พามาดู Data Research Insight จังหวัด ชัยภูมิ เมืองที่ไม่ได้มีดีแค่ดอกกระเจียวแต่เต็มไปด้วยเรื่องราวของธรรมชาติ และอารยธรรมบนที่ราบสูงที่สืบทอดมายาวนานกว่าพันปีครับ ที่นี่คือบ้านของผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ บทความนี้จะพามาเจาะลึกพฤติกรรมการท่องเที่ยวจากบทสนทนาบนโซเชียลทั่วประเทศ ภายใต้โครงการ Data 76 จังหวัดทั่วไทย เราจะมาดูกันครับว่าคนพูดถึงชัยภูมิว่าอย่างไร? เค้ามาทำอะไร กินอะไร เที่ยวที่ไหน เดินทางแบบไหน มากับใคร พักกี่วัน และของดีที่ต้องซื้อกลับมีอะไรบ้าง
ในบทความนี้ผมจะพาไปเจาะ Data Research Insight ชัยภูมิ โดยใช้ Mandala ในการทำ ที่อาจทำให้คุณมองจังหวัดนี้ต่างออกไปจากเดิมครับครับ
ในบทความนี้เราจะพามาดูทั้งขั้นตอนกระบวนการทำ 8 ขั้นตอน และ Insight ที่เจอมาแบ่งปันทุก ๆ คนกันครับ
Research Keywords
Set Campaign Collecting Data
Cleansing Data
Conversation Analysis
Categorized Data
Visualization
Insights Summary
Data-Driven Decision
STEP 1-2 Research Keyword, Collecting Data มาเริ่มกันที่ขั้นตอนแรกของการวิเคราะห์กันครับ Research Keyword ในเคสของจังหวัดชัยภูมิ ทีมวิจัยได้เลือกใช้คีย์เวิร์ดหลักที่สะท้อนการพูดถึงพื้นที่จริงบนโซเชียลมีเดีย ได้แก่ “ชัยภูมิ” , “ชัยพูม” , และ “ชยภูมิ”
เพื่อให้ครอบคลุมทั้งการสะกดแบบทางการและแบบที่ผู้ใช้งานมักพิมพ์ผิดหรือพิมพ์เล่นกันในโลกออนไลน์ โดยช่วงเวลาที่เก็บข้อมูลอยู่ระหว่าง 01 เมษายน 2025 – 30 กันยายน 2025 รวมทั้งหมด 6 เดือนครับ
หลังจากตั้งค่าคีย์เวิร์ดเรียบร้อย ระบบได้ดึงข้อมูลบทสนทนา (Mentions) จากแพลตฟอร์มหลักอย่าง Facebook, TikTok, X (Twitter), Instagram, และ YouTube ได้ข้อมูลรวมทั้งหมด 100,000 หลังจาก Clean ออกจะเหลือ 47,777 Mentions ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนข้อมูลที่มากพอ สำหรับใช้วิเคราะห์พฤติกรรมและภาพจำของจังหวัดชัยภูมิบนโลกออนไลน์ได้ครับ
STEP 3 Cleansing Data ก่อนที่เราจะเข้าสู่ขั้นตอนการวิเคราะห์เชิงลึกเพื่อหาความหมายและ Insight ของจังหวัดชัยภูมิ สิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยคือ การ Cleansing Data ครับ
ในขั้นต้น ระบบได้ดึงข้อมูลบทสนทนามาทั้งหมดกว่า 100,000 Mentions จากทุกแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น Facebook, TikTok, X (Twitter), Instagram และ YouTube แต่แน่นอนว่าข้อมูลทั้งหมดนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับประเด็น การท่องเที่ยวของชัยภูมิ 100%
เราจึงต้องเข้าสู่ขั้นตอนสำคัญในการ Cleansing เพื่อแยกโพสต์ที่พูดถึงจังหวัดในเชิงอื่น ๆ เช่น ข่าวราชการ การเมือง การศึกษา หรือเนื้อหาที่ใช้คำว่า “ชัยภูมิ” ในความหมายอื่น ออกจากฐานข้อมูล
หลังจากผ่านกระบวนการ Clean แล้ว ข้อมูลที่เหลืออยู่ซึ่งสามารถนำมาวิเคราะห์ต่อได้จริงในเชิงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมมีจำนวนทั้งสิ้น 47,777 Mentions ที่เคยกล่าวไปครับ
ตัวอย่างการคัดกรอง เช่นโพสต์หนึ่งอาจพูดถึง “โครงการมอบโคมดอกชัยภูมิ” ซึ่งแม้จะมีชื่อจังหวัดอยู่ในข้อความ แต่บริบทของโพสต์เป็นข่าวกิจกรรมหน่วยงานรัฐ จึงจัดเป็น Social Data ที่ไม่เกี่ยวข้อง
วิธีการ Cleansing การ Cleansing ทำได้หลายวิธี เช่น
Exclude โพสต์ที่ไม่เกี่ยวข้อง ออกจากระบบโดยตรง
ลบข้อมูลที่ไม่ต้องการเก็บถาวร
กำหนด Keyword สำหรับ Exclude เพิ่มเติม เช่น “ราชการ”, “อบรม”, “พิธีเปิด”, “โรงเรียน”, เพื่อกรองเนื้อหาที่ไม่ตรงวัตถุประสงค์ออก
ถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญที่จะทำให้ Insight ที่ได้จาก Social Data ของจังหวัดชัยภูมิครับสามารถอ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการคลีนดาต้าอย่างละเอียด เพื่อให้ได้ข้อมูลที่มีคุณภาพมากที่สุดมา วิเคราะห์ Trend & Insight ได้ที่บทความนี้ครับ > https://everydaymarketing.co/trend-insight/top10-influencers-investment-money-2023-on-tiktok/
STEP 4 Conversation Analysis อย่างที่เราเห็นใน STEP 3 ระหว่างกระบวนการ Cleansing Data เราจะได้อ่าน Social Data จำนวนมากที่ไหลเข้ามาจากคีย์เวิร์ด “ชัยภูมิ” ในหลากหลายบริบท จนคัดกรองเหลือเฉพาะโพสต์ที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของจังหวัดเท่านั้น
จากนั้นเราจึงเข้าสู่ขั้นตอนต่อมา คือ การวิเคราะห์บทสนทนา Conversation Analysis เพื่อมองให้ลึกขึ้นว่า คนพูดถึง “จังหวัดชัยภูมิ” อย่างไร พวกเขาไปเที่ยวที่ไหน พูดถึงประสบการณ์แบบใด และมีประเด็นไหนที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในโลกออนไลน์ช่วงที่ผ่านมา
STEP 5 Overview Social Data Stat เรามาเริ่มกันที่ภาพรวมของการพูดถึงจังหวัด ชัยภูมิ บนโลกโซเชียลกันก่อนครับ ทั้งในมิติของ Mention (จำนวนการพูดถึง) และ Engagement (การมีส่วนร่วม) เพื่อให้เห็นภาพรวมว่าคนพูดถึงจังหวัดนี้ผ่านแพลตฟอร์มไหนบ้าง และช่องทางไหนที่ธุรกิจในพื้นที่ควรให้ความสำคัญเป็นพิเศษ
จะเห็นได้ว่า TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มีสัดส่วนการพูดถึง มากที่สุดถึง 66% ตามมาด้วย
Facebook 19%
YouTube 14%
Instagram 1%
Twitter (X) <1%
ตัวเลขนี้สะท้อนให้เห็นว่า TikTok เป็นพื้นที่หลักในการสร้างการรับรู้และแชร์ประสบการณ์ท่องเที่ยว โดยเฉพาะคลิปรีวิวสั้น ๆ ที่บอกเล่าความสวยงามของธรรมชาติ เมื่อพิจารณาในมิติของ Engagement ช่องทางที่คนกดไลก์ คอมเมนต์ แชร์ มากที่สุดยังคงเป็น TikTok เช่นเดิม ด้วยสัดส่วน 74% รองลงมาคือ
YouTube 20%
Facebook 6%
ส่วน Instagram และ Twitter (X) มีสัดส่วนไม่ถึง 1%
จุดที่น่าสนใจคือ YouTube มี Engagement สูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากคลิปแนวท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ เช่น “โฮมสเตย์ สูดอีสานลุ่ม” ที่มียอดเข้าชมและการแชร์จำนวนมาก สะท้อนว่า ชัยภูมิถูกพูดถึงในฐานะจุดหมายของการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและวิถีชุมชนครับ
เมื่อเราตัดยอดวิวของ TikTok และ YouTube ออกไป เพื่อโฟกัสเฉพาะ Engagement แท้ เช่น Like / Comment / Share จะพบว่า TikTok ยังคงครองอันดับ 1 ที่ 64% รองลงมาคือ
Facebook 29%
YouTube 6%
Instagram และ Twitter (X) <1%
โพสต์ที่ได้รับ Engagement สูงสุดในกลุ่มนี้มักเป็นคอนเทนต์รีวิวการท่องเที่ยว เช่น “ทุ่งดอกกระเจียว – ป่าหินงาม” ซึ่งเป็นสัญลักษณ์สำคัญของจังหวัดและได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงเดือนกรกฎาคม–สิงหาคม
และในส่วนของ Timeline Social Data Stat เราได้แยกการวิเคราะห์ออกเป็น 3 ส่วนหลัก เพื่อให้เห็นพฤติกรรมการพูดถึงจังหวัดชัยภูมิ ตลอดช่วงเวลา 6 เดือน (1 เมษายน – 30 กันยายน 2025) ว่าเกิดกระแสการพูดถึงช่วงใด และจากคอนเทนต์ประเภทไหนบ้าง
By Mention จากกราฟจะเห็นได้ว่า “การพูดถึงชัยภูมิ” มีแนวโน้มสูงขึ้นชัดเจนในช่วง เดือนกรกฎาคม 2025 ซึ่งเป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว “ดอกกระเจียวบาน” ที่อุทยานแห่งชาติป่าหินงามและทุ่งดอกกระเจียวไทรทอง นับเป็นช่วงพีคของปีที่นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างจังหวัดแห่มาเยือน
นอกจากนี้ ยังพบอีกหลายช่วงเวลาที่มีบทสนทนาเพิ่มขึ้น เช่น
เดือนเมษายน: กระแสเที่ยวคลายร้อนที่ “น้ำตกตาดโตน” และ “น้ำตกเพ็ญพบใหม่”เดือนสิงหาคม–กันยายน: คอนเทนต์ท่องเที่ยวแนวธรรมชาติ เช่น “เที่ยวอุทยาน”, “ชมทะเลหมอกชัยภูมิ” รวมถึงคลิปพาเที่ยวแนวครอบครัวที่แชร์บน TikTok และ Facebook
พูดได้ว่าคนพูดถึงชัยภูมิอย่างต่อเนื่อง โดยมีจุดพีคหลักในช่วงกลางปีจากแรงดึงดูดของธรรมชาติครับ
By Engagement TikTok ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่โดดเด่นที่สุด ทั้งจากคอนเทนต์แนวเที่ยวธรรมชาติ และวัฒนธรรมท้องถิ่นโพสต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในช่วงนี้เช่น
คลิป “เที่ยวทุ่งดอกกระเจียว”
คอนเทนต์แนว Lifestyle พักผ่อนกับครอบครัว
รวมถึงโพสต์ไปแสดงหมอลำชัยภูมิที่สะท้อนรากวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของคนอีสานอย่างชัดเจน
ทั้งหมดนี้สะท้อนว่าชัยภูมิ ถูกพูดถึงอย่างอบอุ่นในหลากหลายมิติ ตั้งแต่ธรรมชาติ อาหาร วัฒนธรรม ไปจนถึงชีวิตผู้คน และนี่คือพลังของ Social Data ที่ทำให้เราเห็นว่า จังหวัดนี้ไม่ได้เป็นแค่ทางผ่าน แต่เป็นจุดหมายปลายทางที่คนอยากกลับมาเยือนซ้ำครับ
By YouTube Engagement แม้ YouTube จะมีสัดส่วน Mention ไม่มากนัก แต่เมื่อลองแยกดูเฉพาะ Engagement แล้วกลับพบว่า ชัยภูมิถูกพูดถึงในรูปแบบของคลิปรีวิวท่องเที่ยวและคอนเทนต์สารคดีแนววิถีชุมชน8iy[ เช่น
คลิป “โฮมสเตย์ สูดอีสานลุ่ม” ที่ถ่ายทอดเสน่ห์ของวิถีท้องถิ่น
คลิป “ลาบเป็ดชัยภูมิ” จากเพจชื่อดัง ซึ่งช่วยต่อยอดภาพลักษณ์จังหวัดในฐานะแหล่งรวมอาหารอีสานแท้
VIDEO
Top Engagement By Platform เรามาเจาะดูภาพรวมของคอนเทนต์ที่ได้รับ Engagement สูงสุดในแต่ละแพลตฟอร์ม กันครับ เพื่อให้เข้าใจว่าคนพูดถึงชัยภูมิ ผ่านมุมมองแบบไหน และคอนเทนต์ลักษณะใดที่สามารถสร้างการมีส่วนร่วมได้ดีที่สุดบนแต่ละช่องทาง
Facebook: เพจ H R พาเที่ยว โพสต์รีวิวเที่ยวน้ำตก เล่นน้ำเย็น ๆ บรรยากาศดี ซึ่งเป็นหนึ่งใน Landmark ท่องเที่ยวหลักของจังหวัด โดยคอนเทนต์เน้นความสดชื่นของธรรมชาติ น้ำใสเย็น และบรรยากาศสงบเหมาะกับการพักผ่อน รูปแบบโพสต์แนวเรียบง่าย ภาพสวย ทำให้ผู้ชมรู้สึกอยากไปสัมผัสด้วยตัวเองครับ
Instagram: ผู้ใช้ sanha.patiaw แชร์ภาพถ่ายที่ผาหำหดในสายหมอกยามเช้า บนเขตอุทยานแห่งชาติไทรทอง เป็นคอนเทนต์ที่สื่อถึงความงดงามของธรรมชาติและมุมมอง Adventure Tourism ได้อย่างชัดเจนครับ
X (Twitter): บัญชีของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โพสต์ภาพชุดจากการสำรวจความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าชัยภูมิ ถ่ายทอดมุมมองของจังหวัดในฐานะแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สำคัญของภาคอีสาน เนื้อหานี้แม้จะมาจากหน่วยงานราชการ แต่ได้รับ Engagement สูงเพราะให้ความรู้และภาพถ่ายที่สวยงาม น่าติดตามครับ
TikTok: ช่อง kaidaw29 แชร์คลิปเดินป่า เที่ยวทุ่งดอกกระเจียว
YouTube: ช่องสวัสดีครับผม แจ็กแปปโฮ ทำคลิป “พาไปกินเซียนเตี้ย ลาบเป็ดชัยภูมิ อบอุ่นและจัดจ้าน” ซึ่งได้รับการมีส่วนร่วมสูงสุดบนแพลตฟอร์ม YouTube โดยเนื้อหานี้สื่อถึงความเป็นชัยภูมิผ่านอาหารพื้นถิ่นและการ Engage กับคนท้องถิ่น
จากภาพรวมของทุกแพลตฟอร์มจะเห็นได้ชัดว่า คอนเทนต์ที่สื่อถึง Local Experience เป็นกลุ่มเนื้อหาที่ได้รับ Engagement สูงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของธรรมชาติอย่างน้ำตก ป่าเขา หมอก และทุ่งดอกกระเจียวที่สวยงามในฤดูฝน อาหารท้องถิ่นอย่างลาบเป็ดหรือเมนูอีสานแท้ที่สะท้อนรสชาติของชุมชน รวมถึงวิถีชีวิตของคนชัยภูมิที่เรียบง่าย อบอุ่น และเปี่ยมด้วยรอยยิ้มจากการเดินป่า เที่ยวชุมชน
ทั้งหมดนี้สะท้อนให้เห็นว่าชัยภูมิ ไม่ได้ถูกจดจำเพียงในฐานะเมืองธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นจังหวัดที่มีเสน่ห์จากวิถีชีวิต เอกลักษณ์ และความจริงใจของผู้คน ซึ่งเป็นจุดแข็งสำคัญที่สามารถต่อยอดสู่การสร้างแคมเปญท่องเที่ยวเชิงอารมณ์ได้ครับ
STEP 5 Categorize Data
หลังจากที่เราได้ทำการ Cleansing ข้อมูลจนเหลือเฉพาะบทสนทนาที่เกี่ยวข้องกับชัยภูมิ ในเชิงการท่องเที่ยวแล้ว ขั้นตอนต่อมาก็คือ การจัดกลุ่มข้อมูล หรือ Categorize Data เพื่อให้เห็นภาพรวมได้ชัดเจนและง่ายต่อการวิเคราะห์ครับ
ในกระบวนการนี้ เราจะเริ่มจากการอ่าน Social Data จำนวนมากที่ผ่านการคัดกรองแล้ว เพื่อทำความเข้าใจว่าผู้คนพูดถึงเรื่องอะไรบ้าง เช่น ธรรมชาติ วัด คาเฟ่ อาหาร หรือกิจกรรมท่องเที่ยว จากนั้นจึงเริ่มตั้งโจทย์การจัดหมวดหมู่ให้สัมพันธ์กับสิ่งที่ธุรกิจในพื้นที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
ซึ่งเราสามารถใช้ฟีเจอร์ Tag บนเครื่องมือ Social Listening มาช่วยจัดกลุ่มข้อมูลให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อสะดวกต่อการนำไปวิเคราะห์ต่อ เช่น ดูสัดส่วนของแต่ละหมวดว่าคนพูดถึงมากน้อยแค่ไหน หรือหมวดใดที่มี Engagement สูงที่สุดครับ
กล่าวได้ว่าขั้นตอนนี้คือการเปลี่ยนข้อมูลกระจัดกระจายให้กลายเป็นชุด Insight ที่มีทิศทาง เพื่อให้ธุรกิจสามารถนำไปต่อยอดเชิงกลยุทธ์ได้ครับ
STEP 6 Data Visualization เมื่อเราจัดหมวดหมู่ข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการทำ Data Visualization เพื่อแปลงตัวเลขและข้อความจำนวนมากให้กลายเป็นภาพที่เข้าใจง่าย เห็นแนวโน้มได้ชัดเจนในพริบตา
โดยเราสามารถใช้เครื่องมือได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Looker Studio, Power BI, Excel, หรือ Tableau ขึ้นอยู่กับความถนัดของผู้ใช้งานครับ ขั้นตอนนี้ถือเป็นหัวใจสำคัญของการอ่าน Data เพราะไม่เพียงช่วยให้เข้าใจง่ายขึ้น แต่ยังสามารถนำไปใช้ในการนำเสนอ แผนกลยุทธ์ หรือออกแบบแคมเปญท่องเที่ยวได้ทันทีครับ
เพื่อให้เข้าใจภาพรวมของ Data Research Insight ชัยภูมิ ทั้งหมดในบทความนี้ เราได้แบ่งหัวข้อออกเป็น 5 หมวดหลัก เพื่อให้เห็นมิติของจังหวัดชัยภูมิทั้งในมุมของธรรมชาติ วัฒนธรรม และพฤติกรรมนักท่องเที่ยวได้อย่างครบถ้วน ดังนี้ครับ
Travel Insight: สถานที่ที่คนชอบไปเยือนในจังหวัดชัยภูมิ ตั้งแต่น้ำตก ป่าเขา ไปจนถึง วัด และอุทยานที่เป็น Kandmark กสำคัญ พร้อมทั้งเหตุผลว่าทำไมคนถึงอยากมาที่นี่ และกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคืออะไรครับBehavior Insight: พฤติกรรมของนักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนชัยภูมิ มาเที่ยวกี่วัน มาด้วยวิธีไหน มากับใคร และช่วงเวลาไหนของปีที่มีการเดินทางมากที่สุดSouvenir Insight: ของดีของเด็ดประจำจังหวัด ตั้งแต่ของฝากขึ้นชื่ออย่างผ้าไหม ผ้าฝ้ายทอมือ ไปจนถึงของกินพื้นบ้านและผลิตภัณฑ์ชุมชนที่คนพูดถึงมากที่สุดบนโลกออนไลน์Hotel / Resort Insight: พฤติกรรมการเลือกที่พักของนักท่องเที่ยว ว่าคนนิยมพักรีสอร์ตแบบใด ระหว่างโฮมสเตย์กลางทุ่งธรรมชาติ โรงแรมใจกลางเมือง หรือรีสอร์ตวิวภูเขาTransportation Insight: วิธีการเดินทางยอดนิยมของผู้คนที่มาเยือนชัยภูมิ ทั้งการขับรถส่วนตัว มอเตอร์ไซค์ หรือการเดินทางด้วยรถโดยสาร เพื่อให้เข้าใจช่องทางการเข้าถึงพื้นที่ท่องเที่ยวที่แท้จริง
Travel Insight ธรรมชาติและอุทยาน คือ Magnet หลักของชัยภูมิ
จากการวิเคราะห์ Social Data พบว่า กิจกรรมที่คนพูดถึงมากที่สุดเมื่อมาเที่ยวชัยภูมิ คือการไปเที่ยวคิดเป็น 50% ของทั้งหมด สะท้อนชัดว่าจังหวัดนี้โดดเด่นด้านการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ ตามมาด้วย เที่ยวภูผา24%
จัดอันดับอุทยาน จ.ชัยภูมิ Top 4 by Engagement
เมื่อพูดถึงจังหวัดชัยภูมิ หลายคนคงนึกถึงทุ่งดอกกระเจียวซึ่งจากข้อมูล Social Data พบว่า กลุ่มอุทยานธรรมชาติ คือหมวดที่สร้าง Engagement สูงสุดของจังหวัดอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่าธรรมชาติคือหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวชัยภูมิครับ โดย 4 อุทยานที่ได้รับ Engagement สูงสุด ได้แก่
อุทยานแห่งชาติไทรทอง 427,248 Engagementอุทยานแห่งชาติป่าหินงาม 275,931 Engagementอุทยานแห่งชาติภูแลนคา 94,815 Engagementอุทยานแห่งชาติตาดโตน 62,307 Engagement
จากข้อมูลทั้งหมดนี้ จะเห็นได้ว่าชัยภูมิมีศักยภาพโดดเด่นในด้าน Eco & Nature Tourism อย่างแท้จริง ทั้งในมุมของความงามทางธรรมชาติและความสงบทางใจ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สามารถต่อยอดสู่การทำแคมเปญการตลาดได้อย่างลงตัวครับ
จัดอันดับ ภูผา จ.ชัยภูมิ Top 9 by Engagement
อีกหนึ่งหมวดที่คนพูดถึงมากบนโลกออนไลน์คือภูผา ซึ่งเป็นเสน่ห์สำคัญของชัยภูมิในฐานะเมืองแห่งธรรมชาติและวิวหมอก จากข้อมูล Social Data พบว่า 5 จุดที่สร้าง Engagement สูงสุด ได้แก่
ผาหัวนาค 160,605 Engagement ผาสุดแผ่นดิน 84,753 Engagement ผาหำหด 70,434 Engagement ผาพ่อเมือง 41,022 Engagement ผาเกิ้ง 20,124 Engagement
นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวที่ถูกพูดถึงรองลงมา เช่น ผาชมดาว, ผาหินงาม, ผาส่งตะวัน และ ผาอ่อรัก ซึ่งแม้จะไม่ติด Top 5 แต่ก็ได้รับ Engagement อย่างต่อเนื่องจากกลุ่มนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติครับ
จัดอันดับ คาเฟ่ จ.ชัยภูมิ Top 10 by Engagement
จังหวัดชัยภูมินอกจากจะขึ้นชื่อเรื่องธรรมชาติแล้วคาเฟ่กลางภูเขากลายเป็นอีกหนึ่งจุดหมายใหม่ของนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่ ที่อยากใช้เวลาช้า ๆ ท่ามกลางวิวสบายตาและอากาศดี
ฟาร์มสุขฟีลออร์แกนิกฟาร์ม 21,736 Engagement SIP & SOUND 16,453 Engagement Cheekymonkey 10,441 Engagement TiDLOMCAFE 10,078 Engagement สวนสวย 168 บ้านไร่ 6,041 Engagement
นอกจาก 5 คาเฟ่อันดับแรกแล้ว จังหวัดชัยภูมิยังมีคาเฟ่บรรยากาศดีอีกหลายแห่งที่ได้รับการพูดถึงอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็น Tiwpha Cafe คาเฟ่วิวภูเขาสไตล์ลอฟต์ที่โปร่งโล่งและมีกลิ่นอายสมัยใหม่, ทรงคือคาเฟ่ ร้านเล็กน่ารักในตัวเมืองที่มีดีไซน์ไทยร่วมสมัยและป้ายแดงเป็นมุมถ่ายรูปสุดฮิต, Naru Neko Cafe คาเฟ่โทนอบอุ่นที่ตกแต่งด้วยไม้และมีกลิ่นอายญี่ปุ่นเบา ๆ, Tripple Son Coffee คาเฟ่เท่สไตล์บาริสต้าที่มีกลิ่นกาแฟเข้มข้นและบรรยากาศสายดนตรี และ ต้นพร้าวคาเฟ่ คาเฟ่วิวบึงพร้อมศาลาริมน้ำที่ให้ฟีลธรรมชาติสุดชิล เหมาะกับการมานั่งพักผ่อนในวันที่อยากหนีความวุ่นวายครับ
จัดอันดับ น้ำตก จ.ชัยภูมิ Top 5 by Engagement จังหวัดชัยภูมิไม่ได้มีดีแค่ภูเขาและทุ่งดอกกระเจียวเท่านั้นครับ แต่ยังเต็มไปด้วยแหล่งน้ำตกธรรมชาติที่งดงามและเข้าถึงง่าย เหมาะกับทั้งนักเดินทางสายธรรมชาติและครอบครัวที่มองหาสถานที่พักผ่อนในวันหยุดครับ
น้ำตกตาดโตน 48,422 Engagement น้ำตกผาเอียง 8,901 Engagement น้ำตกไทรทอง 6,192 Engagement น้ำตกตาดฟ้า 4,257 Engagement น้ำตกสะพานหิน 3,870 Engagement
จากข้อมูลจะเห็นได้ว่าชัยภูมิ มีน้ำตกกระจายอยู่ในหลายอำเภอ โดยเฉพาะในเขตอุทยานแห่งชาติตาดโตนและไทรทอง ซึ่งกลายเป็นจุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวสายธรรมชาติ ช่วยเสริมให้ภาพลักษณ์จังหวัดนี้แข็งแรงในฐานะเมืองแห่งน้ำตก ภูเขา และความเขียวชอุ่มของธรรมชาติครับ
จัดอันดับ วัด จ.ชัยภูมิ Top 7 by Engagement จังหวัดชัยภูมินอกจากจะมีธรรมชาติสวยงาม ยังมีวัดสำคัญหลายแห่งที่เป็นทั้งศูนย์รวมจิตใจและแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ซึ่งได้รับความนิยมบนโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่องครับ
วัดพระธาตุชัยภูมิ 13,573 Engagement วัดดาวชัยศิริ 8,310 Engagement วัดเขาบังเหยชุมพลสีมาราม 8,033 Engagement วัดพระพุทธบาทภูแฝด 7,202 Engagement
นอกจากนี้ยังมีวัดที่ได้รับความนิยมเช่นกัน ได้แก่ วัดป่าภูอินทรประดิษฐ์ ที่มีอุโบสถรูปพญานาคสุดงดงาม, วัดศิลาอาสน์ ที่มีพระพุทธรูปเก่าบนผาหินธรรมชาติ และ วัดเจดีย์ วัดเก่าแก่กลางเมืองที่มีเจดีย์ทรงไทยสูงตระหง่าน เป็นอีกมุมสะท้อนศรัทธาและความผูกพันของคนชัยภูมิกับพระพุทธศาสนาอย่างลึกซึ้งครับ
Behavioral Insight เที่ยวชัยภูมิ 2–3 วัน เพื่อสัมผัสธรรมชาติให้เต็มอิ่ม จากข้อมูลบนโซเชียลมีเดียพบว่านักท่องเที่ยวที่มาจังหวัดชัยภูมิส่วนใหญ่นิยมมาแบบ 3 วัน 2 คืน 64% รองลงมาคือ 2 วัน 1 คืน 36% ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าชัยภูมิไม่ใช่จุดแวะเที่ยวระยะสั้น แต่เป็นจุดหมายปลายทางที่ผู้คนตั้งใจมาใช้เวลากับธรรมชาติอย่างเต็มที่ครับ
จุดเด่นของชัยภูมิคือการมีอุทยานแห่งชาติหลายแห่ง เช่น ไทรทอง ภูแลนคา และตาดโตน ซึ่งแต่ละแห่งต้องใช้เวลาเดินทางและทำกิจกรรมอย่างน้อยครึ่งวันขึ้นไป นักท่องเที่ยวจึงมักวางแผนแบบ เที่ยวหลายอุทยานในทริปเดียว พร้อมแวะคาเฟ่หรือร้านอาหารท้องถิ่นระหว่างทางครับ กลุ่มที่นิยมเที่ยวลักษณะนี้ส่วนใหญ่ต้องการความสงบ ชอบขับรถเที่ยว และให้ความสำคัญกับการพักผ่อนครับ
Behavioral Insight มาเที่ยว จ.ชัยภูมิ กับใคร จากการเก็บข้อมูลบนโซเชียลมีเดียพบว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางมา “ชัยภูมิ” ส่วนใหญ่เดินทางแบบกลุ่มเพื่อนมากที่สุดถึง 58% รองลงมาคือมาแบบครอบครัว 21%, เดินทางคนเดียว 13%, และมากับแฟน 8% ครับ
พฤติกรรมนี้สะท้อนให้เห็นว่า “ชัยภูมิ” เป็นจังหวัดที่ตอบโจทย์การท่องเที่ยวแนว ชิลล์ เดินทางง่าย และแชร์ประสบการณ์ร่วมกันได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มเพื่อนวัยทำงานและกลุ่ม Silver Age ที่มักรวมตัวกันขับรถเที่ยวในวันหยุดสั้น ๆ เพื่อพักผ่อนใกล้ชิดธรรมชาติ
กลุ่ม ครอบครัว มักเลือกสถานที่เที่ยวเชิงธรรมชาติ เช่น น้ำตก อุทยาน และคาเฟ่ที่มีพื้นที่กว้าง ส่วนกลุ่ม Solo Traveller คิดเป็น 13% โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่ต้องการพักใจ สัมผัสธรรมชาติ เดินเล่นถ่ายภาพ และเลือกชัยภูมิเป็นจุดหมายปลายทางที่สงบครับ
โดยรวมแล้ว พฤติกรรมการมาเที่ยวชัยภูมิส่วนใหญ่เป็นแบบเดินทางสั้น ๆ เน้นธรรมชาติและประสบการณ์ร่วม มากกว่าการท่องเที่ยวหรูหรา ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญสำหรับธุรกิจในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นคาเฟ่ ร้านอาหาร หรือกิจกรรมท้องถิ่น ที่สามารถออกแบบบริการเพื่อตอบโจทย์นักท่องเที่ยวกลุ่ม เพื่อน ครอบครัว และเดินทางคนเดียวได้ตรงใจยิ่งขึ้นครับ
Insight ที่พักกางเต็นท์ ครองใจนักท่องเที่ยวชัยภูมิ จากข้อมูล Social Data พบว่า รูปแบบที่พักที่ได้รับความนิยมสูงสุดใน จังหวัดชัยภูมิ คือกางเต็นท์ 46% ตามมาด้วย โรงแรม 32%, รีสอร์ต 16% และ โฮมสเตย์ 6% ซึ่งสะท้อนภาพชัดเจนว่าชัยภูมิเป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวเดินทางมาเพื่อพักผ่อนท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริงครับ
การกางเต็นท์ได้รับความนิยมเพราะจังหวัดนี้มีพื้นที่อุทยานและภูเขาจำนวนมาก เช่น อุทยานแห่งชาติภูแลนคา, ไทรทอง และตาดโตน ซึ่งเหมาะกับการตั้งแคมป์ชมทะเลหมอกและดูพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้า ขณะเดียวกันโรงแรมยังคงเป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับนักท่องเที่ยวที่เน้นความสะดวกสบาย เดินทางง่าย และอยู่ใกล้ตัวเมือง
ส่วนรีสอร์ตมักได้รับความนิยมในกลุ่มครอบครัวที่ต้องการพักผ่อนแบบส่วนตัว และ โฮมสเตย์ตอบโจทย์กลุ่มนักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรมที่อยากสัมผัสวิถีชีวิตชุมชนครับ
Transportation Insight รถยนต์ส่วนตัวยานพาหนะหลักของการเดินทางในชัยภูมิ
นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจังหวัดชัยภูมิ ส่วนใหญ่ใช้ รถยนต์ส่วนตัว 64% รองลงมาคือมอเตอร์ไซค์ 32%และ รถทัวร์ 4% ซึ่งสะท้อนว่าชัยภูมิเป็นจังหวัดที่นักท่องเที่ยวเลือกเดินทางแบบอิสระ สะดวก และยืดหยุ่นในการจัดทริปด้วยตนเองครับ
รถยนต์ส่วนตัว 64%
มอเตอร์ไซค์ 32%
รถทัวร์ 4%
Souvenir Insight ผ้าไหม ของดีอันดับหนึ่งในใจนักท่องเที่ยวชัยภูมิ เมื่อพูดถึงของดีจากชัยภูมิ สิ่งที่คนพูดถึงมากที่สุดคือ ผ้าไหม 35% ซึ่งสะท้อนรากวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่นของชาวอีสานได้ชัดเจนที่สุด ผ้าไหมจากชัยภูมิโดดเด่นด้วยลวดลายและสีสันเฉพาะตัว เช่น ลายลูกแก้วและลายโบราณที่ทอด้วยมืออย่างประณีต ทำให้กลายเป็นของฝากที่สื่อถึงความละเอียดอ่อนและอัตลักษณ์ของจังหวัดครับ
รองลงมาคือ ไส้กรอก 31% ที่ได้รับความนิยมทั้งในฐานะของกินและของฝาก ตามด้วยส้มโอ 20% ซึ่งเป็นผลไม้ชื่อดังของพื้นที่ และ หม่ำ 14%
คำแนะนำสำหรับผู้ประกอบการและการพัฒนาการท่องเที่ยว จาก Data Research Insight ชัยภูมิจากข้อมูล Data Research Insight จังหวัดชัยภูมิ พบว่าแนวทางการพัฒนาการท่องเที่ยวควรมุ่งเน้นไปที่การสร้างจุดขายจากธรรมชาติ ซึ่งเป็นจุดแข็งของพื้นที่อย่างอุทยานแห่งชาติภูแลนคา ป่าหินงาม และไทรทอง โดยสามารถต่อยอดสู่แคมเปญท่องเที่ยวเชิงฤดูกาล เช่น “ตามหมอกดอกกระเจียว” หรือ “เที่ยวชัยภูมิหน้าฝน” เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปี พร้อมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ (Eco Tourism) ผ่านกิจกรรมเดินป่า แคมป์ปิ้ง และถ่ายภาพวิวภูผา-น้ำตก ซึ่งเป็นคอนเทนต์ที่ได้รับ Engagement สูงในโลกออนไลน์
นอกจากนี้คาเฟ่วิวภูเขาและรีสอร์ตใกล้แหล่งธรรมชาติ เช่น Tiwpha Cafe, TiDLOM Cafe และ SIP & SOUND ก็สามารถพัฒนาเป็น Café Route เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวแบบ One Day Trip ได้อย่างดี ขณะเดียวกัน ของดีท้องถิ่นอย่าง ผ้าไหมชัยภูมิ และอาหารพื้นถิ่น เช่น ไส้กรอก ส้มโอ หรือหม่ำ ก็ควรถูกยกระดับให้เป็นสินค้าสัญลักษณ์ของจังหวัด ผ่านแนวคิด “เที่ยว ชิม ช็อป ครบในชัยภูมิ”
ส่วนด้านที่พักควรเพิ่มคุณภาพรีสอร์ตและโฮมสเตย์ให้ตอบโจทย์ทั้งสายครอบครัวและสายแคมป์ พร้อมวางแผนโครงสร้างพื้นฐานรองรับการเดินทางด้วยรถยนต์ซึ่งเป็นกลุ่มหลักกว่า 60% ของนักท่องเที่ยว โดยมีจุดจอดรถและเส้นทางเชื่อมแหล่งท่องเที่ยวอย่างชัดเจน สุดท้ายผู้ประกอบการควรใช้ Social Data เพื่อติดตามแนวโน้มพฤติกรรมและช่วงเวลายอดนิยมของนักท่องเที่ยว เพื่อนำมาปรับกลยุทธ์สื่อสารและออกแบบแคมเปญการตลาดให้แม่นยำขึ้น ทั้งหมดนี้จะช่วยให้จังหวัดชัยภูมิเติบโตเป็นเมืองท่องเที่ยวธรรมชาติที่มีทั้งเสน่ห์ ความเรียบง่าย และเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครครับ
Coming Soon ….คลิกเพื่ออ่านบทความ Project Data Research Insight ก่อนหน้า > Over All ไทยแลนด์ เขาใหญ่ เกาะเสม็ด หัวหิน เชียงราย กาญจนบุรี เชียงใหม่ นครนายก Over All ไทยแลนด์(2) น่าน แม่ฮ่องสอน จันทบุรี พัทยา ภูเก็ต ขอนแก่น ระยอง นครราชสีมา ราชบุรี อยุธยา ตาก นครศรีธรรมราช สงขลา อุบลราชธานี บุรีรัมย์ สุรินทร์ เพชรบูรณ์ สุพรรณบุรี
สนใจเรียน AI Social Listening กับการตลาดวันละตอน ถ้าใครอ่านแล้วอยากทำได้แบบนี้ อยากเรียนรู้การทำ Data Research จาก Social Listening กับการตลาดวันละตอน ตอนนี้มีคอร์สสอนแบบออนไซท์ เน้น Workshop ลงมือทำ 100% ค่าเรียนคนละ 6,750 บาท โดยจะได้รับเครื่องมือ AI Social Listening ในราคาเท่ากันไปใช้ฟรี 1 เดือนเต็ม
สนใจอ่านรายละเอียดและสมัครก่อนเต็มได้ที่ฟอร์มด้านล่างนี้ครับ
และนี่คือผลงานของผู้เรียนคลาส Social Listening รุ่น 32 กับการตลาดวันละตอน
ครั้งนี้เป็นผลงานของผู้เรียนที่ไม่ได้มาจากสาย Data โดยตรง แต่สนใจอยากเข้าใจผู้บริโภคให้ลึกขึ้นเลยลองมาเรียนดูสักครั้ง
และจากหลักการ 8 Step Social Listening ที่ได้เรียนไปในคลาส ผู้เรียนก็เอาไป Apply กับหมวด Cleansing ได้อย่างดี จนออกมาเป็น Insight ที่น่าสนใจเพียบ
เริ่มจากการดูว่า Texture แบบไหนกำลังได้รับความนิยม โดยจะเห็นว่า “ไมเซลล่า/วอเตอร์” และ “บาล์ม” คือ 2 กลุ่มที่คนพูดถึงเยอะที่สุด ต่อมาก็เจาะลึกต่อว่า แล้วผู้บริโภค เลือกซื้อเพราะอะไร จะเห็นว่า Key Feature ที่มาแรงคือ “ล้าง + บำรุง” ได้ในขั้นตอนเดียว และ “ล้างเมคอัพกันน้ำได้” ส่วนเหตุผลที่ซื้อจริง ๆ กลับไม่ได้อยู่ที่แบรนด์ แต่เป็นเพราะ “ขวดใหญ่” และ “ราคาดี”
บอกเลยว่า ไม่ได้แค่ดูผิวเผิน แต่ผู้เรียนลงลึกถึงระดับ Benefit, Ingredient, Skin Concern ไปจนถึงการ Mapping ภาพรวมของ Category ได้อย่างครบถ้วน
ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ผู้เรียนคนหนึ่งที่ไม่เคยทำ Data มาก่อน ก็สามารถทำได้จริงในเวลาไม่กี่วัน หลังจากได้ลงมือฝึกในคลาสแบบ Workshop และถ้าทำได้ขนาดนี้ ก็รับ Certified จากพี่หนุ่ยไปเลยแบบไม่ต้องสงสัยครับ
