8 Digital Marketing Trends 2026 เปิดยุคใหม่จาก Control สู่ Co-Creation

ในวันที่โลกการตลาดเปลี่ยนเร็วแบบหายใจไม่ทัน คำถามสำคัญคือ เราจะวิ่งตามทันได้ยังไง?

ปี 2026 นี้คือการอยู่รอดในสนามที่เต็มไปด้วยวัฒนธรรมย่อย เทคโนโลยีใหม่ และผู้บริโภคที่ซับซ้อนกว่าที่เคยเป็นมาค่ะ จากยุคที่แบรนด์เคย “ควบคุม” เรื่องราวทุกอย่าง วันนี้กำลังเปลี่ยนไปสู่ยุคแห่ง Co-Creation หรือการร่วมสร้างสรรค์ที่แบรนด์ต้องเรียนรู้ที่จะ “เป็นส่วนหนึ่ง” ของวัฒนธรรม ไม่ใช่เจ้าของมันอีกต่อไป

โอปอสรุปมาให้แล้วค่ะ 8 เทรนด์ใหญ่ที่กำลังเขย่าการตลาดดิจิทัลปี 2026 จากเซสชัน Digital Marketing Trend 2026 โดยคุณอรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Adapter Digital Group ในงาน The Secret Sauce Summit 2025 ที่ผ่านมา จะมีอะไรน่าสนใจบ้าง ไปดูกันค่ะ

เศรษฐกิจและสังคมกำลังบีบให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแบบโครงสร้าง และนี่คือ 6 สัญญาณที่เห็นชัดเจนในวันนี้

1. ความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจสูงขึ้น ประเทศไทยถูกจัดว่ามีความเหลื่อมล้ำสูงที่สุดในเอเชีย โดยกลุ่มคน(รวย)เพียง 10% ครองทรัพย์สินไปแล้วถึง 85.7%

2. ตลาดกลางกำลังหายไป โครงสร้างผู้บริโภคเหลือแค่ 2 ขั้วใหญ่เท่านั้น

  • Trading Up: กลุ่มรายได้สูงที่ยอมจ่ายเพื่อประสบการณ์และไลฟ์สไตล์ที่ดีกว่า ไม่ซีเรียสราคา
  • Trading Down: กลุ่มรายได้น้อยที่มองหาความคุ้มค่า จ่ายง่าย ผ่อนได้ก็ผ่อน
Digital Marketing Trends 2026

3. การเติบโตของแบรนด์เอเชีย ไม่ใช่แค่ฝรั่งครองโลกอีกต่อไปแล้ว คาดว่าในปี 2040 แบรนด์เอเชียจะก้าวขึ้นมาครอง 60% ของ Fortune Global 500

4. เทรนด์ “Minor Milestone” ความสุขเล็ก ๆ ในปัจจุบัน คนรุ่นใหม่ให้ความสำคัญกับการหาความสุขเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน มากกว่าการวิ่งหาความสำเร็จใหญ่ในอนาคต พูดง่าย ๆ ว่า “มีความสุขในวันนี้ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน” ซึ่งประกอบด้วย 3 แนวคิดหลัก

  • Personal Meaning ให้ค่ากับความสำเร็จเล็ก ๆ ที่มีความหมายกับตัวเอง เช่น เลือกทำงานที่ตรงใจมากกว่าได้เงินเดือนสูง
  • Micro moments เติมความสุขจากกิจกรรมเล็ก ๆ หรือ Small Rituals เช่น กาแฟยามเช้า การซื้อของเล็ก ๆ ที่ทำให้ยิ้มได้ทันที และนี่เองที่ทำให้บริการ “ซื้อก่อน จ่ายทีหลัง” (BNPL) โตไม่หยุด
  • Spiritual Resilience (มูเตลู) เศรษฐกิจไม่แน่นอน คนไทยกว่า 88% หันไปพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เป็น Emotional Healing อย่างตอนนี้ จากเดิมที่ขอพระแม่ลักษมีเรื่องความรัก ก็เปลี่ยนไปขอเรื่องการงานจากพระพิฆเนศมากขึ้น
Digital Marketing Trends 2026

5. กระแส Wellness ที่มาแรง ตลาดสุขภาพกำลังเติบโตแบบมหาศาล โดยเฉพาะ Functional Nutrition เช่น อาหารและเครื่องดื่มที่มีโปรไบโอติก ส่วนผสมคลีน หรือมีประโยชน์เฉพาะทาง กำลังจะกลายเป็น Everyday Choice ของผู้บริโภค  

ขณะเดียวกันก็มีเทรนด์ Longevity ที่โฟกัสการลด “ช่องว่างสุขภาพ” (Longevity Gap) ด้วยการสร้างกล้ามเนื้อเพื่อชะลอโรคและยืดคุณภาพชีวิต แถมยังลามไปถึงสัตว์เลี้ยงด้วยค่ะ เพราะวันนี้สัตว์เลี้ยงคือสมาชิกครอบครัวจริง ๆ ที่เจ้าของอยากให้มีอายุยืนแข็งแรงไม่แพ้กัน

6. Redefine Together Time การใช้เวลาร่วมกันในโลกจริง คอมมูนิตี้กำลังขยายสู่โลกจริงมากขึ้น ผู้คนหันมานัดพบ ทำกิจกรรมร่วมกันในชีวิตจริง โดยเฉพาะจาก Hobby และ ความสนใจร่วมกัน

  • Coffee Running: รวมตัวกันวิ่งเสร็จแล้วจบด้วยการจิบกาแฟ ได้ทั้งสุขภาพและการสังสรรค์
  • Book Club: จากกิจกรรม Introvert กลายเป็นพื้นที่ชวนคุยสำหรับคนรักการอ่าน
  • Social Dining: แพลตฟอร์มนัดกินข้าวกับคนแปลกหน้า กลายเป็นพื้นที่สร้าง connection ใหม่ ๆ

จากแคมเปญสู่ System Design มุมมองต่อแบรนด์วันนี้ คือการออกแบบระบบ (System Design) ที่ทุกคนในองค์กรต้องเดินไปในทิศทางเดียวกัน โดยมี North Star ที่ชัดเจน เช่น est Cola = The Awesome Asian Cola, AP Thai = ชีวิตดี ๆ ที่เลือกเองได้, ศรีจันทร์ = แบรนด์ไทยระดับสากลที่คนไทยภูมิใจ

โดยที่ Brand Equity ต้องวัดผลได้จริง ผ่าน Brand Tracking ที่เปลี่ยนคุณค่าที่จับต้องไม่ได้ ให้กลายเป็นตัวเลขการเติบโตที่คาดการณ์ได้ โดยเฉพาะการเลือก Attribute (คุณลักษณะ) ของแบรนด์ที่ส่งผลต่อมูลค่าและการเติบโตจริง ๆ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือแบรนด์ต้องหา “สมการ” ของตัวเองให้ได้ ว่าคุณค่าด้านไหนที่ทำให้คนยอมจ่ายและช่วยให้ธุรกิจโตได้นั่นเอง

ครีเอเตอร์คือหัวใจของระบบนิเวศ ในเชิงประสิทธิภาพ คอนเทนต์ที่สร้างโดยครีเอเตอร์บน TikTok สร้าง Brand Recall ได้สูงถึง 27% ซึ่งมากกว่าคอนเทนต์ที่แบรนด์ผลิตเอง

ดังนั้นในเชิงกลยุทธ์ ต้องมองครีเอเตอร์เป็น Core Channel ไม่ใช่ทางเลือกเสริมค่ะ ซึ่งต้องให้อิสระในการทำคอนเทนต์ที่เป็นธรรมชาติ (Native) แต่ยังคงมี Early Branding ใส่ชื่อหรือภาพแบรนด์ตั้งแต่ต้น เพื่อให้จดจำได้แม้คนดูจะไม่ได้ดูจบคลิป

เรื่องวัฒนธรรมนี่แหละค่ะ กำลังกลายเป็น “ศูนย์กลาง” ของการตลาดยุคนี้จริง ๆ ใครที่เข้าใจวัฒนธรรมและจับให้ถูกจังหวะ จะได้เปรียบแบบก้าวกระโดดเลย เพราะเกมมันเปลี่ยนจากการตลาดที่แบรนด์เป็นคนกำหนดวัฒนธรรม มาเป็นการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วย Subculture หรือวัฒนธรรมย่อยที่เกิดขึ้นทุกวัน เปลี่ยนเร็ว และหลากหลายมากขึ้นเรื่อย ๆ 

Digital Marketing Trends 2026

เหตุผลก็เพราะวันนี้ทุกคนสามารถเป็นผู้สร้างคอนเทนต์ได้เองหมดแล้วค่ะ นั่นหมายความว่าแบรนด์ไม่ได้มีสิทธิ์ “ตั้งกติกา” อีกต่อไป แต่ต้องหัดลงไปเล่นในวงสนทนา เข้าไปเป็น “ส่วนหนึ่ง” ของคอมมูนิตี้เหล่านี้ให้ได้ ซึ่งถ้าทำสำเร็จนะคะ แบรนด์ที่เกี่ยวข้องกับวัฒนธรรมจะมีโอกาสถูกพิจารณาและถูกซื้อสูงกว่าแบรนด์ทั่วไปถึง 2 เท่า เลยทีเดียว

ตัวอย่างที่เห็นชัดคือ F1 ที่ไม่ยึดติดกับภาพกีฬาแมน ๆ (Masculine) อีกต่อไป แต่หันมาจับมือกับแฟชั่นและลักชัวรี จนกลายเป็นแบรนด์ไลฟ์สไตล์ หรือ Alo ที่ใช้วัฒนธรรม Wellness มาสร้างตัวตนของแบรนด์ จนกลายเป็นชื่อที่ถูกพูดถึงเวลานึกถึงเสื้อผ้า Activewear ของคนรุ่นใหม่

Attention เป็นจุดเริ่มต้น แต่ Influence คือมูลค่าจริง ในยุคที่ข้อมูลถาโถม การได้ความสนใจ (Attention) แค่เสี้ยววินาทีไม่พอแล้วค่ะ สิ่งที่สร้างมูลค่าได้จริงคือการเปลี่ยน Attention นั้นให้เป็น Influence ต่างหาก

Attention ≠ Reach ธรรมดา ต้องวัดผลในสิ่งที่เรียกว่า Attention Reach = การเข้าถึงที่คน “สนใจจริง” ซึ่งเกิดจากการผสานกันของ 3 ปัจจัย Media + Creative + Data ที่ทำงานร่วมกันอย่างคล่องตัว (Agility)

อย่างไรก็ตาม High Reach ≠ High Influence ค่ะ การที่แพลตฟอร์มมี Reach สูง ไม่ได้หมายความว่าจะมีอิทธิพลสูงเสมอไป แบรนด์ต้องเลือกแพลตฟอร์มที่สร้างได้ทั้ง Reach และ Influence หรืออย่างน้อยต้องมี Influence สูงเป็นหลัก

และในตอนนี้เองก็เกิด Consumer Journey ใหม่ ไม่เป็นเส้นตรงอีกต่อไปแล้ว แต่สลับไปมาระหว่าง Streaming, Scrolling, Searching, Shopping

สิ่งที่แบรนด์ควรทำคือ Bespoke Plan = กลยุทธ์เฉพาะกลุ่ม แบรนด์ต้องออกแบบแผนให้สอดคล้องกับผู้บริโภคแต่ละประเภท เช่น

  • Impulse Sages (คนที่ซื้อตามอารมณ์) ให้สร้างจุดพีคตั้งแต่ Awareness เช่น ใช้ Streaming กระตุ้นการซื้อเร็ว ๆ
  • Smart Savers (นักเก็บข้อมูล) ให้สร้างจุดพีคใน Consideration เช่น เน้นคอนเทนต์รีวิวและการค้นหาข้อมูลเพื่อช่วยตัดสินใจ

จาก Static Plan สู่ Living Plan ยุคนี้ แผนการตลาดต้องเป็น “แผนที่มีชีวิต” ที่พร้อมจะเปลี่ยนทิศทันทีเมื่อเจอสถานการณ์จริง และภายในปี 2026 แบรนด์ = Content Brand ทุกแบรนด์จะถูกบังคับโดยพฤติกรรมผู้บริโภคให้กลายเป็น “แบรนด์คอนเทนต์” โดยมี TikTok และ YouTube เป็นสองแพลตฟอร์มหลักที่ครองเวลาและความสนใจ

กลยุทธ์คอนเทนต์ยุคใหม่

  • Short-form First: คอนเทนต์สั้นกลายเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร
  • สูตร SLAP สำหรับ Social-First: Stop (ทำให้หยุดดู), Look longer (ทำให้น่าสนใจ), Action (กระตุ้นให้มีส่วนร่วม), Purchase (สอดแทรกโปรโมชัน)

นักการตลาดบางคนอาจยังชอบวัดผลแบบแยกช่องทาง เช่น ยิง Facebook ก็ดู ROAS ของ Facebook อย่างเดียว ยิง Google ก็ดูของ Google อย่างเดียว แต่ปัจจุบันมันไม่พอแล้วค่ะ เพราะเส้นทางลูกค้ามันซับซ้อน คนอาจเห็นโฆษณาใน TikTok → ไปเสิร์ช Google → เจอรีวิว YouTube → แล้วค่อยซื้อใน Lazada หรือหน้าร้านก็ได้

ดังนั้นการวัดผลต้องเปลี่ยนจาก Channel ROAS (วัดผลรายช่องทาง) ไปที่ Portfolio ROAS (วัดผลรวมทุกช่องทางแบบเป็นพอร์ตเดียวกัน) ว่า เมื่อทุกช่องทางมารวมพลังกันแล้ว มันสร้างการเติบโตให้แบรนด์แค่ไหน

สูตรใหม่คือ Full-Funnel Growth Formula ที่วัดผลครอบคลุมทั้ง

  1. Incremental Sales / Activations ยอดขายที่เกิดเพิ่มขึ้นจากการทำการตลาด
  2. Incremental Retention & Engagement การรักษาลูกค้าเก่าให้อยู่กับเรา และทำให้เขามีส่วนร่วมมากขึ้น
  3. Brand Return ผลระยะยาวต่อแบรนด์ เช่น การรับรู้ การจดจำ ความเชื่อมั่น

จากนั้นเอามาหารกับ Marketing Spend (งบการตลาดทั้งหมด) ก็จะเห็นว่า ทุกบาทที่ลงทุนไป คุ้มค่าแค่ไหนในภาพรวมของทั้งแบรนด์ ไม่ใช่แค่ช่องทางใดช่องทางหนึ่ง

พูดให้ง่ายเข้าไปอีกก็คือ มันเหมือนไม่ใช่เราดูว่า “นักบอลคนนี้ยิงได้กี่ประตู” (ROAS รายช่องทาง) แต่จะดูว่า “ทั้งทีมรวมกันเล่นยังไงจนชนะ” (Portfolio ROAS) เพราะชัยชนะมาจากทั้งกองหน้า กองหลัง ผู้รักษาประตู ไม่ใช่ใครคนเดียวค่ะ

AI กลายเป็นตัวช่วยหลักใน 2 เรื่องใหญ่ ๆ ค่ะ

  • AI ในการทำงาน ปัญหาที่เจอบ่อยคือ Shadow AI พนักงานกว่า 90% แอบใช้ AI ส่วนตัว เพราะขององค์กรใช้งานยากและไม่เข้ากับ Workflow จริง ๆ ดังนั้น หัวใจของการใช้ AI ให้เวิร์คที่สุดคือ Workflow Fit = เอา AI มาปรับเข้ากับวิธีทำงานเดิมของพนักงาน ผลลัพธ์คือทำงานเร็วขึ้น ทำ Personalization ได้จริง และยังมี Accountability ชัดเจน
  • AI ในการสร้างประสบการณ์ใหม่ (Generative Experience) ตอนนี้เราเริ่มเห็นแบรนด์ใช้ AI มาเชื่อมตรงกับผู้บริโภคแล้ว เช่น Lids ให้ลูกค้าใช้ AI ออกแบบสินค้าเอง Volvo ทำแอป AI สแกนรถบนถนน บอกข้อมูลพร้อมสั่งซื้อได้ทันที ศรีจันทร์ พัฒนา Skin AI ID วิเคราะห์สภาพผิวแล้วแนะนำผลิตภัณฑ์รวมถึง Skincare routine แบบเฉพาะบุคคล

โลกตอนนี้คือโหมด SNAFU (Situation Normal: All F*cked Up) ที่ทุกอย่างพร้อมพังได้เสมอค่ะ นักการตลาดเลยต้องเปลี่ยนจาก “นักวางแผน” ที่ยึดกรอบ มาเป็น “นักโต้คลื่น” (Surfer Mindset) ที่พร้อมรับคลื่นทุกลูก จะไปต่อก็ได้ จะเปลี่ยนทิศก็ดี และถ้าล้มก็ลุกไว

Digital Marketing Trends 2026

8 คุณสมบัติรอดในยุค SNAFU

  • Be Agile: คล่องตัว ปรับเร็ว
  • Be Resilient: ยืดหยุ่น พร้อมทิ้งสิ่งที่ไม่เวิร์คแล้วเริ่มใหม่
  • Be Informed: ใช้ Data + AI ให้ทันสถานการณ์
  • Be Meaningful: สร้างคุณค่าที่แท้จริง แม้งบจะหดก็ยังอยู่ได้
  • Be Distinctive: มีอัตลักษณ์ที่ชัดเจน อย่าเปลี่ยนบ่อยจนคนจำไม่ได้
  • Be Human: สื่อสารด้วยความเข้าใจและเชื่อมโยงกับอารมณ์ผู้คน
  • Be Authentic: จริงใจและซื่อสัตย์กับคุณค่าของแบรนด์
  • Be Focused & Opportunistic: มีเป้าหมายระยะยาวชัดเจน แต่ก็พร้อมเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส

อ่านมาถึงตรงนี้ โอปอเชื่อว่าหลายคนคงรู้สึกเหมือนกันว่า การตลาดในปี 2026 คือการ “อยู่รอด” ในโลกที่เต็มไปด้วยความเปลี่ยนแปลงเร็วแบบไม่รอใคร ทั้งพฤติกรรมผู้บริโภค วัฒนธรรมย่อย เทคโนโลยี และ AI ที่เข้ามาเปลี่ยนเกมทุกวัน สิ่งที่แบรนด์ต้องมีจึงกลายเป็นความยืดหยุ่น + ความเข้าใจผู้คนจริง ๆ

ในมุมของโอปอเอง อยากชวนให้ทุกคนมองตัวเองเป็น “นักโต้คลื่น” เหมือนที่พูดไว้ในเซสชันค่ะ เพราะสุดท้ายคลื่นจะใหญ่บ้าง เล็กบ้าง ไม่เคยหยุดนิ่ง การตลาดก็เหมือนกัน บางครั้งสิ่งที่เราวางแผนไว้อาจไม่เวิร์ค แต่ถ้าเรากล้าพอที่จะปรับ กล้าพอที่จะล้มแล้วลุกใหม่ มันก็ยังมีทางไปต่อเสมอ

และที่สำคัญคือ อย่าลืมว่า “แบรนด์” คือการสร้างความหมายและคุณค่าบางอย่างให้กับผู้คน ถ้าเราเข้าใจหัวใจตรงนี้ ต่อให้โลกจะเปลี่ยนไปกี่รอบ เราก็จะหาทางอยู่รอดและเติบโตได้เสมอค่ะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ :0)

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

โอปอ Marketing Content Creator และ Data Insight Researcher ของการตลาดวันละตอน ⋆˚✿˖° ดีใจที่ได้แชร์เรื่องราวกับทุกคนค่ะ อย่าลืมยิ้มให้ตัวเองทุกวัน และฝากติดตามบทความต่อไปด้วยนะคะ ( 。•ㅅ•。)~✧

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *