4 ฟีเจอร์ใหม่ ZWIZ.AI ที่ทำให้ระบบจัดการร้านค้าเป็น Automation มากขึ้น

ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจออนไลน์ทวีความเข้มข้นขึ้นทุกวัน การปรับปรุงกระบวนการขายและการตลาดให้มีประสิทธิภาพและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ครับ บทความนี้พามาดู 4 ฟีเจอร์ใหม่ ของ ZWIZ.AI ร่วมกับ Meta ที่อัปเกรดขีดความสามารถ ระบบจัดการร้านค้า ให้เป็น Automation มากยิ่งขึ้น ลดการทำงานของพนักงานลง ไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอข้อมูลลูกค้า และการทำโฆษณาให้แม่นยำขึ้น โดยทั้งหมดนี้ช่วยให้ธุรกิจเตรียมพร้อมก้าวสู่ปี 2025 ด้วยความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์และการเติบโตอย่างยั่งยืนครับ 4 ฟีเจอร์ใหม่ของ ZWIZ.AI จะมีอะไรบ้างติดตามได้ในบทความเลยครับ หากใครสนใจฟีเจอร์ใหม่ของทาง Meta สามารถติดต่อ ZWIZ.AI ปรึกษาฟรีได้ที่ https://m.me/361231620965547?ref=EverydayMKT เลยครับ

จากกงาน Boost sales in 2025 with Facebook’s new feature by ZWIZ.AI Session 1: มัดรวมฟีเจอร์เด็ด เพิ่มยอดขาย ปี 2025 โดยคุณชนกานต์ ชินชัชวาล CEO & CO-Founder, ZWIZ.AI เผยว่าได้มีการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ ตลอดช่วง 11 เดือนที่ผ่านมา

แต่ในบทความนี้จะเน้น 4 ฟีเจอร์เด็ดที่น่าจับตามองครับ เพราะถือเป็นการอัปเกรดความสามารถของแพลตฟอร์มให้ก้าวขึ้นไปอีกขั้น เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รักษาฐานลูกค้า และจัดการข้อมูลเชิงลึกได้อย่างมีประสิทธิผลมากขึ้นครับ มาดูกันว่าแต่ละฟีเจอร์ทำงานอย่างไรและมีประโยชน์ต่อธุรกิจในมุมไหนบ้าง

ฟีเจอร์นี้ช่วยให้การ Tracking หรือการติดตามผลลัพธ์หลังการขายทำได้ง่าย และช่วยให้ retarget หรือหาลูกค้าที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าได้แม่นยำมากขึ้นครับ โดยทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรมเสร็จสิ้น เช่น การส่งสลิป หรือการปิดการขาย ระบบ ZWIZ.AI จะส่งข้อมูล Conversion เหล่านี้ไปยัง Meta โดยอัตโนมัติ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการวัดผลโฆษณา การดูว่าเม็ดเงินที่ลงทุนไปสร้างยอดขายกลับมามากน้อยแค่ไหน รวมถึงสามารถนำข้อมูล Conversion นี้ไปสร้าง Custom Audience ได้อย่างตรงจุดมากขึ้น

เมื่อเกิดการซื้อขาย เช่น ลูกค้าส่งสลิปยืนยันการชำระเงิน การ Drop Lead หรือเลือกสินค้าผ่านแชทเสร็จสิ้น ระบบ ZWIZ.AI จะเก็บข้อมูลนี้และแปลงเป็น Conversion Event ส่งไปยัง Meta โดยอัตโนมัติครับ ข้อมูลการซื้อจะไปปรากฏบน Meta ทำให้แบรนด์สามารถตรวจสอบได้ว่าการปิดการขายมาจากแคมเปญโฆษณาใดและปรับแผนให้เหมาะสมครับ

ที่ Ads Manager เราจะสามารถดูผลลัพธ์โฆษณา เช่น ยอดขาย, จำนวนลีด, ROAS ได้อย่างชัดเจน โดยข้อมูลดังกล่าวอัปเดตตาม Conversion Event ที่ส่งมาจาก ZWIZ.AI ทำให้เห็นผลตอบแทนจากการลงทุนในโฆษณา และนำไปปรับใช้เพื่อพัฒนาแผนการตลาด

  1. ส่ง Conversion และ Lead Signal อัตโนมัติ: เมื่อมีการปิดการขายหรือการยืนยันการชำระเงินด้วยการส่งสลิป ระบบของ ZWIZ.AI จะดึงข้อมูลดังกล่าวไปแสดงใน Meta’s Event Manager และ Ads Manager ทำให้เราสามารถเห็นยอดขายที่เกิดขึ้นจริงจากแคมเปญโฆษณาได้แบบแม่นยำมากยิ่งขึ้น
  2. วัดประสิทธิภาพโฆษณาได้ชัดเจนขึ้น: ด้วยการส่ง Conversion ไปยัง Meta เราจะสามารถเห็นได้ว่าโฆษณาใดหรือแคมเปญใดนำไปสู่ยอดขายเท่าใด ROAS เป็นเท่าไหร่ ช่วยในการวางแผนกลยุทธ์การยิง Ads ในอนาคตได้แม่นยำขึ้น
  3. รองรับข้อมูลการขายจากแชท: หากลูกค้าสนทนาผ่าน Messenger และมีการซื้อสินค้าสำเร็จ เช่น การส่งสลิปค่าสินค้า ระบบจะดึงข้อมูลเหล่านี้ไปสร้าง Event Conversion ช่วยให้ Meta รู้ว่าลูกค้าคนไหนเคยซื้อสินค้า และใช้ข้อมูลนี้สำหรับการทำ Retargeting หรือการสร้าง Custom Audience ที่ตรงกลุ่มและมีคุณภาพสูงขึ้น

จากเดิมการสร้าง Custom Audience บน Facebook อาจต้องทำแบบ Manual เช่น อัปโหลดไฟล์ข้อมูลลูกค้า หรือใช้เงื่อนไขคงที่ แต่ฟีเจอร์ Dynamic Custom Audience ของ ZWIZ.AI ช่วยให้การสร้างกลุ่มเป้าหมายเป็นไปอย่างอัตโนมัติตามเงื่อนไขที่ตั้งค่าไว้ล่วงหน้าครับ เช่น สร้างกลุ่มเป้าหมายเป็น “ลูกค้าที่เคยส่งสลิป 1 ครั้งขึ้นไป” หรือ “ลูกค้าที่ถูกแท็กว่าสนใจสินค้าบางประเภท” ระบบจะอัปเดตข้อมูลกลุ่มเป้าหมายนี้ทุกวันโดยอัตโนมัติ แบบไม่ต้องมานั่งอัปโหลดข้อมูลใหม่ครับ บอกได้เลยว่าประหยัดเวลาไปมากโข

ฟีเจอร์ใหม่ ZWIZ.AI Automation

โดยระบบจะอัปเดตข้อมูลให้ใหม่ทุกวันตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ ถังเก็บ Audience ระบบจะทำการดึงลูกค้าที่ตรงกับเงื่อนไขเข้าไปในถังนี้อัตโนมัติ เช่น แท็ก “ตรวจสลิป 1 ครั้ง” อาจสื่อถึงลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าครั้งแรก เมื่อลูกค้าคนใหม่ซื้อครั้งแรก ระบบจะนำข้อมูลเขาเข้าไปในถัง Audience สำหรับคนที่ซื้อครั้งแรกโดยอัตโนมัติในช่วงเที่ยงวันถัดมาครับ

ในทางกลับกัน ถ้าลูกค้ารายใดเปลี่ยนสถานะ เช่น ซื้อซ้ำมากกว่า 1 ครั้งแล้ว ระบบก็จะนำเขาออกจากกลุ่มที่ไม่ตรงเงื่อนไขทันทีในวันถัดไปเช่นกัน เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายที่เราใช้ในการยิงโฆษณาสดใหม่และแม่นยำตลอดเวลาครับ

และที่สำคัญเราสามารถนำกลุ่ม Audience ที่สร้างโดย  Dynamic Custom Audience ไปทำการตลาดต่อได้แบบสบาย ๆ เลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการกระตุ้นให้ลูกค้าที่กำลังจะซื้อ ทำการซื้อ หรือคนที่ซื้อไปแล้ว ให้เกิดการซื้อซ้ำ เป็นต้น

  1. อัปเดตกลุ่มเป้าหมายอัตโนมัติทุกวัน: ระบบจะอัปเดต Audience ตามเงื่อนไขที่ตั้งไว้ในเวลา 12.00  ทุกวันครับ เช่น หากเราตั้งเงื่อนไขให้กลุ่มนี้ประกอบด้วย “ลูกค้าที่เคยซื้อครั้งแรก” เมื่อมีลูกค้ารายใหม่ซื้อครั้งแรกในวันนี้ พรุ่งนี้เวลาเที่ยงวันรายชื่อนั้นจะถูกนำเข้าไปในกลุ่มเป้าหมายนี้ให้อัตโนมัติครับ
  2. สร้าง-ปรับกลุ่มเป้าหมายได้ตาม Tag: เราสามารถใช้ Tag ที่เคยติดไว้ให้ลูกค้าในแชท (เช่น แท็ก “ตรวจสลิปครั้งแรก” หรือ “สนใจสินค้าแต่ยังไม่ซื้อ”) เพื่อกำหนดเงื่อนไขในการสร้างกลุ่มเป้าหมาย เมื่อลูกค้าถูกแท็กหรือมีการเปลี่ยน Tag ระบบก็จะอัปเดตกลุ่มเป้าหมายบน Meta Ads Manager ให้ตรงตามสถานะจริงของลูกค้าเลยครับ
  3. ลดงานแมนนวลในการอัปโหลดไฟล์: อันนี้ผมมองว่าสำคัญสุด ๆ จากเดิมอาจต้องอัปโหลดไฟล์ Excel หรือข้อมูลลูกค้าเข้า Meta Ads Manager แบบ Manual ซ้ำ ๆ ฟีเจอร์นี้ช่วยลดขั้นตอนดังกล่าว ทำให้การยิงโฆษณาเฉพาะกลุ่ม Custom Audience ทำได้รวดเร็วและข้อมูลเป็นปัจจุบันเสมอครับ

ฟีเจอร์นี้เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีการจองคิวครับ เช่น โรงแรม ร้านอาหาร คลินิกเสริมความงาม หรือธุรกิจบริการต่าง ๆ โดย Zerva Booking System จะเข้ามาช่วยจัดการกระบวนการจองอย่างมีประสิทธิภาพ ลูกค้าสามารถกดจองผ่านแชท หรือเว็บไซต์ที่เชื่อมต่อกับ ZWIZ.AI ได้ทันที ระบบเองก็จะเก็บข้อมูลการจอง ตรวจสอบความพร้อม และแจ้งเตือนผู้ประกอบการและลูกค้าโดยอัตโนมัติเลยล่ะครับ

ลูกค้าสามารถเลือกจำนวนโต๊ะที่นั่ง วัน เวลาได้เองเลย

ฟีเจอร์ใหม่ ZWIZ.AI Automation

หลังจากนั้นก็สามารถกรอกข้อมูลผู้จอง พร้อมกับทำการโอนเงินเพื่อจองได้ด้วยตัวเอง

ฟีเจอร์ใหม่ ZWIZ.AI Automation

เสร็จแล้วก็รับตั๋วออนไลน์ที่ทำการจองแล้วครับ ซึ่งทั้งหมดนี้ลูกค้าทำเองแทบจะ 100% 

ซึ่งฝั่งแอดมินหรือผู้ประกอบการจะเห็นรายการจองบนหน้าจอ Dashboard ของ ZWIZ.AI พร้อมสถานะการจองทั้งหมด ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนหรือยืนยันการจองได้ทันที หากต้องการติดต่อกลับลูกค้าก็สามารถทำได้ผ่านแชทบอทโดยตรงเช่นกันครับ

ฟีเจอร์ใหม่ ZWIZ.AI Automation

โดยรวมแล้ว Zerva Booking System ช่วยให้กระบวนการจองนัดหมายเป็นเรื่องง่ายสำหรับทั้งลูกค้าและผู้ประกอบการครับ ลูกค้าได้รับประสบการณ์การใช้งานที่สะดวกสบาย ขณะที่ธุรกิจสามารถจัดการการจองอย่างมีระบบ และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ผ่านการเชื่อมต่อกับ ZWIZ.AI ที่คอยช่วยซัพพอร์ตการโต้ตอบและการบริหารจัดการข้อมูลอย่างครบครัน

  1. ประสบการณ์การจองที่ง่ายและสะดวกสำหรับลูกค้า: ลูกค้าสามารถจองผ่านหน้าจอมือถือได้ในไม่กี่ขั้นตอน เลือกบริการ วันที่ และเวลาได้อย่างเป็นระเบียบ พร้อมระบุรายละเอียดส่วนตัว เช่น ชื่อ เบอร์โทร และข้อกำหนดพิเศษต่าง ๆ
  2. รองรับการชำระเงินและแนบหลักฐานการจอง: ลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านระบบได้ทันที และอัปโหลดสลิปการโอนเงินเพื่อยืนยันการจอง ทำให้ขั้นตอนการชำระเงินโปร่งใสและตรวจสอบได้ง่ายขึ้นครับ
  3. การจัดการภายในที่สะดวกสำหรับธุรกิจ: ฝั่งผู้ให้บริการสามารถดูสถานะการจองทั้งหมดจาก ZWIZ.AI Dashboard ทั้งการรอรับบริการ, การจองที่ผ่านการอนุมัติ, การยกเลิก หรือการติดต่อกลับลูกค้า แอดมินสามารถอัปเดตสถานะการจองและแจ้งลูกค้าได้โดยตรงในแชทได้เลย
  4. เชื่อมต่อกับระบบแชทบอท ZWIZ.AI อย่างไร้รอยต่อ: หากลูกค้าทักมาจองผ่านแชทบอท ลูกค้าจะได้รับลิงก์หรือปุ่มนำไปหน้าจองโดยตรง ลดขั้นตอนยุ่งยาก ลูกค้าทุกการเคลื่อนไหวจะถูกบันทึกในระบบ ทำให้แอดมินติดตามการจองและติดต่อกลับได้ง่ายครับ

สำหรับแบรนด์ที่มีทีมงานขนาดใหญ่ การกำหนด Role และ Permission เป็นเรื่องสำคัญครับ ฟีเจอร์ Roles & Permission ของ ZWIZ.AI ช่วยให้ธุรกิจสามารถควบคุมการเข้าถึงข้อมูลในระบบได้ เช่น ให้สิทธิ์แอดมินบางคนดูเฉพาะรายงานยอดขาย แต่ไม่สามารถแก้ไขข้อมูลลูกค้า หรือให้ทีมงานบางส่วนเข้าถึงข้อมูลแคมเปญโฆษณาได้แต่ไม่สามารถปรับแก้ระบบแชทบอทได้ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงในการแก้ไขข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต และเสริมความปลอดภัยของข้อมูลลูกค้าอีกด้วยครับ

จะเห็นรายการสมาชิกในทีม เราสามารถเลือก Role ให้เหมาะสมกับแอดมินแต่ละคนได้ เช่น Superadmin มีสิทธิ์สูงสุดในการเข้าถึงและแก้ไขข้อมูล ขณะที่ Agent (Sale) อาจเข้าถึงได้เฉพาะข้อมูลลูกค้าเพื่อการปิดการขาย โดยไม่สามารถแก้ไขการตั้งค่าของระบบหรือดูข้อมูลเชิงลึกที่อ่อนไหว แต่อย่างไรก็ตามผู้ใช้สามารถ Customize Permission เองได้ครับ ไม่จำเป็นต้องยึดแค่ Customize ของใน ZWIZ.AI เพียงอย่างเดียว

ฟีเจอร์ใหม่ ZWIZ.AI Automation

นอกจากนี้ยังสามารถระบุชื่อแอดมินที่ตอบลูกค้าได้ด้วยแบบ Auto ทำให้ลูกค้ารู้ว่ากำลังคุยกับแอดมินคนไหนครับ

  1. กำหนดบทบาทได้หลากหลาย: สามารถตั้งบทบาท เช่น Owner, Superadmin, Admin, Agent (Sale), Agent (Chat), หรือแม้กระทั่ง “No Permission” ตามความเหมาะสมของหน้าที่ในทีม แต่ละบทบาทจะมีขอบเขตการเข้าถึงข้อมูลและการใช้งานฟังก์ชันบนแพลตฟอร์มที่แตกต่างกัน มากไปกว่านั้นยังสามารถ Customize Permission เองได้
  2. ควบคุมการเข้าถึงข้อมูลอย่างเป็นระบบ: ผู้มีสิทธิ์ในระดับสูง เช่น Owner หรือ Superadmin สามารถจัดการสิทธิ์การเข้าถึงของทีมงานคนอื่น ๆ ได้ ทำให้ข้อมูลธุรกิจ เช่น ข้อมูลลูกค้า, รายงานยอดขาย หรือการตั้งค่าบอท อยู่ภายใต้การควบคุมที่เข้มงวด ลดความเสี่ยงการรั่วไหลของข้อมูลครับ
  3. ปรับแต่งชื่อที่แสดงให้ลูกค้าเห็น: นอกจากการกำหนดสิทธิ์การเข้าถึงข้อมูลภายในองค์กรแล้ว ยังสามารถตั้งชื่อแสดงบนแชทให้ลูกค้าเห็นได้ตามต้องการ (เช่น การเปลี่ยนชื่อให้เป็น “เจ้าหน้าที่ A” หรือ “แอดมิน”) ทำให้ลูกค้ารู้ว่ากำลังคุยกับแอดมินคนไหนครับ สร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนและเป็นมืออาชีพต่อหน้าลูกค้า

4 ฟีเจอร์ใหม่ของ ZWIZ.AI ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กับทั้งโครงสร้างระบบบริหารจัดการการขาย, ข้อมูลลูกค้า, การยิงโฆษณา, และการบริหารทีมงานให้ทุกอย่างเป็น Automation มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่ข้อมูลมีความสำคัญยิ่ง และธุรกิจต้องการความคล่องตัวในการปรับกลยุทธ์การตลาด การขาย และการให้บริการลูกค้าได้ทันท่วงที ฟีเจอร์เหล่านี้จึงเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้นในปี 2025 และต่อ ๆ ไปครับหากใครสนใจฟีเจอร์ใหม่ของทาง Meta สามารถติดต่อ ZWIZ.AI ปรึกษาฟรีได้ที่ https://m.me/361231620965547?ref=EverydayMKT เลยครับ

ชื่อเติ้ลครับ ทำงานเป็น Data Research Insight & Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอนครับ ^^

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *