การตลาด PTT Station โฆษณาสะท้อน Insight ยุคนี้ เชื่อหรือพิสูจน์เอง?

ถ้าเพื่อนสนิทของคุณบอกว่า “หนังเรื่องนี้ห่วยมาก” คุณจะเลิกดูไปเลย หรือจะลองดูเองก่อนตัดสิน? ถ้ามีคนรีวิวร้านอาหารว่า “ไม่อร่อย” คุณจะไม่ลองไปกินเอง หรือจะให้โอกาสมันพิสูจน์ตัวเอง? สังเกตกันไหมคะว่า ทุกวันนี้ เราตัดสินอะไรจาก “ประสบการณ์ของตัวเอง” หรือแค่เชื่อตามที่คนอื่นพูด?
หนังโฆษณาตัวใหม่ของ PTT Station หยิบเอาประเด็นนี้มาเล่าได้อย่างคมกริบ และชวนให้เราตั้งคำถามกับตัวเองว่า “ทั้งหมดที่เราเชื่อ มันเป็นความจริง หรือแค่เป็นเสียงที่ดังที่สุดที่เราได้ยิน?” ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ การตลาด PTT Station ที่ไม่ได้แค่โฆษณาสินค้า แต่กำลังท้าทายวิธีคิดของผู้บริโภคยุคนี้ ที่มีแนวโน้มเชื่อรีวิวและความคิดเห็นในโซเชียลมีเดีย มากกว่าการพิสูจน์ด้วยตัวเองค่ะ

เรากำลังอยู่ในยุคที่โซเชียลมีเดียคือทุกสิ่งทุกอย่างค่ะ ไม่ว่าจะซื้อของ ดูหนัง หรือแม้แต่เลือกปั๊มน้ำมัน คนส่วนใหญ่มักเริ่มจากการ “อ่านคอมเมนต์” ก่อน แล้วค่อยตัดสินใจว่าควรลองหรือไม่

แต่ปัญหาคือ ความคิดเห็นเหล่านั้นมาจากคนที่ลองใช้จริง หรือแค่เป็นสิ่งที่ถูกพูดซ้ำ ๆ กันมาจนกลายเป็นเรื่องจริงไปเอง? เพราะจากการศึกษาพบว่า 75.5% ของผู้บริโภคให้ความไว้วางใจรีวิวออนไลน์ในการตัดสินใจซื้อสินค้า และ 49% เชื่อรีวิวจากโซเชียลพอ ๆ กับคำแนะนำจากเพื่อนหรือครอบครัว ซึ่งหมายความว่า ถ้ามีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาแล้วได้รับการสนับสนุนมากพอ มันก็สามารถกลายเป็น “ข้อเท็จจริง” ได้ในสายตาคนจำนวนมาก

หนังโฆษณาใหม่ของ PTT Station ทำให้เราเห็นภาพของปรากฏการณ์นี้ชัดขึ้น ด้วยการเปลี่ยน “เสียงในโซเชียล” ให้กลายเป็นตัวละครจริง ๆ ที่เข้ามาถกเถียง และตั้งคำถามแบบไม่หยุด ทั้ง ๆ ที่ พวกเขาเองยังไม่เคยลองใช้เลยด้วยซ้ำ

ตั้งแต่ตอนเปิดเรื่องมา เด็กปั๊มในโฆษณาพยายามอธิบายว่า XTRA SAVE ไปได้ไกลกว่า SUPERPOWER ไปได้แรงกว่า แต่สิ่งที่ได้รับกลับมาคือเสียงโต้แย้งรัว ๆ ว่า…

นี่ไม่ใช่แค่โฆษณาน้ำมัน แต่มันสะท้อนโลกที่เราอยู่ทุกวันนี้ได้อย่างโหดร้ายมากค่ะ เพราะบนโซเชียลมีเดีย ข้อมูลไม่ได้ถูกวัดจาก “ความจริง” แต่ถูกตัดสินจาก “กระแสและเสียงที่ดังที่สุด”

หนึ่งในคอมเมนต์ที่โดดเด่นมากในโฆษณาคือ

นี่เป็นดราม่าที่เคยเกิดขึ้นจริง และถูกพูดถึงอย่างแพร่หลายในโลกออนไลน์ และหลายคนก็เลือกจะเชื่อตามเสียงส่วนใหญ่โดยไม่เคยลองด้วยตัวเอง

การตลาด PTT

แต่แทนที่จะเลี่ยงหรือทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น PTT Station เลือกจะ “ตอบตรง ๆ” ผ่านเด็กปั๊มที่พูดว่า

การตลาด PTT

ผู้เขียนมองว่าจุดนี้เป็นอะไรที่โฆษณาทำได้เฉียบคมมากค่ะ เพราะมันเป็น การหักล้างความเชื่อที่เกิดจากอคติด้วยข้อเท็จจริง เพราะ PTT Station ไม่ได้บอกให้คุณเชื่อทันที แต่พวกเขาใช้ข้อมูลจริงมาเป็นคำตอบ

และนี่คือจุดเริ่มต้นของการ Change Attitude หรือ Mindset ที่โฆษณานี้พยายามสื่อ จาก “เชื่อเพราะได้ยินมา” → “ฟังข้อมูลจริงก่อนตัดสิน”

โฆษณานี้ไม่ได้แค่พูดถึงการตั้งคำถามของโซเชียลมีเดีย แต่ยังแสดงให้เห็นว่า บางครั้ง ต่อให้มีหลักฐานตรงหน้า คนก็ยังพยายามหาข้อโต้แย้งอยู่ดี

ในฉากหนึ่ง เมื่อมี “ผู้ใช้งานจริง” อย่าง คุณอู๋ spin9 ยูทูบเบอร์นักรีวิวสายรถยนต์ที่หลายคนเชื่อถือ ออกมายืนยันว่า

แทนที่ทุกคนจะยอมรับ โซเชียลกลับตั้งคำถามต่อทันที

สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่า บางครั้ง เราอาจไม่ได้มองหาความจริง แต่เราหาข้อมูลที่สนับสนุนสิ่งที่เราเชื่ออยู่แล้วต่างหาก

นี่คืออีกหนึ่ง Change Attitude หรือ Mindset ที่โฆษณานี้ต้องการให้เราฉุกคิด จาก “ตั้งคำถามทุกอย่าง” → “เปิดใจให้ประสบการณ์จริง”

และนี่ก็คือจุดที่โฆษณาทำได้คมกระแทกใจมากค่ะ หลังจากเสียงโต้เถียงในโฆษณาดำเนินมาเรื่อย ๆ เด็กปั๊มก็พูดขึ้นมาสั้น ๆ ว่า

การตลาด PTT

คำถามนี้เป็นเหมือนหมัดฮุกใส่คนดูทุกคน เพราะมันทำให้เราหยุดคิดว่า เราเคยไปลองร้านอาหารเอง ก่อนจะบอกว่าไม่อร่อยตามรีวิวหรือยัง? เราเคยดูหนังเอง ก่อนจะเชื่อตามเสียงวิจารณ์หรือยัง? แล้วทำไมเราถึงไม่ให้ XTRA SAVE ได้พิสูจน์ตัวเองล่ะ?

เพราะงั้น โฆษณานี้ไม่ได้ต้องการบอกว่า “น้ำมัน PTT Station ดีที่สุด” แต่ต้องการบอกว่า “อย่าเพิ่งเชื่อจนกว่าคุณจะได้ลองเอง” ค่ะ

จากหนังโฆษณานี้ ทุกคนคงเห็นได้ชัดว่า PTT Station ไม่ได้แค่ขายน้ำมัน แต่พวกเขากำลัง ท้าทายวิธีคิดของผู้บริโภคยุคนี้ และพยายามเปลี่ยน “ทัศนคติ” (Change Attitude) ที่คนมีต่อการรับข้อมูลในโซเชียลมีเดีย โฆษณานี้สะท้อนให้เห็นว่า ในโลกที่เต็มไปด้วยรีวิวและความคิดเห็น เรากำลังตัดสินจากสิ่งที่เราเห็น หรือจากสิ่งที่เราลองเอง? และนี่คือ 3 วิธีที่โฆษณานี้กำลังเปลี่ยนมุมมองของผู้บริโภคค่ะ

ทุกวันนี้ คนอ่านรีวิวออนไลน์ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า แต่สิ่งที่เราไม่ค่อยทำคือ ตั้งคำถามกลับว่า รีวิวเหล่านั้นเป็นเรื่องจริงหรือแค่กระแส? 

การตลาด PTT

โฆษณานี้สะท้อนให้เห็นว่า ข้อมูลที่ถูกพูดถึงมากที่สุด ไม่จำเป็นต้องเป็นความจริงเสมอไป บางครั้งเสียงที่ดังที่สุดในโซเชียลอาจเป็นเพียงอคติที่ถูกขยายออกไปเรื่อย ๆ โดยไม่มีหลักฐานรองรับ

ฉากที่คุณอู๋ spin9 พูดว่า “XTRA SAVE ไปได้ไกลกว่า SUPERPOWER ไปได้แรงกว่า” แต่กลับถูกโซเชียลตั้งคำถามว่าเป็น AI หรือ Account ปลอม แสดงให้เห็นว่า บางครั้งคนไม่ได้หาความจริง แต่หาข้ออ้างที่สนับสนุนความเชื่อของตัวเอง ไม่ว่าเราจะได้รับข้อมูลจากแหล่งที่น่าเชื่อถือแค่ไหน หากมันขัดกับสิ่งที่เราเชื่ออยู่แล้ว เราก็มักจะพยายามปฏิเสธค่ะ

สุดท้าย โฆษณานี้ทิ้งคำถามง่าย ๆ แต่แทงใจว่า “พี่เคยลองรึยัง?” เพราะในโลกที่เต็มไปด้วยเสียงวิจารณ์ เราอาจลืมไปว่า “สิ่งที่เราเชื่อ เป็นสิ่งที่เรารู้จริง หรือแค่สิ่งที่เราฟังมา?” โฆษณานี้ไม่ได้บอกให้เชื่อแบรนด์ ไม่ได้บอกให้เชื่อโซเชียล แต่ขอให้คุณลองเอง แล้วตัดสินจากประสบการณ์ของตัวเอง

โฆษณานี้ไม่ได้บอกให้คุณปิดหูปิดตาจากรีวิวในโซเชียลค่ะ แต่มันกำลังตั้งคำถามว่า “แล้วคุณเคยลองเองหรือยัง?” เพราะในยุคที่เสียงในโซเชียลดังขึ้นกว่าเดิม บางครั้งเราก็เผลอเชื่อตามกระแสโดยไม่รู้ตัว แต่เสียงที่ดังที่สุด ไม่ได้หมายความว่ามันเป็นความจริงเสมอไป

สุดท้ายแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุด ไม่ใช่สิ่งที่ใคร ๆ พูด แต่เป็นสิ่งที่คุณได้พิสูจน์เอง อย่าให้คอมเมนต์ตัดสินทุกอย่างแทนคุณ ลองไปพิสูจน์กันค่ะว่า “XTRA SAVE ไปได้ไกลกว่า SUPERPOWER ไปได้แรงกว่า” จริงไหม? ส่วนใครที่ยังสงสัยว่าโฆษณานี้จะเปลี่ยนทัศนคติของคนดูได้ยังไง ไปดูโฆษณานี้กันนะคะ เรียกได้ว่าสนุก แสบ และเจาะลึกพฤติกรรมคนยุคนี้ได้สุด ๆ ค่ะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ :0)

อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่

โอปอ Marketing Content Creator ของการตลาดวันละตอน ⋆˚✿˖° ดีใจที่ได้แชร์เรื่องราวกับทุกคนค่ะ อย่าลืมยิ้มให้ตัวเองทุกวัน และฝากติดตามบทความต่อไปด้วยนะคะ ( 。•ㅅ•。)~✧

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *