สงครามการตลาด Pizza Company vs Pizza Hut เกทับกันดุเดือด

สงครามการตลาด Pizza Company vs Pizza Hut เกทับกันดุเดือด

วันนี้เราจะพาไปดูการทำ สงครามการตลาด Pizza กับโปรโมชั่นที่เกทับกันระหว่าง 2 แบรนด์ Pizza ที่ขิงกันแบบ Creative สุด ๆ เป็นการโฆษณา ที่เกทับหรือเรียกได้ว่าไม่ยอมแพ้คู่แข่งทางการค้า อย่างตลกและเจ็บแสบ ซึ่งการทำแบบนี้เป็นเรื่องปกติในต่างประเทศที่จะสร้างสรรค์โฆษณาออกมาเพื่อบัฟคู่แข่ง ซึ่งในประเทศไทยไม่ค่อยจะมีให้เห็นบ่อยนักนะคะ

การตลาด Pizza

99 vs 98 !!

เมื่อพิซซ่าเจ้าดังอย่าง The Pizza Company เขย่าวงการด้วย Campaign สุดไวรัล เพราะแบรนด์พิซซ่าชื่อดังของไทยสร้างปรากฏการณ์อีกครั้งด้วย Campaign “วันเดย์ วันดีล”ที่ลดราคาพิซซ่าถาดกลางเหลือเพียง 99 บาท เท่านั้น!

Campaign นี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2567 เป็นการลดราคาพิซซ่าถาดกลางจากราคาปกติ 299 บาท เหลือเพียง 99 บาท เพียงวันเดียวเท่านั้น โปรโมชันสุดคุ้มนี้กระตุ้นให้คนแห่ซื้อพิซซ่ากันอย่างล้นหลาม จนกลายเป็น “Talk of the Town” บนโลกโซเชียลมีเดียไปในทันที ทำให้ลูกค้าแห่ซื้อพิซซ่าถาดกลางจนของขาด แฮชแท็ก #ThePizzaCompanyวันเดย์วันดีล ติดอันดับเทรนด์บน Twitter ยอดขายในวันนั้นพุ่งสูงขึ้น

ความสำเร็จของ การตลาด Pizza Company กระตุ้นให้คู่แข่งอย่าง Pizza Hut ตอบโต้ด้วยโปรโมชั่นพิซซ่าถาดกลางราคา 98 บาท ในวันถัดมา โดนออกโปร พิซซ่าถาดกลางหมวดเลิฟเวอร์ ราคาเพียง 98 บาท ที่ถูกกว่าคู่แข่งเพียง 1 บาทแถมยังจัด  2 วันเต็ม เรียกว่าบัฟกันแบบสุด ๆ ขิงกันแบบไม่ยอมแพ้ ซึ่งเป็นการตลาดแบบ Real-time Content แบบบุปปัป

การตลาด Pizza

แต่ Pizza Hut เตรียมตัวมาอย่างดี เพราะไม่ใช่ว่าเดินไปที่ร้านแล้วจะซื้อได้เลย ต้องสั่งซื้อสั่งล่วงหน้าที่เน้นย้ำว่า ‘วันนี้เท่านั้น’ วันที่ 22 พฤษภาคม 2567 เวลา 13.00-18.00 น. แล้วไปรับสินค้าได้ในวันที่ 23-24 พฤษภาคม 2567

สงคราม การตลาด Pizza นี้ สร้างความฮือฮาให้กับผู้บริโภค กระตุ้นให้เกิดการซื้อ และเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าที่ได้ซื้อพิซซ่าในราคาประหยัด แสดงให้เห็นถึงพลังของกลยุทธ์ราคาและการใช้โซเชียลมีเดียในการส่งสาร

การตลาด Pizza

โดมิโน่ส์ ขาย Pizza ไม่ขายขิง โดนใจชาวเน็ต

สงครามโปรโมชั่น Pizza ดุเดือด 2 แบรนด์ดัง “พิซซ่าฮัท” และ “เดอะ พิซซ่า คอมปะนี” ต่างงัดไม้เด็ดลดราคาพิซซ่าถาดละไม่ถึง 100 บาท เล่นเอาลูกค้าแห่กันสั่งซื้อจนระบบล่ม

หลายคนจึงจับตาดู “โดมิโน่ส์พิซซ่า” ว่าจะร่วมศึกครั้งนี้ด้วยหรือเปล่า ปรากฏว่า โดมิโน่ส์ฯ เลือกที่จะไม่ลดราคา แต่สร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการโพสต์ข้อความสุดแซ่บว่า “โดมิโน่ส์ขายพิซซ่าไม่ขายขิง” พร้อมติดแฮชแท็ก #โดมิโน่ส์ขายพิซซ่าไม่ขายขิง ️

แค่ประโยคสั้นๆ แต่โดนใจชาวเน็ตเต็ม ๆ ยอดคอมเมนต์และแชร์พุ่งกระฉูด หลายคนชื่นชอบแฮชแท็กที่สื่อชัดเจนว่า “เราไม่ลดราคาแบบนั้น แต่เรามีของดีที่พิเศษกว่า” โดมิโน่ส์ฯ เล่นกลยุทธ์ได้ฉลาด เก๋ไก๋ เข้าใจลูกค้า ไม่ต้องลดราคาแต่ก็สร้างกระแสดึงดูดความสนใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สงครามพิซซ่าครั้งนี้ ใครจะเป็นผู้ชนะ ต้องรอดูกันต่อ!

แบรนด์เกาะกระแส สงครามการตลาด Pizza สร้าง Real-time Content

Real-time Content คือ คอนเทนต์เรียลไทม์ หมายถึง คอนเทนต์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อตอบสนองต่อเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้นในปัจจุบัน หรือกระแสที่ผู้คนกำลังให้ความสนใจ โดยแบรนด์หรือครีเอเตอร์จะนำเสนอเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้น ๆ ในรูปแบบที่สดใหม่ ทันต่อสถานการณ์

Real-time Content ช่วยเพิ่มเอ็นเกจเมนต์ให้แบรนด์อย่างไร?

Real-time Content ดึงดูดความสนใจ ช่วยให้แบรนด์ของคุณโดดเด่น ทันสมัย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่กำลังให้ความสนใจกับเหตุการณ์นั้นๆ อยู่ สร้างการมีส่วนร่วม ช่วยกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นการไลก์ แชร์ คอมเมนต์ หรือพูดคุยเกี่ยวกับแบรนด์

และสร้างภาพลักษณ์ที่ดี แสดงให้เห็นว่าแบรนด์ของคุณใส่ใจ ติดตามความสนใจของลูกค้า สร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัย เข้าถึงง่าย และเพิ่มยอดขาย เพราะ Real-time Content บางประเภท สามารถกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อได้ทันที

Real-time Content ไม่ใช่แค่การตามกระแส แต่ต้องมีกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด

แบรนด์ควรเลือกประเด็นที่เหมาะสม เลือกประเด็นที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ กลุ่มเป้าหมาย และ สื่อสารได้อย่างสร้างสรรค์และทันเวลา Real-time Content ต้องรวดเร็ว ทันเหตุการณ์ และ สร้างสรรค์ ดึงดูดความสนใจ เพื่อติดตามผลและวิเคราะห์: วัดผลประสิทธิภาพของ Real-time Content นำมาปรับปรุงพัฒนาในครั้งต่อไป

Real-time Content เป็นกลยุทธ์ที่มีแบรนด์ไม่ควรมองข้าม ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สร้างการมีส่วนร่วม และ ดันยอดเอ็นเกจเมนต์ให้พุ่งกระฉูด!

สงครามการตลาด Pizza ครั้งนี้ แสดงให้เห็นพลังของ “Real-time Content” แบรนด์ที่สามารถจับกระแส สื่อสารได้อย่างชาญฉลาด ย่อมสร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่า สำหรับแบรนด์อื่น ๆ ถือเป็นบทเรียนและแรงบันดาลใจ ในการนำ Real-time Content มาใช้เพื่อเพิ่มเอ็นเกจเมนต์ กระตุ้นยอดขาย และสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับแบรนด์

การตลาด Pizza

บทสรุป สงครามการตลาด Pizza

สงครามการตลาด Pizza แสดงให้เห็นถึงการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดอาหารฟาสต์ฟู้ด ผู้บริโภคเป็นผู้ได้ประโยชน์จากโปรโมชั่นราคาพิเศษ แต่ในท้ายที่สุด ผลกระทบระยะยาวต่อธุรกิจจะเป็นอย่างไร ยังต้องรอดูกันต่อไป

แคมเปญครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงกลยุทธ์การตลาดที่แบรนด์ใช้อย่างดี ดึงดูดใจผู้บริโภคด้วยโปรโมชั่นสุดคุ้มค่า แต่ สงครามนี้ จะจบลงที่ใครเป็นผู้ชนะ หรือเป็นผู้แพ้ คงไม่ใช่คำตอบที่ตายตัว เพราะเป้าหมายสูงสุดของธุรกิจไม่ได้อยู่ที่การแข่งขันระยะสั้น แต่ อยู่ที่การครองใจผู้บริโภค

แบรนด์ใดที่มุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุด ให้กับลูกค้า ใส่ใจ คุณภาพสินค้าและบริการ รับฟังเสียงของผู้บริโภคย่อมจะก้าวขึ้นเป็นผู้ชนะใน “สงครามใจ” ของลูกค้า แคมเปญ โปรโมชั่น แม้จะสร้างสีสันและกระแสตื่นเต้น แต่ ความประทับใจ ที่เกิดขึ้นจาก สินค้าและบริการที่ดี ต่างหากที่จะสร้างความผูกพันธ์ และ เหนี่ยวรั้งลูกค้า ไว้กับแบรนด์ได้อย่างยั่งยืน

สงครามการตลาด Pizza นี้อาจจะเป็นแค่ กลยุทธ์เรียกความสนใจแต่ หัวใจของธุรกิจ อยู่ที่การสร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้าแบรนด์ใดที่เข้าใจหัวใจนี้ ย่อมจะเป็นผู้ชนะที่แท้จริง

สำหรับใครที่อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนด้วยนะคะ

Issariya Ittiphumtana

"เฟ'ริน " Junior Marketing Content Creator การตลาดวันละตอน สายออกแบบกราฟฟิก ที่กำลังฝึกเขียนบทความการตลาด ซึ่งมีความชื่นชอบดื่มชาเขียวเป็นชีวิตจิตใจ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

แบรนด์บ้านในฝันของคุณคือ...