iOS 16.1 จาก Apple กับการบังคับใช้ Apple's Payment ที่จริงจัง ต้องบูสโพส Boost Post ผ่าน in-app purchase ที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม 30%

iOS 16.1 คุมเข้มตลาด NFT กับ Crypto และเก็บค่าธรรมเนียม Boost Post 30%

อัพเดท iOS 16.1 และ macOS Ventura เมื่อ Apple ออกกฏเหล็กคุมตลาด NFT, Crypto Exchanges และบังคับการ Boost Post ทุกแอปต่อไปนี้ต้องจ่ายเงินผ่าน Apple’s Payment หรือ in-app purchase ที่ต้องเสียค่าธรรมเนียม 30% เท่านั้น

การประกาศอัพเดท iOS 16.1 ที่ทำให้ลูกค้าผู้ใช้งาน iPhone ทั่วโลกต่างตื่นเต้นกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ มีฟีเจอร์หลายอย่างดีขึ้น ความสามารถใหม่ๆ ใน iPhone หรือ Mac เกิดขึ้นมากมาย แต่อีกสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ตามแต่คนส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยรู้ นั่นก็คือ App Store Policy

หรือนโยบายการทำงานของแอปที่รันบนระบบปฏิบัติการของ Apple ทั้งหลายต้องปฏิบัติตาม และนั่นก็ส่งผลกระทบต่อ Developer มากมาย โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรม NFT Web3 Cryptocurrency และนักการตลาดทั่วโลกที่ใช้ช่องทางดิจิทัลในการหาเงิน เพราะต่อไปนี้ Apple จะเริ่มเอาจริงกับการควบคุมการจ่ายเงินบนอุปกรณ์ของ Apple ทั้งหมด โดยเฉพาะ iPhone ครับ

และนั่นก็ดูเหมือนว่าตลาด Digital Marketing อุตสหากรรม Ad Tech และ NFTs จะเป็นเป้าหมายต่อไปที่ Apple จะขอเข้าไปมีเอี่ยวแบบเต็มๆ แม้เราจะไม่เต็มใจ ถ้าอยากรู้ว่าเราจะต้องปรับตัวตามกติกาใหม่ของ Apple อย่างไร และรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงจะมากขนาดไหน เชิญอ่านต่อได้เลยครับ

iOS 16.1 การเข้ามาควบคุมวิธีการจ่ายเงินบน iOS หรือ App Store ทั้งหมด

เมื่อวันจันทร์ที่ 24 ตุลาคม 2022 ที่ผ่านมา หลังจากการประกาศอัพเดทซอร์ฟแวร์เวอร์ชั่นใหม่ iOS 16.1 กับ macOS Ventura ยังมาพร้อมกับการประกาศกฏกติกาใหม่ของ App Store ที่ต่อจากนี้ทาง Apple จะเข้ามาคุมสามเรื่องหลัก

  1. NFT
  2. Cryptocurrency Exchange กระดานซื้อขายคริปโต
  3. การ Boost Post ทั้งหมด

ซึ่งการคุมของ Apple หลักๆ ในครั้งนี้คือบังคับให้ต้องจ่ายเงินผ่านระบบ Apple’s Payment เป็นหลัก นั่นอาจหมายถึงการบังคับให้ต้องจ่ายผ่าน in-app purchase ที่ทาง Apple คิดค่าธรรมเนียมสูงถึง 30% ครับ

แอป NFT บน iPhone ต่อไปนี้จะอวดเบ่งอวดเก่งไม่ได้และต้องจ่ายเงินผ่าน in-app payment เท่านั้น!

เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่ของคนในวงการ NFT หรือ Metaverse เลยครับ เพราะกฏข้อนี้เรียกได้ว่าเป็นการประกาศหักดิบกับคนในอุตสาหกรรม NFT ทั้งหมดจาก 2 ประเด็นหลัก

1. ห้าม NFT มีสิทธิพิเศษ Exclusive ใดๆ ในการใช้งานแอปบน iPhone

iOS 16.1 จาก Apple กับการบังคับใช้ Apple's Payment ที่จริงจัง ต้องบูสโพส Boost Post ผ่าน in-app purchase ที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม 30%

จากเดิมเอกลักษณ์ความเด่น ความเท่ห์ ความเก๋ ของการเป็นเจ้าของ NFT สักชิ้น คือการได้สิทธิพิเศษแบบ Exclusive เมื่อเราเป็นเจ้าของมัน เหมือนกับการได้ถือบัตรเครดิต Wealth สักใบ

จากเดิมเราอาจจะสามารถใช้ฟีเจอร์พิเศษ ความสามารถแปลกๆ บนแอปที่ออกแบบมาให้ทำงานกับ NFT หรือ Web3 ได้ แต่กลายเป็นว่าจากนี้ไปใน iOS 16.1 ห้ามทุกแอปให้ความสามารถพิเศษใดๆ กับผู้ที่มี NFT

ห้ามเข้าถึงคอนเทนต์พิเศษสำหรับผู้ถือ NFT บางชิ้นเหมือนก่อน ห้ามมีการเพิ่มเหรียญให้สำหรับผู้ถือ NFT เช่นกัน หรือห้ามไม่มีมีการเพิ่มความสามารถในการใช้งานแอป ของผู้ถือ NFT ชิ้นนั้น อันนี้กระทบเยอะ อย่างบางแอปบอกว่าถ้าใครถือ NFT ชุดนี้จะได้รับความสามารถพิเศษบลาๆ กลายเป็นว่าตอนนี้ต่อให้ลงทุนซื้อ NFT แล้วก็ไม่สามารถเก่งกว่าคนอื่นได้ เท่ากับว่า Apple กำลังประกาศเข้ามาควบคุมตลาด NFT บน iPhone อย่างเต็มที่ครับ

แถมถ้าจะมีการซื้อขายชิ้นงานต้องซื้อขายผ่านระบบจ่ายเงินของ Apple’s Payment เท่านั้น นั่นหมายความว่าต้องจ่ายผ่านระบบ in-app purchase ที่ Apple ออกแบบมาให้ นั่นก็หมายความว่าต้องโดนค่าธรรมเนียมที่สูงระดับ 30% เลยทีเดียว

iOS 16.1 จาก Apple กับการบังคับใช้ Apple's Payment ที่จริงจัง ต้องบูสโพส Boost Post ผ่าน in-app purchase ที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม 30%

แล้วทาง Apple ก็ยังบอก Developer ว่าห้ามทำการใส่ลิงก์ให้ผู้ใช้งานออกไปซื้อหรือจ่ายเงินนอกแอปเด็ดขาด ห้ามมีการใส่ปุ่มเพื่อดึงคนออกไปข้างนอก หรือห้ามกระทั่งการใส่ข้อความ Call to Action ลงไป สรุปได้ว่า Apple กำลังบีบบังคับอุตสหากรรม NFT ต้องจ่ายเงินผ่าน Apple’s Payment เท่านั้นถ้ายังอยากจะเข้าถึงผู้ใช้งาน iPhone ครับ

จากข่าวลือวงในได้ยินว่า บรรดาแอป NFT ใหญ่ๆ ระดับโลกพร้อมจะถอนตัวถอดแอปตัวเองออกจาก App Store ในทันที แต่ก็ดูเหมือนว่าทาง Apple มีการยื่นข้อเสนอพิเศษ ลดค่าธรรมเนียมเหลือ 15% แต่ทางแพลตฟอร์ม NFT ยักษ์ใหญ่ก็หาแคร์ไม่

การที่ Apple เข้ามารุกยังพื้นที่ตลาด NFT และ Web3 อย่างจริงจังส่วนหนึ่งอาจมาจากการที่ META หรือบริษัทแม่ของ Facebook เองที่ออกมาประกาศสร้างพื้นที่ของ NFT Digital Artist Creator เมื่อไม่นานมานี้ ว่าจะให้ผู้ถือชิ้นงาน NFT สามารถเอามาใช้เป็นรูปโปรไฟล์บน Facebook และ Instagram หรือแม้แต่กับการโพสคอนเทนต์ทั่วไปได้

iOS 16.1 จาก Apple กับการบังคับใช้ Apple's Payment ที่จริงจัง ต้องบูสโพส Boost Post ผ่าน in-app purchase ที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม 30%
Photo: https://techcrunch.com/2022/08/30/meta-now-lets-you-post-your-nfts-on-both-facebook-and-instagram/

แต่การซื้อขายผลงานใน NFT Marketplace ของ META นั้นจะต้องเสียค่าธรรมเนียมที่สูงถึง 30% เรียกได้ว่าทำเอา NFT Creator เดิมมองข้าม แต่ก็ได้รับความสนใจจากหน้าใหม่ไม่น้อย

เพราะเมื่อคิดถึงในมุมว่าผลงานเราจะสามารถเข้าถึงผู้ใช้งาน Facebook และ Instagram เดิมที่มีผู้ใช้รวมกันกว่าสามพันล้านคนแล้ว ส่วนแบ่งที่จะต้องเสียให้พี่มาร์ค 30% ก็ดูเป็นอะไรที่สมเหตสมผล เอาไว้ดังแล้วค่อยไปหาแพลตฟอร์มใหม่ที่เสียค่าเปอร์เซนต์น้อยกว่าก็ยังไม่สายครับ

แต่นั่นก็ยังอาจหมายความว่า เป็นไปได้ที่ทาง Apple เองอาจจะริเริ่มสร้าง NFT Marketplace ของตัวเองขึ้นมาก็เป็นได้ ก็ในเมื่อส่วนแบ่ง 30% มันหอมหวานเย้ายวนใจ สู้เก็บเอาไว้เป็นของตัวเองสักหน่อยจะเป็นไร ก็ไหนๆ ทั่วโลกมีผู้ใช้ iPhone มากไม่รู้กี่ร้อยหรือพันล้านเครื่องแล้วในตอนนี้

ต้องรอดูกันต่อครับว่าผลของเรื่องนี้จะลงเอยอย่างไร จะถึงขั้นฟ้องร้องศาลเหมือนตอนที่บริษัทเกมยักษ์ใหญ่อย่าง EPIC เคยทำกับ Apple หรือไม่

ในตอนนั้นที่ Apple บังคับผู้พัฒนาแอปทุกรายที่ใช้งานใน iOS ว่าห้ามทำการซื้อขายไอเท็มนอก iOS เด็ดขาด แต่สุดท้ายศาลก็ตัดสินว่ามันเป็นการผูกขาดตลาดมากเกินไป ผู้พัฒนามีสิทธิเลือกได้ว่าจะให้ผู้ซื้อเลือกช่องทางไหน ระหว่างช่องทาง Apple ที่ดูจะแสนง่ายในการจ่าย กับช่องทางของผู้พัฒนาแอปเองที่อาจจะต้องยอมลงทุนเข้าเว็บผ่านคอม แต่ก็ได้ในราคาที่ถูกกว่าร่วม 30% เพราะไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมให้ Apple in-app purchase ครับ

ผลกระทบของการอัพเดท iOS 16.1 ต่ออุตสาหกรรม NFT มีประมาณนี้ในตอนนี้ครับ ถ้ามีอะไรเพิ่มเติมจะมาอัพเดทให้อ่านกันอีกรอบ มาดูผลกระทบต่อตลาด Cryptocurrency กันบ้าง

2. กระดานซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโต Crypto Exchanges พร้อมถอดแอปออกทันทีถ้าไม่มีใบอนุญาต

iOS 16.1 จาก Apple กับการบังคับใช้ Apple's Payment ที่จริงจัง ต้องบูสโพส Boost Post ผ่าน in-app purchase ที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม 30%

ดูเหมือนว่าทาง Apple จะเอาจริงเอาจังในเรื่องตลาดคริปโตเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าทำงานดีจน กลต หลายประเทศน่าจะต้องให้รางวัลหรือค่าจ้างแล้ว

เพราะการอัพเดทกฏกติกา App Store ล่าสุดบอกว่าถ้าแอปไหนดูแล้วยังไม่ได้รับใบอนุญาตในประเทศนั้น ก็พร้อมจะถอดแอปออก ปลดแอปลงในทันที เรียกได้ว่าเล่นบทพระเจ้าคริปโต ไม่รู้ว่าการตัดสินใจแบบนี้ของ Apple จะส่งผลต่อผู้ลงทุนในคริปโตและ NFT มากขนาดไหน

อย่างดีก็คงมีมือถืออีกเครื่องหนึ่ง อย่างแย่ก็เลิกใช้ iPhone ไปเลย แล้วกลายเป็นสาวก Android แทนครับ

จะยิงแอดโฆษณา Boost Post ใดๆ ใน iPhone หรือ iOS ต้องกดจ่ายผ่าน in-app purchase ที่บวก 30% เท่านั้นนะจ๊ะ

สองข้อแรกอาจกระทบคนบางกลุ่มหนักมาก แต่ยังไม่ใช่คนส่วนใหญ่มากเท่ากับข้อนี้ เพราะกฏใหม่ของ Apple Store ใน iOS 16.1 ข้อนี้ส่งผลต่อคนทำธุรกิจรายย่อย SME แทบทุกคนทั่วโลก ส่งผลต่อนักการตลาดออนไลน์คนทำ Digital Marketing ถ้วนหน้าครับ

เพราะกฏใหม่ของ App Store ประกาศว่าทุกการซื้อโฆษณาบนโทรศัพท์มือถือ iPhone หรืออุปกรณ์ใดก็ตามที่ใช้ระบบปฏิบัติการ iOS จากนี้ไป จะต้องทำการจ่ายเงินผ่านระบบ Apple’s Payment ที่เป็น in-app purchase เท่านั้น!!

หลายคนอาจคิดถึงผลกระทบจากการ Boost Post ของ Facebook กับ Instagram เป็นหลัก แต่ในคำอธิบายของ Apple คือ ทุกการกระทำที่ส่งผลให้คนเห็นมากขึ้นไม่ว่าจะแอปใดก็ตาม นั่นหมายความว่าทั้งการซื้อโฆษณาเพื่อให้คนเห็นมากขึ้นใน TikTok การบูสโพส Profile ใน Tinder

เรียกได้ว่าทุกการทำให้คนเห็นสิ่งที่เราอยากให้คนเห็นมากขึ้น ถ้าเราจะซื้อการบูสโพสใน iPhone จะต้องจ่ายเงินผ่าน in-app purchase เท่านั้น และนั่นก็หมายความว่าเราจะต้องจ่ายเงินเผื่อค่าธรรมเนียมของ​ Apple ที่สูงถึง 30% โดยยังได้ผลลัพธ์การมองเห็นเท่าเดิม เรียกได้ว่าค่าแอดจะแพงหูฉี่ อาจส่งผลให้ตลาดคอมพิวเตอร์ราคาถูกโตขึ้นก็ได้จากกฏข้อนี้ครับ

สรุป 3 การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จาก iOS 16.1 ค่าโฆษณาอาจแพงขึ้น 30% ตลาด NFT ซบเซา และแอปกระเป๋าคริปโตเราอาจหายไปในทันใด

iOS 16.1 จาก Apple กับการบังคับใช้ Apple's Payment ที่จริงจัง ต้องบูสโพส Boost Post ผ่าน in-app purchase ที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมเพิ่ม 30%

ส่วนตัวผมคิดว่าที่ Apple เลือกยาแรงแบบนี้กับตลาด NFT เพราะประเมินแล้วว่าอนาคตของอุตสาหกรรมนี้น่าจะมาแรงจนไม่อยากพลาดร่วมวงในตอนท้าย ยอมเอากฏเหล็กมาใช้แล้วลองประเมินผลดูว่า คนต่อต้านเยอะมากน้อยแค่ไหน ถ้าไม่มากเท่าไหร่ก็ฝืนใช้ต่อไป แต่ถ้ามากเกินไปก็อาจเกิดการกลับลำ

ในตลาดของกระดานซื้อขายคริปโตเองก็เช่นกัน ดูเหมือนว่า Apple ก้าวเข้ามาเล่นบทบาทของ Regulator จริงจัง น่าจะได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลทั่วโลกไม่น้อย เพราะหลายแอปที่เราใช้ซื้อขายคริปโตกันก็ยังไม่ได้รับใบอนุญาตในไทย เช่น Binance เอง

สุดท้ายกับการซื้อโฆษณาใดๆ ก็ตามที่คล้ายๆ การบูสโพสนั้นจะต้องจ่ายเงินผ่านระบบของ Apple’s Payment ที่มาพร้อมค่าธรรมเนียมมหาโหดดูจะเป็นยาขม หรือยาพิษด้วยซ้ำ

แต่นั่นหมายความว่าทาง Apple อาจพร้อมแล้วที่จะเอาระบบซื้อขายโฆษณาของตัวเองมาให้นักการตลาดและเจ้าของธุรกิจได้ลองใช้ เพราะตลาด Ad Tech เองก็เป็นอะไรที่ Apple ใช้ข้ออ้างเรื่อง Privacy มาบังหน้า ทั้งที่เจ้าตัวพยายามจะเสนอให้เรายอมรับ Personalized Ads ของตัวเองจะแย่ครับ

รู้ก่อน เตรียมตัวก่อน ปรับตัวก่อน ลองศึกษาและติดตามดูเพิ่มเติม ถ้ามีอะไรใหม่กว่านี้มา ผมจะเอามาอัพเดทให้เพื่อนๆ นักการตลาดได้รู้กันอีกครั้งครับ

อ่านบทความเรื่อง Apple ยกระดับ Privacy เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้ iPhone หรือเพื่อขยายธุรกิจเข้าสู่ตลาด Ads Tech ล้านล้าน

Source: https://techcrunch.com/2022/10/25/apple-cracks-down-on-nft-functionality-social-post-boosts-with-app-store-rules/ 

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *