Case Study

การตลาด Greene King สร้าง Occasional เพิ่ม Trafficในวันที่ปกติไม่มีลูกค้า

บทความนี้พามาดูแคมเปญการตลาดของ Greene King แบรนด์ผับชื่อดังจากสหราชอาณาจักร ที่หยิบวันที่ฝนตก ซึ่งปกติเป็นศัตรูของยอดขาย มาพลิกเป็นโอกาสในการดึงคนเข้าร้านแบบเหนือชั้น กับไอเดียสุด Creative ในแคมเปญ When It Rains, We Pour ที่แจกเบียร์ฟรีทุกครั้งที่ฝนตก พร้อมสร้าง การตลาด Occasional ใหม่ในวันที่คนไม่คิดจะออกจากบ้าน มาดูกันครับว่ากลยุทธ์เบื้องหลังนี้คืออะไร น่าสนใจขนาดไหน ติดตามได้ในทความเลยครับ

จุดเริ่มต้น ที่มาของ Campaign

แคมเปญ When It Rains, We Pour ของ Greene King เริ่มต้นขึ้นท่ามกลางฤดูใบไม้ผลิในสหราชอาณาจักร ซึ่งถือเป็นช่วงเวลาที่อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อยมากครับ บางวันแดดจ้าอุ่นใจ บางวันก็มีฝนโปรยลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัว สิ่งที่ตามมาคือพฤติกรรมผู้บริโภคที่แปรผันตามสภาพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอุตสาหกรรมผับหรือร้านขายเบียร์ที่ยอดขายจะพุ่งขึ้นเมื่ออากาศดี เพราะคนชอบออกมานั่งรับลมในลานเบียร์ แค่กลับลดลงแบบทันทีถ้าฝนตก

Greene King เห็นโอกาสในพฤติกรรมที่สวนทางนี้ จึงสร้าง Occasion ช่วงเวลาพิเศษที่เชิญชวนให้ผู้คนออกมาเฉลิมฉลองแม้ในวันที่ฝนโปรยปรายครับ จึงเป็นที่มาของแคมเปญ When It Rains, We Pour ที่ถูกออกแบบมาให้คนคิดว่า วันที่ฝนตกไม่ใช่อุปสรรคอีกต่อไป แต่กลายเป็นเหตุผลที่ดึงคนเข้ามายังร้านเพื่อรับเบียร์ฟรี 

แคมเปญนี้พลิกวิกฤตของสภาพอากาศให้เป็นโอกาสสำหรับการเพิ่ม Traffic ที่ใช้ของฟรีเป็นตัวกระตุ้นให้ผู้บริโภคปรับพฤติกรรม โดยสร้าง Occasion ใหม่ในมุมที่คนไม่คาดคิด นั่นคือออกไปดื่มในวันฝนตก ที่คนอังกฤษไม่ค่อยจะทำกันครับ

รายละเอียดของแคมเปญ When It Rains, We Pour

แคมเปญ When It Rains, We Pour จัดขึ้นระหว่างวันที่ 3-9 เมษายน 2025 โดย Greene King ร่วมกับเอเจนซี่ PR อย่าง Grayling UK ได้วางกติกาให้ทุกครั้งที่ฝนเริ่มตกตามจุดตรวจวัดที่กำหนด ลูกค้าของ Greene King ทั่วสหราชอาณาจักรจะได้รับสิทธิ์ดื่มเบียร์ฟรี ในช่วงเวลา 48 ชั่วโมงนับตั้งแต่ฝนหยดแรกลงมาครับ มาดูรายละเอียดแคมเปญแบบละเอียดกันดีกว่า

Trigger Points & Timing

หากมีฝนตกที่หนึ่งใน 5 จุดตรวจวัด (London, Bristol, Glasgow, Leeds and Birmingham) ระบบจะสั่งให้ทุกสาขาของ Greene King ทั่วประเทศแจกเครื่องดื่มฟรีทันทีนาน 48 ชั่วโมง ถ้าฝนตกในช่วง 8.00 น. – 20.00 น. โปรโมชั่นจะเริ่มต้นทันที แต่ถ้าฝนมาตอนหลัง 20.00 น. จะเลื่อนไปเริ่มในช่วงเวลาทำการของวันถัดไปครับ

เงื่อนไขการรับเครื่องดื่มฟรี

  1. ลูกค้าต้องสั่งเครื่องดื่มโดยใช้คำว่า “rain” และ “free drink” ในประโยคเดียวกัน เช่น “It’s raining, can I have a free drink?”
  2. จำกัด 1 แก้วต่อคนต่อวัน พร้อมมีการประทับตรา GK Stamp ที่มือเพื่อป้องกันการรับซ้ำ
  3. เลือกได้ทั้งเบียร์หลากประเภท (Lager, IPA, Ale) ไปจนถึงเครื่องดื่มไร้แอลกอฮอล์หรือ Soft Drinks ครับ

Communication

Greene King จับมือกับนักแสดงอย่าง Larry Lamb ทำรายการ “The Sipping Forecast” ผ่าน Instagram ของแบรนด์ทุกวันเวลา 12.48 น. เพื่อรายงานพยากรณ์ “โอกาสได้เบียร์ฟรี” กันแบบเรียลไทม์ สร้างทั้งความบันเทิงและกระตุ้นให้ผู้ติดตามลุ้นไปพร้อม ๆ กันครับ

การตลาด Occasional

แนวคิดหลักของแคมเปญนี้ คือ ไม่ว่าจะฝนตกหรือแดดออก ผับก็ยังเป็นจุดหมายที่น่าดึงดูด ด้วยการนำฝนที่ปกติเป็นตัวปัญหามาเป็นแกนกลางของแคมเปญการตลาด ทั้งยังสร้าง Occasional Drinking เพิ่มแรงจูงใจให้คนมากินดื่มในวันที่ปกติแล้วมักจะเงียบเหงาครับ

Strategy behind the campaign กลยุทธ์เบื้องหลังของแคมเปญ

1. Behavioral Economics ใช้พลังของ ‘ของฟรี’

อย่างที่เราเข้าใจกันดีของฟรีมักส่งผลต่อการตัดสินใจของผู้บริโภคอย่างมหาศาลครับ เพราะผู้คนเต็มใจเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อให้ได้มาซึ่งบางสิ่งแบบไม่เสียเงิน ซึ่ง Greene King ตั้งเงื่อนไขให้ฝนตกเป็นตัวกระตุ้น จึงเกิด Occasion ใหม่ คือไปดื่มในช่วงฝนตก ซึ่งปกติไม่ใช่เวลาที่คนจะคึกคักออกมานอกบ้าน

2. Occasional Marketing สร้างช่วงเวลาพิเศษ

ผับส่วนใหญ่มักจะไม่ค่อยมีลูกค้าเมื่ออากาศไม่ดี แคมเปญนี้จึงเปลี่ยนข้อเสียให้เป็นโอกาส ทำให้วันฝนตกกลายเป็นเหตุผลที่ต้องออกจากบ้าน แทนที่จะเก็บตัวอยู่ในที่ปลอดภัย ช่วยกระตุ้น Footfall ในช่วงเวลาที่ปกติขายได้ยากครับ

การตลาด Occasional

3. Customer Engagement & Retention เพิ่มการมีส่วนร่วมของลูกค้า

เมื่อผู้บริโภคเข้ามาในผับเพื่อรับเบียร์ฟรีแล้ว พวกเค้าก็มีแนวโน้มที่จะสั่งอาหารหรือเครื่องดื่มเพิ่ม หรือกลับมาอีกในวันรุ่งขึ้น แคมเปญออกแบบให้ลูกค้าเข้ามามีประสบการณ์ตรงกับ Greene King สร้างโอกาสให้แบรนด์จับกลุ่มลูกค้าใหม่ที่อาจกลายเป็นลูกค้าประจำได้อีกด้วยครับ

การตลาด Occasional

Source Source

สรุป การตลาด Greene King สร้าง Occasional เพิ่ม Traffic ในวันที่ปกติไม่มีลูกค้า

การตลาด Occasional
ขอบคุณภาพจาก Shutterstock AI Generator: a cozy pub glowing with warm lights, seen through a rain-speckled window, people laughing inside while it’s raining outside, moody atmosphere, cinematic lighting, shallow depth of field

การตลาด Greene King เพิ่ม Occasional ในวันที่ฝนตก เป็นกรณีศึกษาที่พิสูจน์ว่าข้อจำกัดบางอย่างสามารถพลิกเป็นโอกาสทองได้ หากเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและใช้แรงจูงใจที่แท้จริง Greene King เลือกใช้ของฟรีเป็นเครื่องมือ และผูกมันเข้ากับวันที่ฝนตกจนเกิดเป็นการตลาดเชิงพฤติกรรมที่มีประสิทธิภาพอย่างสูง 

ไม่เพียงช่วยกระตุ้นให้คนออกจากบ้านมาผับในวันฝนตก แต่ยังเพิ่มโอกาสทำกำไรพร้อมสร้างความสนุกและความจดจำให้กับลูกค้า เห็นได้ชัดว่าการจับ Occasional Marketing แบบตรงประเด็น สามารถยกระดับประสบการณ์ลูกค้าและทำให้แบรนด์เป็นที่พูดถึงได้อย่างมหาศาลเลยครับ

บทความที่แนะนำให้อ่านต่อ

Case Study, Drinking

ชื่อเติ้ลครับ เป็น Data Research Insight & Marketing Content Creator แห่งการตลาดวันละตอนครับ ^^ มีงานอดิเรกเป็นผู้ช่วยนักวิจัยฝั่ง Consumer Insights ที่คณะวิทยาศาตร์การกีฬา ที่จุฬาครับ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

บทความที่เกี่ยวข้อง

จากโจ๊กไม่น่ากินสู่แบรนด์ที่จริงใจ Quaker Oats กลยุทธ์ Reframe จุดอ่อน

FacebookFacebookXXLINELineต้องยอมรับว่าในยุคที่ภาพอาหารต้องดูดี เหมือนหลุดออกมาจาก Pinterest หรือ Instagram การเลือกโชว์อาหารที่หน้าตาไม่สวยงามอาจดูสวนกระแสและเสี่ยงต่อภาพลักษณ์แบรนด์ไม่น้อย แต่ไม่ใช่สำหรับ Quaker Oats แบรนด์โจ๊กอันดับหนึ่งจากสหราชอาณาจักร ที่กล้าใช้ความ “ไม่สวย” ของโจ๊กมาเป็นจุดเริ่มต้นของแคมเปญ Deliciously Ugly ที่ทั้งแหวกแนว และจริงใจ บทความนี้จึงจะพาวิเคราะห์แคมเปญจากโจ๊กไม่น่ากินสู่แบรนด์ที่จริงใจ Quaker Oats กลยุทธ์ Reframe จุดอ่อน ค่ะ โดยต้องบอกว่าแคมเปญนี้ไม่ได้แค่เรียกความสนใจด้วยภาพโจ๊กก้อน ๆ ขรุขระที่ไม่ผ่านการแต่งภาพใด ๆ แต่ยังเจาะลึกไปถึงหัวใจของผู้บริโภค ผ่านการสื่อสารแบบ Emotional Branding และกลยุทธ์ Reframe จุดอ่อน ที่พลิกจุดด้อยให้กลายเป็นจุดเด่นได้อย่างเฉียบคมอีกด้วยค่ะ ซึ่งความท้าทายของ Quaker Oats ไม่ใช่เรื่องรสชาติหรือคุณภาพของผลิตภัณฑ์ แต่คือ ภาพลักษณ์ภายนอก ของโจ๊กที่ดู “ไม่สวย” และขัดกับสิ่งที่คนยุคนี้คาดหวังจากอาหารบนหน้าฟีดโซเชียล แทนที่จะพยายามเปลี่ยนรูปลักษณ์ให้ดูดีเหมือนคู่แข่ง แบรนด์กลับเลือก “ยอมรับ” และ “ใช้” จุดอ่อนนี้เป็นหัวใจของการสื่อสารนั่นเองค่ะ Reframe Your Weakness เปลี่ยนความไม่น่ากินเป็นสิ่งที่ […]

Mywmint
Read more

การตลาด IKEA ทำ Personalized Marketing จากแบรนด์เฟอร์นิเจอร์สู่ผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับ

FacebookFacebookXXLINELineในวันที่คุณภาพการนอนหลับเป็นหนึ่งในหัวใจสำคัญของการดูแลสุขภาพ การตลาด IKEA จึงก้าวข้ามจากการเป็นแบรนด์เฟอร์นิเจอร์ สู่การผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนหลับที่เข้าใจชีวิตของผู้คนอย่างลึกซึ้งครับ บทความนี้พามาดูแคมเปญ Design Your Sleep While You Sleep ที่ตอบรับเทรนด์สุขภาพและไลฟ์สไตล์ยุคใหม่ ที่ผสานเทคโนโลยีวิเคราะห์การนอนเข้ากับแนวคิด Personalized Marketing เพื่อออกแบบสภาพแวดล้อมการนอนให้เหมาะกับแต่ละคนได้อย่างตรงจุดรายละเอียดเป็นยังไง กลยุทธ์เบื้องหลังแคมเปญเป็นแบบไหน ติดตามได้ในบทความนี้ได้เลยครับ จุดเริ่มต้น ที่มาของ Campaign ในยุคที่ผู้คนใส่ใจสุขภาพและความเป็นอยู่ของตนเองมากขึ้น เมื่อการนอนกลายเป็นปัจจัยด้านสุขภาพที่หลายคนให้ความสำคัญอย่างจริงจัง มูลค่าตลาดผลิตภัณฑ์เพื่อการนอน เช่น แอปพลิเคชันติดตามการนอน แหวนอัจฉริยะ เตียงนอน หรือแอปช่วยวิเคราะห์การนอนจึงเติบโตอย่างรวดเร็วครับ Statista รายงานว่าในปี 2025 ตลาดผลิตภัณฑ์ช่วยการนอนหลับทั่วโลกสร้างรายได้รวม 5.52 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คาดว่าจะเติบโตในอัตราต่อปี 4.77% (CAGR 2025-2029) ซึ่ง IKEA ตระหนักถึงเทรนด์การดูแลสุขภาพผ่านการนอนเป็นอย่างดี จากเทรนด์การเติบโตในอัตราที่น่าสนใจ จึงเป็นที่มาจองแคมเปญ “Design Your Sleep While You Sleep” ซึ่งแคมเปญนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อยกระดับบทบาทของ IKEA จากการเป็นเพียงผู้ขายเตียงและเครื่องนอน ให้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการนอนที่ผสมผสานแนวคิด […]

Tlee Krit
Read more

การตลาด The Ordinary ฉีกกรอบเขย่าวงการสกินแคร์ ด้วยการขายไข่ไก่

FacebookFacebookXXLINELineท่ามกลางยุคที่แบรนด์ต่างต้องงัดกลยุทธ์สุดแปลกเพื่อสร้างการจดจำ คงไม่มีใครคาดคิดว่าแบรนด์สกินแคร์มินิมัลอย่าง The Ordinary จะเลือกสร้างความฮือฮาด้วยการกระโดดข้ามเคาน์เตอร์ความงามมาขาย “ไข่ไก่สด” การเคลื่อนไหวสุดแปลกนี้เกิดขึ้นจริงในช่วงวิกฤตราคาไข่แพงในนิวยอร์กซิตี้ช่วงต้นปี 2025 จนกลายเป็นไวรัลชั่วข้ามคืน และจุดประเด็นถกเถียงทันทีว่า นี่คือสุดยอด การตลาด The Ordinary ที่ตอกย้ำตัวตนของแบรนด์ หรือเป็นแค่ Stunt เรียกกระแสที่มาเขย่าความน่าเชื่อถือของแบรนด์กันแน่? บทความนี้จะพาไปทุกคนเจาะลึกเบื้องหลังและผลลัพธ์ของแคมเปญที่ไม่ธรรมดานี้ เมื่อไข่กลายเป็นของแพงในนิวยอร์กซิตี้กลายเป็นโอกาสให้ การตลาด The Ordinary อันดับแรกเราคงต้องย้อนกลับไปดูสถานการณ์ราคาไข่ในสหรัฐอเมริกากันก่อน โดยเฉพาะในนิวยอร์ก ที่มันพีคขึ้นสุด ๆ ซึ่งก็เป็นผลพวงจากการระบาดของไข้หวัดนกในปี 2022 ที่ทำให้ไก่ล้มตายและต้องถูกกำจัดไปหลายล้านตัว ทำให้ปริมาณไข่ในตลาดไม่พอกับความต้องการของชาวเมือง สวนทางกับราคาที่พุ่งเอา ๆ ในช่วงต้นเดือนมีนาคม 2025 ที่ผ่านมา โดยราคาไข่หนึ่งแผง หรือ 12 ฟอง ก็เคยขึ้นไปสูงถึง 8.17 ดอลลาร์สหรัฐฯ และในซูเปอร์มาร์เก็ตบางที่อาจจะสูงถึง 10-12 ดอลลาร์ฯ สถานการณ์นี้บีบคั้นให้ชาวนิวยอร์กต้องปรับตัวกันยกใหญ่ ร้านขายของชำเล็ก ๆ บางแห่งถึงกับต้องแบ่งขายไข่เป็นฟอง ๆ เลยทีเดียว ทำให้การหาซื้อไข่ในราคาปกติหรือราคาถูกกลายเป็นเรื่องยากไปเลย ซึ่งสถานการณ์เหล่านี้เองก็สร้างความเดือดร้อนไปทั่ว และกลายเป็นประเด็นร้อนที่คนพูดถึงกันให้แซ่ดในช่วงเวลานั้น […]

Sundew
Read more