แบรนด์ Vitamins บุกตลาดเกมเมอร์

Redoxon แบรนด์ Vitamins บุกตลาดเกมเมอร์ Free Fire

เมื่อช่วงต้นปี 2021 ที่ผ่านมา Redoxon หรือแบรนด์ Vitamins บุกตลาดเกมเมอร์ Free Fire ด้วยไอเดียเจ๋งๆ เพลินเห็นแล้วอดใจไม่ไหวขอหยิบแคมเปญนี้มาเป็น Case Study มาเล่าสู่กันฟังค่ะ เพราะนอกจากไอเดียที่แบรนด์ต้องการเข้าหากลุ่ม Young Consumers ในเกมสตรีมมิงแล้ว ยังมีเรื่องของกฎหมายของอุตสาหกรรมนี้ที่มีข้อห้ามมากมายที่สุดท้ายแบรนด์ก็สามารถเจรจาแล้วทำแคมเปญนี้ขึ้นมาได้ด้วยค่ะ

ก่อนอื่นต้องบอกว่า Redoxon เนี่ยเค้าเป็นแบรนด์ Vitamin C ของบริษัท Bayer ที่มีจุดประสงค์หลักคือต้องการขยายตลาดเข้าสู่ลูกค้าใหม่ๆ ที่เป็นกลุ่มเด็กรุ่นใหม่มากยิ่งขึ้น ซึ่งจาก Insight ที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนี้มักออนไลน์อยู่ในเกมกัน เค้าก็ไปทำ Research เพิ่มว่า แล้วเกมอะไรละที่กลุ่มเป้าหมายชอบเล่นกัน จนสุดท้ายออกมาเป็นเกมสุดฮิตอย่าง Free Fire ที่ในไทยเราเองก็มีผู้เล่นไม่น้อยเลยด้วย

สิ่งที่แบรนด์ Redoxon ได้ทำร่วมกันกับเอเจนซี่และพาร์ทเนอร์อย่าง Garena ที่เป็นผู้ผลิตเกม Free Fire ก็คือการใส่คุณบัติของวิตามินซีเข้าไปในเกมผ่านการสร้างทีม Defense Squad หรือสควอดแข็งแกร่งขึ้นมาหนึ่งทีม ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทีมสควอชนี้เป็นเหมือน คนที่มีภูมิคุ้มกันตามคุณสมบัติของวิตามินซี โดยกลุ่มสควอชนี้นั้นล้วนแต่เป็นเกมเมอร์อันดับต้นๆ ของวงการ Free Fire หรือเรียกในภาษาการตลาดอีกอย่างก็คือกลุ่ม Influencers ที่มีคนติดตามเยอะๆ ขณะสตรีมเกมนั่นเองค่ะ

หน้าที่หลักของกลุ่ม Defense Squad ก็คือการสตรีมเกมให้คนที่ติดตามอยู่ได้ชม แต่การสตรีมครั้งนี้จะไม่เหมือนครั้งก่อนๆ เพราะกลุ่มมือฉมังเหล่านี้จะไม่ได้เล่นเฉยๆ แต่จะต้องเข้าไปช่วยกลุ่มผู้เล่นสายธรรมดาที่อาจจะยังเล่นไม่เก่งมาก หรือถึงขั้นมือใหม่ให้อยู่ในเกมได้นานขึ้น ไม่ตายหรือจบเกมเร็วไปเสียก่อน ทั้งนี้ขณะ Live Stream เหล่าอินฟลูในสควอดก็จะพูดถึงเรื่อง Immune System หรือการที่เรามีระบบภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงควบคู่ไปด้วยในสไตล์ของตนเอง

ซึ่งแคมเปญในครั้งนี้ของ Redoxon นั้น ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่ทั้งในรูปแบบ Tactics ที่ใช้ ร่วมไปถึงการมอบประสบการณ์ใหม่ๆ ให้กับคนที่เล่นเกม Free Fire อยู่ด้วย ซึ่งหลักจากที่แคมเปญจบไปก็พบว่า เหล่าเกมเมอร์หลายคนได้ออกมาพูดในเชิงที่พวกเค้า ‘เพิ่งเข้าใจถึงประโยชน์ของวิตามินที่แม่ชอบยัดเยียดให้ทานก็วันนี้’ ซึ่งก็ถือว่าเป็น Response ต่อแคมเปญที่ค่อนข้าง Positive เพราะถึงแม้ว่าพวกเค้าจะพูดออกแนวตลกๆ แต่นั้นก็เป็นสัญญาณที่บอกว่าพวกเค้าจดจำสินค้าได้ มีการพูดติดแฮชแท็กแบรนด์ในทวิตเตอร์เพิ่มขึ้น ฯลฯ

อย่างไรก็ตาม แคมเปญครั้งนี้ยังมีความท้าทายหลากหลาย เริ่มตั้งแต่การทำแคมเปญครอบคลุมตลาดทั้งหมด 4 ส่วนใหญ่ใน Latin America ตั้งแต่ประเทศ Peru / Ecuador / Mexico / และ Brazil ที่ใช้ภาษาต่างกันด้วยแล้ว ยังมีในส่วนของปัญหากฎหมายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย หากใครที่อยู่ในตลาดยาแบบนี้ก็น่าจะเข้าใจกันดีว่ามันไม่สามารถทำการขาย ทำการโฆษณาได้แบบโต้งๆ เหมือนสินค้าในอุตสาหกรรมอื่น ดังนั้นแบรนด์ Redoxon เค้าก็บอกเองเลยว่า เค้าเจรจากับทีมกฎหมายเยอะมากและสิ่งที่ช่วยได้คือเน้นการพูดถึงระบบภูมิคุ้นกันมากกว่าตัวสินค้าด้วย

โดยในส่วนของการบรีฟทีม Defense Squad ที่เป็น Influencers กระบอกเสียงในการเข้าถึงเหล่าเกมเมอร์ด้วยกันนั้น แบรนด์เค้าเองก็ไม่ได้สั่งการหรือมี Tagline อะไรให้พูดตามเลย มีแต่การเล่าให้ฟังถึงเรื่องภูมิคุ้มกันที่สำคัญและมีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างไรเท่านั้น แล้วสิ่งที่ Redoxon ทำคือการปล่อย Free Flow ให้เหล่า Influencers สามารถพูดอะไรก็ได้ตามใจพวกเค้า ให้พวกเค้าได้พูดภาษาของพวกเค้ากันเอง จนสุดท้ายก็ได้เป็น Content อะไรใหม่ๆ ที่แตกต่างจากแบรนด์พูดเองออกมาเยอะทีเดียวค่ะ

และทั้งหมดนี้ก็คือ Case Study ตัวอย่างที่น่าสนใจของ แบรนด์ Vitamins บุกตลาดเกมเมอร์ ไม่ว่าจะเป็นตลาดยา อาหารเสริม วิตามินทั้งหลาย เรียกได้ว่าต้องอาศัยความกล้าบ้าบิ่น และใจกว้างๆ ของลูกค้าร่วมด้วยในการคิดไอเดียสร้างสรรค์ที่พร้อมสร้าง Impact แบบนี้ เพราะต่อให้ไอเดียเราปังแต่ถ้าลูกค้าไม่กล้าเล่น ยังไงมันก็ยังคงเป็นไอเดียอยู่วันยังค่ำค่ะ แล้วถ้าหากถามว่าทำกับเกมสตรีมมิงแบบนี้แล้วคุ้มไหม ได้ยอดกลับมาเท่าไร? ก็ต้องบอกว่า เพราะจุดประสงค์คือการขยายฐานลูกค้าวัยรุ่นหน้าใหม่ ให้แค่รู้จักเราก่อน ดังนั้นเรื่องยอดขายมันเป็นเพียงผลพลอยได้เท่านั้น หาดจุดประสงค์ชัด Execution ก็จะชัดตามไปด้วยค่ะ ลองดูนะคะ

นอกจากแบรนด์วิตามินแล้ว ยังมีกลุ่มแบรนด์จำพวก Skincare และแบรนด์ High-end Luxury มากมายที่เข้าสู่ตลาดเกมมิงกันเยอะมาก นักการตลาดท่านใดสนใจอ่าน Case Study พวกนี้เพิ่มคลิกตรงนี้ได้เลยค่ะ

Source: Little Black Book

Marketing Strategic Planner ในเครือการตลาดวันละตอน | A Creator สาวพลัสไซส์ @Fabfatkid | A Travel Lover ที่หมดเงินเกือบ 80% ไปกับการเดินทางแบบแมสๆ | An Instagrammer @theplearn ที่ชอบเล่น Story เป็นชีวิตจิตใจ | สุดท้ายคือ Data Researcher ทั้ง Social และ Search Data etc. ค่ะ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *