บอกเลยว่างาน Creative talk 2024 หรือ CTC2024 ที่ผ่านมา มีหลาย Session ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะเป็น Unique Selling Point หรือ Essential Skills for the Future of Thailand อย่างบทความนี้เราก็จะพาไปดูหนึ่งใน Session ที่น่าสนใจและน่าจับตามองไม่แพ้กันนั่นคือ MarTech Trends 2025 จาก Content shifu โดยคุณสิทธินันท์ พลวิสุทธิ์ศักดิ์ กันค่ะ
อย่างที่เรารู้กันว่า MarTech มาจากคำว่า Marketing + Technology คือการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้กับการตลาด เพื่อช่วยให้กระบวนการทำงานและกิจกรรมทางการตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งครอบคลุมเครื่องมือ แพลตฟอร์ม และซอฟต์แวร์ต่าง ๆ ค่ะ โดยคุณสิทธินันท์ ได้แบ่งหมวดหมู่ MarTech ออกเป็น 6 หมวดหมู่ด้วยกัน
Advertising & Promotion ในหมวดหมู่นี้จะใช้สำหรับช่วยในการโฆษณาการยิงแคมเปญ บริหารค่าใช้จ่าย ประสิทธิภาพของแคมเปญ
Content & Experience ใช้สำหรับการออกแบบ อย่างในปัจจุบันก็ เช่น canva หรือ ตัวช่วยในการบริหาร website
Social & Relationships ใช้สำหรับบริหารจัดการ Social และความสัมพันธ์ เช่น ความสัมพันธ์กับลูกค้า
Commerce & Sales ช่วยในเรื่องการขายต่าง ๆ เช่น Shopping cart หรือ E-commerce
Data ช่วยในเรื่องการจัดการ Data เช่น looker studio
Collaboration & Productivity การประสานงาน เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานต่าง ๆ เช่น Trello หรือ Asana เป็นต้นค่ะ
ซึ่งเราจะเห็นว่ามีหลากหลายหมวดหมู่ เป็นการบอกว่ากระแสของ MarTech เป็นในที่เป็นที่นิยม และ เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในส่วนของ Global และ Local ประเทศไทยเอง
อย่างที่เห็นไม่ว่าทางฝั่งของ Global และ Local ประเทศไทยเอง จะมี Martech มากมายที่เกิดขึ้นมา เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ และตลาดที่เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ รวมทั้งองค์กรต่าง ๆ ก็เริ่มหันมาใช้ MarTech มากขึ้น ทั้งเพราะการเติบโตของเทคโนโลยี และการเติบโตของ E-Commerce ทำให้ทุกองค์กรต้องหันมาใช้ MarTech ทั้งเพื่อเพิ่มประสิทธภาพของการทำงานจนนำไปสู่การสร้างความสามารถในการแข่งขันจนเกิดเป็นกำไรในที่สุด
ซึ่งจากตรงนี้จึงเกิดเป็น MarTech Trends 2025 ขึ้นมา เพื่อบอกว่าในปีหน้าจะมีเทรนด์อะไรเกิดขึ้นบ้างและองค์กรของเราจะสามารถนำเทรนด์นั้น ๆ ไปปรับใช้ยังไงบ้างคะ
1. Old Is The New Gold
อย่ามองสิ่งเก่า และ อย่าตื่นเต้นกับสิ่งใหม่ ๆ มากเกินไป เพราะจริง ๆ แล้วของเก่าบางอย่างก็เป็นของเก่าที่กำลังจะสร้างรายได้ สร้างความได้เปรียบใหม่ให้กับเรา ตัวอย่างของ GQ ที่ใช้ Email Marketing จนกลายเป็น 1 ใน 3 ช่องทางที่สร้างรายได้ให้ GQ มากที่สุด แต่การใช้ Email Marketing ของ GQ นั้น ไม่ได้ส่งธรรมดา แต่ใช้ความ Creativity เข้ามาช่วย เปลี่ยนหัวข้อให้ดูน่าสนใจ น่ากดเข้ามาอ่าน ไม่ใช่การส่ง Email ปกติ จนทำให้คนรับเบื่อและไม่กดอ่าน
เรียกว่าเป็นตัวอย่างที่ดีของหนึ่งในการใช้ สิ่งเก่า ๆ ผสานกับความคิดสร้างสรรค์ จนเกิดเป็นช่องทางสร้างรายได้อีกหนึ่งช่องทาง เป็นยังเป็นการพิสูจน์ว่าการใช้ Email Marketing สำหรับธุรกิจ B2C ก็ยังเวริค์อยู่ ขอแค่เราใช้ให้เป็นค่ะ
2. Entering The Next Era of The World Of Candy Without (Third-party) Cookie
ต่อไปนี้ทุกองค์กรจะมีการเก็บ Data ของตัวเอง อย่าง Content Shifu เองก็มีการเก็บ Lead จากคนที่ต้องการ Report โดยแลกเปลี่ยนกับข้อมูลเล็กน้อย เพื่อเป็นคลัง Data ของตัวเองค่ะ
ซึ่งเรียกว่าเป็นการเก็บข้อมูลที่ฉลาดและได้ประโยชน์ทั้งสองฝั่ง อย่างทางผู้ใช้เองก็ต้องการ Report อยู่แล้ว ส่วนทาง Content shifu ก็ได้ข้อมูลของผู้ใช้มาจากการยินยอมให้ข้อมูลด้วยความเต็มใจเพื่อแลกกับ Report ค่ะ โดยการที่แต่ละองค์กรมีการเก็บ Data เป็นของตัวเองแบบนี้ จะทำให้องค์กรนั้นมีคลังข้อมูลของตัวเองเพื่อใช้แลกเปลี่ยน ต่อรองในการทำการตลาด หรือ ธุรกิจต่อไปได้ด้วยค่ะ
3. Martech Stacks, Not Just Martech Tools
ข้อมูลสถิติจาก Martech ไม่ใช่เครื่องมือ แต่สามารถเป็นได้มากกว่านั้น อย่างตัวอย่างยกมาคือการนำข้อมูลของคนที่มาตอบกลับ Comment ที่มี Keyword เกี่ยวข้องรวมเป็นสถิติ แล้วให้ AI ตอบกลับคอมเมนท์นั้น เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมบน X(Twitter) นั่นเองค่ะ
4. No Tech Knowledge, No Problem! There’s No-code!
แต่ก่อนการทำอะไรที่มีความเกี่ยวข้องกับ Technology จะต้องมีความรู้เรื่อง Code เพื่อสื่อสารกับเจ้าคอมพิวเตอร์ หรือ เทคโนโลยีเบื้องหลัง แต่จะไม่ไปยังไงอีกต่อไป เพราะว่าเราสามารถทำทุกอย่างได้ โดยการ No-Code หรือ ไม่ต้องเขียน Code อย่างตัวอย่าง คือ การสร้างหน้าเว็บไซต์โดยไม่ใข้ Code แค่กดคลิกจากสิ่งที่มีแล้วก็จะปรากฎออกมาเป็นเว็บไซต์เลยค่ะ
สรุป 7 MarTech Trends 2025 จาก Content shifu ในงาน CTC2024
ดังนั้น ต่อไปนี้องค์กรหรือนักการตลาดเองต้องมีการปรับตัว แล้วศึกษา No-Code ให้มากขึ้น เพื่อประสิทธิภาพในการทำงาน และสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันนั่นเองค่ะ
5. Human & Machine Harmony
การร่วมมือชองมนุษย์และ Machine คือการเข้ามาของ AI ทำให้เราสามารถเข้าถึงตัว Machine และสามารถใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์มากขึึ้น อย่างการเข้ามาของ ChatGPT ที่มีการพัฒนาและคนเริ่มหันมาใช้กันมากขึ้น ใช้มากถึง 68% จาก Generative AI ที่ยกมา
หรือแม้แต่ตัว Sora ที่เพิ่งเปิดตัวไป เรียกเสียงฮือฮาให้กับวงการของมีเดียไม่น้อย เพราะสามารถ Generate ตัว Video ออกได้ เพียงแค่เราใส่ Prompt text ลงไป แต่ตอนนี้อยู่ในระหว่างการพัฒนาเพื่อเปิดใช้แบบสาธารณะ ซึ่งหากเปิดใช้มาคงสร้างความสั่นสะทือนให้กับวงการทั้งการตลาด และ วงการสื่อมีเดียไม่น้อยเลยทีเดียว
6. P is for Pioneer
จากรอบแล้วที่ เราควรมี 4 Ps กลยุทธ์สำคัญที่องค์กรต้องมี เพื่อใช้งาน Martech ให้เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ตอนนี้ต้องมีการอัพเดทเพิ่มเป็น 5Ps ซึ่ง P ที่เพิ่มเข้ามาเป็น Pioneer หรือ ทีมผู้เชี่ยวชาญ ที่จะมองเห็นเทรนด์และการเปลี่ยนแปลง รวมทั้งผลักดันทักษะคนในทีมค่ะ
7. Martech + Managed Service
ต่อไปการใช้ Martech จะไม่ใช่แค่การมี Martech แต่ต้องนำการบริการการจัดการเข้ามาด้วย อย่างในองค์กรใหญ่ ๆ ที่ใช้ Martech มักต้องการจัดการ การบริการเพื่อให้ Martech นั้นนำไปใช้ง่ายที่สุด
สุดท้ายนี้ คุณสิทธินันท์ฝากข้อคิดไว้ว่า คนมักคิดว่าตัว Machine ทำให้ Martech เหมือนมีเวทมนตร์ แต่จริง ๆ แล้ว คนใช้ต่างหากที่ทำให้ Martech มีความหมายค่ะ
ถ้าชอบ หรือ สนใจอยากอ่านบทความด้านการตลาดแบบนี้อีก ผู้เขียนฝากติดตามด้วยนะคะ หรือ ถ้าใครอยากให้ผู้เขียนนำมุมมองการตลาดแบบไหนมาเล่าให้ฟัง สามารถคอมเมนต์บอกกันได้เลยนะคะ
สำหรับนักอ่านที่ชอบ และ อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารด้านการตลาดต่าง ๆ สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนได้เลยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะヽ(•‿•)ノ
อยากอ่านบทความการตลาดเพิ่มเติม ลองเลือกอ่านบทความด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ