รายการ “การตลาดวันละคน” จะพาทุกคนมาพบกับ คุณแบงค์ สิทธินันท์ พลวิสุทธิ์ศักดิ์ จาก Content Shifu ที่จะมาแชร์ความรู้และชวนคุยกันในหัวข้อ ‘MarTech Trends 2025’ จากรายงาน MarTech Report ที่สัมภาษณ์นักการตลาดไทยกว่า 500 คนทั่วประเทศ ทิศทางเทรนด์การตลาดไทยจะไปทางไหน จะมีอะไรที่น่าสนใจกันบ้างไปลองอ่านกัน
จุดเริ่มต้นของ Thailand’s MarTech Report
เรื่อง MarTech เป็นเรื่องที่คุณแบงค์อินมานานตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วในการทำ Startup แม้จะไม่รู้วิธีเขียนโค๊ด แต่มีเครื่องมือทำเว็ป ซึ่งเป้นเพียงแค่หนึ่งเครื่องมือ โดยปัจจุบันมีเครื่องมืออยู่มากมาย และมีการลงทุนเพื่อทดลองใช้ หากเปรียบเทียบคนสองคนสู้เก่งเท่ากัน A มีดาบที่สร้างจากไวเบรเนียม ส่วน B เป็นดาบไม้ ดังนั้น A จึงเปรียบเสมือนการมีเครื่องมือและดาต้าที่จะช่วยให้ได้เปรียบมากกว่า B
ปีนี้เป็นปีที่ 3 ของการทำ Thailand’s MarTech Report นี้ โดยก่อนหน้านี้อ่านจาก Report ต่างประเทศมาก่อน แต่พบว่าไม่เข้ากับบริบทของคนไทย จึงเริ่มตัดสินใจทำเล่มนี้ขึ้นมาเพราะความ Unique ของพฤติกรรมคนไทยจากต่างประเทศ ผ่านการทำร่วมกับทาง Hummingbirds Consulting มาช่วยเสริมที่โดดเด่นด้านงานวิจัย โดยรวม 3 ปี มีการดาวน์โหลดมากกว่า 10,000 ครั้ง
ภาพรวม MarTech ไทยในปีนี้
สำหรับ MarTech Trends ในปีนี้คุณแบงค์มองว่า MarTech ยังไม่ถูกใช้ในไทยมากนักและจริงจัง ด้วยท่าปกติที่คนนิยมทำคือ “จำใส่หัวไว้” แต่เมื่อมีจำนวนมากขึ้นจึงเริ่มใช้ Excel (Spreadsheet) แต่จะดีกว่าไหมหากมีระบบ CRM ที่ช่วยทำให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ดังนั้นตลาดยังเปิดโอกาสให้ผู้เล่นหลายราย และอีกมุมหนึ่งหากองค์กรไหนเริ่มก่อนก็มีโอกาสที่จะสำเร็จก่อน
จักรวาล Marvel กว้างใหญ่ไพศาล แต่จักรวาล MarTech ใหญ่มากกว่านั้นมาก
โดยหากเจาะมาสำหรับผู้ให้บริการในไทยจะมีเกือบ 300 ตัว และหากเจาะละเอียดจะเห็น MarTech เจ้าของที่เป็นคนไทยประมาณ 115 ตัว ดังนั้นผู้เล่นมีมากแล้ว เพียงแค่ขอให้ธุรกิจเปิดใจและนำไปประยุกต์ใช้
ก่อนจะมาเป็นรายงานเล่มนี้
รายงานนี้มีผู้ร่วมตอบมากกว่า 513 คน โดยความสำเร็จในครั้งนี้เพราะมี Media Partner เข้ามาช่วยกระจายแบบสอบถาม พร้อมกับมี Sponsored ที่สนับสนุนในการทำ สิ่งที่คุณแบงค์กล่าวก่อนเริ่มคือ ข้อมูลที่นำมาพูดคุยขึ้นอยู่กับการสำรวจ ที่อาจจะตีความได้หลายแบบจึงต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ และหากมีส่วนใดที่แนะนำก็ยินดีรับฟัง
แนวโน้มความสำคญของ MarTech ในแต่ละหมวด
MarTech แบ่งเป็นหมวดหมู่ใหญ่ๆ ทั้งหมด 6 หมวด โดย 3 อันดับแรก คือ หมวดหมู่ข้อมูล หมวดหมู่พาณิชย์และการขาย และหมวดหมู่โซเชียลมีเดียและความสัมพันธ์
คุณแบงค์มองว่าการที่ดาต้าได้รับความสำคัญ เพราะ 2022 มี PDPA และปีที่แล้วมี GDPR ดังนั้นคนจึงให้ความสำคัญกับข้อมูลมากขึ้น ซึ่งเป้นความท้าทายของนักการตลาดที่จะเก็บข้อมูลได้ยากขึ้น จึงเริ่มหันมาเก็บข้อมูลไว้ที่ตนเองที่เรียกว่า “First-Party Data”
ในด้านของงบประมาณ จะเห็นได้ว่างบ MarTech กับรายได้องค์กรใช้เพียงไม่ถึง 1% และ สัดส่วนต่องบการตลาดประมาณ 10% ซึ่งคุณแบงค์มองว่าไม่ได้เยอะ ไม่ได้น้อย แนะนำให้เร่มลงทุนตั้งแต่วันนี้ เพื่อเรียนรู้ และช่วยลดงบประมาณในบางส่วนลงได้ “เพราะ MarTech ไม่ใช่ต้นทุน แต่คือการลงทุน”
Top 3 เครื่องมือ MarTech ยอดนิยม แบ่งตามประเภท
ประเภทที่ 1 Advertising & Promotion อันดับ 1 คือ Meta Ads Manager (Facebook & Instagram): 81% อันดับ 2 คือ Google Ads: 74% อันดับ 3 คือ LINE Ads: 58%
ประเภทที่ 2 Content & Experience อันดับ 1 คือ ChatGPT 78% อันดับ 2 คือ Google Forms 66% อันดับ 3 คือ Canva 65%
ประเภทที่ 3 Social & Relationship อันดับ 1 คือ Zoom 42% อันดับ 2 คือ ZipEvent 18% อันดับ 3 คือ Hootsuite 15%
ประเภทที่ 4 Commerce & Sales อันดับ 1 คือ Shopee Affiliate 46% อันดับ 2 คือ TikTok Shop 44% อันดับ 3 คือ LINE SHOPPING 42%
ประเภทที่ 5 Data อันดับ 1 คือ Google Analytics 78% อันดับ 2 คือ Google Search Console 51% อันดับ 3 คือ Looker Studio (Google Data Studio) 38%
ประเภทที่ 6 Collaboration & Management อันดับ 1 คือ LINE 76% อันดับ 2 คือ Google Workspace 47% อันดับ 3 คือ Microsoft 365 40%
รวมทั้งมีการเจาะลึกข้อมูลที่ใช้ในปี 2024 เทียบกับปี 2025 ออกมาให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงในแต่ละประเภท ซึ่งบางครั้งขึ้นอยู่กับ Generation ที่เลือกใช้เครื่องมือที่แตกต่างกัน
Key Observation ที่ควรจับตามองใน MarTech Trends 2025
เรื่องแรก Different size, Different Tools ขนาดของบริษัทมีผลต่อการใช้เครื่องมือ เช่น ขนาดเล็ก (S) ประมาณ 100 คน ใช้ Hubspot CRM, ขนาดใหญ่ (L) ประมาณ 200 คน ใช้ Salesforce ในเรื่องที่สอง In Most Categories, There is no Dominant Player ไม่มีใครเป็นเจ้าตลาด เลือกใช้ให้ตอบโจทย์ไม่ใช่ต้องใช้แต่ตัว Top เช่นการเลือกคู่ ไม่ได้ต้องการคนที่ดีพอ แต่ต้องการคนที่พอดี
ส่วนเรื่องที่สาม GenAI & TikTok are Growing Really Fast ปีนี้ยังโตอย่างต่อเนื่อง โดยสังเกตุว่า AI มาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยนักการตลาดไทยมีการใช้ Gen AI อย่างแพร่หลายและโตอย่างรวดเร็ว ที่หากใช้ร่วมไปกับประสบการณ์ที่มีจะยิ่งไปได้ไกลและมีประสิทธิภาพยิ่งกว่า ส่วนในด้านของ TikTok นั้นถือว่าเติบโตเร็วมากเกือบในทุกหมวดหมู่ เพิ่มเติมในส่วนของ Lemon8 ที่เติบโตขึ้นกว่า 500%
5Ps of MarTech Checklist เช็คลิสต์กลยุทธ์สําคัญ ที่องค์กรต้องมีเพื่อใช้งาน MarTech ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
ตัวแรก Planning & Strategy กลยุทธ์คือรากฐานสําคัญ กําหนดทิศทางการตลาดจากความเข้าใจในองค์ประกอบของธุรกิจอย่างรอบด้าน ต้องรู้จักตัวเราและองค์กร รู้จักคู่แข่ง รวมทั้งรู้จักกลุ่มเป้าหมาย อีกตัวหนึ่งที่สำคัญ คือ People บุคลากรต้องพร้อมลุย เพราะเครื่องมือไม่สามารถทํางานได้ด้วยตัวเอง ทีมจึงเป็นปัจจัยสําคัญในการ ขับเคลื่อนการใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ โดยทีมต้องมีทักษะและความรู้ในการใช้งาน และมีทัศนคติพร้อมรับการเปลี่ยนแปลง
ตามด้วย Process กระบวนการที่เป็นระบบ คือ การหาเครื่องมือเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ องค์กรต้องทําได้ง่ายและไม่เกิดความวุ่นวาย รวมไปถึงมีการกําหนดอย่างชัดเจนว่า จะวางเครื่องมือไว้บนขั้นตอนไหนและมีทีมที่รับผิดชอบการใช้งาน ปิดท้ายด้วย Platform เครื่องมือที่ตอบโจทย์ ผ่านการกําหนดโจทย์ทางธุรกิจ ไม่ใช่ว่ามีเครื่องมือก่อนแล้วค่อยไปหาโจทย์ที่เหมาะสม ไม่เช่นนั้น จะเป็นเหมือนการ เล่นงูกินทางที่ไม่มีทางหาสิ่งที่ใช้สําหรับองค์กรเสียที ต้องมีเครื่องมือที่เหมาะกับกลยุทธ์ และเครื่องมือที่เหมาะกับระบบภายในองค์กร
เสริมด้วย Pioneer ทีมนักสํารวจผู้เชี่ยวชาญผ่านการแต่งตั้งบุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยกําหนดทิศทางขององค์กร เพื่อให้มองเห็นเทรนด์และเท่าทันการเปลี่ยนแปลงและช่วยผลักดันทักษะของทีม
MarTech Selection Canvas
แบ่งเป็นสองฝั่ง คือฝั่งซ้าย List of Criteria & rechecking points กับฝั่งขวา Evaluation & Notes ไว้ประเมินและใส่ข้อมูลเพิ่มเติม แล้วเปรียบเทียบตัวที่มีแนวโน้ม (แนะนำให้ใช้ 3 ตัว)
MarTech Match
เลือก MarTech ให้ตอบโจทย์เป้าหมายที่ตั้งไว้ ต้องคำนึงถึงปัจจัยดังนี้
เริ่มจากการวาง Business Goals ให้ชัดเจน คือการใช้เครื่องมือโดยไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจน ก็เหมือนการขับรถโดยไม่รู้ว่าจุดหมายปลายทาง ดังนั้นจุดเริ่มต้นของการใช้เครื่องมือ MarTech ให้ประสบความสําเร็จต้องมาจากการวางรากฐาน เป้าหมาย กลยุทธ์ และ วัตถุประสงค์ ที่อยากได้ให้ชัดเจน อาทิ Strategy, Objective, KPI, Timelines และ Current Resource
ระบุ Used Case ทีอยากได้ คือ การกําหนดภาพการใช้งานจริงของ MarTech ที่เลือกมาว่าจะเข้ามาแก้ปัญหา และ ตอบโจทย์เป้าหมายขององค์กรอย่างไรได้บ้าง โดยยกตัวอย่างการใช้งานจริงตาม MarTech แต่ละประเภท (Ideal Work ที่อยากได้ และ Pain Point ที่อยากจะ Solve)
Features คือ การกําหนดว่าระบบ MarTech ต้องมี Features อะไรบ้าง โดยแบ่งเป็น feature ที่ต้องมี (Must-Have) และ feature ที่ควรมี (Nice-to-Have) เพื่อช่วยให้องค์กรเลือก MarTech ที่ตอบโจทย์เป้าหมายและใช้งานได้คุ้มค่าที่สุด
Budget
มีค่าใช้จ่ายให้ครบ การวางงบประมาณที่ครอบคลุมความเสี่ยง โดยการกำหนดตั้งแต่เรื่องของค่าใช้จ่ายหลัก, ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม, ค่าอบรมพนักงาน, ค่าซ่อมแซม, ดูแลระบบ และค่าใช้จ่ายแอบแฝง เป็นต้น เพื่อให้เตรียมงบได้ใกล้เคียงความจริงที่สุด
MarTech Trial and Selection
ประเด็นสำคัญระหว่างการเลือกเครื่องมือ คือ ควรจะได้ลองใช้ โดยมีสิ่งที่ต้องคำนึง ดังนี้ Consideration during presentation ตรวจสอบผู้ให้บริการว่าเป็นอย่างไรบ้าง ไว้ในการพิจารณาในระหว่างดูการนําเสนอเครื่องมือจากผู้ให้บริการ อาทิ Goals, Unique Selling Points, Flexibility for Future Growth เป็นต้น และในส่วนของ Consideration during Demo ซึ่งเป็นการพิจารณาระหว่างดูการ Demo เพื่อดูว่าเครื่องมือนั้นจะเหมาะสมกับเราไหมในทางปฏิบัติจริง ซึ่งจะดูตั้งแต่เรื่องของ Adaptability, Team Usability, System Speed and Stability และ Error Handling เป็นต้น
MarTech 1st Implement and Feedback
การวาง Success Metrics ที่จะสามารถวัดผลการใช้งานเครื่องมือนั้นๆ ได้ เพื่อความยั่งยืนและตรงจุดประสบค์มากที่สุด ทั้ง Success Metrics ที่ระบุเกณฑ์ว่าอะไรจะเป็นตัวชี้วัดในเครื่องมือที่เราเลือกใช้ว่าเวิร์คหรือไม่เวิร์ค ซึ่งสามารถกำหนดได้หลายอย่าง เช่น Performance Metrics, ROI – Return on Investment, Adoption Rate, User Feedback และ Adjustment คือการกำหนดวิธีการปรับปรุงการใช้งานหลังจากลองวัดผลกันมาว่าจะมีการปรับอย่างไร ในเรื่องไหนบ้าง กับ Metric ที่ยังเป็นช่องว่างอยู่ อาทิ Feature Optimization, Team Readiness, Market Adaptation, Workflow Adjustment
ดู การตลาดวันละคน: MarTech Trends 2025 ที่
VIDEO
