหม่ ทั้งภาพจำ ฟีเจอร์ และกลุ่มผู้ใช้งาน ผ่านการจับมือกับ Influencer และ KOL สายท่องเที่ยวกว่า 40 คน อย่าง มายด์ WJmild, ว่านไฉ สาพาไปหลง, พลอย ชิดจันทร์ เป็นต้นครับ

พูดง่าย ๆ คือ นี่ไม่ใช่แค่บัตร แต่เป็นการสร้าง Cultural Shift ในหมู่นักเดินทาง ที่จะไม่ใช่แค่เที่ยวสนุก แต่ต้องเที่ยวแบบมีคลาส + ฉลาดใช้เงินต่างหาก

โดดเด่นด้วย 6 ฟีเจอร์ Features

การตลาดกรุงไทย

1. เรทแลกเงินคุ้ม ครอบคลุม 20 สกุลทั่วโลก

“ไปแลกวันเดินทางจริงทีไร…ไม่เคยได้เรทดีเหมือนในแอปเลย” นี่คือเสียงในใจของนักเดินทางหลาย ๆ คนครับ กรุงไทยจึงหยิบ Insight นี้มาทำจุดแข็ง ด้วยการให้ลูกค้า แลกเงิน 20 สกุลหลัก ผ่านบัตรได้ล่วงหน้า ด้วยเรทที่เทียบชั้นร้านแลกเงิน แถมเอาไปใช้ได้ทั่วโลกใน 210 ประเทศ

พูดง่าย ๆ คือ แค่แลกเงินไว้ในแอปแล้วรูดจ่ายตอนเที่ยว เท่านี้ก็ช่วยจัดการความเสี่ยงค่าเงินแกว่ง แถมวางแผนได้แม่นกว่าถือเงินสดครับ

2. ไม่มีค่าธรรมเนียมแฝง (No FX Fee)

หนึ่งใน Insight ที่ลึกและคนส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวคือหลายคนโดนบวกค่า FX 2.5% โดยไม่รู้ ทุกครั้งที่ใช้บัตรเดบิตหรือเครดิตต่างประเทศ ค่า FX นี้ถูกซ่อนไว้ในการรูดจ่าย ซึ่งพอคิดรวมต่อปีอาจเป็นหลักพันถึงหมื่นบาทครับ

บัตรกรุงไทยใบนี้จึงตัดสินใจชูจุดขายนี้เป็นจุดเด่น พร้อมสื่อสารแบบไม่ซับซ้อน “ใช้เท่าไหร่ จ่ายเท่านั้น ไม่มีบวกเพิ่ม” ทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวที่มีงบจำกัด หรือมีประสบการณ์ไม่ดีจากการโดนเก็บค่าธรรมเนียมแฝงมาก่อน หันมามองบัตรใบนี้เป็นตัวเลือกหลัก

3. Auto FX แลกเงินอัตโนมัติแบบไม่มีสะดุด

นักเดินทางหลายคนเคยเจอปัญหาแลกเงินไว้น้อยเกินไป ทำให้ต้องหาวิธีจ่ายแบบเร่งด่วน ซึ่งเสี่ยงทั้งโดนบัตรเด้ง หรือเจอเรทแพงเฉพาะหน้า

Krungthai Travel Debit Card แก้ปัญหานี้ด้วยฟีเจอร์ Auto FX ที่หากยอดเงินต่างประเทศไม่พอ จะทำการแปลงจากบัญชีเงินบาทให้ทันที โดยยังไม่เสียค่า FX 2.5% และอิงอัตราแลกเปลี่ยนกลางจาก Mastercard

นี่คือจุดขายที่ “เติมความสบายใจ” ให้กับกลุ่มคนที่เดินทางแบบเปลี่ยนแผนบ่อย หรือเจอสถานการณ์คาดไม่ถึง เช่น ต้องรูดจ่ายกะทันหันในประเทศที่ไม่ได้เตรียมไว้

การตลาดกรุงไทย

4. จัดหนัก Cashback สูงสุด 10,000 บาท/ปี + สิทธิพิเศษทั่วโลกง

คำว่า “คุ้ม” สำหรับคนเที่ยว ไม่ได้แปลว่าถูกอย่างเดียวครับ แต่มันแปลว่าได้มากกว่าในราคาที่จ่าย Krungthai Travel Debit Card ให้ Cashback สูงสุดถึง 10,000 บาทต่อปี แถมยังได้สิทธิพิเศษระดับเวิลด์คลาสจาก MasterCard Travel Reward เช่น

  • เงินคืนจาก Duty Free
  • ส่วนลดโรงแรม 5 ดาว
  • Airport Lounge + Limousine สูงสุด 50%

จ่ายเท่าเดิม แต่สิ่งที่ได้เพิ่มคือประสบการณ์ที่ต่างจากเดิม

5. พิเศษก้าวเพิ่มไปอีกขั้น กับโปรใหม่สุดคุ้ม

Krungthai ไม่หยุดแค่การให้ฟีเจอร์ดี ๆ แต่ยังมี โปรโมชั่นเสริมสำหรับนักเดินทางสายรูดจ่าย

  • Premium Card รับเครดิตคืนเพิ่มจาก 5,000 เป็น 10,000 บาท
  • Platinum Card รับคืนเพิ่มจาก 1,000 เป็น 2,000 บาท
  • On Top Cashback 500 บาท
     แค่ใช้จ่ายกับ Agoda / Booking / Trip / Gother ครบ 15,000 บาท/เดือน
    (จำกัด 500 สิทธิ์/เดือน)

6. เพิ่มโอกาสเงินงอกเงย ต่อยอดความมั่งคั่ง

นี่คือฟีเจอร์ที่นักเดินทางสายลงทุนต้องสะดุด เพราะนอกจากใช้จ่ายได้ดี บัตรนี้ยังให้เราได้ฝากเงินสกุลต่างประเทศ พร้อมรับดอกเบี้ยสูงสุด 2.5% ต่อปี โดยมีให้เลือกเก็บ 6 สกุลยอดฮิต USD, GBP, NZD, AUD, EUR และ CNY ไม่ว่าคุณจะแลกไว้เที่ยว แลกไว้รอเรทดี หรือใช้เป็นเงินสำรองในพอร์ต บัตรนี้ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการลงทุนข้ามพรมแดนได้เลย

สรุปแคมเปญ การตลาดกรุงไทย จับมืออินฟลูฯสายท่องเที่ยว เปลี่ยน TOURIST สู่ TOURICH

(ขอบคุณภาพจาก Shutterstock AI Generator Prompt :a premium debit card floating above six currency symbols: usd, gbp, nzd, aud, eur, and cny. each currency icon is glowing and placed on shiny golden coins. the background is a soft gradient with abstract world map outlines, giving a global and financial growth feel. a futuristic, trustworthy, and elegant vibe)

Krungthai Travel Debit Card เปลี่ยนฟีเจอร์ธรรมดาให้กลายเป็นจุดเริ่มต้นของแนวคิดใหม่ ว่าการเป็นนักเดินทางที่ “รวย” ไม่ได้แปลว่าใช้เงินเยอะที่สุด แต่คือใช้เงินฉลาดที่สุด และได้รับผลตอบแทนสูงสุด กรุงไทยไม่ได้แค่ขายบัตร แต่ขาย Identity ใหม่ของนักเดินทาง ที่เข้าใจเรื่องเงิน สนุกกับการใช้จ่าย และพร้อมเติบโตทางการเงินแม้อยู่ต่างแดน จาก TOURIST สู่ TOURICH จากผู้ใช้บัตรธรรมดา สู่นักวางแผนเดินทางมืออาชีพ และนี่แหละครับ คือแคมเปญที่ไม่ได้เปลี่ยนแค่บัตร แต่เปลี่ยนวิธีคิดของนักเดินทางได้อย่างเฉียบคม

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

ชื่อเติ้ลครับ เป็น Senior Data Insight Researcher & Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอนครับ ^^ มีงานอดิเรกเป็น ผู้ช่วยนักวิจัยฝั่ง Consumer Insights ที่คณะวิทยาศาตร์การกีฬา ที่จุฬาครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

บทความที่เกี่ยวข้อง

ถอดรหัส Seamless Experience จากงาน LINE FOOD TECH 2025 สูตร (ไม่) ลับสู่ความสำเร็จในธุรกิจอาหาร 2026

FacebookFacebookXXLINELineผมว่าคนทำธุรกิจ F&B ตอนนี้น่าจะรู้สึกเหมือนกันนะครับว่าตลาดมันแข่งขันกันดุเดือดมาก ๆ ในอดีตจนถึงตอนนี้ ‘รสชาติ’ หรือ ‘ราคา’ อาจเป็นไม้ตายของหลายร้าน แต่ตอนนี้สิ่งเหล่านั้นมันกลายเป็นแค่ ‘มาตรฐาน’ ที่ทุกร้านต้องมีไปแล้ว คำถามคือ แล้วอะไรคือ ‘กุญแจสำคัญ’ ที่จะสร้างความได้เปรียบในยุคนี้? และหนึ่งในคำตอบนั้นก็คือ Seamless Experience นั่นเองครับ ซึ่งแนวคิดเองก็ถูกหยิบยกมาเจาะลึกกันในเวทีสัมมนา “LINE FOOD TECH 2025″ ที่เพิ่งจัดไป ซึ่งแสดงให้เห็นเลยว่าเทรนด์นี้กำลังเป็นโจทย์ใหญ่ที่ทุกแบรนด์ต้องหันมาโฟกัสกันมากขึ้นครับ ถอดรหัส Seamless Experience มันคืออะไรกันแน่? Seamless Experience  คือกลยุทธ์ในการเชื่อมต่อ Touchpoint ของลูกค้าให้สอดคล้อง ราบรื่น และไร้รอยสะดุด ลองมาดู 2 ตัวอย่างเพื่อให้เห็นภาพชัดขึ้นครับ เห็นถึงความแตกต่างไหมครับ? ถ้าร้านอาหารหรือแบรนด์ไหนยังคงเกิดสถาณการณ์คล้าย ๆ กับแบบแรก บอกเลยว่าคุณกำลังจะตกขบวนครับ เพราะว่าแบรนด์ F&B เพราะหลายแบรนด์ในตอนนี้กำลังสร้างสถาณการณ์ในแบบที่ 2  กันมากขึ้นครับ ซึ่งข้อมุลที่ยืนยันเรื่องนี้ก็มาจากทาง LINE ที่บอกว่าอัตราการส่งข้อความจากธุรกิจกลุ่มนี้ผ่าน LINE […]

Sundew
Read more

Minor Lifestyle x Sunnies กลยุทธ์ Multi-Brand Lifestyle Hub ที่ไปไกลกว่าแค่ Retail Store

FacebookFacebookXXLINELineสังเกตุไหมคะว่าธุรกิจ Retail Store ไทยกำลังปรับตัวครั้งใหญ่ การที่เปิดร้านรูปแบบใหม่จึงไม่ใช่แค่การขายสินค้าอีกต่อไปแล้วค่ะ แต่คือการสร้างพื้นที่ที่ผู้คนอยากเข้ามาใช้เวลาและมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากกว่า Minor Lifestyle กลุ่มธุรกิจค้าปลีกภายใต้เครือ Minor International เพิ่งประกาศความร่วมมือครั้งสำคัญกับ Sunnies แบรนด์ไลฟ์สไตล์จากฟิลิปปินส์ที่กำลังมาแรงที่สุดในเอเชียค่ะ เปิดตัว Sunnies World แฟล็กชิพสโตร์รูปแบบ Multi-Brand Lifestyle Store แห่งแรกในประเทศไทย ณ Central Park ใจกลางกรุงเทพฯ นี่ไม่ใช่แค่การนำแบรนด์ต่างชาติเข้ามาเปิดสาขาในไทยธรรมดานะคะ แต่เป็น Strategic Partnership ที่สะท้อนถึงวิวัฒนาการของ Retail Business Model ในยุคที่ผู้บริโภค Gen Z และ Millennials ต้องการมากกว่าแค่ที่ซื้อของแต่ต้องการ Experience และ Community จะมีอะไรบ้างไปชมกันค่ะ ทำไม Minor ถึงเลือก Sunnies  สงสัยกันใช่ไหมคะว่าทำไม Minor Lifestyle ที่มีแบรนด์มากมายอยู่แล้ว (Anello, Charles & […]

Tidaporn Benchakoranee
Read more

การตลาด LINE MAN ทำ Contextual Marketing อัดโปรใหญ่รับคนละครึ่งพลัส ดึงหนุ่ม กรรชัย นั่งพรีเซนเตอร์

FacebookFacebookXXLINELineบทความนี้พามาดู การตลาด LINE MAN ในช่วงที่รัฐบาลประกาศนโยบายคนละครึ่งพลัสกันครับ โดย LINE MAN เลือกจะเข้าไปมีบทบาทที่มากกว่าการเป็นแพลตฟอร์ม Food delivery ผ่านกลยุทธ์ Contextual Marketing ระดับประเทศ ที่ผสานระหว่างนโยบายรัฐ กับความสามารถของแพลตฟอร์ม พร้อมอัดโปรช่วยร้านเล็กทั่วประเทศ นอกจากนั้นยังดึงพี่หนุ่ม กรรชัยมานั่งพรีเซนเตอร์เพื่อสร้างพลังความน่าเชื่อถือและความแมสในเวลาเดียวกันครับ อ่านรายละเอียดในบทความนี้ได้เลยครับ LINE MAN ทำ Contextual Marketing ในแคมเปญคนละครึ่งพลัส ในช่วงที่เศรษฐกิจไทยกำลังอยู่ในจุดหัวเลี้ยวหัวต่อ รัฐบาลก็ประกาศนโยบาย “คนละครึ่งพลัส” เพื่อกระตุ้นกำลังซื้อทั่วประเทศอีกครั้งครับ ซึ่งนั่นกลายเป็นจังหวะทอง สำหรับธุรกิจที่สามารถเข้าไปอยู่ในเงื่อนไขของนโยบายได้ และหนึ่งในนั้นคือ LINE MAN ครับ LINE MAN มองนโยบายคนละครึ่งพลัสว่าเป็นโอกาสของแบรนด์ที่สามารถแสดงบทบาทได้มากกว่าแพลตฟอร์มส่งอาหาร เพราะหัวใจของโครงการคนละครึ่ง คือการกระจายรายได้สู่เศรษฐกิจฐานราก ซึ่งสอดคล้องพอดีกับสิ่งที่ LINE MAN ยืนหยัดมาตลอด โดยที่ผ่านมามีร้านอาหารเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งกับแพลตฟอร์ม Food delivery เกือบ 100,000 ร้าน โดยกว่า 60–70% เลือกใช้ […]

Tlee Krit
Read more