ใครที่เป็นคอชาและคนที่มองหาความสุขเล็ก ๆ ในชีวิต บนโลกที่ทุกอย่างหมุนไวแบบติดจรวดเนี่ย การได้หยุดพักจิบชาดี ๆ สักแก้วมันมันก็คงจะจรรโลงใจไม่น้อยใช่ไหมล่ะครับ? วันนี้วงการชาไทยกำลังจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อ CHAGEE (ชาจี) แบรนด์ชาพรีเมียมจากแดนมังกร เตรียมกลับมาสร้างปรากฏการณ์ใหม่ให้กับประเทศไทย พร้อมพาทุกคนไปสัมผัสประสบการณ์การจิบชาที่เหนือกว่าที่เคย ซึ่งบอกเลยว่านี่คือกลยุทธ์สำคัญใน การตลาด CHAGEE ที่จะเข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภคชาวไทยครับ
รู้จัก “ชาจี” ที่ไม่ได้สะกดด้วย ก ไก่
ก่อนอื่นผมอยากจะพาทุกคนมาทำความรู้จักเรื่องราวของแบรนด์กันสักเล็กน้อยก่อนครับ โดย CHAGEE หรือ ชาจี ถือกำเนิดมาจากที่ประเทศจีน ด้วยคอนเซปต์หรือแนวคิดที่ลึกซึ้งกว่าแค่ร้านชาทั่วไป แบรนด์มุ่งมั่นจะเป็นสะพานเชื่อมโยงผู้คนและวัฒนธรรมเข้าไว้ด้วยกันผ่านสุนทรียะของการจิบชา ด้วยการนำเสนอชาในรูปแบบที่ทันสมัย แต่ยังคงกลิ่นอายวัฒนธรรมดั้งเดิมไว้ครบถ้วน
AI-Generated by Shutterstock (Prompt: A young East Asian man standing in a scenic tea field with misty mountains in the background, wearing a pastel-colored loose shirt with subtle vertical stripes, holding a patterned pastel blue takeaway cup with a black lid in his right hand, looking off into the distance with a calm and confident expression, natural sunlight, cinematic soft lighting, serene and peaceful atmosphere, morning light, bokeh in background, photorealistic.)
นอกจากนี้แบรนด์ยังให้ความสำคัญในการสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ ด้วยการรังสรรค์รสชาติที่เข้าถึงง่ายให้กับคนรุ่นใหม่ด้วยการชงจากใบชาแท้ 100% ทำให้ทุกแก้วของ CHAGEE คือการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่ากับรสชาติที่ทันสมัยครับ ซึ่งในปัจจุบัน CHAGEE ก็เติบโตอย่างก้าวกระโดดสุดโดยมีมีสาขามากกว่า 6,000 แห่งทั่วโลกเลย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือประเทศไทยด้วยนั่นเองครับ
จุดเด่นของแบรนด์ มาจาก Quality และ Innovation ที่สร้างสรรค์ Premium Experience
สิ่งที่ทำให้ CHAGEE มีจุดเด่นที่น่าสนใจ คือเรื่องคุณภาพและนวัตกรรม แบรนด์นี้ให้ความสำคัญกับการใช้ ใบชาคุณภาพดีที่สุด ไม่ใช่ชาผง แต่เป็นใบชาสดที่คัดสรรมาอย่างพิถีพิถันจริง ๆ เพื่อให้ได้รสชาติและกลิ่นหอมธรรมชาติของชาแบบเต็ม ๆ ทำให้เครื่องดื่มของ CHAGEE นอกจากจะสดชื่นแล้ว ยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย
และสิ่งที่แตกต่างจากคู่แข่งและแบรนด์อื่น ๆ คือเรื่องของการใช้ “นมสดแท้คู่วัตถุดิบชาแท้” โดยหลีกเลี่ยงครีมเทียม สารแต่งกลิ่นสังเคราะห์ และไขมันทรานส์ในทุก ๆ แก้วความมุ่งมั่น ด้วยความ Organic ของส่วนผสมนี่แหละ ที่ทำให้ CHAGEE มอบประสบการณ์การดื่มชาที่เหนือกว่าและปลอดภัยต่อสุขภาพผู้บริโภคได้อย่างแท้จริง คุณภาพระดับพรีเมียมยังขยายไปถึงการคัดสรรวัตถุดิบอื่น ๆ ทั้งนมคุณภาพสูงจากฟาร์ม และผลไม้สดจากสวน เพื่อสร้างสรรค์เครื่องดื่มที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพครับ
นอกจากรสชาติแล้ว CHAGEE ยังใส่ใจเรื่องภาพลักษณ์และบรรจุภัณฑ์มาก ๆ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของประสบการณ์พรีเมียมที่เขาตั้งใจนำเสนอเลย ด้วยการผสมผสานองค์ประกอบทางวัฒนธรรมจีนคลาสสิกได้อย่างลงตัว ทั้งลายกราฟิกจากหน้ากากอุปรากรปักกิ่ง หรือการใช้ภาษาจีนโบราณ ทำให้ผลิตภัณฑ์ของ CHAGEE ไม่ใช่แค่เครื่องดื่ม แต่เป็นงานศิลปะที่สะท้อนวัฒนธรรมอันลึกซึ้งอีกด้วยครับ
ด้วยภาพลักษณ์ที่โดดเด่นนี้ยังช่วยย้ำจุดยืนของ CHAGEE ในการเป็นแบรนด์ชาสไตล์จีนที่มุ่งนำเสนอวัฒนธรรมสู่ตลาดโลกได้อย่างชัดเจนนั่นเอง
CHAGEE ชี Comeback พร้อมลุคใหม่ ที่ Fresh กว่าเดิม
หลังจากที่ CHAGEE ได้ประกาศเตรียมตัวและสร้างความเคลื่อนไหวมาสักพัก ในที่สุดแบรนด์ก็ได้หวนคืนสู่ตลาดประเทศไทยอีกครั้ง พร้อมกับการปรับภาพลักษณ์ใหม่ให้ทันสมัยและสดใสกว่าเดิม
การกลับมาครั้งนี้ CHAGEE ยังคงรักษาศิลปะการชงชาแบบต้นตำรับอย่างพิถีพิถันไว้ครบถ้วน รับรองว่าทุกจิบยังหอมสดชื่นและมีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร บอกเลยว่ารูปลักษณ์ใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์เชิงรุก ที่อยากสร้างสรรค์ประสบการณ์สุดสดชื่นและมีสไตล์ให้คนไทยได้สัมผัสกันครับ
“Tea Bar” โฉมใหม่ Calm Space ของคนรักชา
หัวใจสำคัญของการกลับมาครั้งนี้คือการเปิดตัวคอนเซ็ปต์ “Tea Bar” โฉมใหม่ ในประเทศไทยนี่แหละครับ CHAGEE ตั้งใจสร้างพื้นที่นี้ให้เป็นเหมือน “บ้านหลังที่สาม” สำหรับคนรักชาจริง ๆ
ใน Tea Bar แห่งนี้ ทุกคนสามารถหลีกหนีความวุ่นวาย มาจิบชา พักผ่อน ทำงาน หรือใช้เวลาดี ๆ ได้อย่างสบาย ๆ กับบรรยากาศสุดชิลล์ การตกแต่งภายในก็เน้นวัสดุธรรมชาติอย่างไม้และหิน ผสมผสานกับแสงไฟโทนอบอุ่น และเส้นสายโค้งมนที่สร้างความรู้สึกสงบให้กับจิตใจของผู้ที่มาเยือน
นอกจากนี้แบรนด์ยังเปิดสาขาใหม่ในทำเลทองถึง 3 แห่ง ทั้ง พาร์ค สีลม (Park Silom), เอ็กซ์เชนจ์ ทาวเวอร์ (Exchange Tower) และ วานิช วิลเลจ (Vanit Village) โดยแต่ละสาขาถูกออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนสามารถ “พักใจ” และเชื่อมต่อกับผู้คนรอบตัวได้อย่างเป็นธรรมชาติครับ
Premium Tea พร้อมเทคโนโลยีสุดล้ำ รังสรรค์รสชาติที่เป๊ะทุกแก้ว
เรื่องของคุณภาพชาแท้ CHAGEE ก็ไม่ต้องกังวลครับ เพราะแบรนด์มาพร้อมใหม่ด้วยเทคโนโลยีสุดล้ำ นั่นก็คือการใช้เทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์ ที่ควบคุมการชงด้วย QR Code เพื่อความแม่นยำในทุกขั้นตอน บอกเลยว่าช่วยให้บาริสต้าชงชาได้รวดเร็ว รสชาติอร่อยคงที่เหมือนกันทุกแก้ว ไม่ว่าจะซื้อจากสาขาไหนก็เป๊ะ พร้อมเสิร์ฟความสดใหม่เสมอครับ
นอกจากนี้ CHAGEE ยังเปิดตัวไลน์ใหม่ล่าสุดอย่าง “Teaspresso Series” ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเอสเพรสโซ่ ทั้งแรงดัน อุณหภูมิ และเวลาสกัดถูกคุมแบบเป๊ะสุด ๆ เพื่อให้ได้รสชาเข้มข้น กลมกล่อม เหมาะกับเมนูลาเต้หรือแฟรปเป้มาก ๆ
Healthy Tea ดื่มได้ทุกวัน
แบรนด์ตระหนักถึงความสำคัญของสุขภาพผู้บริโภคในทุกแก้วที่ชง อย่างที่บอกว่า CHAGEE ใช้ใบชาแท้ 100% ไม่มีสารแต่งกลิ่น ไม่มีสารให้ความหวานเทียม และไม่มีไขมันทรานส์เลยครับ ที่สำคัญคือเรายังสามารถเลือกระดับความหวานได้เอง ตั้งแต่หวานศูนย์ไปจนถึงหวานน้อย นี่แหละครับคือแนวทางที่ช่วยให้ทุกคนได้สัมผัสรสชาติชาแท้ พร้อมดูแลสุขภาพทั้งกายและใจได้ทุกวันแบบสบาย ๆ
สรุป
กลยุทธ์ การตลาด CHAGEE ที่กลับมาในประเทศไทยครั้งนี้ ไม่ใช่แค่การเปิดร้านชาใหม่ธรรมดา ๆ แต่เป็นการนำเสนอประสบการณ์การดื่มชาในรูปแบบที่แตกต่างและน่าประทับใจยิ่งขึ้น ด้วยการผสานพลังของชาแท้คุณภาพสูงที่ใส่ใจสุขภาพ เทคโนโลยีการชงที่ล้ำสมัย และการสร้างสรรค์บรรยากาศ “Tea Bar” ที่อบอุ่นน่านั่ง CHAGEE พร้อมแล้วที่จะเป็นส่วนหนึ่งในไลฟ์สไตล์ประจำวันของคนไทย และเป็นจุดนัดพบแห่งใหม่สำหรับคนรักชาที่อยากเติมความสดชื่นในทุก ๆ วัน
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่นี่