การทำโฆษณาให้คนดูว่ายากแล้ว แต่การทำโฆษณาเป็นซีรีส์ที่มีหลายตอนให้คนดูนั้นยากกว่า และที่ยากยิ่งกว่าคือต้องดีมากพอที่จะมีภาคต่อได้ เรามักเห็นผ่านภาพยนต์หลายเรื่องที่ภาคแรกดีแต่ภาคสองดับ กับโฆษณาก็เหมือนกันครับที่น้อยชิ้นงานนักที่จะได้มีภาคสอง เหมือนอย่างซีรีส์โฆษณาของไอศกรีม Nestlé Extreme Nama Salted Caramel ภาคสองนี้ ที่ได้ Result ดีจนภาคแรกที่ว่าดีแล้วยังต้องมอง
เพราะจากการจัดอันดับของ YouTube Ads Leaderboard ทั่วภูมิภาคเอเซียแปซิฟิกประจำเดือนมิถุนายน 2019 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าซีรีส์โฆษณาภาคต่อของไอศกรีม Nestlé Extreme Nama Salted Caramel นั้นติดอันดับด้วยยอดวิวสูงถึง 31.5 ล้านวิวด้วย เลยเกิดคำถามว่าทำไมโฆษณาชุดนี้ที่ไม่ได้มีถึงเรื่องเดียวในภาคแรก แต่มีถึงสี่เรื่องถึงประสบความสำเร็จมากพอจนส่งผลให้เกิดภาคสองได้
จนผมได้มีโอกาสสอบถามกับทีมครีเอทีฟบริษัท adapter digital ผู้คิดงานโฆษณา จนได้คำตอบว่า เพราะซีรีส์โฆษณาภาคแรกนั้นไม่ได้มีดีแค่ยอดวิวรวมกว่า 106.4 ล้านวิว แบ่งออกเป็น 83 ล้านวิวบน YouTube และ 23.4 ล้านวิวบน Facebook Fanpage แต่ยังส่งผลต่อยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาก นอกเหนือไปกว่านั้นด้วยความสนุกที่สอดแทรกไปด้วย Insight ที่ตรงจุดและโดนใจทำให้เกิดกระแสฟีดแบคที่ดีมากจากผู้บริโภคที่เรียกร้องอยากให้แบรนด์ทำภาคต่อหลังจากที่ปล่อยซีรีส์ภาคแรกปล่อยออกไป ทางลูกค้าไอศกรีม Nestlé เลยขอทำภาคต่อทันที นี่เลยเป็นทั้งความดีใจของทีมงานและความท้าทายที่มาพร้อมกัน
เพราะเมื่อภาคแรกทำได้ดีมากแล้ว ก็ยิ่งทำให้การทำภาคสองต่อมานั้นยิ่งเป็นโจทย์ที่ยากและท้าทายมาก ว่าจะทำอย่างไรให้คนดูภาคต่อรู้สึกสนุกมากยิ่งกว่า เพราะธรรมชาติของคนเราถ้าครั้งแรกดีแล้ว ครั้งที่สองถ้าดีเท่าเดิมก็จะกลายเป็นเฉยๆไป ทางทีมงาน Strategy, AE และ Creative เลยต้องทำงานหนักมากกว่าจะได้ออกมาเป็นผลงานภาคสองที่แรงยิ่งกว่า ซึ่งก็สามารถทำออกมาได้ดีกว่าที่ผู้บริโภคคาดหวังไว้อีกด้วย การันตีได้จากการที่ซีรีส์ภาคสองนี้ติดอันดับ YouTube Ads Leaderboard ของ APAC อันดับ 1 ของประเทศไทย ในเดือนมิถุนายน
โดยภาคต่อของซีรีส์โฆษณาชุดนี้นั้นยังคงเอกลักษณ์ความเป็น 4 ตอนเหมือนเดิม แต่ที่น่าสนใจกว่าเดิมคือซีรีส์โฆษณาภาคสองนี้กลับมีความยาวเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว! เพราะจากภาคแรกที่ยาวประมาณ 1 นาที แต่ภาค 2 นั้นยาวถึง 2 นาที (ไม่รู้ว่าภาค 3 จะยาว 3 นาทีมั้ย) แน่นอนว่านี่คือความท้าทายของฝั่งมีเดียว่าโฆษณาชุดนี้จะน่าสนใจพอที่คนจะดูจนจบมั้ย
และจากการสอบถามก็ได้คำตอบว่า แม้ซีรีส์โฆษณาภาคสองนี้จะยาวขึ้นอีกเท่าตัว แต่กลับมีอัตราการดูวิดีโอจนจบสูงถึง 30%! ซึ่งสูงกว่าโฆษณาทั่วไปที่ยาว 2 นาทีทั่วไปหลายสิบเท่ามากครับ
ซึ่งพอถามเคล็ดลับก็พบว่ามีรายละเอียดมากมาย ผมขอทยอยเล่าให้ฟังทีละส่วนแล้วกันครับ
เริ่มจากนักแสดงนำหลักที่เป็นผู้ชายที่เลือกมาจากความตั้งใจให้เป็นภาพแทนของกลุ่มเป้าหมายที่เป็นนักศึกษามหาวิทยาลัย หรือเด็กมัธยมปลายที่เรื่องราวชีวิตจะมี context ที่ใกล้ตัววนเวียนอยู่กับ ครอบครัว, เพื่อน และแฟน ทำให้เมื่อมีเดียยิ่งโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมาย ก็ยิ่งทำให้โอกาสในการกด skip ลดลง ทั้งยังทำอินจนเผลอดูจบไม่รู้ตัวมากมายครับ
จากนั้นก็เอา insight ที่คนไทยส่วนใหญ่สนใจเรื่องผีสางเข้ามา (จากโฆษณาตัวที่ติด YouTube Ads Leaderboard) แต่เอามาประยุกต์ให้กับเข้า digital lifestyle ที่นางกวักมี Instagram ของตัวเอง แถมยังมีการอัพ Story ด้วย
ตรงนี้ถ้าเจาะไปที่ insight ของ Gen Z ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายจะรู้ว่า เด็กวัยรุ่นในวันนี้เล่น Facebook น้อยลง และหันไปใช้ Twitter กับ Instagram มากขึ้น โดยเฉพาะการเล่น Story มากกว่าโพสรูป นับว่าเป็นรายละเอียดที่ทางทีมงานทำการบ้านมาอย่างดีครับ
และเมื่อถามถึงผลลัพธ์ของภาคสองนี้ก็ได้คำตอบว่า “ดีไม่แพ้เดิม” เพราะยังมีอัตราการดูจบที่สูงกว่า 30% และ Engagement ที่ไปในทางบวกเป็นส่วนใหญ่ บางส่วนถึงขนาดบอกว่าดูจบแล้วอยากไปซื้อมากินเลยก็มี รวมถึงยังมีบางคอมเมนท์ที่บอกว่า เป็นโฆษณาเดียวที่ตั้งใจเสิร์ชดูเพราะติดใจจากภาคแรก หาได้น้อยโฆษณานักที่จะทำให้คนรักได้แบบนี้ครับ
สุดท้ายผมถามคุณเอิร์ธ อรรถวุฒิ เวศรานุรักษ์ CEO ของ adapter digital ว่ารู้สึกอย่างไรที่ซีรีส์โฆษณาภาคสองของไอศกรีม Nestlé Extreme Nama Salted Caramel ประสบความสำเร็จอีกครั้งจนสามารถติดอันดับ YouTube Ads Leaderboard ประจำเดือนมิถุนายน 2019 นี้ได้ ทางคุณเอิร์ธให้คำตอบว่านี่เป็นรางวัลที่เหมาะสมกับลูกค้า Nestlé Ice Cream ที่บรีฟโจทย์ชัดเจน ให้โอกาสทีมงานของเราได้นำเสนอผลงานใหม่ๆ และกล้าในการเลือกไอเดียที่แตกต่างมา execute เพราะสิ่งที่ทาง adapter ให้ความสำคัญมาตลอดคือการสามารถช่วยธุรกิจลูกค้าให้ประสบความสำเร็จได้ เหมือนที่ซีรีส์โฆษณาทั้ง 2 ภาคที่ผ่านมาสามารถทำให้คนชอบในเนื้อหา และก็เกิดความประทับใจในแบรนด์ จนกระตุ้นให้เกิดการไปลองซื้อกินที่หน้าตู้จริง และก็ส่งผลให้ยอดขายให้เพิ่มขึ้นได้จริงๆครับ
จะเห็นว่าเคล็ดลับของการทำโฆษณาในวันนี้ไม่ใช่แค่ความ “ว้าว” ของไอเดีย แต่ต้องเป็นการสื่อสารที่สามารถสะกิดให้คนชมหรือกลุ่มเป้าหมายสามารถเกิดพฤติกรรมที่เราต้องการได้จริง เหมือนกับที่ซีรีส์โฆษณาภาคสองของไอศกรีม Nestlé Extreme Nama Salted Caramel นี้สามารถพาคนดูไปสู่หน้าตู้ไอศกรีมได้ ชื่นชมทั้งแนวคิดและวิธีการของทีมงาน adapter จริงๆครับ
ปล. ผมแอบถามทิ้งท้ายว่าแล้วภาค 3 จะเป็นอย่างไร คุณเอิร์ธบอกว่ายังบอกไม่ได้ในตอนนี้แต่ขอให้อดใจรออีกนิดแล้วจะรู้กันครับ
อ่านเนื้อหา #ไอศกรีมแห่งปี2019 ซีรีส์โฆษณาภาคแรกของไอศกรีม Nestlé Extreme Nama Salted Caramel เพิ่มเติม https://everydaymarketing.co/business/food/nestle-extreme-nama-salted-caramel-commercial-film-series-1/
ดูทั้ง 13 โฆษณา Asia-Pacific YouTube Ads Leaderboard June: 2019 ที่มีโฆษณาชิ้นนี้เพิ่มเติม https://everydaymarketing.co/media/commercial-film/asia-pacific-youtube-ads-leaderboard-june-2019/?shared_counts_refresh=1
โพสนี้ได้รับการสนับสนุนให้เขียนถึง แต่ผู้สนับสนุนไม่ได้มีส่วนในเนื้อหาการเขียนหรือชี้นำแต่อย่างไร
Source : https://www.campaignasia.com/article/asia-pacific-youtube-ads-leaderboard-june-2019/453122?eid=21&edate=20190717&utm_source=20190717&utm_medium=newsletter&utm_campaign=daily_newsletter&fbclid=IwAR25-yg6CmU2YBXnLBn2m9xswxVQYIxF-vw0wyZATsOIe0cCFFTml9cUGag