การตลาด Plan B ชูกลยุทธ์ 4’O พาคนไทยสัมผัสบรรยากาศโอลิมปิก

สวัสดีครับทุกคน ในช่วงนี้เราได้เข้าสู่เทศกาลแข่งขันกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ โอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 และทุกคนสังเกตไหมครับว่าเราจะเห็นป้ายบิลบอร์ดตามห้างสรรพสินค้า หรือตามถนน มีรูปนักกีฬาเต็มไปหมด หลายคนอาจจะสนใจว่าพวกเขาเป็นใคร มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น วันนี้ผมเลยจะพาทุกคนไปดู การตลาด Plan B ผู้อยู่เบื้องหลังป้ายพวกนี้ และสิ่งที่พวกเขากำลังจะพาเราซึมซับบรรยากาศกับเทศกาลกีฬาในครั้งนี้

ต้องบอกเลยครับว่าในยุคนี้แม้แต่วงการกีฬาก็ยังต้องการเอเจนซี่ที่มาช่วยดูแลการสื่อสาร หรือแม้แต่กิจกรรมต่าง ๆ หรือเราเรียกกันว่า Sport Marketing Agency ซึ่งหนึ่งในแบรนด์ที่ทำเรื่องนี้ก็คือ Plan B (บริษัท แพลน บี อีเลฟเว่น จำกัด)

การตลาด Plan B

ที่ได้ทำการตลาดและดูแลสิทธิประโยชน์ของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ทั้งในส่วนของทีมชาติและไทยลีก รวมถึงการพลิกโฉมวงการมวยในระดับประเทศและระดับสากลในช่วงที่ผ่านมา โดยการรีโนเวทเวทีมวยราชดำเนินซึ่งเป็นเวทีมวยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก ให้เป็นแลนด์มาร์คที่นักท่องเที่ยวและคนรุ่นใหม่ต้องมาเช็คอิน

และในตอนนี้ Plan B ก็ต้องเผชิญกับความท้าทายสุดยิ่งใหญ่ อย่าง โอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 ที่ต่อเนื่องมาจนถึงเฟส 2 ภายใต้คอนเซปต์ “ที่สุดของนักกีฬา” ที่อยู่ใต้แนวคิดหลักอย่าง “ที่สุดของที่สุด” ของทั้ง 5 เฟส เขาจะมีกลยุทธ์อะไรที่นำออกมาใช้ในการดึงดูดคนคนไทยกันบ้าง เรามาร่วมดูและวิเคราะห์ไปพร้อมกันเลยครับ

โดยกลยุทธ์นี้ประกอบไปด้วยหลักของรูปแบบสื่อ 4 อย่างประกอบไปด้วย Out of Home (OOH), Online, On-Air และ On-Ground ที่จะมาผลักดันการชมและเชียร์ รวมทั้งต่อยอดเนื้อหาเข้าสู่ทุกไลฟ์สไตล์เพื่อสร้างการรับรู้ (Awareness) การจดจำ (Reminder) ความเป็นโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ ให้เข้าถึงคนไทยตลอดเวลาจนเกิดเป็น Engagement ที่คนดูจะซึมซับบรรยากาศแบบไม่ทันรู้ตัว

Plan B เปิดตัวด้วยการแสดงความยิ่งใหญ่ของโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ โดยใช้ภาพสนามแข่งขันที่มีพื้นหลังเป็นเมืองปารีส รวมถึงภาพของทีมนักกีฬาไทยที่เปิดตัวพร้อมกันบนจอทั่วประเทศ

การตลาด Plan B

เพื่อเข้าถึงคนดูผ่านสื่อนอกบ้านในครั้งนี้ โดยนำเสนอคอนเทนต์หลากหลายไม่ว่าจะเป็น

  • การนำเสนอภาพนักกีฬาที่ผสมผสานความเป็นแฟชั่นมาก ในช่วงการโปรโมท ตั้งแต่ในเฟส 2 เป็นต้นไป เพื่อดึงดูดและสร้างความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายของทุกคน ไม่เพียงแค่แฟนกีฬา เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มคนที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น
  • การรายงานเนื้อหาต่างที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน รวมทั้งการร่วมแสดงความยินดีกับเหล่าฮีโร่นักกีฬาบนจอ OOH แบบ Real Time
  • การถ่ายทอดแมตช์กีฬามันส์ในโอลิมปิกขึ้นบน OOH บนจอต่างๆ ทั่วประเทศไทยกว่า 150 จอ รวมไปถึงจอ Signature ของแพลนบีอย่างจอ Panoramix Screen @ CentralWorld

การใช้ Out of Home โดยส่วนตัวมองว่าเป็นกลยุทธ์ในการสร้าง Awareness ได้ดีโดยเฉพาะในกรุงเทพฯ เรียกได้ว่า Plan B เข้าใจ Customer Journey กรุงเทพฯ เป็นอย่างดี เพราะจากการเลือกพื้นที่อย่างห้างสรรพสินค้า หรือบริเวณถนนที่รถติดบ่อย ๆ ก็มีโอกาสที่จะสร้างการรับรู้และเข้าถึงผู้คนได้มากยิ่งขึ้น

นอกจากสื่อ Out of Home ที่เป็นเหมือนจุดแข็งของแบรนด์ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างครอบคลุม Plan B จึงอาศัยกลยุทธ์การสื่อสารผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น

การตลาด Plan B

โดยอาศัยช่องทางออนไลน์ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งเว็บไซต์และโซเชียลมิเดีย ซึ่ง Plan B ได้ทำกิจกรรมดังนี้

  • StadiumTH แพลตฟอร์ม เพื่อเป็นพื้นที่สำหรับรวบรวมทุกเรื่องราวของนักกีฬาไทย ให้แฟนๆ ได้ติดตามและร่วมสนับสนุนความฝันและความพยายามของพวกเขาในโอลิมปิกเกมส์ครั้งนี้
  • Plan B ยังได้ร่วมมือกับ The Standard Sport สำนักข่าวออนไลน์อันดับต้นของประเทศ เพื่อนำเสนอข่าวและคอนเทนต์ผลการแข่งขันอย่างครอบคลุมและทันเหตุการณ์ ให้แฟนกีฬาได้ติดตามทุกความเคลื่อนไหวของโอลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024 อย่างใกล้ชิด
  • แคมเปญ #โอลิมปิกแบบใดห์ ซึ่งเป็นแคมเปญที่เชื่อมโยง O2O (Out of Home to Online) โดยเป็นหนึ่งในมูฟเมนต์สนุกๆ ที่เชิญเหล่า KOL, Influencer และพาร์ทเนอร์เพจทุกคนร่วมกันแชร์โมเมนต์และความหมายใหม่ๆ ของคำว่า “โอลิมปิก”
การตลาด Plan B

จะเห็นว่ากลยุทธ์บนสื่อออนไลน์มีการอาศัยกลยุทธ์อื่น ๆ เข้ามาช่วยไม่ว่าจะเป็น Digital Marketing ในการดูแลแพลตฟอร์ม StadiumTH การใช้ Collaboration Marketing มาทดแทนจุดอ่อนด้านการสื่อสารผ่านสื่อโซเชียลมิเดีย อีกทั้งยังมีการใช้ Influencer Marketing โดยอาศัยผู้ติดตามคนเหล่านั้นในการเข้าถึงอีกด้วย ผมมองว่าด้วยการผสมผสานกลยุทธ์ต่าง ๆ ผ่านสื่อออนไลน์จะยิ่งช่วยให้การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

ในช่วงเฟสก่อนการแข่งขันนี้ Plan B ได้นำนักกีฬาทีมชาติไทยเข้าไปสู่พื้นที่การโปรโมทในเชิงไลฟ์สไตล์มากขึ้นผ่านรายการข่าวและวาไรตี้เพื่อจับกลุ่มผู้ชมที่ดูทีวี และในช่วงถ่ายทอดสดการแข่งขันโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์จะออกอากาศผ่านฟรีทีวีทั้ง 4 ช่อง ได้แก่ T Sports 7, 9 MCOT HD, CH7 HD และ PPTV HD 36

การตลาด Plan B

ต้องยอมรับว่าสื่อเก่า หรือ Traditional Media ยังคงมีอิทธิพลเป็นอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะในต่างจังหวัด ซึ่งกลยุทธ์นี้จะมาช่วยอุดรอยรั่วของสื่อ Out Of Home ที่อาจจะเข้าไม่ถึงไม่ถึงคนกลุ่มนี้

Plan B จะเนรมิตสามย่านมิตรทาวน์ให้กลายเป็น “Olympic Park @ Samyan Mitrtown” ในช่วงปลายกรกฎาคม โดยนำบรรยากาศของปารีสที่เต็มไปด้วยสีสันของโอลิมปิกเกมส์มาตั้งไว้ใจกลางกรุงเทพฯ เปิดพื้นที่ให้ชาวไทยได้ร่วมส่งกำลังใจเชียร์ทีมชาติไทย

สุดท้ายคือการจัดงาน ‘Welcome Back’ ต้อนรับนักกีฬากลับบ้าน ที่จะจัดขึ้น ณ สยามพารากอน ในช่วงสิงหาคม เพื่อเฉลิมฉลองความสำเร็จและความพยายามของนักกีฬาไทยในโอลิมปิกเกมส์และพาราลิมปิกเกมส์ ปารีส 2024

นับว่าเป็นการสร้างประสบการณ์ให้กลุ่มเป้าหมายมีความรู้สึกร่วมไปกับเทศการกีฬา โอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ ไปในครั้งนี้

โดยรวมกลยุทธ์ 4’O อาศัยหลักการ Integrated Marketing จากคำกล่าว ของนายปุญญพัฒน์ ฉายินทุ ผจก.ฝ่ายสร้างสรรค์กลุ่มบริษัทแพลน บี อีเลฟเว่น ซึ่งผมมองว่าเป็นการประยุกต์ใช้กลยุทธ์การตลาดทั้ง Online ผสานเข้ากับ Offline ได้อย่างลงตัว เพราะแต่ละกลยุทธ์นั้นมีวัตถุประสงค์ที่เราเห็นได้ชัด อีกทั้งด้วยความหลากหลายในการใช้สื่อก็ยิ่งทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ทุกคนสงสัยไหมครับว่าทำไม Plan B ถึงได้เข้าร่วมในการทำแคมเปญให้กับการแข่งโอลิมปิกและพาราลิมปิกเกมส์ในครั้งนี้ ผมมองว่าไม่ใช่เพียงด้านรายได้ หรือกำไร อีกหนึ่งเหตุผลที่เป็นไปได้คือเรื่อง Brand เพราะการที่ได้ร่วมงานกับองค์กรที่มีความน่าเชื่อถือ ทำให้ Profile ของแบรนด์ก็จะดีขึ้นไปด้วย ซึ่งชื่อเสียงในส่วนนี้ก็จะสามารถนำไปต่อยอดในการทำธุรกิจต่อไปได้

สรุป

การตลาด Plan B อาศัยการผสานกลยุทธ์การตลาดในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น การ colloboration การใช้ Influencer รวมไปถึง การจัด Event ในการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย

อีกทั้งยังมีความหลากหลายในการใช้สื่อ ไม่ว่าจะเป็นสื่อยุคใหม่ (New Media) และสื่อยุคเก่า (Traditional Media) ที่สามารถอุดช่องโหว่ของทั้งกลยุทธ์โดยรวมในครั้งนี้ เป็นการบูรณาการกลยุทธ์การตลาด หรือ Integrated Marketing ได้เป็นอย่างดี

ด้วยกิจกรรมต่าง ๆเหล่านี้ที่อยู่จะแถบทุก Touchpoint ทั้งในช่องทางการสื่อสารหรือแม้แต่การใช้ชีวิตประจำวันของเรา ที่มองออกไปนอกหน้าต่างก็อาจจะเห็นป้ายบิลบอร์ด ที่แสดงการแข่งขันต่าง ๆ อยู่ ทำให้เราเหมือนกับว่าได้สัมผัสบรรยากาศจากอีกฝั่งของประเทศก็ว่าได้

อ่านบทความที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ที่นี่

สวัสดีครับ ชื่อดิวนะครับ จะพยายามนอนให้ครบ 8 ชั่วโมง เพื่อที่จะได้เขียนบทความดี ๆ ให้กับทุกคนครับ *_*

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *