คำถามสำคัญคือ สื่อเก่าอย่างสิ่งพิมพ์นิตยสารจะปรับตัวให้เข้ากับยุคดิจิทัลมากขึ้นอย่างไร ที่ไม่ใช่แค่การปรับเปลี่ยนรูปแบบให้กลายเป็นเว็บ เป็นเฟซบุ๊กแฟนเพจ หรือเป็นแค่ digital content เท่านั้น โดยเฉพาะในยุค data ที่มีให้ใช้กันอย่างล้นเหลือมากมายมหาศาลทุกวันนี้
Hearst บริษัทเจ้าของนิตยสารชื่อดังหลายหัวที่เราคุ้นเคย ไม่ว่าจะ Marie Claire, Cosmopolitan, Elle หรือ Women’s Health กำลังปรับรูปแบบนิตยสารใหม่ให้เข้ากับยุคดิจิทัล ด้วยการประยุกต์ใช้ data ของผู้อ่านและสมาชิกบนออนไลน์ในการกำหนดว่านิตยสารฉบับหน้าจะมีโฆษณาอะไรในเล่มบ้าง
ด้วยการร่วมมือกับบริษัท MagMatch ที่ให้บริการวิเคราะห์ data เพื่อคาดการณ์พฤติกรรมความชอบของกลุ่มเป้าหมายแล้วแบ่งออกมาเป็นกลุ่มๆ เพื่อให้ธุรกิจสามารถเอาไปทำการตลาดแบบเฉพาะคน หรือ personalized marketing ได้ดียิ่งขึ้น โดยมีทีมงานเป็น data scientist มากมาย รวมถึงนักวิจัยและนักวิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์ ทำให้สื่อเก่าอย่างนิตยสารอาจจะเริ่มกลับมาเห็นทางสว่างขึ้นอีกครั้ง
ตัวอย่างที่เกิดขึ้นแล้วในนิตยสาร ELLE ที่พบว่าผู้อ่านของนิตยสารนี้กำลังสนใจในครีมบำรุงผิวลดริ้วรอยในเดือนที่ผ่านมา ทำให้นิตยสารในฉบับของเดือนนี้ที่พิมพ์ออกมาเป็นครีมลดริ้วรอยดังภาพที่เห็น
และถ้าคุณคิดว่านี่ว้าวแล้ว ผมยังมีที่ว้าวมากกว่านั้นให้คุณทึ่งอีก เพราะการ personalized ad ยังไม่หมดแค่นี้ เพราะถ้าคุณสังเกตดูให้ดีจะเห็นว่า โฆษณาชิ้นนี้มีการพิมพ์ชื่อคนใส่เข้าไปด้วย และชื่อคนที่คุณเห็นนั้นก็คือชื่อของคนอ่านครับ! ซึ่งชื่อของสมาชิกของเล่มนี้ก็คือ Maris นั่นเอง
สุดท้ายนี้ผมอยากจะบอกว่า ถ้าธุรกิจที่เป็นโลกเก่าสุดขั้วอย่างนิตยสารยังสามารถหาทางประยุกต์ใช้ data เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดและเพิ่มมูลค่าได้ แล้วทำไมธุรกิจคุณถึงจะใช้ประโยชน์จาก data และจะทำการตลาดแบบ personalzied marketing ไม่ได้