“จังหวัดกาฬสินธุ์” เมืองที่มีมากกว่าไดโนเสาร์ ที่นี่คือดินแดนแห่งอู่อารยธรรมอีสานโบราณอย่าง “เมืองฟ้าแดดสงยาง” เป็นแหล่งกำเนิดเสียง “โปงลาง” และเป็นแหล่ง “ผ้าไหมแพรวา” ราชินีแห่งไหมไทย จังหวัดที่หลายคนอาจจะคุ้นเคยแต่ชื่อ แต่ซ่อนเร้นไว้ด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ต่าง ๆ ธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ และวัฒนธรรมภูไทที่มีเสน่ห์ ด้วย Data Research Insight กาฬสินธุ์ ซึ่งรีพอร์ตเจาะลึกการท่องเที่ยวเล่มนี้เป็นส่วนหนึ่งของโปรเจกต์ Data 76 จังหวัดทั่วไทย เพื่อวิเคราะห์ดูว่าคนไทยพูดถึง จ.กาฬสินธุ์ บนโซเชียลอย่างไรบ้าง
เรามาดูกันว่าคนพูดถึงจังหวัดนี้ยังไง มาทำอะไร กินอะไร เดินทางมาแบบใด ชอบเที่ยวแบบไหน พักผ่อนกันยังไง มากับใคร พักกี่วัน ของดีประจำจังหวัดมีอะไรบ้าง ในบทความนี้เราหา Insight มาฝากกันอย่างจัดหนักจัดเต็มครับ
ในบทความนี้เราจะพามาดูทั้งขั้นตอนกระบวนการทำ 8 ขั้นตอน และ Insight ที่เจอมาแบ่งปันทุก ๆ คนกันครับ
Research Keywords
Set Campaign Collecting Data
Cleansing Data
Conversation Analysis
Categorized Data
Visualization
Insights Summary
Data-Driven Decision
STEP 1-2 Research Keyword, Collecting Data
มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรก Research Keyword โดยตัว Keyword ที่เลือกใช้มีดังนี้ครับ
ตัว Keyword ที่ใช้คือ “กาฬสินธุ์” และ “กาสิน” โดยมีระยะเวลาดึงข้อมูลย้อนหลัง 01 January 2025 – 30 September 2025 รวมทั้งสิ้น 9 เดือน ย้อนหลังกับข้อมูลจํานวน 45,532 Mentions
หลังจากเซตตัว Keyword เสร็จเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปก็คือ การ Collecting Data โดยระบบได้กวาดข้อมูลมาให้เราได้ทั้งหมดจํานวน 45,532 mentions ซึ่งจํานวนนี้ถือว่าเพียงพอต่อการนำไปใช้วิเคราะห์ในเบื้องต้นได้แล้วครับ
STEP 3 Cleansing Data
ก่อนที่จะได้ Insight มานั้น ต้องขอบอกว่าข้อมูลที่เราดึงมา 45,532 Mentions มันไม่ได้มีข้อมูลที่เราจะใช้ได้ทั้งหมด 100% ครับ เพราะฉะนั้นเราจะต้องมา Cleansing data ซะก่อน โดยการ Cleansing data ของแต่ละคนก็มีความแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของแต่ละคนครับ
ยกตัวอย่างเช่น โพสต์จากเพจ FIGHTCLUB THAILAND ที่เราเห็นในภาพครับ ในโพสต์นี้มีการพูดถึง “กาฬสินธุ์” ก็จริง แต่บริบทของข้อความเป็นการพูดถึงเหตุการณ์ทะเลาะวิวาท ซึ่งไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องกับหัวข้อการท่องเที่ยวที่เราต้องการวิเคราะห์ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเราถึงต้องคัดกรองข้อมูล (Exclude) ที่ไม่เกี่ยวข้องเหล่านี้ออกไปก่อนนั่นเองครับ
โดยวิธีการลบข้อมูลที่เราไม่ต้องการออกก็สามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้ 1. กดที่ปุ่ม Exclude 2. กดลบที่ปุ่มถังขยะ หรือ 3. เลือกคีย์เวิร์ดที่จะ Exclude ในข้อความโดยการคลุมดำคำนั้นได้เลย สามารถเลือกใช้วิธีไหนก็ได้ตามความถนัดเลยครับ
สามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคลีนดาต้าอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพมากที่สุดมา วิเคราะห์ Trend & Insight ได้ที่บทความนี้ครับ > https://everydaymarketing.co/trend-insight/top10-influencers-investment-money-2023-on-tiktok/
STEP 4 Conversation Analysis
อย่างที่เห็นใน STEP 3 ในระหว่างที่ Cleansing Data เราก็จะได้อ่าน Social Data ที่ไหลเข้ามาจาก Keyword จนสามารถทำให้เหลือเฉพาะโพสต์ที่เราต้องการ ต่อมาก็เข้าสู่การอ่านและวิเคราะห์ข้อมูลต่อ เพื่อหาการพูดถึง จ.กาฬสินธุ์
คัด Insight ที่จะเป็นประโยชน์กับผู้ประกอบการชุมชน ธุรกิจท่องเที่ยว และบุคคลทั่วไปทุกคนที่สนใจใน จ.กาฬสินธุ์ เพื่อสามารถนำข้อมูลไปใช้ต่อ โดยการอ่านข้อมูล เรามักจะเริ่มจากฟีเจอร์พื้นฐานในหน้า Dashboard แรก ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม Top post เพื่อรู้ภาพรวมข้อมูลที่ได้รับความนิยมครับ
Overview Social Data Stat
เรามาดูส่วนแรกในเรื่องของการพูดถึงจังหวัดกาฬสินธุ์บนแพลตฟอร์ม Social Media ทั้งในมิติของ Mention และ Engagement กันก่อนเลยครับ เพื่อให้เราได้เห็นภาพกว้างมากขึ้นว่าแพลตฟอร์มไหนที่ธุรกิจใช้ทำการตลาด หรือคนไทยใช้โพสต์ถึง ไปจนมีส่วนร่วมกับประเด็นต่าง ๆ ที่มีความเกี่ยวข้องกับจังหวัด ‘กาฬสินธุ์’ ครับ
จะเห็นว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มีการใช้พูดถึง จ.กาฬสินธุ์ มากที่สุดถึง 82% รองลงมาคือ Facebook 14%, Instagram 3%, YouTube 1% และ Twitter (X) <1% ตามลำดับ และในส่วนของ Engagement ช่องทาง TikTok ก็ยังคงมาเป็นอันดับหนึ่งที่ 82% รองลงมาคือ Facebook 15%, Instagram 2%, YouTube 1% และ Twitter (X) <1% ตามลำดับ
นอกจากนี้เพื่อให้เราเห็น Engagement ที่ชัดเจนมากขึ้น เมื่อเราตัด View ของทั้งจาก TikTok และ YouTube ออกไป จะพบว่า TikTok ก็ยังคงเป็นช่องทางที่นิยมมากที่สุดถึง 84% รองลงมาคือ Facebook 15%, Instagram 2%, YouTube 1% และ Twitter (X) <1% ตามลำดับ
ถ้ามองในภาพรวมก็จะพบว่า 3 อันดับแรกของแพลตฟอร์ม Social Media ที่มี Mention และ Engagement ที่ใช้ในการสื่อสารคือ TikTok, Facebook และ Instagram แสดงให้เห็นถึงโอกาสสำหรับการทำธุรกิจ ในการเลือกใช้ช่องทางการสื่อสารเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะเหล่าผู้ประกอบการที่ไม่ควรจะละเลยในการเลือกใช้ช่องทางเหล่านี้ และปล่อยให้โอกาสของธุรกิจหลุดมือไป
ในขณะเดียวกัน YouTube ที่มีสัดส่วนเพียง 1% ทั้งในแง่ของ Mention และ Engagement ก็ถือเป็น โอกาสที่น่าสนใจ ครับ ข้อมูลนี้สะท้อนว่าตลาดยังมีคู่แข่งน้อยมาก คนยังใช้ช่องทางนี้ในการสื่อสารเกี่ยวกับกาฬสินธุ์น้อย ผู้ประกอบการหรือ Content Creator ที่สามารถผลิตคอนเทนต์วิดีโอยาว (Long-form content) ที่มีคุณภาพเพื่อเจาะกลุ่มคนที่ค้นหาข้อมูลท่องเที่ยวแบบละเอียดบน YouTube ก็มีโอกาสที่จะโดดเด่นและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เหมือนกัน
อย่างไรก็ตาม ทางผู้เขียนมองว่า ผู้ประกอบการโดยเฉพาะผู้ที่พึ่งเริ่มทำธุรกิจควรใช้ TikTok เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย เพราะด้วยเทรนด์ Short-Video Content ที่เป็น Format ยอดนิยมในยุคนี้จึงเหมาะสมในการสื่อสารกับผู้บริโภค และข้อมูลก็ชี้ชัดว่าคนพูดถึงและมีส่วนร่วมกับกาฬสินธุ์บนแพลตฟอร์มนี้สูงที่สุดครับ
และในส่วนของทางด้าน Timeline Social Data Stat เราจะแยกกันทั้งหมด 3 ส่วนด้วยกัน ดังนี้
By Mention จะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลา 9 เดือนของปี คนพูดถึง จ.กาฬสินธุ์ ในสัดส่วนที่แตกต่างกัน โดยจะมีการ Mention ถึงมากในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ 2568 เนื่องจากกระแสการท่องเที่ยวงานประเพณีใหญ่ประจำปี “มาฆปูรณมีบูชา” ที่พระธาตุยาคู และอีกช่วงในเดือนพฤษภาคม 2568 ที่คนพูดถึงเทศกาล “บั้งไฟตะไลล้าน” กันเป็นจำนวนมาก
By Youtube Video เมื่อเรามาดูในช่องทาง YouTube ซึ่งเป็นช่องทางที่ได้รับ Engagement (แม้จะน้อย) โดยส่วนใหญ่จะเป็นคลิปรีวิว/แชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวกันเป็นส่วนมากครับ ตัวอย่างเช่น คลิป “One day Trip คนเดียว ที่ จ.กาฬสินธุ์”
By Engagement ignore YouTube view เนื่องจาก TikTok และ YouTube มีการนับรวมยอดวิวเข้าไปด้วย ผู้เขียนจึงเอาช่องทางนี้ออกเพื่อให้เห็นภาพรวมของช่องทางอื่น ๆ จะเห็นว่า TikTok ก็ยังคงเป็นช่องทางที่โดดเด่นที่สุด และคอนเทนต์ที่ได้รับความสนใจก็มีความหลากหลาย เช่น การไป “กินอาหารอีสานแท้ๆ” หรือการเที่ยวชมงาน “ขบวนแห่บุญบั้งไฟบ้านโพน”
นอกจากนี้ เมื่อเราดูเทรนด์จาก Social Data by Hashtag และ Social Data by Word ก็ทำให้เห็นภาพรวมที่ชัดเจนมากครับว่าคนกำลังพูดถึงอะไร
อันดับ 1 แน่นอนคือ #กาฬสินธุ์ และ #จ.กาฬสินธุ์ แต่ที่น่าสนใจคือคำที่รองลงมาครับ เราจะเห็นคำที่เกี่ยวกับเทศกาลสำคัญอย่าง #บั้งไฟตะไลล้าน , #บุญบั้งไฟบ้านโพน และสถานที่ศักดิ์สิทธิ์อย่าง #พระธาตุยาคู ที่โดดเด่นขึ้นมามาก และที่สำคัญ เรายังเห็นการค้นหาหรือพูดถึง #ที่เที่ยวกาฬสินธุ์ รวมถึง #คาเฟ่กาฬสินธุ์ และ #ร้านอาหารกาฬสินธุ์ อย่างชัดเจน
ตรงนี้มี Insight ที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการเลยครับ ถ้าเราเป็นผู้ประกอบการร้านค้า, ร้านอาหาร หรือโดยเฉพาะ “คาเฟ่” เราควรอย่างยิ่งที่จะติด Hashtag ชื่อจังหวัดพ่วงเข้าไปด้วย เช่น #คาเฟ่กาฬสินธุ์ หรือ #ร้านกาแฟกาฬสินธุ์ ไม่ใช่แค่ชื่อร้านของเราอย่างเดียว เพราะข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่านักท่องเที่ยวหรือคนในพื้นที่ใช้คำเหล่านี้ในการ “ค้นหา” หรือติดตามเทรนด์ครับ การทำแบบนี้จะช่วยเพิ่มการมองเห็น (Awareness) ให้กับแบรนด์ของเรา เพื่อที่จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดมากขึ้น
ต่อไปเรามาดูภาพรวมคอนเทนต์ที่ได้รับ Engagement หรือการมีส่วนร่วมสูงสุดในแต่ละแพลตฟอร์มประกอบกันครับ เพื่อให้เข้าใจบริบทภาพรวมของคอนเทนต์ที่คนให้ความสนใจกันมากขึ้น
เรามาเจาะดูภาพรวมคอนเทนต์ที่ได้รับ Engagement หรือการมีส่วนร่วมสูงสุดในแต่ละแพลตฟอร์มประกอบกันครับ เพื่อให้เข้าใจบริบทภาพรวมของคอนเทนต์ที่คนให้ความสนใจกันมากขึ้น
Facebook: เพจ “แดก” โพสต์เกี่ยวกับร้านอาหาร “ขาหมูภูผา“ ในเมืองกาฬสินธุ์
Instagram: khamkoon_gallery โพสต์เกี่ยวกับ “ค้ำคูณแกลเลอรี่” กับการออกแบบเสื้อผ้าสำหรับใส่ในงานบุญบั้งไฟ
X: #รีวิวอีสาน โพสต์รีวิว “Birthday Cafe” คาเฟ่สไตล์โฮมมี่
TikTok: kookkai14699 โพสต์คลิป “ขบวนแห่งานประเพณีบุญบั้งไฟ บ้านโพน”
YouTube: ช่อง Junaround ทำคลิป “Kalasin 1 day trip ครั้งแรกกับเที่ยวเมืองเก่า ไดโนเสาร์”
จากภาพรวมจะเห็นเลยว่า Content ที่แสดงให้เห็นถึง ประสบการณ์ท้องถิ่น หรือ Local Experience จะมี Engagement ค่อนข้างสูงเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เทศกาลและประเพณี อย่างบุญบั้งไฟ, เรื่อง อาหารการกินและคาเฟ่ ไปจนถึง คลิปVlog รีวิวการท่องเที่ยว สะท้อนว่าคนให้ความสนใจกับวัฒนธรรม ของกิน และสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์ของกาฬสินธุ์อย่างมากครับ
STEP 5 Categorize Data
ต่อมาเป็นการจับกลุ่มข้อมูลเพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์ เห็นตัวเลขสัดส่วนชัดเจนครับ ซึ่งโจทย์ที่เราจะน่ามาตั้งเป็นกลุ่มนั้นควรจะตั้งมาจาก Social Data ที่มี ซึ่งเราก็จะได้อ่านข้อมูลจำนวนมากอยู่แล้วตั้งแต่ขั้นตอนการ Clean Data พอจะทำให้ทราบว่ามีข้อมูลไหนบ้าง แล้วจะสามารถจับกลุ่มได้อย่างไร
อีกทางคือโจทย์จากสิ่งที่เราต้องรู้ สิ่งที่จะมีประโยชน์กับธุรกิจมากที่สุด และใช้ฟีเจอร์ Tag บนเครื่องมือ Social Listening เพื่อรวมข้อมูลให้เป็นกลุ่มก้อนครับ
ตัวอย่างเบื้องต้นเกี่ยวกับการติดแท็ก ลองดู ที่นี่ ครับ หรือจะมาอัปเดตเทคนิคกับเครื่องมือเวอร์ชั่นใหม่ ๆ ในคลาสออนไลน์ของเราก็ได้ อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ท้ายบทความครับ
STEP 6 Data Visualization
เมื่อทำขั้นตอนของการจัดหมวดหมู่ Data เสร็จแล้ว ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนที่ 6 คือ การทำ Data Visualization วิธีการทำก็สามารถทำได้หลายทางแล้วแต่ความถนัด เช่น Power Bi, Looker Studio, Excel, Tableau เป็นต้น โดยขั้นตอนนี้จะเป็นการนำข้อมูลทั้งหมดที่เราได้ทำการเตรียม มาทำการแปลงเป็นภาพที่เข้าใจง่ายขึ้นนั่นเองครับ
เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของ Insight ทั้งหมดในบทความนี้ เราจึงแบ่งหัวข้อออกมาเป็น 5 หัวข้อหลักดังนี้ครับ
Travel Insight: สถานที่ที่คนชอบไป เดินทางมาที่ จ.กาฬสินธุ์ ทำไม ชอบทำอะไร แบบไหน
Behavior Insight: พฤติกรรมการมาท่องเที่ยวเป็นอย่างไร ได้แก่ มาเที่ยวกี่วัน มากับใคร
Souvenir: ของดียอดฮิต ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรืออาหารชื่อดังจาก จ.กาฬสินธุ์
Hotel / Resort: มาแล้วพักกันที่ไหน เลือกที่พักแบบไหน
Transportation: วิธีในการเดินทางมาเที่ยวที่ จ.กาฬสินธุ์ ที่พูดถึงเยอะบน Social Media
และยินดีต้อนรับทุกคนสู่เมืองไดโนเสาร์ ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งอู่อารยธรรมอีสานครับ
Travel Insight: “งานเทศกาลและประเพณี” คือแม่เหล็กดึงดูดนักท่องเที่ยวอันดับ 1
มาเริ่มต้นกันที่ภาพรวมใหญ่ ๆ ของการท่องเที่ยวใน จ.กาฬสินธุ์ กันก่อนเลยครับ จากข้อมูลพบว่ากิจกรรมที่คนนิยมทำมากที่สุดเมื่อมาเที่ยวที่นี่ก็คือ การเที่ยวงานเทศกาลและประเพณี ครับ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงที่สุดถึง 49% เรียกว่าเกือบครึ่งหนึ่งของการพูดถึงทั้งหมดเลยทีเดียว
ข้อมูลนี้สะท้อนให้เห็นเลยครับว่าเสน่ห์สำคัญที่สุดของกาฬสินธุ์ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว ก็คือ “Event” หรืองานเทศกาลที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น โดยเฉพาะงานอย่าง “มาฆปูรณมีบูชา” และ “บุญบั้งไฟ” ที่เราเห็นในข้อมูล Timeline ก่อนหน้านี้ครับ
และนอกจากนี้ ก็ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่น่าสนใจรองลงมาครับ ได้แก่
เที่ยววัด 22%
เที่ยวธรรมชาติ 21%
คาเฟ่ และร้านอาหาร 6%
เที่ยวพิพิธภัณฑ์ และสถานที่ทางประวัติศาสตร์ 2%
จะเห็นว่ากิจกรรมสายวัฒนธรรมและสายบุญ (เทศกาล + วัด) รวมกันแล้วมีสัดส่วนสูงถึง 71% เลยครับ ซึ่งในส่วนต่อไป เราจะมาเจาะลึกกันครับว่า การท่องเที่ยวแต่ละรูปแบบจะมี Engagement เป็นอย่างไร และมี Insight อะไรที่น่าสนใจซ่อนอยู่บ้างครับ
จัดอันดับ เทศกาลและประเพณี จ.กาฬสินธุ์ Top 8 by Engagement
อย่างที่ข้อมูลภาพรวมได้บอกไปแล้วนะครับว่า “เทศกาลและประเพณี” คือเสน่ห์อันดับหนึ่งของกาฬสินธุ์ที่ดึงดูดทั้งนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่ ด้วยความที่เป็นเมืองแห่งวัฒนธรรมอีสาน งานส่วนใหญ่จึงเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิต ความเชื่อ และความสนุกสนาน ซึ่งดึงดูดให้คนพูดถึงบนโซเชียลอย่างมากเลยครับ
สำหรับ 8 เทศกาลและประเพณีของกาฬสินธุ์ที่ได้รับ Engagement สูงสุด มีดังนี้ครับ
บุญบั้งไฟบ้านโพน (224,019 Engagement): นี่คืออันดับหนึ่งที่สร้างการมีส่วนร่วมได้สูงที่สุด สะท้อนให้เห็นว่างานประเพณีบุญบั้งไฟที่บ้านโพน อ.กมลาไสย นั้นมีชื่อเสียงและได้รับความสนใจอย่างมาก ไฮไลต์อย่างขบวนแห่ที่สวยงามและความสนุกสนานของงาน ทำให้คนแชร์และพูดถึงกันเยอะมากครับ
มหกรรมโปงลาง แพรวา กาชาด (118,855 Engagement): ตามมาด้วยงานใหญ่ประจำปีที่รวมเอาสุดยอดของดีกาฬสินธุ์ไว้ในงานเดียว ถือเป็นงานที่รวมความบันเทิง การออกร้านค้า และการพักผ่อนหย่อนใจของคนในจังหวัดไว้ด้วยกัน
งานมาฆปูรณมีบูชา (85,989 Engagement): งานประเพณีใหญ่ทางศาสนาที่จัดขึ้น ณ พระธาตุยาคู และยังเต็มไปด้วยความงดงามอลังการของ “ทะเลธุง” (ธง) และพิธีกรรมทางศาสนาที่ศักดิ์สิทธิ์ ทำให้งานนี้กลายเป็นจุดหมายสำคัญที่ดึงดูดคนให้มาสัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ครับ
บุญบั้งไฟตะไลล้าน (68,755 Engagement): อีกหนึ่งงานบุญบั้งไฟที่ติดอันดับเข้ามาครับ แสดงให้เห็นว่าประเพณีบุญบั้งไฟคือ “ของจริง” สำหรับกาฬสินธุ์ โดยงานนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ “บั้งไฟตะไล” (บั้งไฟที่หมุนควงขึ้นบนฟ้า) ซึ่งสร้างความตื่นตาตื่นใจและดึงดูด Engagement ได้สูงมากเช่นกัน
นอกจาก 4 งานหลักนี้แล้ว ยังมีกิจกรรมอื่น ๆ ที่สร้าง Engagement ได้สูงอย่างต่อเนื่องเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น หมอลำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมความบันเทิงที่ขาดไม่ได้, คอนเสิร์ต , ประเพณีแข่งเรือ และ มหกรรมภูไทนานาชาติ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งงานใหญ่ที่นำเสนอวัฒนธรรมชาวผู้ไทอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดครับ
จากข้อมูลนี้จะเห็นได้ชัดเลยนะครับว่า พลังของ “งานบุญบั้งไฟ” นั้นแข็งแกร่งมากสำหรับกาฬสินธุ์ เพราะติดอันดับ Top 10 ถึง 2 งาน (บ้านโพน และ ตะไลล้าน) ซึ่งผู้ประกอบการที่พัก ร้านอาหาร หรือร้านค้า สามารถวางแผนการตลาดเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลที่จะหลั่งไหลเข้ามาในช่วงเทศกาลเหล่านี้ได้เลยครับ
เที่ยววัดสายบุญ จ.กาฬสินธุ์ Top 10 by Engagement
นอกจากเทศกาลที่ยิ่งใหญ่แล้ว กาฬสินธุ์ยังมีวัดวาอารามที่งดงามและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์มากมายครับ จาก Insight พบว่าคนที่มาเที่ยววัดมักจะมาเพื่อขอพรเพื่อความเป็นสิริมงคลในชีวิต และอีกส่วนหนึ่งก็มาเพื่อเข้าร่วมงานประเพณีสำคัญที่จัดขึ้นในวัดนั่นเองครับ
ซึ่ง 10 วัดที่ได้รับ Engagement สูงสุด
พระธาตุยาคู (Engagement: 90,451): อันดับหนึ่งอย่างไม่ต้องสงสัยครับ ที่นี่เป็นทั้งปูชนียสถานที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัด และยังเป็นศูนย์กลางของงานประเพณีใหญ่ “มาฆปูรณมีบูชา” ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวและสายบุญมหาศาลให้มาชมความงามของ “ทะเลธุง” หรือก็คือภาพความงดงามของ “ธุง” (ธงประดับอีสาน) นับพันนับหมื่นผืนที่ถูกนำมาถวายเป็นพุทธบูชาจนเต็มพื้นที่โบราณสถานนั่นเองครับ
วัดป่ามัชฌิมวาส (Engagement: 29,007): วัดป่าที่ร่มรื่นและเป็นที่เคารพศรัทธาอย่างสูง ความงดงามของเจดีย์สีทอง และการเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรม ทำให้คนพูดถึงและแชร์ต่อกันเป็นจำนวนมาก
วัดพุทธนิมิต (Engagement: 19,699): ตั้งอยู่ที่ภูค่าว เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์แกะสลักบนแผ่นผา และยังมีพระมหาธาตุเจดีย์ที่สวยงาม ทำให้เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญที่นักท่องเที่ยวต้องไปเยือนครับ
วัดสว่างหัวนาคำ (Engagement: 15,181): วัดที่มีชื่อเสียงและมีสถาปัตยกรรมที่งดงาม โดยเฉพาะสิม (โบสถ์) ไม้เก่าแก่ ที่สะท้อนศิลปะอีสานพื้นถิ่นได้เป็นอย่างดี
วัดหลวงพ่อสมปรารถนา (Engagement: 12,295): เป็นวัดที่คนนิยมไปขอพรตามชื่อของวัด “สมปรารถนา” องค์พระพุทธรูปมีความงดงามเป็นเอกลักษณ์ ทำให้เป็นที่พูดถึงในกลุ่มสายบุญครับ
นอกจาก 5 วัดหลักนี้แล้ว ยังมีวัดอื่น ๆ ที่ได้รับความสนใจและสร้าง Engagement สูงเช่นกันครับ ได้แก่ วัดภูสิงห์ , วัดป่าภูดานไห , ธรรมอุทยาน , วัดธรรมพิทักษ์ และ วัดป่าเกาะแก้วคงคาราม
เที่ยวแหล่งธรรมชาติ จ.กาฬสินธุ์ Top 10 by Engagement
แม้ว่าเทศาลและวัดจะเป็นแม่เหล็กหลัก แต่สายท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติก็ให้ความสนใจกาฬสินธุ์ไม่น้อยเลยครับ โดยส่วนใหญ่จะเป็นการไปเที่ยวตามอุทยานฯ น้ำตก และเขื่อนต่าง ๆ เพื่อพักผ่อนหย่อนใจและสัมผัสอากาศบริสุทธิ์
ซึ่ง 10 สถานที่ทางธรรมชาติที่ได้รับ Engagement สูงสุด
ภูผาผึ้ง (Engagement: 56,461): สถานที่ท่องเที่ยวน้องใหม่ที่มาแรงที่สุดครับ ที่นี่กลายเป็นจุดหมายของสายแคมป์ปิ้งและสายผจญภัยที่ต้องการไปชมวิวทิวทัศน์และสัมผัสอากาศหนาวบนยอดภู
เขื่อนลำปาว (Engagement: 26,031): แลนด์มาร์กสำคัญคู่จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่นี่เป็นมากกว่าเขื่อนครับ แต่เป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจขนาดใหญ่ของคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะบริเวณ “หาดดอกเกด” ที่คนนิยมไปเล่นน้ำและพักผ่อนริมเขื่อน
น้ำตกผาลี่ (Engagement: 20,591): น้ำตกที่ได้รับความสนใจสูง ด้วยความสวยงามของสายน้ำที่ไหลผ่านโขดหิน กลายเป็นจุดที่คนนิยมไปถ่ายรูปและเล่นน้ำคลายร้อนกันครับ
วนอุทยานน้ำตกตาดสูง (Engagement: 17,012): อีกหนึ่งจุดที่คนนิยมไปพักผ่อนครับ ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่น้ำตก แต่ยังมีจุดชมวิวที่สวยงาม เหมาะแก่การไปสัมผัสธรรมชาติแบบเงียบสงบ
น้ำตกตาดทอง (Engagement: 12,115): เป็นน้ำตกที่คนนิยมไปเล่นน้ำมากครับ สะท้อนให้เห็นว่ากิจกรรมท่องเที่ยวยอดนิยมของสายธรรมชาติในกาฬสินธุ์ คือการไปเล่นน้ำตกเพื่อคลายร้อน
นอกจาก 5 สถานที่หลักนี้แล้ว ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่น ๆ ที่ได้รับความสนใจเช่นกันครับ ได้แก่ น้ำตกผานางคอย , สะพานเทพสุดา (ซึ่งเป็นสะพานข้ามเขื่อนลำปาวที่ยาวที่สุดแห่งหนึ่ง), ผาระแงง และ ผาเสวย และอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจคือ วนอุทยานภูแฝก ครับ ที่นี่คือหนึ่งในสถานที่ที่มีความสำคัญระดับประเทศ เพราะเป็นแหล่งค้นพบ “รอยเท้าไดโนเสาร์” ที่ชัดเจนที่สุดแห่งหนึ่งของไทย
เที่ยวคาเฟ่ จ.กาฬสินธุ์ Top 10 by Engagement
มาถึงคิวของสายคอนเทนต์และสายคาเฟ่กันบ้างครับ จากข้อมูล Insight พบว่าเทรนด์ของคาเฟ่ในกาฬสินธุ์ที่คนให้ความสนใจอย่างมากก็คือ คาเฟ่สวยที่สามารถนั่งชิลล์ และชื่นชมบรรยากาศความเป็นธรรมชาติ ได้ครับ
โดย 10 ร้านที่ได้รับการพูดถึงและมี Engagement สูงสุด มีดังนี้ครับ
บ้านนานาชาติ
สวนทางออร์แกนิค
ไม้ไผ่ลอยน้ำ
สุขปลายนา
ปลายตะวัน
ใจกลางนาคาเฟ่
มาเทอร์สคาเฟ่
มาแวคาเฟ่
สุขสวย
โฮมสุขคาเฟ่
จะเห็นได้ชัดเลยนะครับว่า เทรนด์คาเฟ่ในกาฬสินธุ์ที่ได้รับความนิยมอย่างสูงคือ “คาเฟ่ที่เน้นบรรยากาศ” โดยเฉพาะคาเฟ่ที่ใกล้ชิดธรรมชาติ มีสถาปัตยกรรมสวยงามโดดเด่น และมีมุมถ่ายรูปเยอะ ๆ นั่นเองครับ
ร้านอาหารที่ต้องแวะ จ.กาฬสินธุ์ Top 10 by Engagement
นอกจากคาเฟ่บรรยากาศดีแล้ว มาดูลิสต์ร้านอาหารที่ต้องแวะในกาฬสินธุ์กันบ้างดีกว่าครับ บอกเลยว่าที่นี่มีร้านอาหารหลากหลายสไตล์ให้นักท่องเที่ยวได้ไปลิ้มลองกันจริง ๆ ครับ จากข้อมูลจะเห็นว่าร้านที่ได้รับความสนใจมักจะเป็น ร้านอาหาร Local ที่มีเมนูเด็ดชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ก๋วยเตี๋ยว ส้มตำ หรือร้านหมูกระทะครับ
สำหรับ 10 ร้านอาหารในกาฬสินธุ์ที่ได้รับ Engagement สูงสุด มีดังนี้ครับ
สุขใจแลนด์
เตี๋ยวกิมเชง
สยามส้มตำ ยายสัน
ก๋วยเตี๋ยวปากหมา
ขาหมูภูผา
กอกองก๋วยเตี๋ยวเรือห้อยขา
ก๋วยเตี๋ยวเรือท่านคร
ริมคลองหมูกระทะ
ร้านผัดเผ็ดเจ้าเก่า
ร้านตำปากเปิด
เที่ยวสถานที่ทางประวัติศาสตร์ จ.กาฬสินธุ์ Top 3 by Engagement
มาถึงหมวดสุดท้ายในกลุ่ม Travel Insight กันครับ แม้ว่าจะมีสัดส่วนเพียง 2% แต่ก็เป็นหมวดที่ตอกย้ำตัวตนของกาฬสินธุ์ได้ชัดเจนที่สุดครับ จาก Insight พบว่าคนที่มาเที่ยวในหมวดนี้มีเป้าหมายชัดเจนคือ “ตามรอยไดโนเสาร์ และสถานที่ประวัติศาสตร์ของเมือง” ครับ
สำหรับ 3 สถานที่ทางประวัติศาสตร์ของกาฬสินธุ์ที่ได้รับ Engagement สูงสุด มีดังนี้ครับ
พิพิธภัณฑ์สิรินธร (Engagement: 3,055): นี่คือแลนด์มาร์กสำคัญที่สุดที่ตอกย้ำภาพลักษณ์ “เมืองไดโนเสาร์” ของกาฬสินธุ์ครับ การที่เป็นแหล่งเรียนรู้และจัดแสดงซากไดโนเสาร์ที่สมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของไทย ทำให้ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางหลักที่นักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัว ต้องแวะมาเยี่ยมชมครับ
พิพิธภัณฑ์ของดี (Engagement: 1,007): หรือ “พิพิธภัณฑ์ของดีเมืองกาฬสินธุ์” เป็นสถานที่ที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์และมรดกทางวัฒนธรรมของจังหวัดไว้ ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวที่ต้องการเรียนรู้วิถีชีวิตและความเป็นมาของเมืองกาฬสินธุ์ครับ
ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง (Engagement: 98): สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ที่สะท้อนประวัติศาสตร์ความเป็นมาของตัวเมืองกาฬสินธุ์ เป็นจุดที่ทั้งคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยวแวะเวียนไปสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลครับ
จะเห็นได้ว่าแม้ในหมวดนี้จะมี Engagement ไม่สูงเท่าหมวดอื่น แต่ก็มีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างเอกลักษณ์ (Identity) ให้กับการท่องเที่ยวของจังหวัดครับ
Behavioral Insight: คนนิยมเที่ยวแบบ “One Day Trip”
เรื่องของระยะเวลาในการท่องเที่ยว จาก Insight พบว่าพฤติกรรมการเที่ยวในกาฬสินธุ์ค่อนข้างชัดเจนเลยครับว่าเป็นทริปแบบ “ระยะสั้นมาก ๆ”
เที่ยวแบบ 1 วัน (82%): นี่คือกลุ่มใหญ่ที่สุดอครับ สะท้อนให้เห็นว่ากาฬสินธุ์เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับ “One Day Trip” จริง ๆ ซึ่งอาจจะมาจากนักท่องเที่ยวในจังหวัดใกล้เคียง ที่สามารถเดินทางไปกลับได้อย่างสะดวก
เที่ยวแบบ 2 วัน 1 คืน (18%): เป็นกลุ่มที่เล็กกว่ามาก เป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการใช้เวลาพักผ่อนและสัมผัสบรรยากาศของกาฬสินธุ์อย่างเต็มที่ ส่วนใหญ่มักจะเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องใช้เวลาทำกิจกรรม เช่น การไปตั้งแคมป์ หรือเที่ยวอุทยานแห่งชาติครับ
ดังนั้นผู้ประกอบการในกาฬสินธุ์ควรวางกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ “นักท่องเที่ยวระยะสั้น (One Day Trip)” เป็นหลัก โดยกลุ่มร้านอาหารและคาเฟ่จะได้รับประโยชน์โดยตรงอย่างมาก ในขณะที่ธุรกิจที่พัก (ซึ่งมีสัดส่วนน้อย) ก็ควรมุ่งสร้างประสบการณ์ที่น่าสนใจในช่วงเย็นหรือค่ำ เพื่อเป็นเหตุผลจูงใจให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ตัดสินใจพักค้างคืนและใช้เวลาในจังหวัดนานขึ้นครับ
VIDEO
Behavioral Insight: เที่ยวกาฬสินธุ์ ‘มากับครอบครัว’ มากที่สุด
มาถึง Insight ด้านพฤติกรรม ที่น่าสนใจกันบ้างครับ รู้ไหมครับว่ากลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของกาฬสินธุ์คือกลุ่มไหน? จากข้อมูลพบว่า ‘กลุ่มครอบครัว’ คือกลุ่มที่ใหญ่ที่สุดครับ โดยมีสัดส่วนสูงถึง 39% ตามมาด้วย ‘คนเดียว’ ที่ 23% , ‘เพื่อน’ 22% และ ‘แฟน’ 16%
ข้อมูลนี้สะท้อนภาพลักษณ์ของกาฬสินธุ์ได้ดีเลยครับว่าเป็น “เมืองท่องเที่ยวสำหรับครอบครัว” อย่างแท้จริง เรามาดูพฤติกรรมของแต่ละกลุ่มกันครับ
มากับครอบครัว (39%): กลุ่มนี้คือกลุ่มใหญ่ที่สุด กิจกรรมหลัก ๆ ก็คือการพาครอบครัว ทั้งพ่อ แม่ ลูก หลาน มาเที่ยวพักผ่อน โดยเน้นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งสอดคล้องกับสถานที่ท่องเที่ยวหลักของจังหวัดอย่าง การไปไหว้พระตามวัด หรือ การไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์ (อย่างพิพิธภัณฑ์สิรินธร) ครับ
เที่ยวคนเดียว (23%): เป็นกลุ่มที่ใหญ่รองลงมา ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะมีแนวโน้มเดินทางมาเพื่อพักผ่อนแบบชิล ๆ ใช้เวลาอยู่กับตัวเองตามคาเฟ่ หรือเที่ยวชมธรรมชาติครับ
มากับเพื่อน (22%): เป็นกลุ่มที่เน้นกิจกรรมหลากหลายครับ ทั้งไปเที่ยวชิล ๆ และทำกิจกรรมต่าง ๆ ร่วมกัน เช่น การไปลุยงานเทศกาล หรือตระเวนกินของอร่อย
มากับแฟน (16%): กลุ่มนี้มักจะมีกิจกรรมเป็นการพาแฟนไปเที่ยวตามสถานที่สวย ๆ โดยในข้อมูลระบุว่าเน้น การไหว้พระตามวัด หรือไปนั่งเล่นตามคาเฟ่ บรรยากาศดีครับ
VIDEO
Insight ที่พัก: ‘รีสอร์ท’ มาแรงอันดับ 1 ตอบโจทย์สายเที่ยวใกล้แหล่งท่องเที่ยว
มาดูกันที่เรื่องรูปแบบที่พักกันบ้างครับ ซึ่งภาพรวมตรงนี้สะท้อนพฤติกรรมการท่องเที่ยวได้ชัดเจนมาก ๆ เลยครับ โดยการพักแบบ ‘รีสอร์ท’ ได้รับความนิยมนำมาเป็นอันดับหนึ่งถึง 57% ครับ รองลงมาคือ ‘โรงแรม’ และ ‘โฮมสเตย์’ ที่สัดส่วนเท่ากัน 22%
รีสอร์ท (57%): เป็นตัวเลือกหลักครับ จาก Insight ในภาพระบุว่าเหตุผลที่คนเลือกพักเพราะ ส่วนใหญ่มักจะตั้งอยู่ใกล้สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ ๆ ทำให้นักท่องเที่ยวสะดวกในการเดินทางไปตามจุดต่าง ๆ
โรงแรม (22%): เป็นตัวเลือกสำหรับนักท่องเที่ยวที่เน้นความสะดวกสบายในตัวเมืองเป็นหลักครับ
โฮมสเตย์ (22%): ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มที่ต้องการสัมผัสวิถีชีวิตและวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดครับ
จากข้อมูลนี้ ผมมองว่าผู้ประกอบการที่พักควรวางตำแหน่งตัวเองให้ชัดเจนครับ ธุรกิจรีสอร์ทสามารถชูจุดขายเรื่อง “ความใกล้ชิดแหล่งท่องเที่ยว” ได้เลย ในขณะที่ธุรกิจโรงแรมก็ควรเน้นจุดขายด้านความสะดวกสบายใจกลางเมือง หรือการสร้างจุดเด่นเฉพาะตัว (Niche) ให้ชัดเจนเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวในกลุ่มเป้าหมายของตัวเองครับ
Transportation Insight: เดินทางมากาฬสินธุ์ด้วย ‘รถยนต์’ สะดวกที่สุด ตามมาด้วย ‘มอเตอร์ไซค์’
เรื่องวิธีการเดินทางมายังจังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งข้อมูลตรงนี้เผยให้เห็นเลยครับว่า ‘รถยนต์’ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมสูงสุดถึง 58% ตามมาด้วย ‘มอเตอร์ไซค์’ ที่ 39% และ ‘รถไฟ’ เพียง 3% ครับ
รถยนต์ (58%): นี่คือวิธีการเดินทางหลักเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ส่วนตัวหรือรถเช่า ซึ่งเน้นความสะดวกสบายและมีความยืดหยุ่นในการวางแผนเที่ยวได้ดีที่สุด โดยเฉพาะกับการท่องเที่ยวแบบ One Day Trip ซึ่งเป็นกลุ่มใหญ่อยู่แล้ว
มอเตอร์ไซค์ (39%): เป็นสัดส่วนที่สูงมากและน่าสนใจครับ โดย Insight จากในภาพระบุว่า มักจะเป็นการขับรถท่องเที่ยวแบบทัวร์ริ่งที่ขับผ่านหลายจังหวัดครับ
รถไฟ (3%): มีสัดส่วนที่น้อยมากครับ และมักจะเป็นการเดินทางเพื่อมาต่อรถจากที่อื่น ๆ อีกทีครับ
จากข้อมูลทั้งหมดนี้ ผมมองว่ามันตอกย้ำเลยครับว่านักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุด (รถยนต์และมอเตอร์ไซค์รวมกันถึง 97%) เดินทางด้วยยานพาหนะส่วนตัว และให้ความสำคัญกับ “ความสะดวกและความเป็นอิสระ” ในการเดินทางอย่างยิ่ง ดังนั้น ผู้ประกอบการร้านอาหาร คาเฟ่ และแหล่งท่องเที่ยว จึงจำเป็นต้องมีพื้นที่จอดรถที่เพียงพอและสะดวกสบายเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ครับ
Souvenir Insight: ‘ผ้าไหมแพรวา’ คือของดีที่ถูกพูดถึงมากที่สุด
ปิดท้ายกันด้วย Insight “ของดี” ซึ่งถ้าพูดถึงกาฬสินธุ์แล้ว ‘ผ้าไหมแพรวา’ คือของดีที่โดดเด่นที่สุดเลยครับ โดยมีสัดส่วนการพูดถึงสูงถึง 70%
ผ้าไหมแพรวา (70%): เป็นภูมิปัญญาอันเป็นเอกลักษณ์ของกาฬสินธุ์เลยครับ ที่ได้รับสมญานามว่า “ราชินีแห่งไหมไทย” (ซึ่งเราได้เห็นในชื่องานเทศกาล มาแล้ว) สะท้อนถึงความหรูหรา มีมูลค่าสูง และเป็นของฝากล้ำค่าที่นักท่องเที่ยวต้องนึกถึงเป็นอันดับแรก
ผ้าฝ้ายทอมือ (21%): ตามมาเป็นอันดับสองครับ ซึ่งเป็นผ้าทอที่มีเอกลักษณ์เฉพาะถิ่น และเป็นที่นิยมในวงกว้างสำหรับนักท่องเที่ยวที่มองหาของฝากที่ใช้งานได้จริง
พุทรานม (5%): ในหมวดของกิน “พุทรานม” หรือพุทรานมสดจากสวน ก็เป็นที่พูดถึงมากครับ
ข้าวเหนียวเขาวง (3%): อีกหนึ่งของดีขึ้นชื่อที่คนมักซื้อกลับไป
ไวน์ผลไม้ (1%): และยังมีไวน์ผลไม้พื้นเมืองที่ติดเข้ามาด้วยครับ
จากข้อมูลจะเห็นได้ชัดเจนเลยครับว่า ของฝากประเภท “ผ้าทอ” (ทั้งผ้าไหมแพรวาและผ้าฝ้ายทอมือ) คือตัวตนที่แท้จริงของกาฬสินธุ์ในสายตานักท่องเที่ยว โดยมีสัดส่วนรวมกันสูงถึง 91% ในขณะที่ของกินอย่างพุทรานมและข้าวเหนียวเขาวงก็เป็นของดีที่คนรู้จักและนิยมซื้อฝากเช่นกันครับ
คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการและการพัฒนาการท่องเที่ยว จาก Data Research Insight กาฬสินธุ์
จาก Insight ที่ได้ ผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถนำไปต่อยอดได้ดังนี้ครับ
สำหรับผู้ประกอบการ:
เน้นการตลาดบน TikTok อย่างเร่งด่วน: นี่คือช่องทางหลักอันดับ 1 ผู้ประกอบการควรใช้โอกาสนี้ในการสร้างคอนเทนต์วิดีโอสั้นที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวคาเฟ่ ร้านอาหาร หรือบรรยากาศในรีสอร์ท เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่ม One Day Trip
ใช้ Hashtag ท้องถิ่นให้เป็นประโยชน์: ข้อมูลชี้ว่าคน “ค้นหา” ด้วยคำเหล่านี้ ร้านค้า คาเฟ่ และร้านอาหาร ควรติด Hashtag เช่น #คาเฟ่กาฬสินธุ์ , #ร้านอาหารกาฬสินธุ์ , #ที่เที่ยวกาฬสินธุ์ ควบคู่ไปกับชื่อร้าน เพื่อเพิ่มการมองเห็น
เจาะกลุ่ม “One Day Trip” และ “ครอบครัว”: ร้านอาหารและคาเฟ่จะได้เปรียบที่สุด ควรมุ่งเน้นการให้บริการที่รวดเร็ว สะดวกสบาย และมีจุดขายที่ตอบโจทย์ครอบครัว (เช่น มีเมนูสำหรับเด็ก หรือมีมุมให้ครอบครัวพักผ่อน)
พัฒนาบริการรองรับรถยนต์ส่วนตัว: เนื่องจากนักท่องเที่ยว 97% ขับรถมาเอง การจัดเตรียม พื้นที่จอดรถที่เพียงพอ สะดวก และปลอดภัย จึงเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับทุกธุรกิจบริการครับ
สร้างจุดขายที่พักให้ชัดเจน: ธุรกิจรีสอร์ทควรชูจุดขายเรื่อง “ความใกล้ชิดแหล่งท่องเที่ยว” ส่วนโรงแรมในเมืองควรเน้น “ความสะดวกสบาย” หรือสร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวให้ชัดเจน
สำหรับการพัฒนาการท่องเที่ยวโดยรวมของจังหวัด:
ยกระดับ “Event Marketing” ให้เป็นเรือธง: จังหวัดกาฬสินธุ์มี “Event” ที่แข็งแกร่งที่สุด ทั้ง งานบุญบั้งไฟ (บ้านโพน, ตะไลล้าน) และ งานมาฆปูรณมีบูชา (ทะเลธุง) ควรโปรโมตงานเหล่านี้ในระดับประเทศให้มากขึ้น เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้วางแผนเดินทางมาในช่วงเทศกาล
เชื่อมโยงการท่องเที่ยว “ประวัติศาสตร์ x ครอบครัว”: จังหวัดมีจุดแข็งที่ชัดเจนคือ “ไดโนเสาร์” ซึ่งดึงดูดกลุ่มครอบครัว ควรโปรโมต พิพิธภัณฑ์สิรินธร และ วนอุทยานภูแฝก (แหล่งรอยเท้าไดโนเสาร์) ให้มากขึ้น โดยจัดทำเป็นเส้นทางท่องเที่ยวเรียนรู้สำหรับครอบครัวโดยเฉพาะ
จัดทำเส้นทาง “One Day Trip” ให้ชัดเจน: เพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่ที่สุด (82%) ควรมีการออกแบบและโปรโมตเส้นทางท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับที่ชัดเจน เช่น “เส้นทางไหว้พระ 5 วัด – แวะ 2 คาเฟ่” หรือ “เส้นทางตามรอยไดโนเสาร์ (พิพิธภัณฑ์-ภูแฝก) – จบที่เขื่อนลำปาว”
Coming Soon ….
คลิกเพื่ออ่านบทความ Project Data Research Insight ก่อนหน้า > Over All ไทยแลนด์ เขาใหญ่ เกาะเสม็ด หัวหิน เชียงราย กาญจนบุรี เชียงใหม่ นครนายก Over All ไทยแลนด์(2) น่าน แม่ฮ่องสอน จันทบุรี พัทยา ภูเก็ต ขอนแก่น ระยอง นครราชสีมา ราชบุรี อยุธยา ตาก นครศรีธรรมราช สงขลา อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ เพชรบูรณ์ สุพรรณบุรี
สนใจเรียน AI Social Listening กับการตลาดวันละตอน
ถ้าใครอ่านแล้วอยากทำได้แบบนี้ อยากเรียนรู้การทำ Data Research จาก Social Listening กับการตลาดวันละตอน ตอนนี้มีคอร์สสอนแบบออนไซท์ เน้น Workshop ลงมือทำ 100% ค่าเรียนคนละ 6,750 บาท โดยจะได้รับเครื่องมือ AI Social Listening ในราคาเท่ากันไปใช้ฟรี 1 เดือนเต็ม
สนใจอ่านรายละเอียดและสมัครก่อนเต็มได้ที่ฟอร์มด้านล่างนี้ครับ
และนี่คือผลงานของผู้เรียนคลาส Social Listening รุ่น 32 กับการตลาดวันละตอน
ครั้งนี้เป็นผลงานของผู้เรียนที่ไม่ได้มาจากสาย Data โดยตรง แต่สนใจอยากเข้าใจผู้บริโภคให้ลึกขึ้นเลยลองมาเรียนดูสักครั้ง
และจากหลักการ 8 Step Social Listening ที่ได้เรียนไปในคลาส ผู้เรียนก็เอาไป Apply กับหมวด Cleansing ได้อย่างดี จนออกมาเป็น Insight ที่น่าสนใจเพียบ
เริ่มจากการดูว่า Texture แบบไหนกำลังได้รับความนิยม โดยจะเห็นว่า “ไมเซลล่า/วอเตอร์” และ “บาล์ม” คือ 2 กลุ่มที่คนพูดถึงเยอะที่สุด ต่อมาก็เจาะลึกต่อว่า แล้วผู้บริโภค เลือกซื้อเพราะอะไร จะเห็นว่า Key Feature ที่มาแรงคือ “ล้าง + บำรุง” ได้ในขั้นตอนเดียว และ “ล้างเมคอัพกันน้ำได้” ส่วนเหตุผลที่ซื้อจริง ๆ กลับไม่ได้อยู่ที่แบรนด์ แต่เป็นเพราะ “ขวดใหญ่” และ “ราคาดี”
บอกเลยว่า ไม่ได้แค่ดูผิวเผิน แต่ผู้เรียนลงลึกถึงระดับ Benefit, Ingredient, Skin Concern ไปจนถึงการ Mapping ภาพรวมของ Category ได้อย่างครบถ้วน
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผู้เรียนคนหนึ่งที่ไม่เคยทำ Data มาก่อน ก็สามารถทำได้จริงในเวลาไม่กี่วัน หลังจากได้ลงมือฝึกในคลาสแบบ Workshop และถ้าทำได้ขนาดนี้ ก็รับ Certified จากพี่หนุ่ยไปเลยแบบไม่ต้องสงสัยครับ