Re-Strategy for Big Business learn from Digital Business

4 Re-Strategy แนวทางการปรับตัวของธุรกิจใหญ่ที่เรียนรู้จากธุรกิจใหม่

แนวทางการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์หรือ Re-Strategy ของธุรกิจขนาดใหญ่ ที่เรียนรู้ได้จากธุรกิจ Startup เกิดใหม่ที่เป็น Digital Business สรุปออกมาได้เป็น 4 ประเด็นสำคัญที่คุณควรรู้

จากรายงาน Riding the Digital Wave ทั้งหมดที่เราอ่านกันมาทำให้เห็นภาพชัดเจนว่าในยุคใหม่ที่ถูกนิยามว่า Discovery Generation ในวันที่ใครๆ ต่างก็ออนไลน์กันหมดแล้วนั้นเต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจมากมายสำหรับธุรกิจเกิดใหม่ ที่เกิดมาพร้อมกับความเข้าใจในการทำธุรกิจแบบใหม่ในยุคดิจิทัล พวกเขาไม่ได้ยึดติดกับช่องทางการขายแบบเก่าๆ ไม่ได้โฟกัสไปกับการตลาดแบบแมสแบบเดิมๆ และนั่นก็หมายความว่าธุรกิจยักษ์ใหญ่จากยุคสมัยเดิมนั้นเต็มไปด้วยคู่แข่งทั้งสิบทิศ

เรื่องแรกที่สำคัญคือธุรกิจยักษ์ใหญ่ที่มาจากยุค Traditional หรือ Analog นั้นต้องรู้จักเรียนรู้จากธุรกิจใหม่ที่เพิ่งเกิดขึ้นมาไม่กี่ปีจากการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่วันนี้กลายมาเป็นยักษ์ใหญ่ ว่าพวกเขาใช้ Omni-channel Strategy อย่างไรจนประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็วเหลือเกิน ดูตัวอย่างง่ายๆ จาก Grab หรือ Lineman ก็ได้ครับ ที่วันนี้พวกเขากลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติหรือระดับโลกภายในระยะเวลาไม่กี่ปีเท่านั้นเอง แล้วถ้าถามว่าบริษัทเหล่านี้มี Asset อะไรมากเท่ากับบริษัทใหญ่จากยุคเก่ามั้ยก็ต้องบอกว่าไม่เลย Grab ก็ไม่ได้มีรถของตัวเอง ไม่ได้มีร้านอาหารของตัวเอง ไม่ได้มีพนักงานประจำของตัวเองมากมาย แต่กลับสามารถสร้างรายได้มหาศาลจนธุรกิจใหญ่ๆ เดิมต้องไม่พอใจแต่ก็จะตัดเยื่อใยไม่ทำธุรกิจด้วยก็ไม่ได้

ดังนั้นถ้าคุณอยู่ในธุรกิจใหญ่หรือเป็นธุรกิจที่เกิดมาจากยุคก่อนดิจิทัลนั้นจะเรียนรู้อะไรจากพวกเขาได้บ้าง และนี่ก็คือ 4 บทเรียนสำคัญที่จะทำให้ธุรกิจคุณยังคงไปต่อได้ในยุคที่เรียกว่า Discovery Generation ครับ

1. Reimagine your brand discovery คิดใหม่ทำใหม่ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายต่อจากนี้

Re-Strategy 4 Key Topics for Big Business learn from Digital Business Reimagine your brand discovery คิดใหม่ทำใหม่ในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายต่อจากนี้

ให้คุณลองจินตนาการว่าถ้าคุณไม่มีงบการตลาดสักบาท หรือถ้ามีก็มีน้อยมากเหมือนธุรกิจเกิดใหม่ส่วนใหญ่ คุณจะทำอย่างไรให้กลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการรู้จักคุณได้มากที่สุด เพราะวิธีการตลาดแบบเก่าๆ จากยุค Traditional คือการพยายามยัดเยียดสิ่งที่คุณอยากบอกไปยังผู้บริโภคมากที่สุด แต่ในยุค Post Digital นี้ทำอย่างไรให้พวกเขาเจอคุณง่ายที่สุดในเวลาที่พวกเขาต้องการถึงจะเป็นโฆษณาที่ดีที่สุดต่างหากครับ

2. Rethink your route-to-market strategy กลยุทธ์ใหม่ในการเข้าสู่ตลาดแข่งขัน

Rethink your route-to-market strategy กลยุทธ์ใหม่ในการเข้าสู่ตลาดแข่งขัน

การจะเปิดตัวสินค้าหรือแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในวันนี้ต่างจากวันวานอย่างสิ้นเชิง จากเดิมเราอาจต้องมีหน้าร้าน มีงานเปิดตัว หรือแม้แต่มีโฆษณาปังๆ ในช่วงเวลาที่ดีที่สุด แต่พอมาวันนี้ในยุคดิจิทัลเราอาจจะไม่ต้องใช้งบการตลาดอะไรมากมาย หรือแทบไม่ต้องใช้เลยก็เป็นได้ เพราะในเมื่อทุกคนล้วนออนไลน์กันถ้วนหน้า สิ่งสำคัญที่ธุรกิจยุคใหม่ต้องถามตัวเองให้ดีคือ “เรามีกลยุทธ์จะเปิดตัวธุรกิจบนออนไลน์อย่างไรให้คนที่เราต้องการรู้จักโดยใช้เงินให้เกิดประโยชน์สูงสุด?” และที่สำคัญคือมันจะแตกต่างจากคู่แข่งที่มีอยู่เต็มออนไลน์ได้อย่างไร

3. Redefine partnerships ใช้แพลตฟอร์มต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

Redefine partnerships ใช้แพลตฟอร์มต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

คุณต้องนิยามคำว่า Partner ใหม่ในยุคนี้ เพราะดิจิทัลแพลตฟอร์มต่างๆ ที่ผู้คนใช้คือพาร์ทเนอร์ที่ดีที่สุดของธุรกิจในยุค Discovery Generation โดยเฉพาะบรรดาแพลตฟอร์มค้าขายออนไลน์ทั้งหลายหรือที่เรียกว่า E-Commerce ที่เก็บ Data ของธุรกิจและลูกค้าคุณไว้ให้พร้อมใช้งานในระดับหนึ่งจนถึงในระดับที่ดีสำหรับบางแพลตฟอร์มเลยล่ะ ดังนั้นธุรกิจยุคใหม่ต้องรู้จักเข้าไปใช้ Data จากหลังบ้านของแพลตฟอร์มเหล่านี้เพื่อทำความเข้าใจลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมาย หรือเรียกง่ายๆ ว่าหา Insight จาก Data ให้เจอนั่นเองครับ

4. Redesign your organisation model พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปไวแต่ไฉนวิธีการทำงานในองค์กรยังเหมือนเดิม

Redefine partnerships ใช้แพลตฟอร์มต่างๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

หลายองค์กรยังคงมีวิธีการทำงานแบบโลกยุคเก่า ยังคงทำงานกันเสมือนว่าโลกเรายังไร้ซึ่งอินเทอร์เน็ต หรือแม้แต่ยังคงทำงานเสมือนว่าลูกค้าไม่ได้เข้าถึงอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงผ่านสมาร์ทโฟนได้ทุกที่ทุกเวลาอย่างไรอย่างนั้น ทีมงานฝ่ายการตลาดยังคงแยกกันทำงานกับฝ่ายขาย แล้วทีมงานฝ่ายบริการลูกค้าก็แทบไม่เคยรู้ว่าพนักงานขายหน้าร้านให้สัญญาอะไรไปบ้าง

นี่คือปัญหาขององค์กรส่วนใหญ่ที่ยังคงทำงานด้วยวิธีเก่าๆ ในยุคที่ไม่มีอะไรเหมือน 5 ปีก่อนอีกต่อไป ผมยังคงได้ยินนักการตลาดหรือนักธุรกิจคิดว่า “คนกลุ่มนี้เค้าไม่เล่นออนไลน์หรอก” ผมอยากให้คุณลองหันไปมองข้างๆ แล้วบอกทีว่ามีใครไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟนอีกบ้างในวันนี้ จากตัวเลขล่าสุดคนไทยใช้สมาร์ทโฟนมากถึง 94% จนผมไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าอีก 6% ที่เหลือนี่เป็นเครื่องเก่าที่ทำหาย หรือเอาไว้ใช้หนีแฟนให้ไลน์ตามไม่ได้กันแน่ครับ

ดังนั้นเมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไปหมดแล้ว คุณก็ต้องรู้จักปรับองค์กรหรือ Re-Strategy ให้เข้ากับพฤติกรรมผู้บริโภคตามไปเช่นกันด้วย

และในตอนหน้าจะเป็นตอนสุดท้ายแล้วจริงๆ ของรายงานฉบับนี้ Riding the Digital Wave จาก Facebook 2020 ที่จะพูดถึง 4 แนวทางการปรับตัวของแบรนด์ใหญ่ว่าจะปรับอย่างไรถึงจะเกิด impact มากที่สุด

อ่านซีรีส์คอนเทนท์ชุด Discovery Generation จากรายงาน Riding the Digital Wave ของ Facebook และ Bain Company > https://everydaymarketing.co/?s=riding+digital+wave

Source > https://www.facebook.com/business/m/riding-the-digital-wave

เจ้าของเพจการตลาดวันละตอน / อาจารย์พิเศษวิชา Data-Driven Communication / เขียนหนังสือมาแล้ว 5 เล่ม Personalized Marketing, Data-Driven Marketing, Data Thinking, Contextual Marketing และ Social Listening / ที่ปรึกษา Data-Driven Advisor

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *