ชวนส่องแนวคิด Converse To Convert ความสำคัญของบทสนทนาบน Twitter ที่ช่วยเพิ่มยอดขาย

ในโลกการขายของออนไลน์วันนี้ นักการตลาดและเจ้าของธุรกิจหลายๆ คนคงให้ความสำคัญกับ KPI กันทั้งนั้น โดยเฉพาะปลายทางอย่างการเพิ่มยอดขาย ทำให้อัตราการคลิก CPC หรือ CTR กลายเป็น KPI หลักในการวัดผลอยู่บ่อยๆ แต่เอาเข้าจริงๆ เราเคยคิดอีกนิดนึงไหมว่า พวกอัตราการคลิกเหล่านี้ส่งผลต่อยอด Conversion จริงๆ หรือมันเกิดจาก Organic Conversation ตามแพลตฟอร์มต่างๆ กันแน่? เพราะฉะนั้นวันนี้เราจะมาพูดกันถึงเรื่อง Converse To Convert หรือความสำคัญของบทสนทนาบน Twitter กันค่ะ

ความแตกต่างของการสร้าง Conversion ด้วย Lead Ads และ Conversation

ต้องบอกว่าการซื้อ Ads แบบ Lead Ads หรือการเน้น CTR และ CPC นั้นไม่ใช่อะไรที่ผิดนะคะ เพียงแต่การมุ่งเน้นแข่งกันซื้อ แม้ว่าราคาเรทมันจะสูง เพื่อหวังว่าจะได้กลับมาซึ่งยอดขายต่างหากที่ผิด เราอาจจะลองคิดถึงตัวเองก็ได้ว่า เราเคยเจอ Lead Ads กี่อันในชีวิตประจำวันที่เราเห็นแล้วเราคลิกเข้าไปซื้อหรือลงทะเบียนเลย? บอกตรงๆ เพลินเองก็ไม่ใช่หนึ่งในนั้น เพราะสิ่งที่กระตุ้นให้เราอยากทำ research ดูข้อมูลเพิ่มเติมมักมาจากอย่างอื่นแทนมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นคนรอบตัวมาบอก พี่น้องแนะนำ เห็นเพื่อนใช้ เห็นดาราที่ชอบรีวิว และอื่นๆ

ดังนั้นวันนี้นักการตลาดต้องเข้าใจใหม่ว่า Lead ads มันไม่ใช่ทุกอย่างของการขายของ และการขายของก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพึ่งแต่ Lead ads ด้วย กลับกันก็คือการแนะนำ บอกต่อ ผ่านการพูดคุยแบบภาษามนุษย์นี่แหละ ที่เวิร์คและมีอำนาจในการดึง Attention ของลูกค้าได้มากถึงขั้นซื้อตามกันมาแล้วนักต่อนัก

ถ้าจะให้เห็นภาพเร็วๆ ก็อาจจะลองคิดถึงร้านชานมไข่มุกหรือร้านอาหารที่อยู่ๆ ก็มีคนมาต่อคิวยาวเฟื้อย แบบนี้มันมาจาก Lead Ads หรือเปล่า? หรือจะเป็นสินค้าผ้าเช่นแว่น ที่กันคิ้วของแบรนด์ญี่ปุ่น MUJI ที่อยู่ๆ ก็ Sold out ทุกสาขา ทั้งๆ ที่มีขายมาตั้งนานแล้วมันไม่เคยหมด ที่ขายดีแบบนี้เพราะแบรนด์ทำ Lead ads หรือเปล่า? คำตอบสำหรับเคสนี้ก็ต้องบอกว่า เพลินแทบไม่เคยเห็นโฆษณาของ MUJI บนออนไลน์เลยดีกว่า แต่กระแสที่ทำให้คนแห่กันมากระหน่ำซื้อ มันเป็นเพราะการรีวิว พูดคุยกันเองเชิงบทสนทนาของชาว Twitter ต่างหาก

จริงๆ มีอีกหลายเคสที่เพลินเจอว่า Conversation เล็กๆ เหล่านี้มันส่ง Impact ต่อยอดขายได้อย่างล้นหลาม อย่างคำว่า ‘เค้าบอกว่าอันนี้ดี’ ที่เรามักพูดเวลาคุยกับเพื่อนเรื่องสินค้าที่น่าสนใจ ยังเป็นการ Refer ถึงโพสต์ของคนที่เราเห็นจากการรีวิวบนออนไลน์เลย จริงไหมคะ?

ซึ่งมีข้อมูล Study ของ Global Consumer Survey จากทีม Statista เค้าพบว่า 59% ของ online shoppers ในไทยเห็นด้วยว่า Consumer Reviews ในโลกออนไลน์นั้นมีประโยชน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าหรือบริการต่างๆ ยิ่งเป็นสินค้าที่เราไม่เคยซื้อมาก่อน แล้วเราเกิดจำเป็นต้องใช้ขึ้นมา พอเราไปเห็น Review อะไร หรือมีคนแนะนำละก็ บอกเลยใจโอนเอียงพร้อมลองซื้อ ลองใช้ได้ไม่ยาก แบบไม่ต้องพึ่ง Lead ads เลยค่ะ

Twitter แพลตฟอร์มที่สร้าง Conversation และ Impact

แล้วแพลตฟอร์มการสร้าง Conversation ดีๆ ที่สามารถส่งผลต่อยอดขายได้จริงในวันนี้นั้น ก็คงหนีไม่พ้น Twitter อยู่แล้ว ด้วยธรรมชาติของผู้คนบน Twitter ที่มีพฤติกรรมการใช้งานที่ชอบส่วนร่วมกับคนใน Community เดียวกัน ก็เลยสามารถทำให้ Tweet นึงมี Retweet ไปได้ไกล อย่างกลุ่มแฟนคลับวงเกาหลี หรือกลุ่มที่ชอบรีวิวเครื่องสำอางหรือจะเป็นกลุ่มเมารักที่ชอบ Retweet โควตคำคม 

Converse To Convert

นอกจากนี้ยังเป็นเพราะ Twitter มีระบบการใช้ Hashtags ที่แข็งแรงมาก ทำให้มีความเรียลมากขึ้น เมื่อเทียบกับ Social Media แพลตฟอร์มอื่นๆ  อย่าง #ไว้รีวิวห้ามขายของโว้ย ถ้าแบรนด์ไหนที่จ้างมาโปรโมตสินค้าใช้ ก็อาจจะถูกจับโป๊ะได้ไม่ยาก นอกจากนี้ยังมี #Howtoperfect ที่เน้นรีวิวเฉพาะสินค้าหรือบริการความงามโดยเฉพาะ หรือ #อร่อยไปแดก ที่เน้นไปเรื่องของกิน ร้านอาหารน่าลองด้วย

แล้วเรื่องที่เพลินบอกว่า Twitter เป็นแพลตฟอร์มที่สามารถกระตุ้นยอดขายได้นั้น เพลินก็ไม่ได้กล่าวขึ้นมาลอยๆ นะคะ เพราะมันมีงานศึกษาชิ้นหนึ่งของ Twitter เองเลย ที่ศึกษาถึงพลังของการสนทนาที่มีต่อแบรนด์ ได้กล่าวว่าหากแบรนด์สามารถเพิ่มจำนวนการสนทนาที่ดีในสินค้าหรือบริการได้ 10% โอกาสในการสร้างยอดขายจะเพิ่มอีกถึง 3% เลยทีเดียว

ซึ่งแบรนด์ที่เคยสัมผัสกับ Twitter Review Phenomenon ในวันนี้ก็มีมากมายหลาย Categories ถ้าไม่เชื่อก็ไปเสิร์จดูได้เองเลยบน Twitter เพราะเดี๋ยวหาว่าเราโม้ค่ะ ตั้งแต่แชมพูยาสระผม แก้รังแค ผมร่วงขวดสีน้ำตาลและสีเขียว / ที่เช็ดหน้าจอคอมพิวเตอร์จากร้าน Gift shop / วิตามินผมกล่องสีขาว เป็นต้น ใครที่ไปเสิร์จแล้ว เจอว่าเป็นแบรนด์ไหน ก็ลองเอามาเฉลยให้ดูกันบ้างนะคะ

จะเห็นได้ว่า Conversation ของผู้ใช้งานจริง หรือรีวิวจากลูกค้านั้นส่งผลต่อยอดขายได้มากกว่า Lead ads และอัตราเงินในการลง Media เพื่อซื้อ Conversion เสียอีก เพลินขอแนะนำว่าหากคุณอยากซื้อ Ads ในเชิง Conversion ให้เก็บไปใช้ใน Stage ที่ 2 หรือช่วง Retargeting เป็นหลัก โดยเวลา Retarget เนี่ยก็ให้อิงจาก Lead ที่เข้าเว็บคุณจากการรีวิวมากกว่า

ดังนั้นก่อนที่คุณจะไปยิง Ads เพื่อเพิ่มยอดขาย อยากชวนให้มาสร้างบทสนทนา รีวิว และพูดถึงของสินค้าเราก่อน ทำยังไงให้คนอยากรีวิวของเราเพิ่มขึ้น ผ่านแนวคิด Converse To Convert หรือเราจะมี Strategy ในการใช้ Influencer ยังไงให้ปัง จากนั้นการยิงสื่อค่อยตามมาในช่วงหลังค่ะ เพราะเผลอๆ คุณอาจจะไม่ต้องยิง Ads เลยด้วยซ้ำ เพราะถ้าหากรีวิวเกิดดัง Go Viral ขึ้นมา สิ่งที่ต้องทำต่อมาคือเตรียมของให้พร้อมขาย โดยเฉพาะในช่วงที่เรามี Demand สูงค่ะ ลองดูกันนะคะ เน้น Conversation เยอะๆ ลด CTR CPC และ Lead Ads น้อยลงบ้างค่ะ

ปรึกษาการทำโฆษณาบน Twitter เพื่อผลักดันให้เกิดบทสนทนาเกี่ยวกับแบรนด์ของคุณ กับMediaDonuts ตัวแทนจำหน่ายโฆษณาของ Twitter ประจำประเทศไทย ติดต่อที่ [email protected]

Marketing Strategic Planner ในเครือการตลาดวันละตอน | A Creator สาวพลัสไซส์ @Fabfatkid | A Travel Lover ที่หมดเงินเกือบ 80% ไปกับการเดินทางแบบแมสๆ | An Instagrammer @theplearn ที่ชอบเล่น Story เป็นชีวิตจิตใจ | สุดท้ายคือ Data Researcher ทั้ง Social และ Search Data etc. ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *