ช่วงการเรียนรู้กำจัด Facebook Ads ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในการยิงโฆษณา

ช่วงการเรียนรู้กำจัด Facebook Ads ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในการยิงโฆษณา

ต้องบอกว่าเวลาเรายิงโฆษณาบน Facebook นั้น ไม่ใช่แค่ตั้งค่าแคมเปญเสร็จแล้ว โฆษณาจะวิ่งทันที ระบบจะต้องลองส่งโฆษณานั้นไปยังกลุ่มเป้าหมาย เรียกว่าช่วงการเรียนรู้ แต่ถ้าโฆษณานั้นติดอยู่ในช่วงการเรียนรู้นี้ จะเรียกว่า ช่วงการเรียนรู้กำจัด ส่งผลให้ต้นทุนโฆษณาสูงขึ้น

ซึ่ง ช่วงการเรียนรู้กำจัด นี้ไม่เพียงแต่เกิดขึ้นในตอนที่เรายิงโฆษณาใหม่นะคะ แต่จะเกิดขึ้นตอนเราแก้ไขแคมเปญด้วยค่ะ ดังนั้นเมื่อเรามีการแก้ไขแคมเปญ หรือ โฆษณาต้องสังเกตด้วยว่าโฆษณาออกจากช่วงการเรียนรู้แล้วหรือยังค่ะ

โดยเราสามารถสังเกตจากป้ายกำกับในคอลัมน์จะขึ้นว่า การเรียนรู้กำจัด ถ้าขึ้นแบบนี้เราต้องแก้ไขเพื่อออกจาก ช่วงการเรียนรู้กำจัดให้ไวที่สุด เพื่อลดตันทุนโฆษณาของเรา และ เพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญค่ะ

ช่วงการเรียรู้ คืออะไร และ การออกจากช่วงการเรียนรู้

ระบบการแสดงโฆษณาของ Meta จะใช้แมชชีนเลิร์นนิ่งเพื่อปรับโฆษณาให้เหมาะสมเพื่อผลลัพธ์ของเรา โดยในแต่ละครั้งที่เราแสดงโฆษณา ระบบการแสดงโฆษณาจะเรียนรู้เกี่ยวกับ คนที่เหมาะสมที่สุดที่จะเป็นเป้าหมาย ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของวันสำหรับแสดงโฆษณา ตำแหน่งการจัดวางที่ดีที่สุด และชิ้นงานโฆษณาที่ดีที่สุดที่จะนำมาใช้งาน แล้วยิ่งมีการแสดงโฆษณามากเท่าไร ระบบการแสดงโฆษณาก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพของโฆษณาได้ดีมากขึ้นเท่านั้นค่ะ

ดังนั้น ช่วงการเรียนรู้ คือช่วงเวลาที่ระบบการแสดงโฆษณายังคงต้องเรียนรู้เกี่ยวกับชุดโฆษณา ในช่วงการเรียนรู้นี้ ระบบการแสดงโฆษณาจะค้นหาวิธีที่ดีที่สุดในการแสดงชุดโฆษณา โดยลองใช้กลุ่มเป้าหมาย ตำแหน่งการจัดวาง และองค์ประกอบที่แตกต่างกัน จึงทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของโฆษณายังคงไม่เสถียร โดยแย่างที่บอกไปว่า ช่วงการเรียนรู้จะเกิดขึ้นเมื่อเราสร้างชุดโฆษณาใหม่หรือทำการแก้ไขที่สำคัญบนโฆษณาหรือชุดโฆษณาที่มีอยู่ค่ะ

ชุดโฆษณาจะออกจากช่วงการเรียนรู้ทันทีที่ประสิทธิภาพการทำงานมีความเสถียร ซึ่งโดยปกติแล้ว ประสิทธิภาพการทำงานจะมีความเสถียรหลังจากชุดโฆษณาได้รับเหตุการณ์การปรับให้เหมาะสมประมาณ 50 เหตุการณ์ภายในระยะเวลา 7 วัน

หากชุดโฆษณาของคุณไม่ได้รับเหตุการณ์การปรับให้เหมาะสมที่เพียงพอต่อการออกจากช่วงการเรียนรู้ (หรือหากระบบการแสดงโฆษณาคาดการณ์ว่าชุดโฆษณาดังกล่าวจะได้รับเหตุการณ์การปรับให้เหมาะสมไม่เพียงพอ) คอลัมน์ “การแสดงโฆษณา” จะแสดงคำว่า “การเรียนรู้จำกัด” ให้เห็นค่ะ

จะแสดงในช่องคอมลัมน์นี้

#1 กลุ่มเป้าหมาย Audience

ต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายแบบกว้าง โดยในชุดโฆษณาเมื่อรวมกันควรมีจำนวนอย่างน้อย 2 ล้านคน จะทำให้มีประสิทธิภาพการทำงานที่ดีกว่า แต่อย่างไรก็ตาม จำนวนกลุ่มเป้าหมายก็อาจแตกต่างออกไปตามธุรกิจได้ค่ะ และต้องระวังไม่ให้กลุ่มเป้าหมายที่เรายิงโฆษณาไปทับซ้อนกัน ถึงแม้กลุ่มเป้าหมายที่ทับซ้อนกันอาจไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ก็สามารถทำให้การแสดงชุดโฆษณาต่ำกว่าปกติได้ค่ะ

เพราะว่าเมื่อชุดโฆษณาจากคนที่ลงโฆษณารายเดียวกัน ถูกจัดไว้ในการประมูลราคาเดียวกัน ซึ่งหมายความว่าชุดโฆษณาดังกล่าวมีการกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายคลึงกัน ระบบของ Meta ก็จะใส่ชุดโฆษณาที่มีประวัติประสิทธิภาพการทำงานที่ดีที่สุดลงในการประมูลราคาเพื่อป้องกันการแข่งขันกันเองค่ะ

เพื่อป้องกันไม่ให้โฆษณาแข่งขันกันเอง ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้นและนำไปสู่การใช้งบประมาณอย่างไม่มีประสิทธิภาพ โดยเราสามารถตรวจสอบว่ากลุ่มเป้าหมายสองกลุ่มที่ใช้มีการทับซ้อนกันหรือเปล่า โดยวิธีการดังนี้

1.ไปที่ “กลุ่มเป้าหมาย”

ช่วงการเรียนรู้กำจัด Facebook Ads ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในการยิงโฆษณา

2.ทำเครื่องหมายในช่องถัดจากกลุ่มเป้าหมายที่คุณต้องการเปรียบเทียบ (เลือกกลุ่มเป้าหมายได้สูงสุด 5 กลุ่ม) คลิก “การดำเนินการ” > “แสดงกลุ่มเป้าหมายที่ทับซ้อนกัน

ช่วงการเรียนรู้กำจัด Facebook Ads ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในการยิงโฆษณา

โดยกลุ่มเป้าหมายแรกที่เลือกจะอยู่อันดับแรกในรายการเป็น “กลุ่มเป้าหมายที่เลือกไว้” ส่วนกลุ่มเป้าหมายอื่นๆ ที่ถูกเลือกจะอยู่ในส่วน “กลุ่มเป้าหมายในการเปรียบเทียบ” ค่ะ

เราสามารถเปลี่ยนแปลงกลุ่มเป้าหมายที่เลือกโดยเลือกกลุ่มเป้าหมายใหม่จากดร็อปดาวน์ที่มุมขวาบนของเครื่องมือ โดยสามารถเลือกกลุ่มเป้าหมายใดก็ได้จากที่เลือกไว้ตอนแรกค่ะ

ซึ่งตรงนี้จะแสดงเฉพาะข้อมูลการทับซ้อนจากกลุ่มเป้าหมายอย่างน้อย 10,000 บัญชีเท่านั้น ดังนั้น ให้คำนึงถึงสิ่งนี้เมื่อคุณเลือกกลุ่มเป้าหมายเพื่อเปรียบเทียบด้วยค่ะ

เครื่องมือดังกล่าวจะแสดงทั้งการ “ทับซ้อน” และ “% การทับซ้อนของกลุ่มเป้าหมายที่เลือก” โดยการ”ทับซ้อน จะแสดงจำนวนของบัญชีที่ซ้อนกันที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายทั้งสองกลุ่ม และ “% การทับซ้อนของกลุ่มเป้าหมายที่เลือก” จะเปรียบเทียบจำนวนของบัญชีที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายทั้งสองกลุ่มกับจำนวนทั้งหมดของบัญชีที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายที่เลือกเพื่อแสดงเป็นเปอร์เซ็นต์การทับซ้อนค่ะ

ซึ่งตรงนี้จะแสดงให้เห็นว่าเพราะอะไรกลุ่มเป้าหมายที่เลือกจึงถูกแยกจากกลุ่มเป้าหมายสำหรับเปรียบเทียบ นี่คือตัวอย่างเพื่อช่วยอธิบายให้เข้าใจมากขึ้นค่ะ

สมมติว่าเรามีกลุ่มเป้าหมายที่เลือกซึ่งมีจำนวนบัญชี ทั้งสิ้น 1,000,000 บัญชี (เราจะเรียกบัญชีกลุ่มนี้ว่ากลุ่มเป้าหมาย A) และกลุ่มเป้าหมายเปรียบเทียบมีจำนวนบัญชี ทั้งสิ้น 100,000,000 บัญชี (เราเรียกบัญชีกลุ่มนี้ว่ากลุ่มเป้าหมาย B) และมีบัญชีซ้อนกันจำนวน 800,000 บัญชีที่อยู่ในกลุ่มเป้าหมายทั้งสองกลุ่ม ซึ่งจำนวน 800,000 บัญชีนี้เป็นจำนวนคงที่ไม่ว่ากลุ่มเป้าหมายนั้นจะเป็น “กลุ่มที่เลือก” หรือ “กลุ่มเปรียบเทียบ” ถูกต้องมั้ยคะ

แต่ตัวเปอร์เซ็นต์ของการทับซ้อนจะมีการเปลี่ยนแปลงหากคุณสลับกลุ่มเป้าหมาย “ที่เลือก” กับ “เปรียบเทียบ” เพราะหมายความว่า จำนวน 800,000 บัญชี กลุ่มเป้าหมาย B ทับซ้อนกับกลุ่มเป้าหมาย A 80% แต่ถ้าเราเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมาย A กลายมาเป็นกลุ่มเป้าหมายที่เลือกอยู่ด้านบน ตัวเลข % จะเปลี่ยนไป โดยกลุ่มเป้าหมาย A จะทับซ้อนกับกลุ่มเป้าหมาย B เพียง 8% เท่านั้นค่ะ

หมายความว่าการทับซ้อนกันระหว่างกลุ่มเป้าหมายสองกลุ่มมีแนวโน้มสูงที่จะเป็นสาเหตุของปัญหาในการแสดงโฆษณาสำหรับชุดโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมาย A มากกว่าชุดโฆษณาที่กำหนดเป้าหมายเป็นกลุ่มเป้าหมาย B ค่ะ

#2 ตำแหน่งการจัดวาง Placements

ถ้าโฆษณาขึ้นว่า ช่วงการเรียนรู้ถูกจำกัด ให้เราลองรวมชุดโฆษณาเข้าด้วยกัน หรือ แม้แต่การตั้งค่าตอนแรก แล้วเลือกใช้ตำแหน่งการจัดวาง Advantage+ เพื่อให้ Meta สามารถแสดงโฆษณาในที่ที่มีแนวโน้มจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดได้

ช่วงการเรียนรู้กำจัด Facebook Ads ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในการยิงโฆษณา

#3 เลือกเป้าหมายการปรับให้เหมาะสมเหมาะกับธุรกิจ

ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้เลือกการปรับแคมเปญให้เหมาะสมโดยใกล้เคียงกับเป้าหมายทางธุรกิจของเรามากที่สุด ตัวอย่างเช่น หากเรามีเว็บไซต์และต้องการเพิ่มยอดขาย ให้ลองเผยแพร่แคมเปญยอดขายที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับการซื้อ หรือหากเราต้องการเพิ่มจำนวนการนัดหมาย ให้ลองเผยแพร่แคมเปญจำนวนผู้เข้าชมที่ปรับให้เหมาะสมเพื่อเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์ของเรา เป็นต้นค่ะ

#4 งบประมาณ

1.ตั้งค่างบประมาณไว้ให้เพิยงพอ

หากงบประมาณน้อยเกินไป อาจได้รับผลลัพธ์ที่ไม่เพียงพอให้ระบบของ Meta เรียนรู้ว่าจะแสดงโฆษณาให้คนอื่นเห็น สำหรับวิธีจัดสรรงบประมาณ ขอแนะนำให้นำต้นทุนต่อผลลัพธ์ (CPR) ของแคมเปญก่อนหน้านี้มาคูณกับจำนวนคอนเวอร์ชั่นหรือผลลัพธ์ที่ต้องการ เช่น เราเคยยิงแล้วมีต้นทุนอยู่ที่ 200 บาท จำนวนคอนเวอร์ชั่นที่ต้องการในช่วงการเรียนรู้ คือ 50 ดังนั้นงบประมาณขั้นต่ำต้องอยู่ที่ 1,000 บาทค่ะ

2.ใช้กลยุทธ์การประมูลที่ปริมาณสูงสุด

Meta แนะนำให้ใช้การประมูลที่ปริมาณสูงสุดกับแคมเปญ เนื่องจากกลยุทธ์การประมูลที่ปริมาณสูงสุดจะช่วยให้ได้รับผลลัพธ์จากงบประมาณมากที่สุด ทั้งนี้ หากเรามีเพดานต้นทุนหรือเพดานราคาประมูล ก็อาจต้องเพิ่มเพดานเหล่านั้นเพื่อให้ได้รับผลลัพธ์มากขึ้น

นี่คือทั้งหมดเกี่ยวกับ ช่วงการเรียนรู้กำจัด นอกจากนั้นผู้เขียนยังมี Checklists จากทาง Meta มาให้ด้วยค่ะ

และอย่างที่บอกไปว่า ช่วงการเรียนรู้กำจัดจะเกิดขึ้นต่อเมื่อเราสร้าง หรือ แก้ไขแคมเปญ ดังนั้นเราอย่าพยายามแก้ไขบ่อย ซึ่งการแก้ไขที่จะถูกเรียนรู้ใหม่จะมี

แคมเปญ

– งบประมาณ (ขึ้นอยู่กับปริมาณ)
– ราคาประมูล (ขึ้นอยู่กับปริมาณ)
– กลยุทธ์การประมูล

ชุดโฆษณา

– การกำหนดเป้าหมาย
– ตำแหน่งการจัดวาง
– เหตุการณ์การปรับให้เหมาะสม
– การเพิ่มชิ้นงานโฆษณาใหม่
– กลยุทธ์การประมูล
– ราคาประมูล (ขึ้นอยู่กับปริมาณ)
– งบประมาณ (ขึ้นอยู่กับปริมาณ)
– การหยุดแสดงชุดโฆษณาเกินกว่า 7 วัน

โฆษณา

– การเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง

และนี่ก็คือ ช่วงการเรียนรู้กำจัด Facebook Ads ปัญหาที่เกิดขึ้นได้ในการยิงโฆษณา ที่ผู้เขียนนำมาเล่าให้ฟัง ถ้าชอบ หรือ สนใจอยากอ่านบทความด้านการตลาดแบบนี้อีก ผู้เขียนฝากติดตามด้วยนะคะ หรือ ถ้าใครอยากให้ผู้เขียนนำมุมมองการตลาดแบบไหนมาเล่าให้ฟัง สามารถคอมเมนต์บอกกันได้เลยนะคะ 

สำหรับนักอ่านที่ชอบ และ อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารด้านการตลาดต่าง ๆ สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนได้เลยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะヽ(•‿•)ノ

Source Source Source

อยากอ่านบทความการตลาดเพิ่มเติม ลองเลือกอ่านบทความด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ

Mywmint

มิวมิ้น เรียก มิ้น ก็ได้ค่ะ ● ⋏ ● เป็น Junior Marketing Content Creator ของการตลาดวันละตอนค่ะ รับบท Marketer ฝึกหัด ٩(◕‿◕)۶ ตั้งใจสรรสร้างทุกบทความ หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์ และ ชอบนะคะ ขอฝากเนื้อฝากตัวไว้ด้วยฮะ ʕっ•ᴥ•ʔっ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

แบรนด์บ้านในฝันของคุณคือ...

ช่วยตอบเราก่อนอ่านแปบนึงนะ ^^