ในยุคที่การทำคอนเทนต์ต้องแข่งกับเวลา ไม่ว่าจะเป็นนักการตลาด เจ้าของแบรนด์ หรือกราฟิกดีไซเนอร์ ทุกคนต่างต้องการเครื่องมือที่ช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้น และยังคงไว้ซึ่งคุณภาพด้วย ถ้าย้อนกลับไปในในอดีต การออกแบบภาพหรือสร้างอาร์ตเวิร์กหนึ่งชิ้นมักต้องอาศัยนักออกแบบมืออาชีพและใช้เวลาหลายวันกว่าจะได้ชิ้นงานที่ลงตัวสักชิ้นหนึ่ง
จนกระทั่งการมาของ Stock Content เว็บไซต์ที่รวบรวมภาพ กราฟิก วิดีโอ เพลง ฯลฯ แบบสำเร็จรูปให้คุณเลือกใช้ได้ ซึ่งเข้ามาช่วยให้การทำงานเร็วยิ่งขึ้น ไม่ว่าคุณจะเป็นดีไซน์เนอร์ หรือคนธรรมดาทั่วไป ก็สามารถดาวน์โหลดมาปรับใช้กับงานของเราได้ทันที แบบไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ครับ
แต่พอมาถึงยุคของ AI สิ่งที่เคยเป็นข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ภาพ หรือกราฟิกที่ใช้จนช้ำแล้ว หรือภาพของนางแบบที่มักจะปรากฎอยู่หลายแบรนด์ ก็ถูกทลายลงไป ตอนนี้เราแค่พิมพ์ Prompt สั้นๆ ก็สามารถสร้างภาพที่ไม่ซ้ำใคร และภาพที่ได้ก็ดูเป็นมืออาชีพในไม่กี่วินาที แต่คำถามสำคัญก็คือ ถ้า AI ทำงานได้ดีขึ้นแบบนี้ Stock Content ยังจำเป็นอยู่ไหม?
คำตอบของผู้เขียนคือ “จำเป็น ถ้าเว็บสต็อกนั้นมี AI เข้าไปอยู่ใน Workflow ของการทำงานด้วยครับ”
ซึ่ง Freepik เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของการปรับตัว เพราะทุกวันนี้ Freepik ไม่ได้เป็นแค่ Stock Content อย่างเดียว แต่เป็นแพลตฟอร์มที่ผสานเครื่องมือ AI เข้าไว้ด้วยกันแบบครบวงจร ทำให้ผู้ใช้ได้ทั้งความเร็วของการสร้างภาพด้วย Prompt และ Ecosystem จาก Stock Content ที่สามารถใช้งานได้จริงในเชิงพาณิชย์
นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญว่า ทำไม Stock Content ยังคงมีบทบาทอยู่ แม้จะอยู่ในยุคที่ AI กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วครับ
รู้จักกับ Freepik
ถ้าเพื่อนๆ อยู่ในวงการครีเอทีฟหรือเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ Freepik คือชื่อที่คุ้นหู แน่นอนครับ เพราะ Freepik เป็น Stock Content ที่รวมภาพ กราฟิก วิดีโอ เพลง ฯลฯ แบบสำเร็จรูปรวมไว้ในที่เดียว เหมาะทั้งสำหรับในการใช้เพื่อต่อยอดในงานของเรา และเป็นแหล่งไอเดียสำหรับงานออกแบบชั้นดีครับ
ในฐานะผู้เขียนที่เป็นกราฟิกดีไซน์เนอร์ และใช้ Freepik อยู่แล้ว ผู้เขียนมองว่าการมีอาวุธคู่กายอย่าง Freepik ช่วยร่นระยะเวลาในการทำงานได้ดีมากๆ ทำให้เราเหลือเวลาไปโฟกัสกับส่วนอื่นๆ ได้ คือ การจัดวางองค์ประกอบ การเลือกฟอนต์ หรือการปรับเลย์เอาต์ให้สวยงามครับ
เมื่อ Freepik เพิ่มฟีเจอร์ AI เข้ามา มันจึงไม่ใช่แค่เครื่องมือช่วยหาไฟล์อีกต่อไป แต่กลายเป็นผู้ช่วยประจำตัว ที่ช่วยให้เราสร้างภาพใหม่ตามคอนเซ็ปต์ได้ทันที ซึ่งในบทความนี้ผู้เขียนจะพาไปรู้จักการใช้งานในส่วนของ Image Generator ไปแบบทีละขั้นตอนครับ
สอนใช้งาน Freepik AI
Step 1: สมัครสมาชิก หรือเข้าสู่ระบบ
เริ่มต้นด้วยการเข้าไปที่เว็บไซต์ freepik.com แล้วเลือกสมัครสมาชิก ซึ่งสมาชิกสมัครได้ทั้งผ่าน Google หรือ Apple ID ก็ได้ หลังจากกดเข้าสู่ระบบเสร็จแล้ว เข้าไปที่หน้า AI Suite และเลือกเมนู Image Generator ครับ
Step 2: เตรียม Prompt ให้พร้อม
หลังจากเข้าสู่หน้า Image Generator แล้ว ขั้นตอนสำคัญที่สุดคือการเขียน Prompt ที่เราต้องการให้ AI สร้างขึ้นมา หลักการง่ายๆ ก็คือ บอกให้ครบว่าเราอยากได้อะไร มีอะไรในภาพ โทนแบบไหน และใช้ทำอะไร ยิ่งอธิบายละเอียดเท่าไหร่ AI ก็ยิ่งเข้าใจและสร้างภาพได้ตรงกับสิ่งที่เราคิดอยู่ในหัวมากขึ้นครับ
ลองมาดูตัวอย่าง Prompt ที่ผู้เขียนใช้จริงในการทดสอบครับ
A futuristic digital marketing scene representing the complete ecosystem of personalized marketing powered by automation and data intelligence. The image shows a connected network of people, data, and technology — glowing data streams linking customer icons, marketing channels, and automation flowcharts. At the center, a marketer or AI system orchestrates the process, symbolizing intelligence, strategy, and emotional connection with customers. The overall composition suggests harmony, precision, and continuous follow-up across the customer journey. Soft glowing lights, gradient hues of blue, purple, and teal convey trust, innovation, and personalization. High-tech, clean, and professional style — suitable for a summary or hero image in a marketing article or presentation. Vector-style or semi-realistic digital art, with subtle motion or energy flow feeling.
Step 3: เลือกโมเดลและปรับแต่งสไตล์ภาพ
หลังจากเขียน Prompt ลงไปแล้วก็จะมีเมนูให้ปรับแต่งได้เพิ่ม ไม่ว่าจะเป็น
Model: สามารถเลือกโมเดลของ AI ได้ เช่น Flux, Google, ChatGPT, Runway หรือโมเดลของ Freepik เอง ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคน
Style: เหมาะสำหรับคนที่ไม่ได้เขียน Prompt ละเอียดแต่ไม่รู้ว่าโทนภาพที่อยากได้มันเรียกว่าอะไร หรือไม่มีไอเดียว่าอยากได้โทนภาพประมาณไหน สามารถเลือก Style จากในปุ่มนี้ได้
Effects: สามารถเลือกโทนภาพได้ เช่น Vibrant, Earthy, Icy Blue และสามารถเลือกมุมกล้องได้ว่าจะเป็นแบบแนว Portrait หรือแบบมุม Drone
Character: สามารถเลือกคนได้ว่าอยากให้ออกมาเป็นแบบไหน ซึ่งใน Freepik AI มีโมเดลให้เลือกหลายคน หรือจะให้ AI เทรนจากภาพจริงก็ได้
Color: มีพาเลตสีให้เลือกว่าเราอยากได้โทนสีภาพประมาณไหน
จากนั้นถ้าเลื่อนลงมา ก็สามารถปรับเลือกได้อีกว่าต้องการให้ AI สร้างออกมากี่รูปใน 1 ครั้ง ผู้เขียนแนะนำว่าควรเลือกสักประมาณ 3-4 ภาพ เพื่อใช้เปรียบเทียบครับ และอย่าลืมปรับขนาดไซซ์ของภาพตามวัตถุประสงค์ที่เราจะใช้ด้วย เช่น สำหรับโพสต์ลง Facebook ก็เลือก 1:1 สำหรับทำเป็นภาพประกอบบทความหรือปก Youtube เลือก 16:9 เป็นต้น
เมื่อเลือกเสร็จแล้ว กด Generate เพื่อให้ระบบสร้างภาพสักครู่ครับ
Step 4: ดาวน์โหลด หรือแก้ไขภาพต่อ
เมื่อได้ภาพที่ต้องการแล้วสามารถเข้าไปดูภาพแบบเต็มๆ เพื่อดูดีเทลของภาพ หากต้องการแก้ไข หรือ Upscale ภาพก็สามารถกดที่เมนูด้านขวา หรือจะต่อยอดเป็น Video ทาง Freepik AI ก็มีฟีเจอร์สร้างวิดีโอด้วยครับ
และถ้าไม่มีแก้ไขภาพอะไรแล้ว สามารถกดดาวน์โหลดภาพได้เลย จะมีทั้งรูปแบบไฟล์ JPG, PNG และ SVG ซึ่งเหมาะสำหรับการนำไปพิมพ์ภาพขนาดใหญ่ ซึ่งภาพจาก Freepik AI สามารถใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้ปลอดภัยไร้กังวลครับ
ซึ่งภาพที่ได้นี้ ก็เป็นภาพที่ผมแอบปรับแต่งเพิ่มบางส่วน และเอามาใช้ในบทความนี้ครับ3 องค์ประกอบหลักของการทำ Personalization ด้วย Marketing Automation
จุดเด่นของ Freepik AI
จุดเด่นที่ผู้เขียนชอบ Freepik AI คือเรื่องของ Ecosystem ครับ คนที่ใช้ Freepik อยู่แล้ว สามารถสร้างภาพจากในเว็บได้โดยไม่ต้องสลับไปใช้เว็บไซต์อื่น ทั้งยังเชื่อมต่อกับ Stock Content ของ Freepik ซึ่งช่วยให้การทำงานต่อเนื่องแบบ Workflow เดียวจบทั้ง สร้าง ปรับแต่ง และดาวน์โหลดได้ทันทีครับ
ความน่าสนใจอีกอย่างคือ การมีสไตล์ภาพให้เลือกเยอะมาก และมีโมเดล AI ให้เลือกหลายตัว รวมไปถึงเครื่องมือปรับแต่งภาพลบพื้นหลัง ปรับสี หรือขยายขนาดภาพครบจบ คนที่ไม่มีพื้นฐานกราฟิกก็สามารถสร้างภาพได้ง่ายๆ และเหมาะกับนักการตลาด และกราฟิกดีไซน์เนอร์ที่ต้องการภาพไวแต่ยังคงคุณภาพระดับโปรครับ
ข้อจำกัดของ Freepik AI
ในเวอร์ชันฟรีของ Freepik AI จะจำกัดสำหรับผู้ใช้งานฟรีอยู่ที่ 20 ภาพ/วัน และไม่สามารถเลือกโมเดลยอดนิยมได้ ผู้เขียนแนะนำว่าต้อง Subscribe เพิ่ม แต่ในแพ็คเกจบางรุ่นมีการจำกัดเครดิตการใช้งาน การสร้างภาพ 1 ภาพอาจเสียเครดิตที่เยอะ-น้อยแล้วแต่เราเลือก ต้องบริหารเครดิตต่อเดือนดีๆ ครับ
และการสร้างภาพ AI ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ไหน ควรเช็ครายละเอียดของภาพดีๆ เพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์ยิ่งขึ้นครับ
สรุป สอนสร้างภาพ AI จาก Freepik ผู้ช่วยสร้างภาพสำหรับนักการตลาดและดีไซน์เนอร์ยุคใหม่
หลายคนอาจคิดว่าเว็บสต็อกแบบเดิมจะหมดความสำคัญไป แต่ในความจริงแล้ว การปรับตัวของ Freepik ทำให้เราเห็นว่าทั้งสองอย่างก็สามารถผสมผสานเข้าด้วยกันอย่างลงตัว และไม่ได้จะมาแทนที่นักออกแบบ หรือโปรแกรมกราฟิกใดๆ แต่เข้ามาเติมเต็มให้ทุกชิ้นงานมีความเร็วและยืดหยุ่นมากขึ้น โดยเฉพาะกับคนที่ต้องทำภาพประกอบเป็นจำนวนมากในเวลาสั้นๆ เช่น นักการตลาด หรือเจ้าของแบรนด์ที่ต้องทำคอนเทนต์ต่อเนื่อง มีทั้งภาพสต็อกและเทมเพลตอยู่ใน Ecosystem เดียวกัน
แน่นอนว่าเครื่องมือนี้ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่ เช่น เวอร์ชันฟรีที่จำกัดจำนวนภาพต่อวัน และผลลัพธ์ที่ได้ อาจต้องปรับเพิ่มเติมก่อนนำไปใช้งานจริง แต่ถ้าใช้ควบคู่กับเครื่องมือออกแบบอื่นๆ Freepik AI ถือเป็นอีกตัวช่วยที่ช่วยประหยัดเวลาและสร้างไอเดียได้ดีทีเดียวครับ