การตลาด Lifebuoy เปลี่ยนแพ็กเกจสบู่เป็นเทอร์โมมิเตอร์ ปรึกษาหมอฟรี

การตลาด Lifebuoy เปลี่ยนแพ็กเกจสบู่เป็นเทอร์โมมิเตอร์ ปรึกษาหมอฟรี

ในบทความนี้จะพาทุกคนมาดู การตลาด Lifebuoy แบรนด์สบู่ที่เปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งธรรมดาให้กลายมาเป็นเทอร์โมมิเตอร์ จนทำให้เกิดการปรึกษาแพทย์ฟรีที่อาจช่วยชีวิตผู้คนได้ถึง 300,000 ครั้ง อีกหนึ่งตัวอย่างแคมเปญที่จับ Creative Idea มาใส่ในการออกแบบแพ็กเกจจิ้ง ที่ทำให้ยิ่งจึ้ง และส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดีขึ้น รวมถึงได้ช่วยเหลือผู้คนได้แบบแท้จริงด้วยนั่นเอง

‘ไข้’ อาการเริ่มต้นของโรคที่เป็นสาเหตุของการเสียชีวิต

ต้องบอกกันก่อนว่าในประเทศอินโดนีเซียมีอัตราการเสียชีวิตสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยจากข้อมูลของ Unicef เด็กเสียชีวิตก่อนอายุ 5 ปี สูงถึง 1 ใน 10 คน และ 3 ใน 4 ของการเสียชีวิตเกิดขึ้นตั้งแต่ใน 1 ปีแรก

นอกจากนี้ มีการประมาณการว่าผู้หญิงชาวอินโดนีเซีย 6 ล้านคน ต้องไปอาศัยและทำงานในต่างประเทศเพื่อหาเลี้ยงครอบครัว ให้ลูก ๆ อยู่ในการดูแลของพ่อที่ก็ไม่ค่อยมีเวลาว่างเพราะทำงาน หรืออยู่กับญาติผู้สูงอายุที่ร่างกายไม่ได้แข็งแรงมากนัก หรือคนดูแลที่ไม่ใช่ญาติก็ตามแต่

อีกทั้งอัตราส่วนแพทย์ต่อผู้ป่วยในอินโดนีเซียมีสัดส่วนที่ต่ำเพียง 0.6:1000 ซึ่งเรียกได้ว่าต่ำกว่ามาตรฐานขององค์การอนามัยโลกที่ 1:1000 ยิ่งทำให้เด็ก ๆ มีความเสี่ยงมากขึ้น

โดยโรคปอดอักเสบ โรคท้องร่วง หรือโรคที่เป็นมาแต่กำเนิด เป็นสาเหตุการเสียชีวิตที่ใหญ่ที่สุดของเด็กอินโดนีเซียที่อายุต่ำกว่า 5 ปี ซึ่งอาการเริ่มต้นของทั้งสามโรคนี้คือการเป็นไข้ นี่แหละค่ะจึงเป็นที่มาของ การตลาด Lifebuoy ที่สรรหาวิธีที่ง่ายและสะดวกในการตรวจจับอุณหภูมิที่สูงขึ้น ยิ่งในกรณีที่ไม่มีแม่คอยสัมผัสหน้าผากเด็ก

การตลาด Lifebuoy Diagnosticker พร้อมสแกน QR ปรึกษาแพทย์ฟรี

โดยการออกแบบแพ็กเกจจิ้งสบู่ให้เป็นเทอร์โมมิเตอร์แบบสติกเกอร์ที่ใช้ซ้ำได้เรียกว่า Diagnosticker ซึ่งผลิตโดยใช้หมึกที่ไวต่อความร้อน ช่วยให้สามารถอ่านสัญญาณเริ่มต้นของไข้ได้แบบง่าย ๆ และแม่นยำ

ทั้งนี้ Lifebuoy ยังร่วมมือกับ Halodoc แพลตฟอร์มสุขภาพดิจิทัล ทำให้สติกเกอร์ยังมีรหัส QR ที่ให้ผู้ใช้สามารถสแกนเพื่อวิดีโอคอลปรึกษาแพทย์ได้ฟรี รวมถึงรับใบสั่งยาที่ถูกต้องได้อีกด้วย

ทั้งหมดทั้งมวลแคมเปญนี้สร้างสรรค์ขึ้นโดยเอเจนซี Edelman สิงคโปร์ และเปิดตัวในเดือนมกราคม 2024 ที่ผ่านมานี้เองค่ะ โดยผลลัพธ์ของแคมเปญนวัตกรรมนี้ส่งผลให้เกิดการปรึกษาแพทย์ฟรีที่อาจช่วยชีวิตคนได้ถึง 300,000 ครั้ง

จนถึงปัจจุบัน Lifebuoy ได้แจกจ่ายผลิตภัณฑ์ 50,000 แพ็กทั่วอินโดนีเซีย โดยมีส่วนร่วมกับประชาชน 200,000 คนในหมู่บ้านชุมชนต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ใน Sukjadi, Cibiru และ West Java ส่งผลให้เข้าถึงผู้คนได้มากกว่า 335.8 ล้านคนเลยทีเดียว

ขยายจุดยืนของแบรนด์ สู่เป้าหมายที่สูงกว่าเดิม

ด้วยความที่ Lifebuoy เป็นแบรนด์สบู่ที่เน้นด้านสุขอนามัย หรือพูดให้เข้าใจง่ายคือเป็นสบู่แอนตี้แบคทีเรียชั้นนำของโลกมาอย่างยาวนาน ที่เปิดตัวมาตั้งแต่ในช่วงประมาณปี 1800 เพื่อป้องกันอหิวาตกโรค ด้วยการล้างมือด้วยสบู่แอนตี้แบคทีเรียในราคาที่เข้าถึงได้ และเรียกว่าสำหรับในอินโดนีเซีย สบู่ Lifebuoy ก็เป็นที่น่าไว้วางใจอยู่แล้ว

แคมเปญนี้ก็เหมือนทำให้ Lifebuoy ได้ปรับแนวคิดขยายจุดยืนของตัวเอง ในแง่ของจากการเป็นผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด เน้นสุขอนามัย ก็พัฒนาไปสู่เป้าหมายที่สูงกว่าเดิมคือการเข้าถึงเรื่องสุขภาพของคนในอินโดนีเซียได้มากยิ่งขึ้นไปอีก

ยิ่งเรื่องของการล้างมือและสุขอนามัยทั่วไป เป็นสิ่งสำคัญขั้นพื้นฐานในการช่วยเสริมสร้างสุขภาพที่ดี จึงยิ่งเป็นเหตุผลทางธุรกิจด้วยเลยในการที่ Lifebuoy จะก้าวเข้าสู่ตลาดสุขภาพที่กว้างขึ้น

และยิ่งขายสบู่ Lifebuoy ได้มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีเทอร์โมมิเตอร์และการเข้าถึงการแพทย์ได้ฟรีมากขึ้น ซึ่งมันอาจจะทำให้เราได้ชีวิตผู้คนได้มากขึ้นเช่นกัน สรุปแล้วคือเป็นจุดยืนของแบรนด์ที่มากไปกว่าการเป็นสินค้าด้านสุขอนามัย แต่สร้างคุณค่าทั้งทางร่างกายและจิตใจให้กับชาวอินโดนีเซีย เป็นสถานการณ์ที่ Win Win กันทุกฝ่ายได้ประโยชน์

Creative Idea ที่สร้างความน่าเชื่อถือในตลาด

ถือเป็นอีกหนึ่งแคมเปญที่จับ Creative Idea มาใส่ในการออกแบบแพ็กเกจที่ยิ่งส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดีขึ้น รวมถึงได้ช่วยเหลือผู้คนได้แบบแท้จริง เพราะก่อนอื่นเลยใครจะคิดว่าแพ็กเกจจิ้งสบู่ธรรมดา ๆ จะมาเกี่ยวข้องกับเทอร์โมมิเตอร์วัดไข้ได้?!

ความร่วมมือในมุมการแพทย์ระหว่าง Lifebuoy กับ Halodoc ในแคมเปญนี้ ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ Lifebuoy สำหรับตลาดสุขภาพในวงกว้างมากขึ้น

ทั้งยังทำให้คนตระหนักและเห็นถึงความสำคัญในเรื่องของสุขภาพกันมากขึ้น เพราะเป็นเรื่องใกล้ตัวที่คนเข้าถึงได้ง่าย ๆ เหมือนกับการซื้อสบู่ในชีวิตประจำวันอยู่แล้วอะไรทำนองนั้นค่ะ จนกลายเป็นแบรนด์ที่น่าเชื่อถือสำหรับชาวอินโดนีเซีย

และถ้าสามารถสร้าง Touch Point ด้านสุขภาพกับชาวอินโดนีเซียได้มากเท่าไร ก็จะยิ่งทำให้คนมองว่าเป็นแบรนด์และผลิตภัณฑ์ที่น่าเชื่อถือ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเราสามารถสร้างความไว้วางใจได้ ก็จะดีกับแบรนด์ในระยะยาวได้แบบยั่งยืนมากยิ่งขึ้น

การตลาด Lifebuoy เปลี่ยนแพ็กเกจสบู่เป็นเทอร์โมมิเตอร์ ปรึกษาหมอฟรี

เป็นยังไงกันบ้างคะสำหรับบทความนี้ที่ได้พาทุกคนมารู้จักกับการตลาด Lifebuoy ที่ครีเอทไอเดียเปลี่ยนแพ็กเกจจิ้งสบู่ธรรมดา ๆ ให้กลายมาเป็นเทอร์โมมิเตอร์แบบสติ๊เกอร์ที่ใช้วัดไข้ได้จริง พร้อมทั้งยังสแกนปรึกษาคุณหมอได้ฟรี

เป็นการรู้จักเข้าใจจับ Creative Idea และนำมายกระดับแบรนด์ตัวเอง จากการเป็นสินค้าด้านสุขอนามัยธรรมดาให้สอดคล้องกับการก้าวเข้าสู่ตลาดสุขภาพที่กว้างขึ้น ซึ่งก็จะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจได้ในระยะยาว

หวังว่าบทความนี้จะช่วยสร้างไอเดียและเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ แล้วมาเจอกันใหม่ในบทความหน้า ฝากติดตามด้วยนะคะ และทุกคนสามารถติดตามบทความด้านการตลาดเพิ่มเติมได้จากเพจการตลาดวันละตอนที่ เว็บไซต์  Facebook  Instagram  Twitter Youtube ได้เลยค่า

Source

Fern Panassaya

เฟิร์น Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอน รักแมวอ้วนและหมาโกลเด้น ตั้งใจสร้างสรรค์ทุกผลงาน ฝากเป็นกำลังใจและติดตามคอนเทนต์ใหม่ ๆ ต่อจากนี้ด้วยค่ะ <3

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

แบรนด์บ้านในฝันของคุณ คือ...