ในยุคดิจิทัลที่เต็มไปด้วยเทรนด์ใหม่ ๆ การเข้าใจพฤติกรรมลูกค้า และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีจึงมีความสำคัญต่อธุรกิจมากขึ้น บทความนี้ผู้เขียนจะมาสรุปหัวข้อ “Social Trends 2024 & CRM Engagement Suited” ของคุณกล้า – Wisesight, คุณ Michael Chen – Buzzebees และคุณไข่ – Future Trends ในงาน MarTech Expo 2024 by SC Asset ที่ผ่านมา ให้ได้อ่านกันค่ะ
ในปีที่ผ่านมาข้อมูลเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่รายงานข้อมูลแบบไหนจะทำให้เราเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการเก็บข้อมูลของลูกค้ามาวิเคราะห์ แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อธุรกิจของตัวเองได้
Social Trends 2024 ที่น่าสนใจ
ในงานนี้ก็ได้พูดถึง “บทบาทของ Social Media กับการทำธุรกิจ” จากการเก็บข้อมูลของ Wisesight พบว่ามีข้อมูล และ Insight ที่น่าสนใจเพียบเลยล่ะค่ะ ตามไปดูที่หัวข้อต่อไปได้เลย!
Social Trends 2024 : Platform ที่สร้าง Engagement ได้มากที่สุด
… “อันดับ 1 เป็นของ ‘Meta’ ค่ะโดยมี Engagement อยู่ที่ 221M คิดเป็น 52% ของทั้งหมด” …
ตามด้วย TikTok แพลตฟอร์มวิดีโอยอดฮิต อยู่ที่ 32% (135M),Instagram อยู่ที่ 9% (36M), X อยู่ที่ 9% (26M) และ Youtube อยู่ที่ 1% (4M) ตามลำดับ
Social Trends 2024 : Platform ที่แบรนด์เลือกใช้สื่อสารกับลูกค้ามากที่สุด
- อันดับที่ 1 : Meta 99%
- อันดับที่ 2 : X 34%
- อันดับที่ 3 : Instagram 73%
- อันดับที่ 4 : Youtube 50%
- อันดับที่ 5 : TikTok 38%
ซึ่งทางผู้เขียนคาดว่า “สาเหตุที่ Meta มาเป็นอันดับ 1 น่าจะเป็นเพราะ Meta เป็นแพลตฟอร์มที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก” นั่นเองค่ะ
แต่ Social Trends 2024 ของงานนี้ยังไม่หมดเพียงเท่านี้นะคะ คุณกล้า Wisesight ยังเผยอีกว่า
… “26.4% ของธุรกิจที่ทำการสำรวจนั้น ใช้แพลตฟอร์มในการติดต่อลูกค้ามากถึง 5 แพลตฟอร์ม”…
และ 24.8% ใช้ 4 แพลตฟอร์ม 25.2% ใช้ 3 แพลตฟอร์ม,18.9% ใช้ 2 แพลตฟอร์ม และ 4.7% ใช้เพียงแพลตฟอร์มเดียวในการสื่อสารกับลูกค้า
และอุตสาหกรรมที่มีการเติบโตของ Engagement สูงสุด 3 อันดับในช่วงปี 2022-2023
- อันดับ 1 คือ อุตสาหกรรม สกินแคร์ ที่มีการเติบโตจากเดิมมากถึง 410%
- อันดับ 2 คือ อุตสาหกรรม Marketplace & E-Commerce Platform 151%
- อันดับ 3 คือ อุตสาหกรรม วัสดุก่อสร้าง (-58%)
- อันดับ 4 คือ อุตสาหกรรม โทรคมนาคม (-47%)
นอกจากนี้ยังพูดคุยถึงเรื่องของการใช้ ‘Influencer Marketing’ กลยุทธ์การตลาดที่กำลังมาแรงในปี 2024 นี้ด้วย โดยเฉพาะในวงการ Vtuber ที่มีการเติบโตของ Engagement จากปี 2023 มากถึง 66% และมีการกล่าวถึงกว่า 100K Mentions กันเลยทีเดียว!
ในหัวข้อ Social Trends 2024 คอนเทนต์ที่ได้รับความนิยมสูงสุด มีดังนี้ค่ะ
- อันดับ 1 : คลิป ตลก อยู่ที่ 37%
- อันดับ 2 : คลิป สัตว์ อยู่ที่ 10%
- อันดับ 3 : คลิป เต้น อยู่ที่ 7%
- อันดับ 4 : คลิป เพลง อยู่ที่ 6%
- อันดับ 5 : คลิป พากิน อยู่ที่ 6%
- อันดับ 6 : คลิป เด็ก อยู่ที่ 6%
- อันดับ 7 : คลิป ทำอาหาร อยู่ที่ 5%
- อันดับ 8 : คลิป คนหน้าตาดี 3%
การใช้ CRM Tools เก็บข้อมูล
CRM เป็นแค่เครื่องมือในการเก็บข้อมูล แต่สุดท้ายแล้ว “การรักษาลูกค้าให้อยู่กับเรานาน ๆ” นั้นสำคัญที่สุดประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคนั้นมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ธุรกิจจึงจำเป็นต้องมีกลยุทธ์ต่าง ๆ มามัดใจลูกค้า ให้อยู่กับแบรนด์ให้นานที่สุด
ซึ่งที่ BUZZEBEES ก็มองเห็นถึงความสำคัญในจุดนี้ จึงได้ช่วยเหลือลูกค้า โดยการเป็น CRM & Digital Engagement Platform แบบครบวงจร เป็น One-Stop Service โดยใช้ Martech เชื่อมทุกระบบเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยให้ลูกค้าทำ CRM ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขายของได้ง่ายขึ้น
เราจะเริ่มใช้ CRM Tools อย่างไร?
STEP 01 : กำหนดเป้าหมาย
สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ใช่ “จะใช้ CRM Tools ตัวไหน” แต่คือ “คุณมีปัญหาอะไร” นี่คือสิ่งที่ผู้ประกอบการต้องหาคำตอบให้ได้ และจะใช้มันทำอะไร เพื่ออะไร และใช้อย่างไร จากนั้นจึงออกแบบกลยุทธ์ที่จะใช้ในการเก็บข้อมูลลูกค้า และวิธีการที่จะสื่อสารกับลูกค้าเพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจของคุณ
STEP 02 : เข้าใจ Customer Journey
ต้องดูให้ละเอียด ครอบคลุมทั้ง End-to-End Journey เขาเจอเราได้อย่างไร ระหว่าง Journey นั้นตรงไหนที่เขาประทับใจ ตรงไหนที่ทำให้เขารำคาญใจ ไปจนถึงลูกค้าเรามีพฤติกรรมอย่างไร เช่น บางคนชอบดูโฆษณาบางคนไม่ชอบ ตรงนี้แหละค่ะที่จะช่วยให้เรามองเห็นว่าปัญหามันเกิดขึ้นตรงจุดไหน
STEP 03 : กำหนดข้อมูลลูกค้า
เพื่อได้มาซึ่งคำตอบของสิ่งที่คุณต้องการ คุณต้องตอบคำถามให้ได้ว่าในการข้อมูลที่คุณต้องเก็บคืออะไร ข้อมูลพื้นฐาน? ข้อมูลการติดต่อ? หรือข้อมูลพฤติกรรม?
… “MarTech ทุกชนิดมีไว้แก้ปัญหา ขอแค่รู้ว่าปัญหานั้นคืออะไร”…
STEP 04 : เลือก CRM Tools
CRM Tools มีหลากหลายประเภท และเพื่อที่จะได้ในสิ่งที่คุณต้องการ คุณก็ต้องเลือกใช้ CRM Tools ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ เพราะว่า CRM Tools ส่วนใหญ่นั้นมีการเรียกเก็บค่าบริการในบางฟีเจอร์ ซึ่งหากคุณเลือกเครื่องมือในการทำ CRM เพียงเพราะเห็นว่าเป็นเครื่องมือที่ออกใหม่ ล้ำสมัย แต่ไม่ได้ Fit in กับข้อมูลที่คุณต้องการเลย นั่นจะทำให้คุณเสียเงินโดยไม่จำเป็น ทั้งนี้การเลือกใช้ CRM Tools ต้องไม่ลืมพิจารณาฟีเจอร์, การใช้งาน, และราคาควบคู่กันไปด้วย
STEP 05: ออกแบบฟอร์มเก็บข้อมูล
ฟอร์มการเก็บข้อมูลนั้นควรอยู่ในรูปแบบที่ลูกค้าสะดวก และสบายใจที่จะให้ข้อมูล เก็บเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น ระบุให้ชัดเจนว่าคุณจะนำข้อมูลนี้ไปทำอะไร ซึ่งฟอร์มการเก็บข้อมูลที่ออกแบบจากการศึกษาพฤติกรรมของลูกค้านั้น นอกจากจะทำให้เราได้ข้อมูลมาแล้ว ยังช่วยให้ข้อมูลมีความถูกต้องและแม่นยำมากขึ้นอีกด้วย
STEP 06 : รวบรวม และจัดเก็บข้อมูล
นำข้อมูลที่มีอยู่มาจัดเก็บให้เป็นระเบียบ หรือแปลงข้อมูลเป็นรูปแบบที่ CRM Tools นั้นรองรับ จากนั้นจึงจัดเรียงข้อมูลตามลำดับที่ถูกต้อง หากข้อมูลมีจำนวนมาก แนะนำให้จัดเก็บข้อมูลเป็นไฟล์ Excel, CSV, Data Import Wizard, ฯลฯ ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลให้เรียบร้อย อย่าลืมสำรองข้อมูลก่อนนำเข้าไว้ด้วยนะคะ เพื่อป้องกันการผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นได้ขณะจัดเก็บข้อมูล
STEP 07: วิเคราะห์ข้อมูล
ขั้นตอนนี้เปรียบเสมือนการหา “สาเหตุของปัญหา” ที่ธุรกิจของคุณกำลังเผชิญ สิ่งที่ต้องทำคือการนำ Data ที่ได้มาปะติดปะต่อกับปัญหาที่พบว่าปัญหานั้นเกิดจากอะไร และ Solution ไหนที่จะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้
STEP 08: พัฒนาการใช้งาน
เรียนรู้จากการใช้งาน มองหาข้อผิดพลาด และพัฒนาการใช้งาน CRM Tools ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
แล้วการทำ CRM จำเป็นต้องใช้ทุกแพลตฟอร์มไหม?
บอกตรงนี้เลยว่าไม่จำเป็นค่ะ ขอเพียงแค่คุณรู้ว่าใครคือลูกค้าของคุณ ใครคือคนที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้าของคุณ เขาอยู่ที่ไหน ตามหาให้ได้ว่าอะไรที่สามารถอิมแพคให้เขามาซื้อสินค้าของเราได้ แล้วเดินหน้าลุยตรงนั้นเลยค่ะ
แต่สำหรับผู้ประกอบการที่กังวลว่าหากลงทุนให้กับ CRM Tools ตัวหนึ่งที่มีฟีเจอร์มากกว่าที่ต้องการใช้แล้วกลัวว่าจะใช้จะไม่คุ้มแล้วล่ะก็ ผู้เขียนอยากให้ลองคิดในอีกมุมค่ะ
… “ถึงแม้จะไม่ได้ใช้ฟีเจอร์ทั้งหมด แต่เพียงฟีเจอร์เดียวที่ช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้ แค่นั้นก็คุ้มค่ากับการลงทุนแล้ว”..
อีกสิ่งที่อยากเสริมก็คือ “การตามเทรนด์” ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะช่วยให้เราขายสินค้าได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างง่าย ๆ สินค้าบางอย่างที่แบรนด์ไม่คิดว่าจะขายได้ แต่พอเป็นเทรนด์ หรือเกาะเทรนด์ปุ๊บ ยอดขายกลับดีขึ้นกว่าเดิมเป็นเท่าตัว เพราะฉะนั้นอย่าลืมที่จะติดตามเทรนด์ และมีส่วนร่วมกับ Social Trends 2024 ด้วยนะคะ
ตามอ่านบทความต่าง ๆ ที่เกี่ยงข้องกับงาน MarTech Expo 2024 กันต่อได้เลยที่