วันนี้จะพาเพื่อนๆ นักการตลาดมารู้จักผู้บริโภคกลุ่มใหม่ที่ที่อายุเยอะขึ้น แต่ไม่ได้อยากดูเด็กหรือวัยรุ่นแบบวันวาน ซึ่งเราจะนิยาม Customer Segment นี้ว่า Aspirational Aging เทรนด์ผู้บริโภคสูงวัยที่มีความต้องการสูง และพร้อมจ่ายได้สูงกว่าคนหนุ่มสาว หนึ่งใน Marketing Trends 2026
เดิมทีนักการตลาดยุคก่อนเคยเชื่อว่าไม่ว่าใครก็อยากดูเด็กลง และนั่นก็ทำให้นักการตลาดในแบรนด์ต่างๆ ตั้งเป้าโฟกัสแค่กลุ่มคนรุ่นใหม่ วัยรุ่น หรือคนหนุ่มสาวเท่านั้นเวลาจะทำการตลาดใดๆ ออกไป
จนทำให้กลุ่มคนที่อายุเยอะขึ้น หรือที่เรียกว่า Senior ไปจนถึงผู้สูงวัยถูกเพิกเฉยจากแบรนด์ต่างๆ มานานมาก พวกเขารู้สึกว่าการจับกลุ่มเป้าหมายที่อายุเยอะดูเป็นเรื่องน่าอาย เชย ไม่ทันสมัย จากประสบการณ์ที่ผ่านมาผมแทบจะไม่เคยเห็นแบรนด์ใดในไทยโฟกัสไปยังกลุ่มเป้าหมายวัย 40+ อย่างออกหน้าออกตาสักเท่าไหร่เลย
แต่ดูเหมือนโลกวันนี้จะเปลี่ยนไป เมื่อกลุ่มคนวัย 40+ มีทั้งกำลังซื้อ กำลังกาย ที่สำคัญคือพวกเขายังมีจำนวนมากจนนักการตลาดไม่อาจมองข้ามได้อีกแล้ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้ส่งผลให้เรื่องของการเติบโตอย่างทะเยอทะยานในยุคปัจจุบันกลายเป็นหัวใจของการสร้างแบรนด์ใหม่ๆมากขึ้น
เริ่มมีนิตยสารแฟชั่นที่จับกลุ่มคนมีอายุมากขึ้น เริ่มมีสินค้าที่ออกมาเพื่อคนอายุวัย 50+ ขึ้นไปอย่างเห็นได้ชัด เริ่มมีแคมเปญการตลาดที่ออกมาเพื่อพวกเขาอย่างไม่กระมิดกระเมี้ยนเหมือนเดิมอีกต่อไป อย่างการจัดงาน Ageing Thailand ที่รวบรวมและคัดสรรสินค้าเพื่อคนกลุ่มนี้โดยเฉพาะ ตั้งแต่เสื้อผ้า แฟชั่น เครื่องสำอาง เทคโนโลยี และคลินิกให้บริการด้านความสวยความงามอย่างเข้าใจคนที่มีอายุ 50+ จำนวนมากในปัจจุบัน
ดูเหมือนความแก่ไม่ใช่เรื่องน่าอายแบบเมื่อสิบปีก่อน เพราะผู้คนทุกวันนี้ล้วนอายุเยอะขึ้นควบคู่กับสุขภาพที่ดีตาม ทำให้คนวัย 50+ ยังคงดูกระฉับกระเฉงเหมือนคนวัย 30-40 ได้ไม่ยาก ส่วนคนที่เข้าวัยเกษียณ 60+ หลายคนยังดูไม่แก่แต่อย่างไร เรากำลังเข้าสู่ยุคที่พูดกันติดปากว่า “อายุเป็นเพียงตัวเลข” จริงๆ
Cindy Gallop อดีตผู้บริหารบริษัทโฆษณาและที่ปรึกษาบอกว่า “นักการตลาดคนไหนยังคิดว่าคนแก่ หรือคนที่มีอายุอยากกลับไปเด็ก บอกเลยว่าเป็นความคิดที่ตกยุคไปมากในปัจจุบัน เพราะคนที่มีอายุในปัจจุบันพวกเขามีความสุขกับความสามารถ ประสบการณ์ และเงินทองที่สะสมมา พวกเขาดูแลตัวเองจนดูดีกว่าคนหนุ่มสาวในปัจจุบันมาก” การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้แสดงถึงความสำคัญของความทะเยอทะยานในการเติบโตอย่างมาก
ดูเหมือนว่านักการตลาดจะมีการบ้านใหม่ชิ้นใหญ่ เลิกโฟกัสแค่หนุ่มสาว วัยรุ่น คนรุ่นใหม่อายุน้อย แต่ต้องเริ่มหันมามองตลาดกลุ่มรุ่นใหญ่วัย 40-50+ กันให้มากๆ แล้วนะครับ
แบรนด์แฟชั่นอาจจะต้องเริ่มคิดว่า เราจะออกคอลเลคชั่นที่ไม่ดูเด็กน้อยสำหรับคนกลุ่มซีเนียร์อย่างไรได้บ้าง ส่วนถ้าเป็นโรงแรมเราจะออกบริการสำหรับพวกเขาเหล่านี้ที่มีทั้งเงินและอายุให้ดีกว่าเดิมได้อย่างไร เช่นเดียวกับการใช้แนวทางการเติบโตเชิงทะเยอทะยานในการออกแบบบริการให้ตอบโจทย์มากขึ้น
ตัวอย่างแบรนด์ที่ทำเรื่องนี้ได้ดีก็คือ Dove ผ่านแคมเปญการตลาดที่มีชื่อว่า Beauty Never Gets Old ด้วยการฉลองครบรอบ 67 ปีของสบู่ Beauty Bar ด้วยใช้ภาพถ่ายสวยๆ ของผู้หญิงวัย 60+ ขึ้นไปและก็มาพร้อมกับข้อความบอกว่าพวกเธอดูดีแบบนี้เพราะเริ่มต้นใช้ Dove ตั้งแต่ยังสาว
ฉะนั้นจะเห็นว่าถ้าจะทำการตลาดให้เข้ากับกลุ่ม Aspirational Aging จริงๆ จะไม่ใช่แค่เอาคนสูงวัยมาทำโฆษณาเท่านั้น แต่แก่นแท้ของสินค้าต้องสื่อให้เป็นที่ยอมรับของพวกเขาเหล่านั้นด้วย
อย่าลืมว่าผู้บริโภควันนี้ฉลาดและหาข้อมูลเก่งมาก อย่าเผลอทำอะไรฉาบฉวยแบบวันวานไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นได้ไม่คุ้มเสียในท้ายที่สุด
จากแวดวงโฆษณาและการตลาด เทรนด์นี้ยังขยับไปสู่แวดวงการแสดงอีกด้วย เทรนด์การคัดเลือกนักแสดงที่ไม่ใช่แค่คนหนุ่มสาวเริ่มชัดเจนขึ้น อย่างละครเวทีเดิมที่มักเลือกแต่หญิงสาวอายุไม่เยอะ เริ่มขยับมาสู่เทรนด์การเลือกนักแสดงแบบไม่สนอายุ หรือที่เรียกว่า Age-Blind Casting เราจะเริ่มเห็นความหลากหลายของนักแสดงมากขึ้นผ่านภาพยนต์ ซีรีส์ หรือละครโทรทัศน์ หมดยุคหนุ่มสาวครองจอแบบก่อนอีกต่อไป
Bill Kole ผู้เขียนหนังสือ The Big 100: The New World of Super-Aging บอกว่าผู้คนกำลังมีอายุยืนยาวขึ้น และนั่นก็หมายถึงพวกเขาจะเป็นผู้บริโภคไปอีกนานหลายสิบปี คนกลุ่มนี้จะกลายเป็นเครื่องยนต์หลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจโลก เงินจำนวนมากจะออกจากกระเป๋าและบัตรเครดิตพวกเขา ดังนั้นถ้าคุณทำแบรนด์ให้ตรงจริตพวกเขา ทำสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์พวกเขา ก็เชื่อได้ว่าคุณน่าจะขายดีไปได้อีกหลายสิบปีสบายๆ โดยไม่ต้องง้อคนหนุ่มสาวแบบนักการตลาดยุคเก่าสักเท่าไหร่เลย
คุณลองคิดภาพเดิมเราคนอายุ 60 มักจะมีภาพอยู่บ้าน ปลูกต้นไม้ เลี้ยงหลาน แต่วันนี้คนอายุ 60 ยังคงใช้ชีวิตแบบกระฉับกระเฉง ชอบไปเที่ยวตามที่ต่างๆ ชอบออกไปกินข้าวนอกบ้าน ชอบซื้อเสื้อผ้ารองเท้าไม่แพ้คนหนุ่มสาวสักเท่าไหร่ ซึ่งการใช้ชีวิตที่กระฉับกระเฉงและมีสุขภาพดีแบบนี้แสดงถึงการเติบโตเชิงทะเยอทะยานของพวกเขา
ในประเทศไทยเองทางสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติก็คาดการณ์ว่า ภายในปี 2035 จะมีผู้สูงอายุคิดเป็นสัดส่วนกว่า 28% ของประชากรทั้งหมด เป็นการบอกให้รู้ว่านักการตลาดอย่างเราต้องคิดกลยุทธ์ไว้ตั้งแต่วันนี้ได้แล้ว
แบรนด์อสังหาริมทรัพย์ที่ทำโครงการบ้านจัดสรรจำนวนไม่น้อยก็คิดเผื่อถึงอนาคตกลุ่มลูกค้าผู้สูงวัยมากขึ้น สายการบินก็ออกโปรโมชั่นรับกลุ่ม Silver Age เพื่อคนสูงวัยที่ชอบท่องเที่ยว ไปจนถึงโรงพยาบาลก็เริ่มปรับกลยุทธ์เน้นการให้คำปรึกษาดูแลสุขภาพ แทนที่จะรอให้เจ็บป่วยค่อยเข้าหาหมอ กลายเป็นให้เข้ามาเจอหมอได้เรื่อยๆ แทน
สรุป Marketing Trends 2026: Aspirational Aging เทรนด์ผู้บริโภคสูงวัยที่มีความต้องการสูง และพร้อมจ่ายได้สูงกว่าคนหนุ่มสาว
เดิมนักการตลาดถูกปลูกฝังให้จับกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ คนหนุ่มสาวเป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก สมัยผมเริ่มต้นทำงานในแวดวงโฆษณาเมื่อสิบกว่าปีก่อน เราก็มองกลุ่ม Gen Y ที่กำลังเข้าสู่วัย First Jobber กันตาเป็นมัน พอเข้ายุคปี 2020 เป็นต้นมากลุ่มเป้าหมายหลักของนักการตลาดก็ขยับมาเป็น Gen Z ซึ่งเอาเข้าจริงก็คือกลุ่มคนหนุ่มสาวอายุน้อยนั่นเอง
เพราะเราเชื่อว่าพวกเขาคือกลุ่มคนที่ตัดสินใจง่าย พร้อมจ่ายกับอะไรใหม่ๆ แต่เราลืมคิดไปว่ากับกลุ่ม Gen Y ที่กลายเป็น Management ในวันนี้แม้พวกเขาจะอายุเข้าเลข 4 หรือกลุ่ม Gen X วัยเลข 50-60 ที่กลายเป็นผู้มั่นคงทางการเงินหละ มีสักกี่คนที่กล้าสื่อสารกับพวกเขาตรงๆ ดังๆ ชัดๆ
ดังนั้นถ้าคุณสามารถจับกลุ่มพวกเขาได้ ทำให้พวกเขารู้สึกว่าคุณเข้าใจพวกเขา ย้ำอีกครั้งว่าพวกเขาไม่ได้อยากดูเด็กลง ดูวัยรุ่นขึ้น พวกเขาอยากเป็นตัวของตัวเองที่ดูดี มั่นใจ สมกับวัยและประสบการณ์ที่ผ่านมา เมื่ออายุเป็นแค่ตัวเลขจริงๆ ถ้าสามารถดูแลสุขภาพให้ดี และมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง ถ้านักการตลาดคนไหนหรือแบรนด์ใดพร้อมจะเข้าใจเรื่องพวกนี้ก่อนใคร แล้วปรับสินค้าหรือบริการให้ตอบกับความต้องการใหม่ๆ คุณก็จะกลายเป็นแบรนด์อันดับหนึ่งในใจของผู้บริโภคกลุ่มใหม่ Aspirational Aging ที่มีความต้องการสูงขึ้นตามวัย สำคัญคือพร้อมจ่ายได้สูงกว่าคนหนุ่มสาวแน่นอนครับ
อ่าน Marketing Trends 2026 เรื่อง Brandoms ในการตลาดวันละตอนต่อ https://everydaymarketing.co/trend-insight/brandoms-marketing-trends-2026-fanclub-fandoms-driven-brand/
Source: https://www.vml.com/insight/the-future-100-2025