สรุป CTC 2024 หัวข้อ Essential Skills for the Future of Thailand รวม 29 ทักษะอาชีพในอาคต โดยพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
สวัสดีนักการตลาด และนักอ่านทุก ๆ คนครับ บทความนี้ผมนำ Session “Essential Skills for the Future of Thailand” โดยคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ จากงาน CTC 2024 มาฝากกันครับ มาดูว่าทักษะและอาชีพที่จะมีความสำคัญในอนาคตของประเทศไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า ทักษะอาชีพในอาคต จะมีอะไรบ้างติดตามได้ในบทความนี้เลยครับ
แนวคิด 29 อาชีพ 29 ทักษะในอนาคต ของพิธา ลิ้มเจริญรัตน์
คุณพิธาเล่าว่าในฐานะที่เป็นทั้ง สส. เป็นอดีตแคนดิเดตนายกของประเทศไทย และมีลูกสาวอายุ 8 ขวบที่จะเติบโตขึ้นเข้าสู่มหาวิทยาลัยในอีก 10 ปี คนเป็นพ่อก็มีลิสต์รายชื่อของอนาคตของอาชีพในประเทศไทยในอีก 10 ปีข้างหน้า คุณพิธามองว่าอาชีพในอนาคตขึ้นอยู่กับแนวคิดและเป้าหมายของประเทศไทย ขึ้นอยู่กับ Framework Thinking ในการวางแผนอนาคตของประเทศว่าเป็นยังไง
คุณพิธาใช้ SWOT Analysis (การวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และความเสี่ยง) เพื่อวางแผนและพัฒนาอาชีพในอนาคต หากรู้ว่าประเทศไทยจะเดินหน้ายังไง รูปแบบไหน อาชีพและทักษที่สำคัญก็จะโผล่ขึ้นมาเอง
ทั้งนี้คุณพิธามองว่าผู้นำที่ดีไม่เพียงแต่ใช้จุดแข็งและโอกาสของประเทศในการพัฒนา แต่ยังต้องสามารถเปลี่ยนจุดอ่อนและความท้าทายของประเทศให้กลายมาเป็นอุตสาหกรรมได้อีกด้วย ดังนั้น จุดอ่อน และความเสี่ยงจากการทำ SWOT Analysis ประเทศไทยนี่แหละครับที่คุณพิธานำมาใช้ในการ ลิตส์อาชีพและทักษะในอีก 10 ปีข้างหน้า
จากการนำจุดอ่อนและความเสี่ยงของประเทศไทยที่ได้จากการทำ SWOT Analysis พบว่ามี 3 ปัญหาหลักที่สามารถนำมาสร้างเป็นอุตสาหกรรมใหม่ขงประเทศไทยได้ ดังนี้ครับ
1. Climate Change การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลให้น้ำแล้งและน้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ต่าง ๆ เช่น นครศรีธรรมราช โคราช และกรุงเทพฯ รวมถึงไฟป่าที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในภาคเหนือ
2. ปัญหาผู้ป่วยติดเตียง โดยเฉพาะในพื้นที่ต่างจังหวัด ซึ่งขาดแคลนบุคลากรและทรัพยากรในการดูแลผู้ป่วยเหล่านี้ อีกทั้งลูกหลานก็มาทำงานในกทม. ยิ่งทำให้ขาดคนดูแล
3. ปัญหาน้ำขาดแคลน ซึ่งครอบคลุมทั้งน้ำประปา น้ำทะเล และน้ำที่ใช้ในการเกษตร ตัวอย่างเช่น ภูเก็ตที่ประสบปัญหาน้ำประปาขาดแคลนอย่างรุนแรงในช่วงฤดูแล้ง ปัญหาน้ำขาดแคลนเป็นเรื่องที่ทั่วโลกเผชิญอยู่มากที่สุด และเป็นปัญหาที่ต้องการการจัดการอย่างเร่งด่วน
จากปัญหาดังกล่าวจึงออกมาเป็น 29 อาชีพในอาคต จากเศรษฐกิจ 3 สี
29 อาชีพในอาคต จากเศรษฐกิจ 3 สี
เศรษฐกิจสีเขียว – Green Economy
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเผชิญกับภัยธรรมชาติ เช่น น้ำท่วมหนักในปี 2554 ที่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่หลายจังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานคร ทำให้เกิดความเสียหายอย่างมาก อาชีพดังต่อไปนี้จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นและผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ในประเทศ
- Climate Resilience Officer (เจ้าหน้าที่รับมือสภาพอากาศ): บทบาทของอาชีพนี้คือการวางแผนและดำเนินการเพื่อเพิ่มความสามารถของชุมชนในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- Renewable Energy Drone Technician (ช่างเทคนิคโดรนพลังงานทดแทน): การใช้โดรนเพื่อสำรวจและจัดการพลังงานทดแทน
- Climate Change Psychologist (นักจิตวิทยาด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ): ช่วยประชาชนปรับตัวและจัดการกับผลกระทบทางจิตวิทยาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
- Green Building Architect (สถาปนิกอาคารเขียว): ออกแบบอาคารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและประหยัดพลังงาน
- Recycling Coordinator (ผู้ประสานงานการรีไซเคิล): จัดการและส่งเสริมการรีไซเคิลในชุมชน
- Urban Farmer (เกษตรกรเมือง): ปลูกพืชในเมืองเพื่อเพิ่มความยั่งยืนในการผลิตอาหาร
- Eco-Tourism Guide (มัคคุเทศก์เชิงนิเวศ): นำเที่ยวแบบยั่งยืนและรักษาสิ่งแวดล้อม
- Environmental Educator (ครูสอนสิ่งแวดล้อม): ให้ความรู้เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์
- Electric Vehicle Technician (ช่างเทคนิคยานยนต์ไฟฟ้า): ซ่อมบำรุงและดูแลยานยนต์ไฟฟ้า
- Conservation Scientist (นักวิทยาศาสตร์การอนุรักษ์): วิจัยและพัฒนาวิธีการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ
เศรษฐกิจสีเงิน – Silver Economy
การเพิ่มขึ้นของจำนวนผู้สูงอายุในประเทศไทยทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพและการดูแลผู้ป่วยติดเตียง โดยเฉพาะในพื้นที่ชนบทที่การเข้าถึงบริการสาธารณสุขยังมีข้อจำกัด อาชีพดังต่อไปนี้จะช่วยแก้ปัญหาเหล่านั้นและผลักดันให้เกิดอุตสาหกรรมใหม่ในประเทศ
- Gerontechnologist (นักเทคโนโลยีผู้สูงอายุ): พัฒนาเทคโนโลยีเพื่อช่วยผู้สูงอายุในการดำเนินชีวิตประจำวัน
- Aging Lifestyle Designer (ผู้ออกแบบไลฟ์สไตล์ผู้สูงอายุ): ออกแบบผลิตภัณฑ์และบริการสำหรับผู้สูงอายุ
- Aging-in-Place Specialist (ผู้เชี่ยวชาญด้านการอยู่อาศัยของผู้สูงอายุ): ช่วยผู้สูงอายุปรับปรุงบ้านเพื่อให้อยู่ได้อย่างปลอดภัยและสะดวกสบาย
- Memory Care Specialist (ผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลความจำ): ให้การดูแลและสนับสนุนผู้ที่มีปัญหาความจำ
- Elder Law Attorney (ทนายความผู้สูงอายุ): ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายสำหรับผู้สูงอายุ
- Senior Nutritionist (นักโภชนาการอาวุโส): ให้คำปรึกษาด้านโภชนาการสำหรับผู้สูงอายุ
- Geriatric Nurse Practitioner (พยาบาลผู้สูงอายุ): ดูแลสุขภาพของผู้สูงอายุ
- Retirement Planning Advisor (ที่ปรึกษาการวางแผนเกษียณอายุ): ช่วยผู้สูงอายุวางแผนทางการเงินเพื่อการเกษียณ
- Social Worker for the Elderly (นักสังคมสงเคราะห์สำหรับผู้สูงอายุ): ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนผู้สูงอายุในชุมชน
- Senior Companion (เพื่อนคู่ใจผู้สูงอายุ): ให้การดูแลและเป็นเพื่อนกับผู้สูงอายุ
เศรษฐกิจสีน้ำเงิน – Blue Economy
- Marine Biologist (นักชีววิทยาทางทะเล): ศึกษาและวิจัยสิ่งมีชีวิตในทะเล
- Aquaculture Farmer (เกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ): เลี้ยงปลาและสัตว์น้ำอื่นๆ เพื่อการบริโภค
- Oceanographer (นักสมุทรศาสตร์): ศึกษาและวิจัยมหาสมุทรและทะเล
- Marine Renewable Energy Specialist (ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานทดแทนทางทะเล): พัฒนาพลังงานทดแทนจากทะเล
- Sustainable Fisheries Manager (ผู้จัดการการประมงที่ยั่งยืน): จัดการการประมงเพื่อความยั่งยืน
- Coastal Engineer (วิศวกรชายฝั่ง): ออกแบบและก่อสร้างโครงสร้างทางวิศวกรรมบริเวณชายฝั่ง
- Marine Policy Analyst (นักวิเคราะห์นโยบายทางทะเล): วิจัยและวิเคราะห์นโยบายที่เกี่ยวข้องกับทะเลและมหาสมุทร
- Underwater Robotics Technician (ช่างเทคนิคหุ่นยนต์ใต้น้ำ): พัฒนาหุ่นยนต์ที่ใช้ใต้น้ำ
- Marine Conservationist (นักอนุรักษ์ทางทะเล): ทำงานเพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล
อาชีพทั้งหมดนี้สะท้อนถึงการตอบสนองต่อปัญหาที่ประเทศไทยเผชิญในปัจจุบัน และเตรียมความพร้อมเพื่ออนาคตที่ยั่งยืนและมีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น โดยอาชีพใน Green Economy จะเน้นการแก้ไขปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อาชีพใน Silver Economy จะมุ่งเน้นการดูแลผู้สูงอายุและการพัฒนาบริการเพื่อรองรับสังคมสูงวัยที่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ส่วนอาชีพใน Blue Economy จะเน้นการจัดการทรัพยากรทางทะเลและน้ำ เพื่อให้มีการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนและรักษาสมดุลของระบบนิเวศทางทะเล
นอกจากนี้ การเตรียมความพร้อมด้วยการพัฒนาอาชีพและทักษะในเศรษฐกิจ 3 สี ยังเป็นการส่งเสริมให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก โดยมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในการพัฒนาประเทศอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามคุณพิธา เน้นย้ำว่า ทักษะอาชีพในอาคต ขึ้นอยู่กับ Framework Thinking ในการวางแผนอนาคตของประเทศว่าเป็นยังไง รูปแบบไหน หากเรารู้ อาชีพและทักษะ ที่สำคัญก็จะโผล่ขึ้นมาเองครับ
บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ
Unique Selling Point 10 เทคนิคเปลี่ยนสินค้าธรรมดาให้น่าซื้อ จากงาน CTC 2024