สรุป History of Creativity ประวัติศาสตร์ของความคิดสร้างสรรค์ จากงาน CTC 2024
สวัสดีนักการตลาด และนักอ่านทุก ๆ คนครับ บทความนี้ผมนำ Session “ History of Creativity ประวัติศาสตร์ของความคิดสร้างสรรค์ ” โดยดร.วิทย์ สิทธิเวคิน Host ประจำรายการ 8 Minute History จากงาน CTC 2024 มาฝากกันครับ มาดูกันว่าประวัติศาสตร์ของความคิดสร้างสรรค์ เป็นอย่างไร คนในอดีตเค้ามีวิธีคิดอย่างไรกัน ติดตามได้ในบทความนี้เลยครับ
ในขณะที่ทุกคนมองไปข้างหน้า เราควรมองกลับไปข้างหลังด้วย เพื่อเรียนรู้จากแนวคิดและนวัตกรรมของเหล่า Start up ในยุคก่อนที่มีความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ พวกเขาคิดอะไร สร้างอะไร และมีวิธีคิดอย่างไร เพราะจากเราสามารถนำสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วมาศึกษาและวิเคราะห์ได้โดยการ Reverse Engineering เพื่อดูและแกะออกมาเป็นแนวทางของเราเอง
สิ่งต่าง ๆ ที่บุคคลในอดีตคิดค้น ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์ใด ๆ ล้วนถูกสร้างขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ Pain Point ของผู้คนทั้งนั้นครับ Pain Point ของมนุษย์ไม่ได้มีแค่จุดเดียว แต่มีอยู่มากมาย นวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์ต่าง ๆ จึงต้องตอบโจทย์เหล่านี้ หากไม่สามารถตอบโจทย์ได้ ก็มีโอกาสสูงที่จะไม่ประสบความสำเร็จ บทความนี้จะมายกตัวอย่างนวัตกรรมในอดีตที่เกิดขึ้นมาจาก Pain Point บอกกับความคิดสร้างสรรค์กันครับ
จุดเริ่มต้นของหลอดไฟ
ในอดีต มนุษย์มีขีดจำกัดในการทำกิจกรรมเพียง 12 ชั่วโมง เนื่องจากมีแสงสว่างใช้เพียง 12 ชั่วโมง ในขณะที่โลกมี 24 ชั่วโมงในหนึ่งวัน ดังนั้น จึงมีผู้คิดค้นและประดิษฐ์หลอดไฟขึ้นมาครับ แต่ในช่วงแรก หลอดไฟหนึ่งหลอดมีอายุการใช้งานเพียง 6 ชั่วโมงเท่านั้น
ทว่ามีชายคนหนึ่งที่ตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างหลอดไฟที่มีอายุการใช้งานถึง 2,000 ชั่วโมง และเขาทำสำเร็จ ชายผู้นั้นคือ Thomas Edison
รัฐบาลอเมริกาในช่วงนั้น ในวาระที่ครบรอบ 400 ปีของการค้นพบทวีปใหม่โดย Christopher Columbus มีการจัดงาน Chicago World’s Fair ขึ้น และแนวความคิดของพวกเขาคือ “แสดงให้โลกเห็นว่าสหรัฐอเมริกามีดวงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมง” สิ่งที่อเมริกาทำคือผลิตหลอดไฟนับ 10,000 ดวง และประกาศหาบริษัทที่สามารถจ่ายไฟฟ้าให้หลอดไฟเหล่านั้นได้พร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน และนี่คือ Pain Point ที่เกิดขึ้นอย่างที่ต่อเนื่อง
เห็นมั้ยครับถึงแม้จะแก้ไข Pain Point ข้อจำกัดในด้านของแสงสว่างโดยการสร้างหลอดไฟแล้ว ก็มี Pain Point ที่เกี่ยวกับอายุการใช้งานหลอดไฟที่สั้นอีก แม้จะแก้ไข Pain Point เรื่องอายุของการใช้งานแล้ว หากต้องการจะเปิดหลอดไฟจำนวนมากก็เกิด Pain Point ใหม่ขึ้นอีก
สิ่งที่เกิดขึ้นในการแก้ไข Pain Point การจ่ายไฟฟ้าจำนวนมาก คือ โรงไฟฟ้าครับ และบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาไฟฟ้าในตอนนั้นยังเป็น Start up อยู่ ได้แก่ Thomas Alva Edison, Nikola Tesla ที่คิดค้นเรื่องไฟฟ้ากระแสสลับ และ George Westinghouse ต้องบอกว่า 3 คนนี้ พวกเค้ามีสิทธิบัตรรวมกันมากกว่า 1,000 ใบ เพราะพวกเขาคิดอยู่ตลอดว่าโลกนี้มี Pain Point อะไรบ้าง
ผลงานชิ้นแรกที่ทำให้ Thomas Alva Edison มีชื่อเสียงเกิดจาก Pain Point คือ ในอดีตการพูดคุยกันไม่มีการบันทึกเสียง ดังนั้นสิ่งแรกที่ Edison ทำคือการประดิษฐ์แถบเทปสำหรับบันทึกเสียง นี่คือจุดเริ่มต้นของ Edison ที่คิดมาจาก Pain Point ของคนในยุคนั้น ซึ่งเป็นจินตนาการที่สร้างสรรค์มาก คิดว่าปัญหาคืออะไร และใช้ความคิดสร้างค์สรรค์ว่าจะผลิตอะไรมาแก้ไขปัญหานั้น
หลังจากนั้น ทั้งสามคนนี้ยังคงมีนวัตกรรมออกมาอีกมากมาย เพราะพวกเขาเชื่อว่าโลกนี้และสหรัฐอเมริกามี Pain Point มากมาย และต้องแก้ไขทุก ๆ Pain Point
อย่างที่เรารู้กันเมื่อเกิดสงครามกระแสไฟฟ้าระหว่าง 3 คนนั้น ปรากฏว่า Edison พ่ายแพ้ แต่จิตวิญญาณของเขาในการสร้างสรรค์นวัตกรรมไม่เคยสิ้นสุด
นี่คือภาพในช่วงบั้นปลายชีวิตของ Thomas Alva Edison ที่ไม่ได้หยุดนิ่งเลยแม้ในช่วงสุดท้ายของชีวิต โดยมีบุคคลเช่น Henry Ford และ Harvey Firestone เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์
เรื่องราวเหล่านี้เป็นตัวอย่างของความคิดสร้างสรรค์ในยุคนั้น ว่าอะไรสามารถตอบโจทย์ Pain Point ของผู้คนได้และนำมาแปรรูปเป็นสินค้าและนวัตกรรมที่มีคุณค่าครับ
จุดเริ่มต้นของ AI
ใครจะคิดว่าเทคโนโลยีล้ำยุคที่เราใช้อยู่ทุกวันนี้ มีจุดเริ่มต้นจากเรื่องราวทางการทหารในสหราชอาณาจักรช่วงปี 1950 ในสมัยนั้น การสื่อสารถูกเข้ารหัสผ่านเครื่อง “Enigma” ซึ่งใช้ในการส่งข้อความลับและถอดรหัสระหว่างสงคราม สิ่งนี้นำไปสู่ความคิดที่จะดักฟังและถอดรหัสข้อความของศัตรูอย่างนาซีเยอรมนี
นักฟิสิกส์ วิศวกร และผู้เชี่ยวชาญด้านต่าง ๆ ถูกระดมมาเพื่อแก้ปัญหานี้ และได้พัฒนาเครื่องถอดรหัส Enigma โดยมีนักคณิตศาสตร์ชื่อดัง Alan Turing และต่อมากลายเป็นบิดาแห่งคอมพิวเตอร์ โดยมีหน้าที่เป็นเป็นผู้สำคัญในการพัฒนา
คำถามหนึ่งที่เกิดขึ้นในเวลานั้นคือ “เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถคิดแทนคนได้หรือไม่?” ซึ่งเป็นแนวคิดที่นำไปสู่การพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ Alan Turing ไม่ได้เพียงแค่พัฒนาเครื่องถอดรหัส แต่ยังสร้างแนวคิดพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์
โดยในบทความ “Computing Machinery and Intelligence” ของเค้า เค้าได้ตั้งคำถามว่า “เครื่องจักรสามารถคิดได้หรือไม่?” และแนะนำการทดสอบที่เรียกว่า “Turing Tset” เพื่อวัดความสามารถของคอมพิวเตอร์ในการแสดงพฤติกรรมที่คล้ายมนุษย์ ตึงกลายเป็นที่มาของ AI ซึ่งตอนนั้นยังอยู่ในอดีตอยู่เลย
จริง ๆ ดร.วิทย์ ได้ยกตัวอย่างหลาย Case มากกว่านี้ ใครอยากดูเต็ม ๆ 1 ชั่วโมงสามารถเข้าไปสมัครสมาชิดและชมย้อนหลังได้ที่ https://creativetalkonline.com/ เลยครับ
สรุป History of Creativity ประวัติศาสตร์ของความคิดสร้างสรรค์
จากที่เราได้สำรวจประวัติศาสตร์ของความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในอดีต จะเห็นได้ว่า Pain Point หรือปัญหาที่คนในยุคนั้นต้องเผชิญ คือ จุดเริ่มต้นที่สำคัญของการพัฒนาและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟของ Thomas Edison ที่เกิดจากปัญหาการขาดแคลนแสงสว่างในเวลากลางคืน หรือการพัฒนาเครื่องถอดรหัส Enigma ของ Alan Turing ที่มีจุดเริ่มต้นจากความต้องการในการแก้ไขปัญหาการสื่อสารทางทหารในช่วงสงคราม
Pain Point เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นแรงบันดาลใจในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ แต่ยังเป็นปัจจัยที่กำหนดทิศทางและแนวทางในการแก้ไขปัญหาด้วยความคิดสร้างสรรค์ การพยายามหาวิธีการแก้ไข Pain Point ด้วยวิธีที่สร้างสรรค์และนวัตกรรมเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะสิ่งที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นมานั้นจะมีคุณค่าและประโยชน์มากมายต่อสังคมในยุคนั้นและยุคต่อ ๆ ไปครับ
การเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ของความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักการตลาดและนักพัฒนานวัตกรรมในปัจจุบัน การนำแนวคิดและวิธีการแก้ไข Pain Point จากอดีตมาเป็นแรงบันดาลใจ สามารถช่วยให้เรามองเห็นแนวทางใหม่ ๆ ในการแก้ไขปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันและอนาคต
ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้เกิดขึ้นในสุญญากาศ แต่เกิดขึ้นจากความต้องการในการแก้ไขปัญหาและการตอบสนองต่อ Pain Point ของมนุษย์ การมีความเข้าใจใน Pain Point เหล่านี้และการนำความคิดสร้างสรรค์มาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาจึงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีคุณค่าและสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้
บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ
สรุปเทคนิคการหา Customer Insight Strategy จากงาน CTC 2024
สรุป Creativity Driven Data การตลาดแบบฉลาดเก็บดาต้า จากงาน CTC2024