ทุกวันนี้เราทุกคนแทบจะใช้ชีวิตอยู่บนหน้าจอทั้งวัน ไม่ว่าจะดูคลิป ฟังพอดแคสต์ หรือเลื่อนผ่านคอนเทนต์จากครีเอเตอร์คนโปรด “ครีเอเตอร์” จึงกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของเศรษฐกิจยุคดิจิทัลค่ะ เพราะพวกเขานอกจากจะสร้างความบันเทิงแล้ว ยังมีอิทธิพลต่อวิธีคิด การตัดสินใจ และวัฒนธรรมการบริโภคของคนทั้งโลกอีกด้วย
งาน Thailand Influencer Awards 2025 by Tellscore ก็เป็นอีกหนึ่งเวทีที่สะท้อนชัดเลยว่า อุตสาหกรรมนี้ยังโตต่อเนื่องไม่หยุด จากมูลค่าตลาดทั่วโลกที่ทะยานแตะกว่า 32,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 1.05 ล้านล้านบาท (Statista, 2025) และยังมีแนวโน้มโตขึ้นทุกปี เพราะ “ครีเอเตอร์” วันนี้ไม่ได้อยู่แค่บนหน้าจอ แต่กำลังกลายเป็นพลังทางเศรษฐกิจและสังคมระดับภูมิภาคจริง ๆ
ปี 2025 จึงเป็นเหมือน “จุดเปลี่ยนสำคัญ” ของวงการค่ะ โลกกำลังเคลื่อนไปสู่ยุคที่ความเชื่อถือ (Trust) คือทุนที่มีค่าที่สุดของทั้งแบรนด์และครีเอเตอร์ และนี่คือ 9 เทรนด์ Influencer Marketing 2025 ที่จะบอกเราได้ว่า “อนาคตของครีเอเตอร์ไทย” กำลังจะเดินไปทางไหน
Trend 1: AI ไม่ได้มาแย่งงาน แต่มาทำให้ “ความเป็นมนุษย์” มีค่ามากขึ้น
AI เข้ามาอยู่แทบทุกขั้นตอนของการทำงานแล้วค่ะ ตั้งแต่การเขียนสคริปต์ ตัดต่อคลิป ไปจนถึงสร้างอวตารพูดแทนเราได้ทั้งวัน แต่สิ่งที่ AI ยังทำไม่ได้คือ “ความรู้สึก” และ “ความเข้าใจจริง ๆ” ของมนุษย์
ครีเอเตอร์ยุคนี้เลยต้องกลับมาเน้นสิ่งที่เรียกว่า Human Touch มากกว่าเดิม ทั้งเสียงจริง เรื่องจริง และพลังของคอมมูนิตี้ที่คนรู้สึกได้ว่า “นี่คือคนที่มีหัวใจและจิตวิญญาณจริง ๆ”
พูดง่าย ๆ เลยว่า Trust + Human Connection คือสกุลเงินใหม่ของวงการครีเอเตอร์ในยุค AI ค่ะ
Trend 2: จาก “รีวิวสินค้า” สู่ “รีวิวชีวิต”
คนดูยุคนี้ไม่อยากฟังใครมานั่งเล่าแต่คุณสมบัติของสินค้าแล้วค่ะ เพราะเขาอยากรู้ “ประสบการณ์จริง” ของคนที่ใช้จริงมากกว่า ครีเอเตอร์ที่พูดจากประสบการณ์ตรง แชร์สิ่งที่รู้สึกได้จริง หรือแม้แต่เล่าความผิดพลาดของตัวเอง กลับมีพลังมากกว่าการพูดตามสคริปต์
นี่คือเหตุผลที่ครีเอเตอร์สาย Opinion-Based / News Creator / Experience Sharer กำลังเติบโตแรง เพราะคนอยากฟังจาก “คนที่เขาเชื่อใจ” มากกว่าโฆษณาที่พูดเก่งค่ะ
Trend 3: การเกิดใหม่ของ “ครีเอเตอร์มืออาชีพ”
หนึ่งในปรากฏการณ์ที่น่าสนใจในปี 2025 คือการเติบโตของครีเอเตอร์กลุ่มใหม่ที่อาจไม่ใช่วัยรุ่นเหมือนที่ผ่านมา แต่คือ กลุ่มคนวัย 40–50 ปี ที่หันมาเข้าสู่วงการครีเอเตอร์กันมากขึ้นค่ะ
หลายคนในกลุ่มนี้มาจากภาวะตกงาน หรือเปลี่ยนสายงานเพราะเศรษฐกิจไม่แน่นอน แต่สิ่งที่พวกเขานำมาด้วยคือ “ประสบการณ์ชีวิตจริง” ที่เต็มไปด้วยมุมมองน่าสนใจ และทักษะจากโลกการทำงานที่คนกลุ่มนี้ยังเก่ง ยังตึงอยู่เลย และเมื่อพวกเขาเริ่มเล่าเรื่องจากประสบการณ์จริง เนื้อหาที่ออกมากลับ “เซ็กซี่” มากในเชิงคุณภาพ ทั้งลึก มีสาระ และจับใจผู้ฟังได้ดี
เทรนด์นี้ยังสอดคล้องกับภาพระดับโลกที่จำนวน Full-time Creator เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง เพราะคนเริ่มมองว่าการเป็นครีเอเตอร์คืออาชีพเต็มรูปแบบได้จริง ๆ ค่ะ เพียงแต่การแข่งขันก็เข้มข้นกว่าเดิม ทุกคนจึงต้องรู้จักวางตัวเองให้เป็น “แบรนด์” และมีรายได้จากหลายช่องทางเพื่อยืนระยะในระยะยาวให้ได้ค่ะ
Trend 4: “อวสาน Influencer” ยังไม่เกิดขึ้น แต่ “สนาม” เปลี่ยนไปแล้ว
คำว่า “อวสาน Influencer” อาจจะพูดง่าย แต่จริง ๆ แล้วตลาดไม่ได้หายไปเลยค่ะ แค่ขยับไปสู่อีกเวทีที่ใหญ่กว่าเดิม คือ Cross-border Creator Economy หรือเศรษฐกิจครีเอเตอร์ข้ามพรมแดน
ตอนนี้ครีเอเตอร์ไทยมีโอกาสส่งออกคอนเทนต์ไปต่างประเทศได้จริง ทั้งอาเซียน จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ผ่านแพลตฟอร์มใหม่ ๆ อย่าง Shopee Live, Temu, XiaoHongShu และ Lemon8 ซึ่งกำลังมาแรงสุด ๆ
เพราะงั้นใครที่สื่อสารได้หลายภาษา โดยเฉพาะอังกฤษหรือจีน จะได้เปรียบมากค่ะ นี่อาจเป็น “Soft Power ใหม่” ของไทยในอีกไม่กี่ปีข้างหน้าเลยก็ว่าได้
Trend 5: แบรนด์เริ่ม “ลดการจ้างรายครั้ง” แล้วหันมาสร้าง “ฐานทัพครีเอเตอร์” ของตัวเอง
ช่วงนี้หลายแบรนด์เริ่มเปลี่ยนวิธีทำงานค่ะ จากที่เคยจ้างอินฟลูเอนเซอร์รายใหญ่แบบแคมเปญต่อแคมเปญ ก็หันมาสร้าง “ฐานครีเอเตอร์” ของตัวเองแทน โดยเน้นกลุ่มไมโครครีเอเตอร์ (Micro Creator) ประมาณ 100–200 คน ที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายเฉพาะทางได้ลึกและจริงกว่า
นอกจากนี้ยังมีแนวคิดใหม่อย่าง Employee & Consumer Advocacy ที่ให้พนักงานและลูกค้าของแบรนด์เองเป็นผู้เล่าเรื่อง ซึ่งช่วยลดต้นทุนการจ้างได้เยอะ และยังทำให้เสียงของแบรนด์ดูจริงใจขึ้นในสายตาคนดูด้วยค่ะ
Trend 6: Top 3 กลุ่มครีเอเตอร์ที่มาแรงสุดในปีนี้
- Pet Creator: เพราะคนรักสัตว์เพิ่มขึ้นทุกปีในขณะที่อัตราการเกิดลดลง เนื้อหาเกี่ยวกับสัตว์เลยยังอยู่ในกระแสไม่ตกค่ะ
- News & Opinion Creator: คนดูอยากฟัง “เสียงและความคิดเห็นจากคนธรรมดาที่เขาไว้ใจ” มากกว่าข่าวจากองค์กรใหญ่
- Longevity & Wellness Creator: เทรนด์สุขภาพกำลังขยายไปสู่เรื่อง “ความยืนยาว” ของชีวิต เพราะทุกคนอยากอยู่ดีอย่างมีคุณค่า ไม่ใช่แค่มีอายุยืนค่ะ
ยุคที่ผู้ติดตามเป็นล้านครองโลกเริ่มจางลงแล้วค่ะ เพราะคนดูยุคนี้อยากดู “คนที่เหมือนเรา” มากกว่า “คนที่อยู่บนหิ้ง”
Micro Influencer ที่มีผู้ติดตามหลักหมื่นแต่เนื้อหาลึกเฉพาะกลุ่ม เช่น สายวิ่ง สายปลูกต้นไม้ หรือสายภาษา กำลังกลายเป็นกลุ่มที่แบรนด์อยากทำงานด้วยมากที่สุด เพราะได้ Engagement สูงและสร้างความสัมพันธ์ระยะยาวได้ดีกว่าค่ะ
Trend 8: LGBTQ+ Creator Economy กลายเป็น Soft Power ใหม่ของไทย
อีกหนึ่งโอกาสที่กำลังมาแรงในปีนี้คือ กลุ่มครีเอเตอร์ LGBTQ+ ค่ะ เพราะพลังของพวกเขากำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของ Rainbow Economy ที่สะท้อนให้เห็นถึงสังคมไทยที่เปิดกว้างและยอมรับความหลากหลายมากขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดแข็งสำคัญของประเทศเลยก็ว่าได้
แบรนด์ที่ร่วมงานกับครีเอเตอร์กลุ่มนี้ไม่ได้แค่ได้ผลลัพธ์เชิงธุรกิจเท่านั้น แต่ยังได้ “สายสัมพันธ์ทางอารมณ์ (Emotional Bonding)” และ “ความเชื่อมั่น (Trust)” จากกลุ่มผู้บริโภคยุคใหม่ โดยเฉพาะ Gen Z และ Millennials ที่ให้ความสำคัญกับความจริงใจ (Authenticity) และการยอมรับในความแตกต่าง (Inclusion) อย่างแท้จริงค่ะ
Trend 9: Ethical & Responsible Influence ยุคที่ “ความน่าเชื่อถือ” คือสินทรัพย์ที่แพงที่สุด
ในวันที่ AI ทำให้ภาพ เสียง และเนื้อหาปลอมได้ง่าย ความโปร่งใสและจริยธรรมจึงกลายเป็นหัวใจสำคัญที่สุดของวงการ Influencer Marketing ค่ะ
ครีเอเตอร์ต้องสื่อสารให้ชัดว่าเนื้อหาที่คนเห็นเกิดจาก AI หรือเป็นสปอนเซอร์ เพื่อไม่ให้ผู้ชมรู้สึกถูกหลอก ขณะเดียวกัน ภาครัฐและสมาคมสื่อก็กำลังร่างแนวทางควบคุม เพื่อยกระดับครีเอเตอร์ให้เป็น “วิชาชีพที่มีมาตรฐาน” อย่างแท้จริงค่ะ
ทั้งหมดนี้คือภาพของวงการ Influencer Marketing ในปี 2025 ที่ฉันรู้สึกว่า “ท้าทายแต่ก็น่าตื่นเต้นมาก” ค่ะ เพราะเรากำลังอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อที่เทคโนโลยีเก่งขึ้นทุกวัน แต่ในขณะเดียวกัน “ความเป็นมนุษย์” กลับยิ่งมีค่ามากกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นความจริงใจ ความเชื่อถือ หรือพลังของชุมชนเล็ก ๆ ที่คนรู้สึกได้ว่า “เราเชื่อมโยงกันจริง ๆ”
สำหรับครีเอเตอร์เอง โอปออยากบอกว่า อย่าเพิ่งกลัวการมาของ AI หรือการแข่งขันที่ดุเดือด เพราะสิ่งที่ไม่มีใครแทนเราได้เลยคือ “ตัวตนและประสบการณ์ชีวิตของเราเอง” ส่วนใครที่อยู่ฝั่งแบรนด์ ก็อย่าลืมว่าเบื้องหลังยอดวิวแต่ละตัวเลขคือ “คนดูที่อยากรู้สึกบางอย่างจากเรา” เมื่อเข้าใจจุดนี้ได้ การตลาดจะกลายเป็น “ความสัมพันธ์” ที่เติบโตไปพร้อมกันค่ะ
ปี 2025 หรือปี 2026 ต่อจากนี้ อาจไม่ใช่ปีที่ง่าย แต่โอปอเชื่อว่ามันจะเป็นปีที่สวยงามของคนที่ “กล้าปรับ” และ “กล้าจริงใจ” เพราะสุดท้ายแล้ว คนที่จะอยู่รอดในโลกของครีเอเตอร์ ไม่ใช่คนที่เสียงดังที่สุด แต่คือคนที่ “คนยังอยากฟังอยู่เสมอ” ค่ะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ :0)
บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ