ทว่ามีชายคนหนึ่งที่ตั้งเป้าหมายว่าจะสร้างหลอดไฟที่มีอายุการใช้งานถึง 2,000 ชั่วโมง และเขาทำสำเร็จ ชายผู้นั้นคือ Thomas Edison
รัฐบาลอเมริกาในช่วงนั้น ในวาระที่ครบรอบ 400 ปีของการค้นพบทวีปใหม่โดย Christopher Columbus มีการจัดงาน Chicago World’s Fair ขึ้น และแนวความคิดของพวกเขาคือ “แสดงให้โลกเห็นว่าสหรัฐอเมริกามีดวงอาทิตย์ตลอด 24 ชั่วโมง” สิ่งที่อเมริกาทำคือผลิตหลอดไฟนับ 10,000 ดวง และประกาศหาบริษัทที่สามารถจ่ายไฟฟ้าให้หลอดไฟเหล่านั้นได้พร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน และนี่คือ Pain Point ที่เกิดขึ้นอย่างที่ต่อเนื่อง
เห็นมั้ยครับถึงแม้จะแก้ไข Pain Point ข้อจำกัดในด้านของแสงสว่างโดยการสร้างหลอดไฟแล้ว ก็มี Pain Point ที่เกี่ยวกับอายุการใช้งานหลอดไฟที่สั้นอีก แม้จะแก้ไข Pain Point เรื่องอายุของการใช้งานแล้ว หากต้องการจะเปิดหลอดไฟจำนวนมากก็เกิด Pain Point ใหม่ขึ้นอีก
สิ่งที่เกิดขึ้นในการแก้ไข Pain Point การจ่ายไฟฟ้าจำนวนมาก คือ โรงไฟฟ้าครับ และบุคคลที่อยู่เบื้องหลังการพัฒนาไฟฟ้าในตอนนั้นยังเป็น Start up อยู่ ได้แก่ Thomas Alva Edison, Nikola Tesla ที่คิดค้นเรื่องไฟฟ้ากระแสสลับ และ George Westinghouse ต้องบอกว่า 3 คนนี้ พวกเค้ามีสิทธิบัตรรวมกันมากกว่า 1,000 ใบ เพราะพวกเขาคิดอยู่ตลอดว่าโลกนี้มี Pain Point อะไรบ้าง
ผลงานชิ้นแรกที่ทำให้ Thomas Alva Edison มีชื่อเสียงเกิดจาก Pain Point คือ ในอดีตการพูดคุยกันไม่มีการบันทึกเสียง ดังนั้นสิ่งแรกที่ Edison ทำคือการประดิษฐ์แถบเทปสำหรับบันทึกเสียง นี่คือจุดเริ่มต้นของ Edison ที่คิดมาจาก Pain Point ของคนในยุคนั้น ซึ่งเป็นจินตนาการที่สร้างสรรค์มาก คิดว่าปัญหาคืออะไร และใช้ความคิดสร้างค์สรรค์ว่าจะผลิตอะไรมาแก้ไขปัญหานั้น
หลังจากนั้น ทั้งสามคนนี้ยังคงมีนวัตกรรมออกมาอีกมากมาย เพราะพวกเขาเชื่อว่าโลกนี้และสหรัฐอเมริกามี Pain Point มากมาย และต้องแก้ไขทุก ๆ Pain Point
นี่คือภาพในช่วงบั้นปลายชีวิตของ Thomas Alva Edison ที่ไม่ได้หยุดนิ่งเลยแม้ในช่วงสุดท้ายของชีวิต โดยมีบุคคลเช่น Henry Ford และ Harvey Firestone เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์
เรื่องราวเหล่านี้เป็นตัวอย่างของความคิดสร้างสรรค์ในยุคนั้น ว่าอะไรสามารถตอบโจทย์ Pain Point ของผู้คนได้และนำมาแปรรูปเป็นสินค้าและนวัตกรรมที่มีคุณค่าครับ
สรุป History of Creativity ประวัติศาสตร์ของความคิดสร้างสรรค์
จากที่เราได้สำรวจประวัติศาสตร์ของความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมในอดีต จะเห็นได้ว่า Pain Point หรือปัญหาที่คนในยุคนั้นต้องเผชิญ คือ จุดเริ่มต้นที่สำคัญของการพัฒนาและการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟของ Thomas Edison ที่เกิดจากปัญหาการขาดแคลนแสงสว่างในเวลากลางคืน หรือการพัฒนาเครื่องถอดรหัส Enigma ของ Alan Turing ที่มีจุดเริ่มต้นจากความต้องการในการแก้ไขปัญหาการสื่อสารทางทหารในช่วงสงคราม
Pain Point เหล่านี้ไม่เพียงแต่เป็นแรงบันดาลใจในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ แต่ยังเป็นปัจจัยที่กำหนดทิศทางและแนวทางในการแก้ไขปัญหาด้วยความคิดสร้างสรรค์ การพยายามหาวิธีการแก้ไข Pain Point ด้วยวิธีที่สร้างสรรค์และนวัตกรรมเป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะสิ่งที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นมานั้นจะมีคุณค่าและประโยชน์มากมายต่อสังคมในยุคนั้นและยุคต่อ ๆ ไปครับ
การเรียนรู้จากประวัติศาสตร์ของความคิดสร้างสรรค์จึงเป็นสิ่งที่สำคัญสำหรับนักการตลาดและนักพัฒนานวัตกรรมในปัจจุบัน การนำแนวคิดและวิธีการแก้ไข Pain Point จากอดีตมาเป็นแรงบันดาลใจ สามารถช่วยให้เรามองเห็นแนวทางใหม่ ๆ ในการแก้ไขปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบันและอนาคต
ความคิดสร้างสรรค์ไม่ได้เกิดขึ้นในสุญญากาศ แต่เกิดขึ้นจากความต้องการในการแก้ไขปัญหาและการตอบสนองต่อ Pain Point ของมนุษย์ การมีความเข้าใจใน Pain Point เหล่านี้และการนำความคิดสร้างสรรค์มาใช้เพื่อแก้ไขปัญหาจึงเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างสรรค์นวัตกรรมที่มีคุณค่าและสามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้