การตลาด Mondelez ใช้ Festive Marketing เปลี่ยนขนมเป็นของขวัญ

I don’t want a lot for Christmas. หลายคนที่ได้ยินเพลงท่อนนี้ ก็คงจะนึกออกแล้วว่าเรากำลังจะเข้าสู่เทศกาลคริสต์มาสกันแล้ว เรียกได้ว่าเป็นช่วงที่แต่ละแบรนด์พยามปรับ Product, Packaging หรือการสื่อสารให้เข้ากับธีมในช่วงเทศกาล ซึ่งศัพท์ทางการตลาดเราอาจเรียกว่า Festive Marketing แต่บอกเลยว่าไม่ใช่ทุกแบรนด์ที่ทำแล้วจะประสบความสำเร็จ วันนี้ผมเลยจะพาทุกคน การตลาด Mondelez ที่ตัวผมเองก็ไม่รู้ว่าจะปังรึเปล่า แต่เขามีเหตุผลที่จะทำ

แต่ก่อนอื่นเราคงต้องไปทำความรู้จักกับความหมาย และประโยชน์ของ Festive Marketing กันก่อน เพื่อที่เราจะได้เข้าใจและเห็นภาพได้ชัดเจนมากขึ้น

Festive Marketing เป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดพยายามเชื่องโยงระหว่างแบรนด์ หรือแคมเปญการตลาดให้เข้ากับเทศกาลหรือวันสำคัญต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ปีใหม่ คริสต์มาส สงกรานต์ วันวาเลนไทน์ หรือเทศกาลท้องถิ่น ๆ 

โดยเป้าหมายหลัก ๆ ก็คือการเพิ่มยอดขาย กระตุ้นการมีส่วนร่วมของลูกค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งสร้างความจดจำให้กับแบรนด์ในช่วงเวลาที่ผู้บริโภคมีความรู้สึกพิเศษและพร้อมจะใช้จ่ายมากกว่าปกติ

การตลาด Mondelez
AI-Generated by Shutterstock (Prompt: A full-body shot of a woman enjoying a snack in a Christmas-themed cafe, holding a snack package in bright red with an illustration of Santa Claus, the cafe adorned with festive decorations, Christmas trees, fairy lights, ornaments, and warm tones, the woman seated comfortably in winter attire, photorealistic style, natural lighting, cozy holiday ambiance, highly detailed, realistic photography style.)

แล้วทำไมข้อสุดท้ายถึงสำคัญ ผมเชื่อว่าหลายแบรนด์ที่ใช้กลยุทธ์นี้มักจะแค่ต้องการกระตุ้นยอดขาย และสร้างการจดจำประมาณว่า “ แบรนด์ A มีกิจกรรมคริสต์มาส” แต่มีน้อยแบรนด์ที่จะเป็น “คริสต์มาสแล้ว ต้องซื้อแบรนด์ A” หรือง่าย ๆ ในไทย “ปีใหม่ก็ต้องซื้อคุกกี้กล่องแดง” หรือแม้แต่เพลง “All I Want For Christmas Is You ” เองก็เป็นเคสตัวอย่างที่ดีของการเชื่อมโยงกับเทศกาลได้เป็นอย่างดี

นี่แหละครับคือความแตกต่างที่ผมบอกไปในตอนต้นว่า “ใคร ๆ ก็ทำได้แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะปัง” ดังนั้นสำหรับแบรนด์ไหนที่จะใช้กลยุทธ์ก็ควรจะคำนึงถึงในเรื่องของ ต้นทุนที่สูง การแข่งขันที่สูงเพราะผมเชื่อว่าหลายแบรนด์ก็คงจะทำ หรือแม้แต่ พฤติกรรมของผู้บริโภคในช่วงโอกาสหรือเวลานั้น ๆ เป็นต้น

แต่อย่างไรก็ตามแบรนด์ที่ทำได้แบบที่ผมบอกไปก็ไม่ได้มีมากขนาดนั้น ซึ่งก็เป็นโอกาสที่แบรนด์ต่าง ๆสามารถพิจารณาจากอุตสาหกรรมของตัวว่ามีความเชื่อมโยงกับเทศกาลหรือช่วงเวลานั้นหรือไม่ เพราะถ้ามีความเชื่อมโยงถึงแม้ว่าจะน้อยก็ตาม ก็ยังเป็นโอกาสที่แบรนด์จะสามารถสร้างความโดดเด่นจนเป็นที่จดจำในช่วงเวลานั้น ๆ ได้

อย่างที่ผมได้บอกไปว่า การที่เราจะเลือกใช้กลยุทธ์ “Festive Marketing” เราสามารถพิจารณาจากอุตสาหกรรมของธุรกิจได้ ซึ่งหนึ่งในอุตสาหกรรมที่เข้ากับช่วงคริสต์มาส-ปีใหม่ที่จะมาถึงนี้ก็คือ อุตสาหกรรมขนมนั่นเอง

Mondelez ก็เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ดูเเลแบรนด์ขนมที่คนไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็น คุกกี้โอรีโอ ช็อกโกแลตแคดเบอรี ช็อกโกแลตทอปเบอโรน และแครกเกอร์ริทซ์ ที่เข้าร่วมในการใช้ Festive Marketing แต่แน่นอนว่าแค่การดูอุตสาหกรรมก็อาจจะไม่เพียงพอ เพราะก็ต้องดูในเรื่องของเทรนด์หรือพฤติกรรมของผู้บริโภคด้วยเช่นกัน

การตลาด Mondelez

โดยข้อมูลจากทาง Mondelez International State of Snacking 2023 บอกว่าเกือบ 9 ใน 10 ของผู้บริโภคทั่วโลกมีการบริโภคของว่างทุกวัน (หรือคิดเป็น 88%) ขณะที่ 94% ของผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z และกลุ่มมิลเลนเนียล บริโภคของว่างวันละครั้งหรือบ่อยกว่า

และผลวิจัยของ Vitamin Consulting and Research ยังพบว่า ผู้บริโภคชาวไทยมองหาของขวัญในราคาที่จับต้องได้ โดยในปี 2567 และมี แนวโน้มสำคัญของการซื้อสินค้าของผู้บริโภค คือ

  • ผู้บริโภคมองหาขนมที่มีบรรจุภัณฑ์ในธีมพิเศษรับช่วงเทศกาล
  • ผู้บริโภคให้คุณค่ากับของขวัญขนาดเล็กที่สามารถแบ่งปันกันได้อย่างเหมาะสม
  • ผู้บริโภคต้องการของขวัญสำเร็จรูปที่มีการออกแบบสวยงามและดึงดูดใจ
  • ผู้บริโภคเลือกผลิตภัณฑ์ระดับพรีเมียมพร้อมด้วยบรรจุภัณฑ์แบบพรีเมียมเพื่อเป็นของขวัญพิเศษ

จะเห็นเลยว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเองก็มีความเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาหรือโอกาสอย่างช่วงเทศกาลเหมือน จึงเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่ทำให้ กลยุทธ์ Festive Marketing เหมาะสมที่จะใช้สำหรับ Mondelez

การตลาด Mondelez

ซึ่งทางแบรนด์ ก็ได้ดีไซน์ Special Packaging ต้อนรับเทศกาลคริสต์มาส-ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง เพื่อรองรับเทรนด์การมอบของขวัญในโอกาสต่าง ๆ ดังนี้

  • ของขวัญเพื่อการพบปะกัน สำหรับครอบครัว เพื่อน และเพื่อนร่วมงาน โดยผู้บริโภคมักเลือกซื้อของขวัญที่สามารถแบ่งปันได้และขนมที่มีบรรจุภัณฑ์ย่อย
  • ของขวัญที่สื่อถึงความตั้งใจของผู้ให้ เพื่อแสดงถึงความตั้งใจและคำนึงถึงผู้รับ ซึ่งผู้บริโภคจะซื้อสินค้าที่มีบรรจุภัณฑ์สร้างสรรค์และแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจในการให้ของขวัญอย่างชัดเจน
  • ของขวัญระดับพรีเมียม เป็นการให้ของขวัญเพื่อสร้างความประทับใจให้กับผู้สูงอายุหรือพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจผู้ซื้อจะมองหาของขวัญในระดับพรีเมียมที่สะท้อนถึงคุณค่าความสัมพันธ์ที่มีต่อผู้รับ

จะเห็นเลยว่า ถึงแม้แบรนด์ต่าง ๆ ที่ Mondelez ดูแลอยู่ไม่ว่าจะเป็น Oreo, Cadbury, Toblerone และ Ritz อาจจะไม่ได้เป็นแบรนด์ที่ถ้านึกถึงเทศกาลแล้วแบรนด์เหล่านี้จะผุดขึ้นมาในความทรงจำของเราในทันที แต่การที่แบรนด์เหล่านี้มีความเชื่อมโยงบางอย่าง ซึ่งในเคสนี้ก็คืออุตสาหกรรมและพฤติกรรม ซึ่งถ้าหากสามารถสื่อสารออกมาได้อย่างชัดเจน และไม่ได้ดูยัดเยียดในการทำมากเกินไป ผมมองว่าแบรนด์เหล่านี้ก็มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในการใช้ Festive Marketing เหมือนกัน

สรุป

กลยุทธ์ Festive Marketing ถือเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สามารถเพิ่มยอดขาย สร้างการจดจำ และเข้าถึงผู้บริโภคในช่วงเวลาพิเศษได้อย่างมีประสิทธิภาพ สำหรับ การตลาด Mondelez เองที่อาศัยการออกแบบบรรจุภัณฑ์ในธีมคริสต์มาส-ปีใหม่ที่ผสานเทรนด์ผู้บริโภคยุคใหม่ เช่น การเลือกของขวัญพรีเมียม บรรจุภัณฑ์สวยงาม และสินค้าที่เหมาะสำหรับการแบ่งปัน เป็นการตอกย้ำความเข้าใจในพฤติกรรมลูกค้าและโอกาสของตลาดในช่วงเทศกาล

ถึงแม้ว่า Mondelez อาจไม่ใช่แบรนด์ที่ทุกคนจะนึกถึงทันทีเมื่อพูดถึงคริสต์มาส แต่ด้วยกลยุทธ์ที่ชัดเจนที่มาจากความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค ก็แสดงให้เห็นว่า การสร้างความเชื่อมโยงกับเทศกาลนั้นสามารถทำได้ หากเข้าใจอุตสาหกรรมและความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง 

เทศกาลปีนี้ก็อาจเป็นโอกาสที่ Mondelez จะสร้างโมเมนต์สำคัญและความประทับใจให้กับกลุ่มเป้าหมาย พร้อมต่อยอดสู่การเติบโตในระยะยาวได้เหมือนกัน

อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่

สวัสดีครับ ชื่อดิวนะครับ จะพยายามนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้เขียนบทความดี ๆ ให้กับทุกคนครับ *_*

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *