เชื่อว่าทุกๆ คนคงจะเคยได้ยินประโยคที่ว่า “เป็นผู้หญิงอย่าหยุดสวย” กันใช่ไหมคะ? แต่จริงๆ แล้วเรื่องความสวยงามตอนนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะผู้หญิงอีกต่อไป เพราะไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ทุกคนต่างก็อยากดูดีในแบบของตัวเองกันทั้งนั้น ไม่แปลกเลยที่การเข้าคลินิกความงามจะกลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงสุดๆ แต่ในเมื่อคลินิกความงามมีให้เลือกเยอะจนล้นตลาด แล้วคลินิกจะทำอย่างไรให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดีที่สุด? คำตอบนั้นก็คือ การใช้ Social Listening ธุรกิจคลินิกความงาม ซึ่งกำลังกลายเป็นกุญแจสำคัญในวงการนี้ค่ะ
เพราะในตลาดที่การแข่งขันดุเดือดเช่นนี้ การจัดโปรโมชันลดราคาอาจไม่ใช่คำตอบเดียวอีกต่อไป สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือการฟังเสียงของลูกค้า นี่แหละค่ะ ที่ Social Listening จะเข้ามาช่วยสร้างความแตกต่างได้อย่างแท้จริง แล้วเครื่องมือนี้จะช่วยอย่างไรได้บ้าง? มาดูกันค่ะ
ตลาดความงาม สนามแห่งการแข่งขัน
ไม่นานมานี้ ผู้เขียนได้มีโอกาสฟังการสัมภาษณ์ของคุณหมอโอ๊ค หรือ นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล กรรมการผู้จัดการ Smith Prive’ Aesthetique Clinic ในรายการ The Secret Sauce EP.733 คุณหมอโอ๊คได้มีการพูดถึงแนวโน้มตลาดความงาม รวมถึงการใช้ Social Listening ในธุรกิจความงามด้วย มีหลายประเด็นที่น่าสนใจมาก เลยอยากจะมาแชร์ให้ทุกคนได้อ่านกันค่ะ
ประเทศไทย ณ ตอนนี้ เรียกได้ว่าธุรกิจคลินิกความงามเติบโตอย่างรวดเร็วมาก ข้อมูลจาก Grand View Research คาดว่าในปี 2027 มูลค่าตลาดจะพุ่งสูงถึง 7.51 พันล้านดอลลาร์ (หรือราว 2.48 แสนล้านบาท) และเติบโตเฉลี่ยปีละ 16.6%
แน่นอนว่าเมื่อตลาดเติบโตแบบนี้ ไม่แปลกเลยที่การแข่งขันจะยิ่งดุเดือดสุดๆ คุณหมอโอ๊คแชร์ว่า คลินิกความงามในกรุงเทพฯ ตอนนี้มีมากกว่า 3,000 แห่ง และทั่วประเทศมากกว่าหมื่นแห่ง ถ้าเทียบกับประเทศอื่นๆ ถือว่าเยอะมากๆ จัดได้ว่าเป็นตลาด Red Ocean เลยก็ได้
แล้วคลินิกต่างๆ เหล่านี้จะยืนหยัดในตลาด Red Ocean นี้ได้อย่างไร? คำตอบก็คือ การใช้ Big Data ค่ะ ซึ่งการเก็บ Big Data เพื่อติดตามและเข้าใจความต้องการของลูกค้ากลายเป็นหัวใจของการอยู่รอดของธุรกิจ และหนึ่งในวิธีที่ทรงพลังที่สุดในการเก็บข้อมูลเหล่านี้คือ Social Listening
Social Listening คืออะไร?
พูดง่ายๆ Social Listening ก็เป็นเหมือนการแอบฟังบทสนทนาบนโซเชียล เพราะยุคนี้เป็นยุคที่ทุกคนแชร์ทุกความคิดและความรู้สึกบนโลกโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น Facebook Instagram Twitter Youtube หรือ Tiktok
การทำ Social Listening ถือเป็นการใช้เครื่องมือและเทคโนโลยีเพื่อติดตามและวิเคราะห์บทสนทนาที่เกิดขึ้นบนโลกออนไลน์ เพื่อเข้าใจความรู้สึก ความคิดเห็น และความต้องการของผู้บริโภค แล้วจึงนำข้อมูลที่ได้เหล่านั้นไปปรับใช้ในการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจ
เพราะฉะนั้น Social Listening จึงไม่ใช่แค่การเช็คกระแสว่า “ใครพูดอะไรบ้าง” แต่เป็นการหาคำตอบว่า “ลูกค้าต้องการอะไร” และ “จะทำอย่างไรให้ลูกค้าพึงพอใจมากที่สุด” นี่ล่ะคือจุดสำคัญที่จะช่วยยกระดับให้ธุรกิจคลินิกความงามของเราเหนือกว่าคู่แข่งในตลาดนั่นเอง
ถ้าสนใจอยากลองใช้เครื่องมือนี้ บทความข้างล่างนี้จะสอนการใช้ Social Listening เบื้องต้นค่ะ
เคล็ด (ไม่) ลับ ในการใช้ Social Listening ยกระดับธุรกิจคลินิกความงามได้เห็นผล
เริ่มอยากรู้แล้วใช่ไหมคะว่า แล้วเราจะใช้ Social Listening อย่างไรให้สามารถยกระดับธุรกิจคลินิกของเราได้
แน่นอนว่า การใช้ Social Listening ให้มีประสิทธิภาพไม่ใช่แค่การรวบรวมข้อมูลเยอะๆ แล้วปล่อยไว้เฉยๆ นะคะ มาดูเคล็ด (ไม่) ลับที่จะช่วยให้การใช้เครื่องมือนี้กับธุรกิจคลินิกความงามของเราเห็นผลจริงกันดีกว่าค่ะ
#วิเคราะห์ให้เจอ Insight
อย่าเพิ่งตกใจถ้าเห็นข้อมูลเป็นพันๆ ข้อความ ให้ใช้ฟิลเตอร์ค้นหา คีย์เวิร์ด (Keywords) สำคัญที่เราอยากรู้ก่อนค่ะ แอบแจกทริคให้ว่า ควรเริ่มจากคีย์เวิร์ดพื้นฐานแล้วค่อยขยายคำค้นหา ทั้งคำเฉพาะทางและคำที่ลูกค้าใช้พูดคุยกันจริงๆ เช่น “ปากสายฝอ” “ตาหอยแครง” หรือ “ฉีดแฟตเหนียง”
การเก็บข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราเข้าใจความต้องการที่ยังไม่ได้รับการตอบสนอง และพัฒนาบริการที่ตรงใจลูกค้าได้แน่นอนค่ะ
#ปรับบริการให้ Personalization
ข้อมูลจาก Social Listening จะบอกได้ว่า ลูกค้าแต่ละกลุ่มต้องการอะไร เราสามารถนำข้อมูลนี้มาใช้ในการทำ Personalized Service ได้ เช่น ถ้าลูกค้ากลุ่มหนึ่งมักพูดถึงการฉีดฟิลเลอร์คางและปากควบคู่กัน เราอาจจัดโปรโมชันหรือแนะนำบริการที่ตรงใจพวกเขาได้ตรงจุดยิ่งขึ้น
#จับมือกับ Influencer ที่ใช่
ใช้ Social Listening ค้นหาได้ว่า ใคร เป็นคนที่พูดถึงบริการหรือรีวิวสินค้าคลินิกความงามบ่อยๆ หรือใคร ที่กลุ่มลูกค้าของคลินิกเราติดตามอยู่มาก แค่นี้ก็จะช่วยเลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่ใช่และช่วยขยายการรับรู้แบรนด์ได้ตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของเรามากขึ้น
AI image generated by Shu tterstock (Prompt : A popular beauty influencer visits an exclusive beauty clinic for a cinematic promotional shoot. She smiles warmly at the camera while seated in a luxurious treatment chair, surrounded by glowing lights and sleek clinic branding. Her flawless skin highlights the clinic’s expertise. –ar 16:9 –s 500)
#สร้างแบรนด์ที่แข็งแรงจากการฟังเสียงลูกค้า
ใช้ Social Listening เพื่อค้นหาว่าลูกค้าเชื่อมโยงคลินิกของเรากับคำว่าอะไร เช่น “หรูหรา” “เป็นมิตร” หรือ “แพง” แล้วปรับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ตรงใจลูกค้าได้เลย แต่ยังคงรักษาจุดยืนของแบรนด์เอาไว้นะคะ
แล้วถ้าลูกค้าใช้ คำเชิงลบ กับเรา เช่น “รอนาน” หรือ “ช้า” ก็ไม่ต้องห่วงค่ะ มองเป็นโอกาสทอง! นี่คือเวลาที่เราจะแสดงให้ลูกค้าเห็นว่าเราพัฒนาแล้ว และเรายินดีที่จะปรับตัวเพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับพวกเขา
#ปรับการสื่อสารให้ตรงจุด
วิเคราะห์ภาษาหรือคำที่ลูกค้าชอบใช้ จะช่วยให้เราปรับการสื่อสารของแบรนด์ได้ดีขึ้น เช่น ถ้าลูกค้าส่วนใหญ่ใช้คำว่า “ปากพส.จีน” มากกว่า “ปากทรงแมว” เราก็ควรใช้คำเดียวกันนี้ในโฆษณาหรือโปรโมชัน
ตัวอย่างการโปรโมตฉีดฟิลเลอร์ปากทรง Barbie Lips ของ LBC Clinic ที่มา LBC Clinic
#สร้างความผูกพันกับลูกค้า (Customer Engagement)
ใช้ข้อมูลจาก Social Listening เพื่อเชื่อมต่อกับลูกค้า ในจุดที่พวกเขาสนใจ เช่น หากมีลูกค้าพูดถึงบริการของคลินิกเราใน Twitter หรือ Facebook ก็สามารถตอบคำถามหรือให้คำแนะนำทันที ยิ่งเรามีการตอบสนองอย่างรวดเร็วและตรงจุดก็จะยิ่งช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้ามากขึ้น
#จับโอกาสในการร่วมมือกับแบรนด์อื่น
ฟังเสียงจากการพูดคุยเกี่ยวกับแบรนด์ หรือผลิตภัณฑ์ที่อาจเสริมความแข็งแกร่งให้กับคลินิกของเราได้ เช่น หากลูกค้าพูดถึงครีมบำรุงผิวของแบรนด์หนึ่งบ่อยๆ เราอาจลองพิจารณาในการจับมือกับแบรนด์นั้นเพื่อทำโปรโมชันร่วมกัน
ตัวอย่างการ Collaboration ระหว่าง Aura Bangkok Clinic × FIRE TIGER ที่มา ผู้จัดการออนไลน์
#ติดตามเทรนด์ใหม่ๆ
อย่างที่เรารู้ๆกัน ธุรกิจความงามเปลี่ยนแปลงเร็วมากค่ะ Social Listening จะช่วยให้เราตามทันเทรนด์ใหม่ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลผิว เทรนด์ความงามจากต่างประเทศ หรือความนิยมในบริการบางอย่าง การติดตามเทรนด์จะช่วยให้คุณปรับตัวและนำเสนอสิ่งที่ลูกค้ากำลังตามหาได้อย่างทันท่วงที ไม่ตกเทรนด์แน่นอน!
ตัวอย่างการใช้ Social Listening ในคลินิกความงาม
เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพชัดขึ้น มาดูตัวอย่างคลินิกที่ใช้ Social Listening แล้วได้ผลกันค่ะ
Case study จาก Smith Prive’ Aesthetique Clinic
คลินิกของคุณหมอโอ๊ค (นพ.สมิทธิ์ อารยะสกุล) ได้ใช้ Social Listening เพื่อทำความเข้าใจว่า ลูกค้ามีความรู้สึกและมองแบรนด์อย่างไร หนึ่งในปัญหาที่ลูกค้าบ่นคือ “บริการช้า” ทางคลินิกจึงแก้ไขด้วยการเพิ่มแพทย์ในช่วงที่ลูกค้าเยอะ ทำให้ flow การทำงานดีขึ้น
นอกจากนี้ยังศึกษาว่าลูกค้าของคลินิกเป็นกลุ่มไหน มีไลฟ์สไตล์อย่างไร ทำให้สามารถวางแผนเลือก Location ที่เหมาะสมให้กับคลินิกได้ เช่น ต้องมีที่จอดรถเพียงพอ และเดินไม่เกิน 15 ก้าวจากที่จอดรถถึงคลินิก เพราะงั้นคลินิกจึงไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้างสรรพสินค้า ขอแค่มีที่จอดรถและเดินไม่ไกลก็ถึงคลินิก แค่นี้ก็เพียงพอแล้วนั่นเอง
Case study จาก Gangnam Clinic
เคยเจอปัญหารู้สึกอึดอัดเวลาโดนขายคอร์สหนักๆ จากคลินิกความงามบ้างไหมคะ แต่ที่ Gangnam Clinic ไม่มีทางจากปัญหานี้แน่นอนค่ะ เพราะเขามีวิธีแก้ปัญหาแบบน่ารักสุดๆ นั่นก็คือ “คฑานางฟ้า” ให้ลูกค้าหยิบมาถือไว้ ถ้าไม่อยากให้พนักงานขายคอร์ส พนักงานก็จะไม่เข้ามาขายจนกว่าคุณจะถามเอง นี่ล่ะ เป็นวิธีที่การแก้ปัญหาที่ตรงจุดและสร้างความสบายใจให้ลูกค้าได้ดีมากๆ ทีเดียวค่ะ
สรุป
ในยุคที่คลินิกความงามมีการแข่งขันสูง การใช้ Social Listening ธุรกิจคลินิกความงาม จึงกลายเป็นกุญแจสำคัญในการเข้าใจลูกค้าและตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาอย่างตรงจุดด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเราจะสามารถค้นพบสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ และนำมาปรับกลยุทธ์หรือบริการให้ตอบสนองความต้องการได้อย่างใจ นอกจากนี้ยังช่วยให้เราสร้างแบรนด์ที่เข้าถึงใจลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น
เห็นไหมคะว่า การฟังเสียงจากลูกค้านั้นไม่ใช่แค่เรื่องเล็กน้อย แต่เป็นสิ่งที่ทำให้ธุรกิจโดดเด่นในตลาดได้อย่างชัดเจนเลยนะคะดังนั้น อย่าลืมนะคะว่า การเป็นผู้ฟัง (Social Listening) ที่ดี คือหนึ่งในวิธีที่ทำให้คลินิกความงามของคุณไม่เพียงแค่รอด แต่ยังรุ่งโรจน์ในตลาดนี้ได้อีกด้วยค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะทุกคน ชอบกันไหมเอ่ยย หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจและเห็นภาพมากขึ้นว่า Social Listening จะช่วยยกระดับธุรกิจคลินิกความงามได้อย่างไรบ้างนะคะ
ถ้าสนใจอยากลองทำดู การตลาดวันละตอนก็มีบทความและตัวอย่างให้ศึกษามากมายเลยค่ะ หรือถ้าอดใจไม่ไหว อยากลงลึกศึกษาให้ทำเป็นด้วยตนเอง ไม่ก็อยากให้ทีมเก่งเรื่องนี้ สามารถสมัครเรียนกับการตลาดวันละตอน ได้นะคะ รับรองว่าใช้งานได้จริงและสนุกแน่นอนค่ะ :0) เจอกันใหม่บทความหน้านะคะ <3
อ่านบทความเพิ่มเติมที่นี่