Marketing Channel หรือ ช่องทางการตลาด ในทุกวันนี้มีให้นักการตลาดได้เลือกใช้กันมากกมาย ไม่ว่าจะเป็น Social Media, Email, Video หรืออื่น ๆ รวมถึงภาพรวมของช่องทางการตลาดก็ยังมีการเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วย เช่นกัน โดยเมื่อก่อนเราอาจจะเห็นแต่การทำการตลาดผ่านช่องทาง Offline ต่อมาก็พัฒนามาเป็น Online มากขึ้น จนกระทั่งเมื่อไม่กี่ปีย้อนหลัง เราก็มักจะได้ยินถึง Omnichannel กันบ่อย ๆ ที่เป็นการนำช่องทาง Offline และ Online มาบูรณาการกัน เพื่อเชื่อมโยงช่องทางต่าง ๆ ของธุรกิจและลูกค้าอย่างเป็นระบบและลงตัว ดังนั้นแล้วในฐานะนักการตลาดจึงมีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องเข้าใจว่าแต่ละช่องทางนั้นสามารถให้อะไรกับเราได้บ้าง เพื่อจะได้เลือกใช้งานได้อย่างเหมาะสม
โดยในบทความนี้ผู้เขียนจะพาคุณผู้อ่านมาส่องช่องทางการตลาดยอดฮิตในปี 2024 จาก HubSpot กันว่าจะมีช่องทางอะไรบ้าง ถ้าพร้อมแล้ว ก็ไปกันเลย!
AI image generated by Shu tterstock (Prompt : Overview of Marketing channels including social media, website, email, Video, Influencer, SEO, Podcast and Word-of-Mouth)
Top Marketing Channel 2024
ช่องทางการตลาดเป็นเครื่องมือหรือจุดสัมผัสต่างๆ ที่ธุรกิจใช้เพื่อกระจายสินค้าและสื่อสารข้อมูลต่าง ๆ ไปยังลูกค้า และในปี 2024 นี้ จะมีช่องทางการตลาดตัว Top ๆ อะไรบ้าง โดยอ้างอิงจาก HubSpot ที่ได้ทำการสำรวจหาช่องทางการตลาดที่มีคนใช้มากที่สุดจากผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด B2B และ B2C ทั่วโลกกว่า 1,000 ราย ซึ่งมีช่องทางดังต่อไปนี้
Top B2B Marketing Channel
ที่มา Hubspot
ผลสำรวจของ HubSpot พบว่า ช่องทางการตลาดที่นักการตลาด B2B (Business-to-Business) ใช้มากที่สุดเป็น 3 อันดับแรก ในปี 2023 ได้แก่
Short-form video วิดีโอขนาดสั้น เช่น TikTok, Reels, YouTube Shorts เป็นต้นInfluencer marketing การตลาดแบบใช้อินฟลูเอนเซอร์Search Engine Optimization (SEO) การเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ให้สามารถติดอันดับแรก ๆ บน Search Engine
Top B2C Marketing Channel
ช่องทางการตลาดที่นักการตลาด B2C (Business-to-Customer) ใช้จะค่อนข้างคล้ายคลึงกับ B2B เลย หรือก็คือใช้ Short-form video, Influencer marketing และ Search Engine Optimization (SEO) เช่นกัน แต่จะแตกต่างกันเล็กน้อย โดยสำหรับ B2C แล้ว Social Media และ Email เป็นช่องทางยอดฮิต ตามด้วย Website และ Blog
ซึ่งปกติแล้วการตลาด B2B และ B2C จะมีโฟกัสที่แตกต่างกัน โดยการตลาด B2B จะโฟกัสไปที่การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าในระยะยาว ขณะที่การตลาด B2C จะโฟกัสในการมอบคอนเทนต์ความบันเทิงต่าง ๆ และเน้นความรวดเร็วเป็นหลัก จึงเป็นเหตุผลให้ว่า Social Media เป็นช่องทางที่เหมาะสมกับ B2C มากกว่า
ที่มา Hubspot
HubSpot ได้สำรวจช่องทาง Social Media โดยเฉพาะ พบว่า แบรนด์สาย B2C มักจะทุ่มทุนไปกับการทำการตลาดในช่องทาง Facebook, Instagram และ Youtube
นอกจากนี้ผลสำรวจยังบอกเราอีกว่า Social Media Platform สำหรับคนทำงานอย่าง LinkedIn นั้นได้รับความนิยมในแบรนด์สาย B2B มากกว่า B2C อีกด้วย
และอีกช่องทางอย่าง Email ยังคงสำคัญต่อแบรนด์ B2C เพราะสามารถใช้เพื่อเผยแพร่และสื่อสารข้อมูลแบบ Personalized ได้ แต่อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามคือลูกค้าจะยกเลิกการรับข้อมูล หากเราส่งอีเมลมากเกินไป ดังนั้นควรส่งในปริมาณที่เหมาะสม
สุดท้าย รายงาน HubSpot พบว่า 36% ของนักการตลาด B2C ใช้ Website และ Blog เพื่อเชื่อมต่อแบรนด์กับลูกค้า สร้างการรับรู้ถึงแบรนด์ เพิ่มปริมาณการเข้าชม และเพิ่มโอกาสในการขาย ซึ่งในส่วนของเนื้อหาใน Website และ Blog อย่าลืมที่จะทำ SEO เพื่อเราขึ้นสู่อันดับต้น ๆ ของ Search Engine ซึ่งการทำให้ลูกค้าพบเห็นเราเป็นคนแรก ๆ มีผลต่อการตัดสินใจซื้อของลูกค้า
Omnichannel Marketing
ที่มา Hubspot
จากการสำรวจผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดของ HubSpot นักการตลาดมากกว่า 9 ใน 10 คน ใช้ Marketing Channel มากกว่า 1 ช่องทาง และ 81% ใช้ช่องทางการตลาดมากกว่า 3 ช่องทาง ซึ่งการใช้ช่องทางในการทำการตลาดเพียงช่องทางเดียวอาจใช้ไม่ได้ผลแล้วในปัจจุบัน และกำลังถูกทดแทนด้วยการตลาดแบบ Omnichannel หรือการบูรณาการหลายช่องทางร่วมกัน
Video Marketing
ในปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นยุคทองของการทำการตลาดผ่านวิดีโอ ซึ่งวิดีโอเป็นวิธีที่ดีในการเพิ่ม Conversion ปรับปรุง ROI เข้าถึงผู้ชมใหม่ๆ และช่วยสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า ด้วยเหตุผลเหล่านี้จึงทำให้นักการตลาดต่างกันบอกว่า วิดีโอเป็นรูปแบบสื่อยอดนิยมที่ใช้ในปัจจุบัน
และเนื้อหาแบบวิดีโอสั้นเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ของทั้งนักการตลาด B2B และ B2C ในยุคของ TikTok นี้ ที่ไม่ว่าแพลตฟอร์มไหน ๆ ก็พยายามปรับตัว Add วิอีโอสั้นเข้ามา ซึ่งนอกจากวิดีโอสั้นจะกระตุ้นให้ผู้ดูใช้แอปนานขึ้นแล้ว ก็ยังเป็นพื้นที่ที่เพิ่มโอกาสการเติบโตสำหรับแบรนด์เช่นกัน
Influencer Marketing
การตลาดแบบใช้อินฟลูเอนเซอร์ หรือ การที่แบรนด์ร่วมมือกับคนดังในอุตสาหกรรมเดียวกัน เพื่อสื่อสารโฆษณาหรือข้อมูลต่าง ๆ ของแบรนด์ โดยคนดังเหล่านี้สามารถสร้างการรับรู้และการเชื่อมโยงบุคลิกภาพของคน ๆ นั้นถึงแบรนด์ได้ รวมถึงในปัจจุบันลูกค้าไม่ค่อยเชื่อแบรนด์หรือนักการตลาด แต่จะเชื่ออินฟลูเอนเซอร์ที่เขาไว้ใจมากกว่า จึงทำให้แบรนด์ต้องหันไปอาศัยอินฟลูเอนเซอร์เพื่อสื่อสารข้อมูล แนะนำสินค้า โปรโมทกิจกรรมอะไรต่าง ๆ มากขึ้น
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า 86% ของแบรนด์ B2B ประสบความสำเร็จกับการตลาดแบบอินฟลูเอนเซอร์ และ 17% ของนักการตลาดวางแผนที่จะลองใช้การตลาดแบบใช้อินฟลูเอนเซอร์เป็นครั้งแรกในปี 2023 และในจำนวนนั้นใช้แนวทางนี้มาอยู่แล้วถึง 89%
Search Engine Optimization (SEO)
หนึ่งในกลยุทธ์ของนักการตลาดยุคใหม่ในด้าน Marketing Channel คือ การเพิ่มประสิทธิภาพในหน้าการค้นหาหรือการทำการตลาด SEO ซึ่งหากแบรนด์ทำเรื่องนี้ได้ดีก็จะช่วยเพิ่มการเข้าถึงได้ และ SEO ไม่ใช่แค่อะไรที่เกี่ยวกับเว็บไซต์เพียงเท่านั้น อย่างเช่นช่อง YouTube หรือ Tiktok เอง แบรนด์ก็ควรปรับ SEO ให้เหมาะสมตามหลักการของแต่ละแพลตฟอร์มเพื่อให้มันช่วยดันช่องเราไว้ต้น ๆ ของการค้นหา
Podcast Marketing
ในการสำรวจของ Pew ในปี 2023 พบว่า 42% ของชาวอเมริกันที่มีอายุ 12 ปีขึ้นไป บอกว่าพวกเขาได้ฟัง Podcast ในเดือนที่ผ่านมา
ที่มา Hubspot
และการสำรวจของ HubSpot ในปี 2022 พบว่า 82% ของนักการตลาดวางแผนที่จะใช้ Podcast หรือเนื้อหาเสียงอื่น ๆ มากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า เนื้อหาเสียงเริ่มเป็นที่ต้องการสูง ดังนั้นสำหรับหลายๆ แบรนด์ Podcast อาจเป็นแพลตฟอร์มที่ดีในการเข้าถึงผู้ชมจำนวนมากขึ้นก็ได้
Host ในรายการ Podcast ยังสามารถทำหน้าที่เป็นอินฟลูเอนเซอร์ให้กับแบรนด์ได้ ซึ่งสะท้อนด้านความเป็นมนุษย์ของแบรนด์ นอกจากนี้เนื่องจากคนที่ฟัง Podcast มักจะฟังขณะที่กำลังทำอะไรอย่างอื่นไปด้วย ดังนั้น Podcast จึงเป็นช่องทางที่ดีในการเข้าถึงผู้คนระหว่างการเดินทางในตอนเช้า การพาสุนัขไปเดินเล่น หรือ การทำความสะอาดบ้าน เป็นต้น
Word-of-Mouth Marketing
การสำรวจในปี 2023 จาก PwC พบว่า ลูกค้าในสหรัฐฯ มากกว่าครึ่งแนะนำบอกต่อแบรนด์ที่พวกเขารู้สึกไว้วางใจให้กับครอบครัวและเพื่อน ๆ เนื่องจากในปัจจุบันมีข้อมูลและเนื้อหาออนไลน์จำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ความเชื่อถือของลูกค้าจึงน้อยลงเรื่อย ๆ
โดยลูกค้าจำนวนมากหันมาเชื่อคำแนะนำแบบปากต่อปากในการตัดสินใจซื้อสินค้า เพราะฉะนั้นนักการตลาดควรอาศัยคำแนะนำจากลูกค้ากันเองหรือการตลาดแบบปากต่อปากเพื่อสร้างความไว้วางใจ แต่โดยทั่วไปแล้วลูกค้าอยากจะบอกต่อสินค้าของเราก็ต่อเมื่อพวกเขาชอบเท่านั้น ดังนั้นวิธีหลักที่จะทำให้ลูกค้าอยากจะแชร์ คือ ลูกค้าจะต้องได้รับสร้างประสบการณ์ที่ดีและมากพอ จนทำให้รู้สึกอยากแชร์อะไรดี ๆ ต่อคนในชีวิตของพวกเขานั่นเอง
สรุป
จากเนื้อหาทั้งหมดจึงสรุปได้ว่า ในปี 2024 Marketing Channel หรือ ช่องทางการตลาด ยอดนิยมตามการสำรวจของ HubSpot ได้แก่ Short-form video, Influencer marketing และ SEO ซึ่งใช้ทั้งใน B2B และ B2C โดยใน B2C นิยม Social Media และ Email มากกว่า นอกจากนี้วิดีโอสั้นมีบทบาทสำคัญอย่างมากในการทำการตลาดปัจจุบัน ในส่วนของการทำการตลาดแบบ Omnichannel หรือการบูรณาการหลายช่องทางร่วมกันก็ช่วยเพิ่มการมีส่วนร่วมและการเติบโตของแบรนด์ และการตลาดแบบใช้อินฟลูเอนเซอร์ประสบความสำเร็จอย่างมากโดยเฉพาะใน B2B รวมถึง SEO เป็นกลยุทธ์สำคัญในการเพิ่มการเข้าถึงแบรนด์ นอกจากนี้ Podcast ก็เริ่มได้รับความนิยมจากนักการตลาดมากขึ้น สุดท้ายการตลาดแบบปากต่อปากยังเป็นช่องทางที่มีศักยภาพในการสร้างความไว้วางใจให้กับแบรนด์
สำหรับใครที่สนใจอ่านบทความอื่นๆ หรือ ต้องการอัปเดตความรู้การตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้ที่ช่องทาง Website , Facebook , Instagram , Twitter , YouTube และ Tiktok ของการตลาดวันละตอนตามนี้ได้เลยค่ะ
Source Hubspot
