แฮกรหัส! สร้าง Brand Personality ให้คนจำง่าย ๆ ด้วย Brand Archetype
การสร้างภาพจำให้ผู้คนจดจำแบรนด์เราได้นั้นเป็นเรื่องที่ยาก แต่ใช่ว่าจะทำไม่ได้ค่ะ เพราะในบทความนี้เตยจะพามารู้จักกับ Brand Archetype หนึ่งในทางกลยุทธ์การตลาดทางลัดที่ช่วยให้คนจดจำอัตลักษณ์ของแบรนด์เราได้ง่าย ๆ
ใครที่อยากให้คนจำว่าแบรนด์ของเรามีตัวตนยังไง ฉลาด รอบรู้ เย้ายวน น่าค้นหา หรือบ้าระห่ำ ลองปรับใช้Brand Archetype สร้างตัวตนกันดูนะคะ
Brand Archetype คืออะไร?
Brand archetypes เป็นแนวคิดในการสร้างแบรนด์และการตลาดที่ถูกพัฒนาขึ้นโดย Carl Gustav Jung นักจิตบำบัดและจิตแพทย์ชาวสวิตเซอร์แลนด์
โดยแนวคิดนี้ได้ถูกนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างแบรนด์ให้มีความโดดเด่นและเสถียรภาพ เรียกง่าย ๆ ว่าเป็น
ต้นแบบของแบรนด์ที่สะท้อนให้เห็นบุคลิกภาพของแบรนด์ (Brand Personality) นั่นเองค่ะ เสมือนแบรนด์ DNA หรือตัวตนและอัตลักษณ์ลึก ๆ ภายในที่ช่วยให้แบรนด์โดดเด่นออกมาท่ามกลางคู่แข่ง
Brand archetypes มีทั้งหมด 12 ประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะที่ช่วยให้ผู้สร้างแบรนด์สามารถเลือกสร้างความเชื่อมั่นและความหมายให้กับแบรนด์ของพวกเขาได้ โดยไม่ว่าจะเป็นแบรนด์สินค้า บริการ หรือองค์กร
ประเภทของ Brand archetypes มีดังนี้:
#1 The Innocent (ความบริสุทธิ์)
บุคลิกภาพที่เน้นการมองเห็นคุณค่าและความดีในสิ่งต่าง ๆ รวมถึงมีความอ่อนโยน มองโลกในแง่ดี สดใส ไม่มีพิษมีภัยและบริสุทธ์ ทำให้แบรนด์ที่ต้องการสร้าง Brand Personality จากบุคลิกนี้ มักจะสร้างภาพจำที่เน้นนำเสนอส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่บริสุทธิ์ ผ่านอารมณ์ที่สงบ ผ่อนคลายและเบาสบาย
▶ เช่น แบรนด์ Dove, Aveeno, Mamypoko
#2 The Explorer (นักสำรวจ)
บุคลิกภาพที่สนใจการเดินทางเพื่อค้นพบประสบการณ์ใหม่ ๆ พวกเขาจึงสะท้อนภาพของความตื่นเต้นในการได้เห็นหรือสัมผัสสิ่งใหม่ ๆ อยู่เสมอ ชอบความท้าทาย ออกไปเผชิญโลกกว้าง ไม่หยุดนิ่ง
▶ เช่น แบรนด์ The North Face, GoPro, Jeep, Redbull
#3 The Sage (นักปรึกษา)
บุคลิกภาพที่เน้นการเป็นผู้รู้ ผู้มอบข่าวสาร หรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์และพร้อมให้คำแนะนำกับลูกค้าที่เข้ามาหา การวางบุคลิกแบรนด์เช่นนี้ จะต้องพยายามบาลานซ์ให้ดี เพื่อไม่ให้ลูกค้ารู้สึกว่าแบรนด์รู้มากเกินไปหรืออวดรู้เกินไป
▶ เช่น แบรนด์ TED, Google
#4 The Hero (วีรบุรุษ)
มักเป็นลักษณะของแบรนด์ที่สามารถเอาชนะตัวร้าย (ซึ่งอาจเป็นนามธรรมของสิ่งต่าง ๆ เช่น ปัญหาสุขภาพ ฝุ่นควัน มลพิษ ฯลฯ) สามารถเอาชนะอุปสรรค ฝ่าฟันไปถึงจุดหมายที่ต้องการ เรียกง่าย ๆ ว่าเป็นบุคลิกที่มีความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยว ชอบการแข่งขัน
เช่น แบรนด์ Nike, Adidas
#5 The Outlaw (นอกเหนือกฎ )
บุคลิกที่ชอบคิดต่าง มีความท้าทาย ไม่ตามใคร แบรนด์ที่ใช้บุคลิกนี้จะเน้นการแสดงภาพของการฉีกกรอบและการออกจากกฎเกณฑ์เดิม ๆ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่วางไว้มากกว่า ดังนั้น แบรนด์ที่ใช้บุคลิกนี้อาจมีความเป็นตัวของตัวเอง สร้างสรรค์ แตกต่าง และอิสระ รวมถึงชอบการเปลี่ยนแปลงอีกด้วย
▶ เช่น Harley-Davidson, Virgin, Diesel
#6 The Magician (ผู้วิเศษ )
บุคลิกที่สร้างสรรค์สิ่งที่น่าเหลือเชื่อ มหัศจรรย์ เน้นการใช้ความเชื่อและจินตนาการสร้างสรรค์สิ่งที่ไม่มีจริงและมักใช้ความฝันหรือจินตนาการทำให้ผู้บริโภคจดจำได้ดีขึ้น
▶ เช่น แบรนด์ Disney, Apple
#7 The Lover (คนรัก)
บุคลิกภาพของการสร้างความรักและสร้างอารมณ์เสน่หา โดยแบรนด์ที่เลือกนำเสนอภาพจำนี้ มักจะนำเสนอความรู้สึกต่าง ๆ ที่น่าหลงไหล เป็นบุคลิกที่มีความดึงดูด มีเสน่ห์ น่าค้นหานั่นเองค่ะ
▶ เช่น แบรนด์ Chanel, Victoria’s Secret
#8 The Jester (ตัวตลก สนุกสนาน )
ตัวตนของความสนุกสนาน เฮฮา นับเป็นบุคลิกหนึ่งที่สร้างภาพจำได้ดีเช่นกัน นอกจากนี้ Jester ยังเป็นบุคลิกที่สะท้อนสีสัน ความมีพลังงานบวก ทำให้ลูกค้ารู้สึกยิ้มแย้มและเข้าถึงอารมณ์แห่งความสุขได้ง่าย
▶ เช่น M&M, Old spice, Netflix
#9 The Everyman (คนธรรมดา)
บุคลิกทั่วไปที่ผู้คนเข้าถึงได้ โดยตัวตนของแบรนด์นี้จะเห็นได้ชัดว่าเรียบง่ายและอยู่กับความเป็นจริง เป็นตัวแทนตัวตนของผู้คนทุกรูปแบบ ส่วนใหญ่จะเป็นแบรนด์ที่ค่อนข้างเป็นผู้ใหญ่และขายสินค้าที่จำเป็นในการใช้ชีวิต
▶ เช่น แบรนด์ขายเฟอร์นิเจอร์และของแต่งบ้าน IKEA, Home Pro
#10 The Caregiver (ผู้ดูแล)
บุคลิกที่ชอบดูแล ชอบห่วงใย รักคนอื่นๆ แบรนด์ที่นำบุคลิกภาพนี้ไปใช้ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบรนด์ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือผู้อื่น
▶ เช่น UNICEF
#11 The Ruler (ผู้ปกครอง ผู้นำ)
บุคลิกที่ชอบควบคุม ชอบจัดการ มีความทีเด็ด ชอบอำนาจ เพื่อให้ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าที่มีบุคลิกภาพแบบเดียวกัน
▶ เช่น แบรนด์ Rolex, Mercedes-Benz
#12 The Creator (นักสร้างสรรค์ )
บุคลิกที่ต้องการสร้างอะไรที่ดีกว่าเดิมให้โลกด้วยความสามารถของพวกเขา แบรนด์ที่ใช้บุคลิกภาพนี้บ่งบอกตัวตนจะเป็นลักษณะภาพจำของนักคิด อาจมีส่วนผสมของความนอกกรอบและไม่ซ้ำเดิมปะปนอยู่ด้วย
▶ เช่น แบรนด์ Lego, Adobe
ตัวอย่างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในการสร้างตัวตน
Redbull
Redbull เป็นแบรนด์หนึ่งที่หากเราพูดชื่อขึ้นมาปุ๊บ เราจะนึกถึงความบ้าระห่ำ ความท้าทายที่เหนือมนุษย์ขึ้นทันที เพราะคงมีไม่กี่แบรนด์บนโลกนี้หรอกค่ะ ที่สนับสนุนให้คนก้าวข้ามขีดจำกัดแบบสุดกู่ขนาดนี้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ที่แบรนด์พยายามทำอยู่ เราจะเห็นได้เลยว่า Brand Personality สอดคล้องกับ The Explorer (นักสำรวจ)
อย่างคลิปวิดิโอที่แปะเป็นตัวอย่าง อันนี้จะเป็นการโดดจากที่สูง แต่อันนี้สู๊งสูง โดดมาจากอวกาศกันเลยทีเดียว
VIDEO
Lego
Lego เป็นตัวอย่างแบรนด์ที่เห็นภาพได้ชัดที่สุดในการสร้างภาพจำ สร้าง Brand Personality ในใจของผู้คนว่าแบรนด์นี้เป็น The Creator (นักสร้างสรรค์) เพราะเมื่อเราสังเกตรูปแบบคอนเทนต์ สื่อโฆษณา ข้อความที่แบรนด์พยายามสื่อถึงเรา หรือแม้กระทั่งกับตัวสินค้าของแบรนด์เองที่ตอกย้ำกับเราเสมอว่า สร้างมันขึ้นมาด้วยจินตนาการและสองมือ
เพราะเราต้องมานั่งต่อตัวเลโก้เอง อยากให้เป็นอะไร สร้างสรรค์อะไรออกมาเราสามารถทำได้หมดนั่นเองค่ะ
VIDEO
วิธีการปรับใช้ Brand Archetype
เพื่อให้เกิดประโยชน์และสร้าง Brand Personality ได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด สามารถทำตามขั้นตอนดังนี้ค่ะ
ศึกษาและเข้าใจBrand archetype s: เริ่มต้นด้วยการศึกษาและเข้าใจเกี่ยวกับBrand archetypes ที่มีอยู่และความหมายของแต่ละ Archetype นี้ ตรวจสอบคุณสมบัติและคุณค่าที่แต่ละ Archetype ตั้งใจจะส่งผ่านให้กับผู้บริโภค
วิเคราะห์และเลือก Archetype : วิเคราะห์และจับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อเลือก Archetype ที่ตรงกับประสิทธิภาพ โดยที่ควรพิจารณาถึงคุณสมบัติของสินค้าหรือบริการของคุณและคุณค่าของกลุ่มเป้าหมาย
สร้างความสอดคล้องในแบรนด์ : เน้นให้แบรนด์ของคุณมีความสอดคล้องกับBrand archetype ที่คุณเลือก ทั้งในเรื่องของตัวตนและข้อความการตลาด เช่น สร้างโลโก้ที่สอดคล้องกับคุณสมบัติของ Archetype ที่คุณเลือก ใช้สีและฟอนต์ที่ตรงกับบุคลิกของ Archetype นั้น ๆ
พัฒนาเรื่องราวแบรนด์ : สร้างเรื่องราวของแบรนด์ที่สอดคล้องกับBrand archetype ที่คุณเลือก ให้เน้นสิ่งที่แตกต่างของแบรนด์และคุณค่าที่กลุ่มเป้าหมายคาดหวังจากสินค้าหรือบริการของคุณ
วิเคราะห์ตลาดและกลุ่มเป้าหมาย: ทำการวิเคราะห์ตลาดและกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เห็นภาพรวมของการตลาดและทำการปรับแผนตลาดตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและ Archetype ที่คุณเลือก
การสื่อสารและการตลาด : นำ Archetype ที่คุณเลือกมาใช้ในการสื่อสารและการตลาด ทั้งในเรื่องของข้อความ รูปภาพ และสื่อต่าง ๆ เพื่อสร้างความจดจำและความเชื่อมโยงให้กับกลุ่มเป้าหมาย
ติดตามและปรับปรุง : ติดตามผลและปรับปรุงแผนตลาดอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้แน่ใจว่าแบรนด์ของคุณยังคงมีความสอดคล้องและส่งความความหมายให้กับกลุ่มเป้าหมายอย่างที่คาดหวัง
มีความยืดหยุ่นและความแตกต่าง : ทำให้แน่ใจว่าคุณปรับใช้Brand archetype ให้เหมาะสมกับบริบทและสภาพแวดล้อมที่คุณต้องการทำการตลาด ให้เกิดความแตกต่างในการให้บริการหรือผลิตสินค้าเมื่อเปรียบเทียบกับคู่แข่งของคุณ
ข้อควรระวังการใช้ Brand Archetype
ถึงแม้ว่าBrand Archetypes เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการกำหนดและสร้างแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนและเป็นอย่างเหมาะสมสำหรับตลาดและกลุ่มเป้าหมายของคุณ แต่ยังมีข้อควรระวังในการใช้เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ดังนี้
การคัดลอกคู่แข่ง : การใช้ Archetypes อาจทำให้แบรนด์ของคุณมีลักษณะที่คล้ายคลึงกับแบรนด์คู่แข่ง ซึ่งอาจทำให้ลูกค้าสับสนในการแยกแยะและเลือกซื้อสินค้าหรือบริการ ทำทั้งที่ต้องโดดเด่นให้ครบวงจรค่ะ
ความเกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย: ควรตระหนักถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณว่า Archetype ที่คุณเลือกสอดคล้องกับค่าและต้องการของลูกค้าหรือไม่ หากไม่สอดคล้อง อาจทำให้ความสัมพันธ์กับลูกค้าไม่เสถียรและสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้กับแบรนด์ของคุณได้
การตัดสินใจที่ไม่มีพื้นฐาน : การเลือก Archetypes ควรมีพื้นฐานและหลักการที่ชัดเจนเพื่อไม่ให้ตัดสินใจในการกำหนดลักษณะของแบรนด์ที่ไม่เหมาะสม ควรศึกษาและวิเคราะห์รายละเอียดในการใช้ เพื่อให้มั่นใจว่าสอดคล้องกับความต้องการและความพร้อมของแบรนด์ของคุณ
การสร้างภาพลักษณ์ที่เทียบเท่าไม่ได้ : บางครั้งการใช้Brand Archetypes อาจทำให้เกิดภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงหรือสร้างความหวังในลูกค้าที่ไม่สามารถส่งมอบได้
ความซับซ้อนที่ไม่เหมาะสม : บางครั้งการใช้Brand Archetypes อาจทำให้ความซับซ้อนของแบรนด์เกิดขึ้นทำให้ลูกค้าสับสนและไม่เข้าใจความหมายหรือคุณค่าที่แบรนด์ต้องการสื่อสาร
การเจริญเติบโตและการเปลี่ยนแปลง : แบรนด์อาจต้องเจริญเติบโตและเปลี่ยนแปลงในอนาคต การกำหนด Archetypes ที่มีความเข้ากันไม่ดีกับการเปลี่ยนแปลงอาจทำให้ลูกค้าไม่เชื่อมั่นในความเสถียรของแบรนด์
สรุป แฮกรหัส! สร้าง Brand Personality ให้คนจำง่าย ๆ ด้วย Brand Archetype
เราจะเห็นได้เลยว่าBrand Archetype แต่ละประเภทจะมีลักษณะเฉพาะที่ทำให้สร้างความรู้สึกและความเชื่อมั่นให้กับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน การเลือกตัวตนให้เหมาะสมสามารถช่วยให้แบรนด์มีความโดดเด่นและเป็นที่จดจำในใจของผู้บริโภคมากขึ้น
นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์และความเชื่อมั่นของลูกค้าต่อแบรนด์ในระยะยาวด้วย การใช้Brand archetypes ในการ Branding เป็นเครื่องมือที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพในการก่อให้เกิดความสำเร็จในกลยุทธ์การตลาดและการสร้างค่าให้กับแบรนด์อย่างยั่งยืนนั่นเองค่ะ
หวังว่าตัวอย่างเหล่านี้จะเป็นประโยชน์และสร้างไอเดียใหม่ ๆ ต่อผู้อ่านทุกคนนะคะ แล้วพบกันใหม่บทความหน้าค่ะ
สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม หรือข่าวสารการตลาด สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ
Source