สวัสดีครับเพื่อน ๆ นักการตลาดและผู้อ่านทุกคน วันนี้ทางเพจการตลาดวันละตอนมีแคมเปญดี ๆ ที่อยากชวนคนไทยทุกคนมาร่วมกันลดปริมาณขยะอาหารให้มากที่สุด นั่นก็คือ แคมเปญ กินหมดจาน Guidebook คู่มือแนะนำ 50 ร้านอาหารอร่อยจาก KOLs สายกินและสายกรีน 50 คน ที่อยากชวนคนไทยทุกคนมาร่วมกันลดปริมาณขยะอาหารให้มากที่สุด
โดยร้านอาหารที่มาจาก Guidebook ต่างก็เข้าร่วมโครงการ Restaurant Makeover โครงการที่ตั้งใจพัฒนาระบบการจัดการขยะที่ดีให้กับร้านอาหาร เพื่อนำไปสู่ลดปริมาณขยะอาหารที่จะไปหลุมฝังกลบ ซึ่งโครงการนี้เกิดจากการร่วมมือของ PEAR is hungry และองค์กรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), กรุงเทพมหานคร, สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา, กรมควบคุมมลพิษ, Recycle Day Thailand และ TK Park
ถ้าใครสนใจอยากจะกินอาหารที่รสชาติอร่อย และต้องการมีส่วนร่วมที่จะช่วยให้โลกของเราดีขึ้น ก็สามารถดาวน์โหลด Guidebook ได้ฟรีผ่านเว็บไซต์ www.aRoundP.co ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2567 ได้เลยครับ
แล้วทำไมคนไทยถึงต้องเห็นความสำคัญในปัญหาขยะอาหาร หรือ Food Waste แล้วเราจะทำอระไรได้บ้าง เราลองมาหาคำตอบพร้อมกันในบทความนี้ครับ
Food Waste ปัญหาชวนโลกแตก
ปัญหาขยะจากอาหาร (Food Waste) เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ ซึ่งสะท้อนถึงความล้มเหลวในการจัดสรรทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพ โดยปัญหาเหล่านี้ก็ไม่ได้เกิดจากใครที่ไหน ‘มนุษย์’ หรือคนทั่วไปอย่างเรา ๆ นั้น ไม่ว่าจะเป็นเศษอาหารที่เหลือ หรืออาหารหมดอายุ
AI-Generated by Shutterstock (Prompt: An impactful image showing piles of wasted food in a landfill or garbage bin with a contrasting world in the background, suggesting a global environmental crisis. The food waste should be diverse, including fruits, vegetables, and prepared meals, spilling over, while the Earth in the distance appears in distress, with cracks or heatwaves, symbolizing a serious environmental problem. The colors should be bold, with decaying food contrasting sharply against a darkened, stressed Earth, highlighting the magnitude of the food waste crisis.)
แน่นอนว่าสิ่งที่เกิดขึ้นก็ย่อมส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตามข้อมูลจาก Food Waste Index 2024 ของ UNEP พบว่า ขยะจากอาหารทำให้เกิดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกประมาณ 8-10% จากก๊าซเรือนกระจกทั้งหมดบนโลกอีกด้วย
ไทยมาแรงแซงทางโค้ง จากปัญหาการจัดการขยะจากอาหาร
ปี 2024 คนไทยได้สร้างขยะอาหาร (Food Waste) เฉลี่ย 86 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ในขณะที่ค่าเฉลี่ยของโลกอยู่ที่ 79 กิโลกรัมต่อคนต่อปี
นอกจากนี้จากการรวบรวมข้อมูลของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ยังพบว่า ค่าเฉลี่ยปริมาณการสร้างขยะอาหารของไทยยังเป็นอันเป็นอันดับ 2 ของอาเซียนรองจากประเทศลาวอีกด้วย และแน่นอนว่าต้นเหตุที่ทำให้ปริมาณของขยะอาหารเพิ่มมากขึ้น ส่วนหนึ่งก็มาจากห้องครัวนั่นเอง
แล้วเราจะทำอะไรได้บ้าง ?
การลดขยะอาหารเริ่มต้นได้จากการลองเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ ของทุกคน ซึ่งเราก็สามารถมีส่วนร่วมในการทำให้ปัญหาขยะจากอาหารลดลงได้ด้วยวิธีง่าย ๆ ดังนี้
ลองวางแผนมื้ออาหารและการซื้ออาหารอย่างมีสติ
ก่อนออกไปซื้ออาหาร เรามาลองวางแผนมื้ออาหารประจำสัปดาห์แล้วก็ทำรายการสิ่งที่ต้องซื้อ เพราะบางครั้งเราอาจจะซื้อมากเกินจนนำไปปรุงหรือทานไม่ทัน สุดท้ายก็หมดอายุ และก็ต้องทิ้ง แน่นอนว่าการวางแผนนอกจากจะช่วยเรื่องปัญหาขยะ แล้วยังช่วยควบคุมค่าใช้จ่ายได้อีกด้วย เรียกได้ว่ายิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัวเลย
เก็บรักษาอาหารอย่างถูกวิธี
การที่เราเรียนรู้วิธีการเก็บรักษาอาหารอย่างถูกวิธี แน่นอนว่าจะช่วยให้ยืดอายุของอาหารให้ได้นานขึ้น แนวโน้มที่จะเกิดของเสียก็ลดลง แถมยังช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย
เปลี่ยนเศษอาหารให้คุ้มค่า
ถึงแม้วิธนี้อาจจะดูฮาร์ดคอร์ไปหน่อย แต่หรับคนอยากประหยัดและรักโลกไปพร้อมกัน วิธีนี้ก็สามารถลองนำไปใช้ได้โดยฌแพาะคนที่ทำอาหารกินเอง แทนที่จะทิ้งอาหารที่เหลือ ก็ลองนำเศษอาหารมาทำเป็นเมนูใหม่ ๆ ได้
เข้าร่วมแคมเปญ กินหมดจาน Guidebook
และแน่นอนว่าอีกหนึ่งวิธีที่สามารถช่วยลดขยะอาหารได้คือการเข้าร่วมแคมเปญที่แนะนำร้านอาหาร 50 แห่ง สำหรับคนที่ไม่อยากทำอาหารเอง หรือทำเองแต่ก็ไม่ค่อยถูกปาก แต่ก็อยากมีส่วนร่วมในการช่วยเหลือโลกใบนี้ ก็ต้องมาร่วมแคมเปญ กินหมดจาน Guidebook
จากร้านอาหารแนะนำ 50 ร้าน ที่ได้รับการการันตีจากเหล่า KOLs สายกินและสายกรีนทั้ง 50 คน ไม่ว่าจะเป็นเรือนเพชรสุกี้ จากพีทอีทแหลก, ข้าวมันไก่เจ็กเม้ง (สองสี) จากลุงอ้วนกินกะเที่ยว, goutes patissiere’s room จาก Bon Appetit Bangkok, ชู้ลาวชู้รส จาก Bow Kanyarat, Phed Phed จาก ตุ๊ก Little Monster และอีกมากมายหลายร้านจากหลายย่านทั่วกรุง
จากการพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ สู่การสร้างผลกระทบเชิงบวก
การลดขยะอาหารสำมันคัญกว่าที่เราคิด เพราะนอกจากจะช่วยลดค่าใช้จ่ายในบ้านหรือครอบครัว แล้ว ยังช่วยทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นในระยะยาว แค่การเปลี่ยนพฤติกรรมเล็ก ๆ น้อย ๆ มันจะกลายเป็นการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็น
ช่วยลดโลกร้อน เพราะเวลาที่เราทิ้งอาหารลงถังขยะ มันไม่ได้แค่เน่าเสียไปเฉย ๆ แต่ยังปล่อยก๊าซมีเทนที่ทำให้โลกร้อนขึ้นด้วย และก๊าซตัวนี้ยังทำให้โลกร้อนได้มากกว่าก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 25 เท่า
ประหยัดทรัพยากรของโลก ลองคิดดูว่ากว่าจะได้อาหารมาสักจาน ต้องใช้อะไรบ้าง? ทั้งน้ำ ไฟฟ้า น้ำมันรถขนส่ง แรงงานคน ถ้าเราทิ้งอาหาร ก็เท่ากับเราทิ้งทรัพยากรพวกนี้ไปด้วย
ช่วยประหยัดเงินทั้งตัวเองและประเทศ นอกจากเราจะประหยัดค่าอาหารได้แล้ว ยังช่วยประเทศประหยัดเงินในการจัดการขยะด้วย ลองคิดดู ถ้าเราทิ้งอาหารน้อยลง ขยะก็น้อยลง เงินที่ประหยัดได้ก็สามารถเอาไปพัฒนาประเทศด้านอื่น ๆ ได้อีกด้วย
สุดท้ายนี้แต่ละคนก็คงจะมีวิธีการในการจัดการช่วยโลกในแบบของตัวเอง แต่ก็หวังว่าทุกคนจะเห็นความสำคัญในปัญหานี้ด้วยเหมือนกัน เพราะสุดท้ายแล้วผลกระทบที่เกิดขึ้นทั้งหมดมันก็คงไม่ได้ไปตกอยู่กับที่ใครอื่น นอกจากมนุษย์เรานี่แหละครับและเผื่อใครเริ่มสนใจอยากจะร่วแคมเปญ กินหมดจาน Guidebook และยังไม่ได้ดาวน์โหลดคู่มือแนะนำ 50 ร้านอาหารอร่อยไว้ ก็สามารถกดที่ได้ฟรีผ่านเว็บไซต์ www.aRoundP.co ได้เลย อย่าลืมนะครับว่าโหลดได้ถึงวันที่ 16 ธันวาคม 2567 นะครับ
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่