เวลาเรานึกถึง Soft Power ไทย ภาพแรกที่โผล่มาในหัวอาจจะเป็นอาหาร ดนตรี หรือแฟชั่นจากกรุงเทพฯ แต่ตอนนี้มีอีกหนึ่งพื้นที่ที่กำลัง “พราว” และ “ปักหมุด” ชัดเจนบนแผนที่โลกสร้างสรรค์ และพื้นที่นั้นคือ “อีสาน” ค่ะ Isan Creative Festival 2025 หรือ ISANCF2025 กลับมาอีกครั้งที่จังหวัดขอนแก่น ในธีม “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” พร้อมขยับจาก “งานแสดงผลงานท้องถิ่น” ไปสู่ แพลตฟอร์มเศรษฐกิจสร้างสรรค์ระดับภูมิภาค
เมื่อภูมิภาคที่มีของดีอยู่แล้ว ได้เวลาเฉิดฉายใน Soft Power Ecosystem อีสานอาจเคยถูกมองว่าไกล… แต่งานนี้คือการพิสูจน์ว่าอีสาน “ใกล้” โอกาสใหม่ กว่าที่คิดค่ะ
Isan Creative Festival 2025 (ISANCF2025) ปีที่ 5 ซึ่งจะจัดขึ้นวันที่ 28 มิถุนายน – 6 กรกฎาคม 2568 ที่จังหวัดขอนแก่น เทศกาลนี้จัดโดย สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA: Creative Economy Agency) ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐ เอกชน นักออกแบบ ศิลปิน และภาคประชาสังคมในอีสาน ภายใต้แนวคิด “อีสานโชว์พ(ร)าว – ISAN SOUL PROUD” โดยมีเป้าหมายชัดเจนคือ…
สร้างพื้นที่ให้คนอีสานและคนรักอีสาน ได้ “โชว์ของ” ในแบบของตัวเอง
ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยทุนวัฒนธรรม ที่มีอยู่แล้วในภูมิภาค
เปลี่ยนขอนแก่นให้กลายเป็น Creative City ที่เชื่อมต่อกับตลาดระดับประเทศและโลก
และที่สำคัญ ทำให้อีสานไม่ใช่แค่ “พื้นที่ที่ถูกมองข้าม” แต่คือ ภูมิภาคที่รุ่มรวยด้วยโอกาส ของจริง
ตลอด 4 ปีที่ผ่านมา ISANCF ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าความคิดสร้างสรรค์สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจในระดับพื้นที่ได้จริง มีผู้เข้าร่วมงานสะสมมากกว่า 1 ล้านคน นักสร้างสรรค์กว่า 6,000 ราย และสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจรวมกว่า 1,590 ล้านบาท
อีกทั้งยังเป็นหนึ่งใน World Design Weeks และสนับสนุนเป้าหมายของ UNESCO Creative Cities Network (UCCN) สะท้อนว่า ISANCF ไม่ได้แค่มา “จัดงาน” แต่กำลังวางรากฐานใหม่ให้เศรษฐกิจสร้างสรรค์ในภูมิภาคเติบโตอย่างยั่งยืน
แล้ว ISANCF2025 “ทำอะไร” ยังไงบ้าง? เทศกาลนี้ไม่ได้มาเล่น ๆ ค่ะ จัดเต็ม 9 วัน กับ 7 รูปแบบกิจกรรม และมากกว่า 200 โปรแกรม ที่กระจายอยู่ใน 4 พื้นที่หลักทั่วขอนแก่น ได้แก่
TCDC ขอนแก่น ย่านกังสดาล
ย่านชุมชนสร้างสรรค์โคลัมโบ
โรงแรมพูลแมน ขอนแก่น
ชุมชนสาวะถี
ครอบคลุมทั้ง ดนตรี ภาพยนตร์ อาหาร งานคราฟต์ การออกแบบ ธุรกิจสร้างสรรค์ เทคโนโลยี และงานชุมชน โดยแบ่งออกเป็น 7 รูปแบบกิจกรรมหลัก ได้แก่
1. กิจกรรมทางวิชาการสร้างสรรค์ (Academic Program) เช่น Isan Creativity and Innovation Summit 2025 ฯลฯ
2. แพลตฟอร์มธุรกิจสร้างสรรค์ (Creative Business Platform) เช่น งาน ISAN MICE EXPO โดย TCEB, ISANCF x Kupper Art Fes, The Secret Sauce Business Weekend 2025 อีสาน ฯลฯ
3. การจัดแสดงผลงานและนิทรรศการ ( Showcase & Exhibition) เช่น นิทรรศการจักรวาลลาบก้อย, Muniverse Exhibition, นิทรรศการกลับอีสานดีกว่า! The Pavilion [เพราะคำตอบของ Home Comer อยู่ที่นี่] ฯลฯ
4. เสวนาและเวิร์กช็อป ( Talk & Workshop) เช่น งาน Creative Wisdom Talk x H.O.W., NEXT STATION “ปลาร้า” ฯลฯ
5. อีเวนต์และโปรแกรมบันเทิง ( Event & Entertainment Program) เช่น งานเเฟชั่นโชว์ “อีสานโชว์พ(ร)าว”, ISAN Music ConneXt ฯลฯ
6. ตลาดสร้างสรรค์ ( D-KAK Market) ที่รวมผลงานสร้างสรรค์ของเหล่าของนักสร้างสรรค์ ศิลปิน และผู้ประกอบการท้องถิ่น
7. โปรเจ็กต์พัฒนาย่านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ( Creative District Project) เช่น ชุมชนสาวะถี (SAWATHI HOME PROUD), ชุมชนสร้างสรรค์โคลัมโบ (Columbo Creative Community) ฯลฯ
ความพร้อมที่ชัดเจนใน 2 มิติใหญ่ 1. โอกาสจาก “ทุนวัฒนธรรม” อีสานไม่ได้มีดีแค่ส้มตำ แต่มีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่ต่อยอดได้จริง ผ่าน 3 อุตสาหกรรมหลัก คือ
1. บันเทิงและคอนเทนต์
ซึ่งทั้งหมดนี้ถูกออกแบบให้เข้าถึงการค้า การลงทุน การจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) และการขยายเครือข่ายการศึกษาระดับนานาชาติด้วยค่ะ
2. โอกาสจาก “ศักยภาพพื้นที่” เทศกาลนี้ไม่ได้จัดแค่ในฮอลล์ แต่ลงลึกถึงชุมชน → ย่าน → เมือง เพื่อเปลี่ยนพื้นที่ที่เคยอยู่นอกสายตา ให้กลายเป็นภูมิภาคที่ “น่าอยู่” ด้วยไลฟ์สไตล์ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ “น่าลงทุน” ด้วยศักยภาพทุกมิติ และ “น่าเที่ยว” ด้วยการสร้างประสบการณ์ที่หลากหลาย
เทศกาลนี้จึงไม่ได้จัดเพื่อโชว์…แต่เพื่อ “ชวนกลับมาเติบโตไปด้วยกัน” สิ่งที่โอปอว่าน่าสนใจมาก คือการที่ ISANCF ไม่ได้แค่ดึงนักท่องเที่ยวให้มาสัมผัสอีสาน แต่กำลังชวนคนรุ่นใหม่ให้ “กลับบ้าน” ซึ่งไม่ใช่แค่กลับไปอยู่ แต่กลับไปสร้างอนาคตของตัวเอง ด้วยทุนวัฒนธรรมที่มี เครือข่ายธุรกิจใหม่ ๆ และพื้นที่ที่พร้อมให้ลองผิดลองถูกอย่างจริงจัง แสดงให้เห็นว่านี่ไม่ใช่แค่งานวัฒนธรรม แต่คือ Sandbox ทางเศรษฐกิจ ที่เปิดให้คนธรรมดาได้เข้ามาเปล่งประกาย
นี่ไม่ใช่แค่งาน “โชว์ของ” แต่เป็นกลยุทธ์การตลาดระดับภูมิภาค? เทศกาลนี้ไม่ได้มาเล่น ๆ ค่ะ เพราะเบื้องหลังของความม่วนและพราว มีประเด็นทางการตลาดซ่อนอยู่แบบชัด ๆ ถึง 5 ข้อที่นักการตลาดควรจับตามอง
1. Cultural Ecosystem Strategy จากวัฒนธรรมเดี่ยว ๆ สู่ระบบนิเวศสร้างสรรค์ทั้งภูมิภาค วันนี้โลกไม่ได้พอใจแค่การขาย Soft Power แบบแยกส่วน เช่น ขายแค่หมอลำ ขายแค่ส้มตำ แต่ต้องการ “ระบบนิเวศ” ที่คนทั้งโลกอยากเข้ามามีส่วนร่วม
และ ISANCF กำลังพาอีสานไปสู่ทิศทางนั้นค่ะ เทศกาลนี้ไม่ได้หยุดอยู่ที่วัฒนธรรมเป็นสินค้า แต่ยกระดับขึ้นไปอีกขั้น โดย “ขายวิธีคิด” “ขายวิถีชีวิต” และ “ขายความร่วมมือข้ามภาคส่วน” เปลี่ยน Soft Power จากสิ่งน่ารักน่าชม → เป็น ทุนวัฒนธรรม (Cultural Capital) ที่มีค่าทางเศรษฐกิจจริง
2. Regional Renaissance เมื่อภูมิภาคไม่ใช่แค่พื้นที่รอง แต่คือหัวใจของการพัฒนา ในวันที่เมืองใหญ่เริ่มอิ่มตัว โฟกัสของนวัตกรรมใหม่ ๆ กำลังย้ายมาที่ “ภูมิภาค” ที่มีพื้นที่ให้ทดลอง มีเสน่ห์เฉพาะถิ่น และยังเต็มไปด้วย passion ของคนตัวเล็ก ๆ
เทศกาลนี้จึงไม่ได้เอาศิลปินจากกรุงเทพฯ มาวางโชว์ แต่วางขอนแก่นให้เป็นเวทีของตัวเองBottom-up Development ของจริง เป็นการปั้น “เมืองสร้างสรรค์” แบบที่ไม่ต้องรอความหวังจากส่วนกลาง เพราะมีความภูมิใจจากคนในพื้นที่เป็นแรงขับเคลื่อน
3. Festival-as-Platform งานเทศกาลที่ต่อยอดเป็นสนามธุรกิจสร้างสรรค์ ISANCF ไม่ได้แค่ให้คนมาเดินเล่นแล้วกลับบ้านพร้อมของฝาก แต่ตั้งใจให้ทุกคน “กลับบ้านพร้อมโอกาส” และ “กลับมาอีกครั้งเพื่อทำธุรกิจ”
ปีนี้มีทั้ง Business Matching, ISAN MICE EXPO, เวที The Secret Sauce Business Weekend เวอร์ชันอีสาน ฯลฯ → ชัดเจนว่าไม่ใช่แค่การสร้างพื้นที่แสดงผลงาน แต่คือการสร้าง “สนามธุรกิจสร้างสรรค์” ที่ต่อยอดได้จริง
4. The Homecoming Narrative การกลับบ้านที่ไม่ใช่แค่ซึ้ง แต่คือกลยุทธ์ดึงคนรุ่นใหม่กลับถิ่น Insight ที่ว่า “Home Comer” คือคนรุ่นใหม่ที่อยากกลับภูมิลำเนา มาสร้างบ้าน สร้างธุรกิจ สร้างชีวิต นี่ไม่ใช่แค่เรื่องซึ้ง แต่เป็น Narrative ทางการตลาด เพราะหลายคนเบื่อเมืองแล้ว…แต่ไม่ได้อยากอยู่เงียบ ๆ พวกเขาอยากกลับบ้านในแบบที่ “มีโอกาสให้เติบโต” และ ISANCF กำลังชวนให้คนเหล่านี้ “กลับมาเป็นอนาคตของบ้านเกิด” จริง ๆ ค่ะ
5. Innovation Sandbox พื้นที่ทดลองนโยบายที่เปิดให้ทุกภาคส่วนมาร่วมสร้างเมือง ISANCF ไม่ใช่แค่งานของ CEA หรือเทศบาล แต่มันคือพื้นที่ที่ให้ภาครัฐ เอกชน มหาวิทยาลัย ชุมชน และศิลปินมาร่วมทดลองสร้างเมืองในแบบที่ยังไม่มีสูตรสำเร็จ มันคือ “Open Innovation Hub” ของเมืองที่ไม่จำกัดว่าใครเป็นเจ้าภาพ แต่ขอให้คุณมีพลังสร้างสรรค์ คุณก็เข้ามาได้เลย
สรุป Isan Creative Festival 2025 เปลี่ยนอีสานเป็น Soft Power Ecosystem
สุดท้ายแล้วโอปอมองว่า เทศกาล ISANCF ไม่ได้มาเพื่อ “เปลี่ยนภาพอีสาน” แต่มาเพื่อ “ขยายความจริง” ที่มีอยู่แล้วให้คนอื่นได้มองเห็นค่ะ เพราะอย่างที่ทุกคนทราบกันดีว่า อีสานมีของดี มีพลัง มีทุนวัฒนธรรม และมีวิธีคิดสร้างสรรค์มาตลอด แค่วันนี้ได้เวลาเฉิดฉายบนเวทีระดับโลกอย่างเต็มตัว
สิ่งที่น่าสนใจจึงไม่ใช่แค่จำนวนกิจกรรมหรือยอดผู้ร่วมงาน แต่อยู่ที่กลยุทธ์เบื้องหลังที่กำลังวางอีสานให้เป็น Soft Power Ecosystem อย่างแท้จริง มีทั้งระบบคิด เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และการพัฒนาพื้นที่แบบไม่ต้องรอศูนย์กลางมาชี้นำ
และในวันที่ทุกเมืองกำลังหาทางสร้างจุดแข็งของตัวเอง โอปอคิดว่าอีสานไม่ได้แค่ “พราว” เพราะศิลปะหรือวัฒนธรรม แต่อีสานกำลัง “แข็งแรง” เพราะมีโครงสร้างที่คนในพื้นที่ร่วมสร้างขึ้นมาด้วยมือของตัวเอง เทศกาลนี้เลยไม่ใช่แค่เวทีโชว์ของ แต่เป็นกลยุทธ์ทางเศรษฐกิจที่กำลังเปลี่ยนภูมิภาคให้กลายเป็นโอกาสที่ยั่งยืน ค่ะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้านะคะ :0)
อ่านบทความเพิ่มเติม
