การตลาด April Fools Day ของ Duolingo ทำถึงจนมีเข้าชม 80 ล้านครั้ง

การตลาด April Fools Day ของ Duolingo ทำถึงจนมีเข้าชม 80 ล้านครั้ง

ในช่วงเทศกาลต่าง ๆ เรามักเห็นแบรนด์ออกมาทำการตลาดล้อไปกับเทศกาลนั้น ๆ April Fools Day ก็เช่นเดียวกัน มีแบรนด์มากมายออกมาทำ การตลาด April Fools Day ทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ แต่หนึ่งในแบรนด์ที่เรียกได้ว่าทำถึง ทำดีจนคนติดตามรอชมกันทุกปีก็คือ Duolingo ค่ะ

ทำความรู้จัก Duolingo

ต้องบอกว่า ถ้าใครเป็นสายภาษา หรือ ชอบเรียนเกี่ยวกับภาษา อาจจะคุ้นหูคุ้นตากันอยู่แล้ว เพราะ Duolingo เป็นแอปพลิเคชันและเว็บไซต์ยอดนิยมสำหรับการเรียนภาษาต่างประเทศค่ะ โดยมีจุดเด่นคือมีเนื้อหาครอบคลุมภาษาหลากหลายกว่า 30 ภาษา เช่น อังกฤษ สเปน ฝรั่งเศส เยอรมัน ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ฯลฯ เพื่อสำหรับคนที่ใช้ภาษาที่ต่างกันเป็นภาษาแม่ได้เรียนรู้

อย่างหากเราอยากลองใช้ก็สามารถใช้ภาษาไทยในการเรียนภาษาอังกฤษได้เลยค่ะ แล้วค่อยใช้ภาษาอังกฤษไปเรียนในภาษาอื่นเป็นต้นค่ะ

นอกจากนั้น Duolingo ยังให้บริการฟรี โดยผู้ใช้สามารถเรียนรู้ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย แต่จะมีระบบสมาชิกแบบเสียเงินเพื่อเพิ่มฟีเจอร์พิเศษอื่น ๆ ค่ะ และสิ่งที่ทำให้ Duolingo ได้รับความนิยมอีกหนึ่งข้อก็คือ เน้นการเรียนรู้แบบสนุกและเข้าใจง่ายผ่านบทเรียนสั้น ๆ มีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ เช่น แบบฝึกหัด เกม โดยเน้นการฝึกฝนทักษะ ฟัง พูด อ่าน เขียน ครบทุกทักษะเลยค่ะ

และ Duolingo เองก็มีระบบติดตามความคืบหน้าและกระตุ้นให้ผู้ใช้กลับมาเรียนเป็นประจำ เช่น Streak ที่บันทึกจำนวนวันที่เรียนติดต่อกันด้วยค่ะ พร้อมกับมีมาสคอตสุดฮิตเป็นนกฮูกสีเขียวชื่อ Duo ที่คอยให้กำลังใจและกระตุ้นให้ผู้ใช้เรียนอย่างสม่ำเสมอ และยังมีตัวละครอื่น ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ใน Duolingo ที่หากเราเข้าเรียนบ่อย ๆ แทบจะจำได้เกือบทุกตัวละครเลยค่ะ

ซึ่งจากที่กล่าวมาทำให้ Duolingo มียอดผู้ใช้กว่า 500 ล้านคนทั่วโลก ด้วยการตลาดที่สร้างสรรค์ ใช้มีมและอารมณ์ขันดึงดูดความสนใจ รวมถึงเน้นประโยชน์ของการเรียนรู้ภาษาใหม่อย่างต่อเนื่องด้วยค่ะ โดยจากจำนวนผู้ใช้ที่ค่อนข้างเยอะ ตรงนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ผู้ใช้จะคอยติดตามดู การตลาด April Fools Day ของ Duolingo ค่ะ

เพราะด้วยคาแรคเตอร์ของ Duolingo ที่เน้นการเรียนแบบใช้มีมและอารมณ์ขัน ทำให้ การตลาด April Fools Day ของ Duolingo ก็ทำออกมาได้จัดเต็มและเรียกเสียงหัวเราะกับคนดูได้ไม่น้อยเลยทีเดียวค่ะ อย่างล่าสุดเมื่อเมษายนที่ผ่านมา Duolingo ก็ได้ปล่อย Duolingo on Ice ออกมา ซึ่งบอกเลยว่าทำถึงแบบจัดหนักจัดเต็มมากค่ะ

อย่างที่ได้เล่าไปช่วงต้นว่ามีผู้ใช้มากมายตั้งตารอคอยการตลาดของ Duolingo เพราะในช่วง 6 ปีที่ผ่านมา Duolingo ทำให้ผู้ใช้และแฟน ๆ ตั้งตารอแคมเปญโฆษณาประจำวันเมษาหน้าโง่ (April Fool’s Day) ของแบรนด์ทุกปี จากการเล่นใหญ่ และมุกตลกที่สอดแทรกอยู่ในการตลาดนั้น ๆ

ในปีนี้เองก็เช่นกัน เพื่อสร้างความบันเทิงให้กับผู้ติดตามตัวยง และหลอกล่อผู้ใช้ใหม่ให้มาเรียนแบบสบาย ๆ ทำให้ในปี 2024 นี้ Duolingo ได้จับมือกับ Seat Geek ผู้ให้บริการจำหน่ายบัตรอีเวนต์ เพื่อโปรโมทการเปิดตัวละครเพลงในชื่อ Duolingo on Ice

เพื่อสร้างกระแส Duolingo ได้ปล่อยโฆษณาของ “ละครเพลงหลายภาษา” ชิ้นนี้ไปตามแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ในโฆษณามีการให้สัญญาว่า “การแสดงสเก็ตน้ำแข็งแบบร้องเพลงยาวถึง 4 ชั่วโมง” ที่แฟน ๆ จะได้ร้องตามเพลงอย่าง ‘Spanish or Vanish’ และ ‘French or the Trench’ ซึ่งเป็นการเล่นมุกตลกยอดฮิต ที่มาจากเรื่องที่มาสคอต Duo จะทำทุกวิถีทางเพื่อกดดันให้ผู้ใช้เรียนภาษาให้จบทุกวันค่ะ

นอกจากนั้นโฆษณายังระบุอีกว่าโชว์จะไม่มีช่วงพัก “เพื่อให้ความสนุกไม่มีสะดุด” พร้อมแสดงภาพที่ Duo ลักพาตัวแฟนคนหนึ่งที่เดินลงไปบนลานสเก็ตน้ำแข็งเพื่อมีส่วนร่วมกับผู้ชมค่ะ

การตลาด April Fools Day ของ Duolingo ทำถึงทำดีจนคนติดตามทุกปี

ซึ่งทาง Duolingo ทุ่มเทกับแคมเปญนี้อย่างเต็มที่ โดยได้มีการปล่อย playlist เพลงจากละครเพลงนี้บน Music Streaming ต่าง ๆ เช่น Spotify, Youtube Music, Apple Music และ Deezer อีกด้วยค่ะ

และสร้างหน้าอีเวนต์ปลอมบน Seat Geek ที่แฟน ๆ สามารถจองบัตรได้ทั้ง 12 รอบการแสดงที่จะมีขึ้นทั่วโลกด้วยค่ะ

การตลาด April Fools Day ของ Duolingo ทำถึงทำดีจนคนติดตามทุกปี

สำหรับใครที่เชื่อแล้วจะไปคลิกปุ่มจองบัตรบนหน้านั้น จะเจอข้อความว่า “Duolingo on Ice ถูกยกเลิกแล้ว! ด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งที่เราต้องประกาศยกเลิกการแสดง Duolingo on Ice เนื่องจากการฟ้องร้องแบบกลุ่ม (class action lawsuit) และข่าวลือในแง่ลบเกี่ยวกับพฤติกรรมของ Duo นกฮูก แต่อย่าลืมติดตาม Duo บน TikTok และ Instagram เพื่อรอสิ่งใหม่ที่จะตามมา!” นั่นเองค่ะ

การตลาด April Fools Day ของ Duolingo ทำถึงทำดีจนคนติดตามทุกปี

และเพื่อเป็นการบอกชัด ๆ ว่านี่คือแคมเปญหลอกลวงวัน April Fools Day ที่ด้านล่างของหน้านั้นมีข้อความกำกับว่า “Duolingo on Ice ไม่ใช่อีเวนต์จริงที่คุณจะสามารถเข้าร่วมได้ มันเป็นเพียงภาพลวงตาในจินตนาการของคุณเท่านั้น ทนายความของเราต้องคุกเข่าร้องไห้อ้อนวอนเราให้ชี้แจ้งว่าโชว์นี้เป็นแคมเปญหลอกล่อ (เหมือนกับสิ่งอื่นๆในสมัยนี้) เพื่อหลีกเลี่ยงผลทางกฎหมายที่ตามมา และขอเน้นย้ำว่าไม่มีเด็กหรือผู้ใหญ่คนใดได้รับบาดเจ็บจากการแสดงนี้ ไม่ว่าคุณจะได้อ่านเจอจากบนอินเทอร์เน็ตหรือไม่ก็ตาม”

แคมเปญนี้ผลิตโดยทีมมาร์เก็ตติ้งภายในของ Duolingo เปิดตัวในวันที่ 1 เมษายน 2024 พร้อมกิจกรรมบน TikTok, Instagram, Twitter, Facebook และ YouTube เพื่อโปรโมทหน้าจำหน่ายบัตรปลอมบน Seat Geek ทาง Duolingo ยังไปเช่าพื้นที่โฆษณาที่ไทม์สแควร์ในนิวยอร์กมาโปรโมทแคมเปญนี้อีกด้วยค่ะ

ขอบขอบคุณรูปภาพจาก José Luis Ramos

จากทั้งหมดจะเห็นได้ว่า Duolingo ได้พยายามอย่างหนักเพื่อแคมเปญ การตลาด April Fools Day นี้ และผลลัพธ์ที่กลับมาก็ออกมาดีสมกับการลงทุนลงแรงค่ะ

3 สัปดาห์หลังเปิดตัว แคมเปญนี้มียอดวิวแบบออร์แกนิกถึง 80 ล้านครั้ง

ภายใน 3 สัปดาห์หลังเปิดตัว แคมเปญนี้มียอดวิวแบบออร์แกนิกถึง 80 ล้านครั้ง จาก TikTok, Instagram, YouTube และการรายงานข่าวค่ะ ซึ่งก็เกิดจากการทุ่มเท และศึกษามาอย่างดีของ Duolingo เอง

อย่างที่บอกว่า Duolingo ทุ่มสุดตัวกับแคมเปญนี้ ทำให้สามารถแหวกกระแสแคมเปญวันเมษาหน้าโง่ของแบรนด์อื่น ๆ และสร้างความบันเทิงให้กลุ่มผู้ชมที่รอคอยอยู่ได้ แม้ตัวไอเดียของมินิซีรีส์อาจจะดูไร้สาระ แต่ Duolingo ก็ยังทำ playlist เพลงภาษาสนุก ๆ บน Spotify และจ้างนักเขียนบทละครเพลงและนักออกแบบท่าเต้นที่เคยได้รับ Emmy award 2 สมัยมาช่วยทำอีกด้วยค่ะ

จากนั้นจึงนำไปจับมือกับ Website ค้นหาบัตรอีเวนต์ที่ใหญ่ที่สุดอย่าง Seat Geek เพื่อทำให้ดูเหมือนเป็นอีเวนต์จริง สิ่งนี้ทำให้ไอเดียมีมิติและทำให้แฟน ๆ สับสนกับความเป็นจริง รวมทั้งยังเป็นเนื้อหาที่ผู้ใช้ หรือ แฟน ๆ สามารถมีส่วนร่วมและบอกต่อได้ ซึ่งปกติแล้วการจะสร้าง earned media และการพูดคุยแบบปากต่อปากให้กับแบรนด์ให้ได้มากที่สุดต้องทำสิ่งที่สนุก สิ่งที่ตลกจนทำให้คนหัวเราะได้นั่นแหละ ที่มักจะถูกแชร์ต่อมากที่สุดค่ะ

Duolingo พูดถึง การตลาด April Fools Day ว่า “สิ่งที่ดีคือเราทำแคมเปญแนวนี้ทุกปีตั้งแต่ปี 2019 มันเป็นแคมเปญหลักของเรา การมีช่วงเวลาสำคัญแบบนี้ในแต่ละปีที่กลุ่มเป้าหมายรอคอย เป็นวิธีที่ดีในการสร้างกระแส การเบลอเส้นแบ่งระหว่างจินตนาการกับความเป็นจริงช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับมุกตลกและอารมณ์ขัน เราพยายามทำให้ผู้คนประหลาดใจและมีความสุขเมื่อเจอพวกเราในที่ ๆ คาดไม่ถึง เมื่อเราใช้วิธีแบบนี้ตลอดทั้งปี ผู้คนก็จะอดสงสัยไม่ได้ว่า หรือว่ามันจะเป็นไปได้จริง ๆ หรือเปล่า?”

การตลาด April Fools Day เปรียบเสมือนดาบสองคม ด้านหนึ่ง ผู้คนคาดหวังเห็นแบรนด์ทำอะไรสนุก ๆ มากขึ้น จึงมีแนวโน้มที่จะให้ความสนใจหากสิ่งนั้นออกมาดีพอ แต่อีกด้านหนึ่ง แบรนด์หลายรายก็พยายามทำสิ่งเดียวกันพร้อม ๆ กัน ทำให้กลุ่มเป้าหมายรู้อยู่แล้วว่าจะเกิดอะไรขึ้น แล้วทุกอย่างออกมาเหมือนกัน

ดังนั้น การทำให้แบรนด์ของตัวเองโดดเด่นจึงทำได้ยาก ทำให้สิ่งที่ดีที่สุดคือการส่งมอบอะไรที่ดูมีการลงทุนมากพอจนทำให้คนสงสัยว่า เอ๊ะ นี่มันจริงหรือเปล่านะ? ซึ่งเป็นการพึ่งพาอคติทางพฤติกรรมแบบ costly signalling คือความเชื่อที่ว่า อะไรบางอย่างน่าจะเป็นของจริง หากมีคนยอมลงทุนกับมันเยอะขนาดนั้น

Costly Signalling
อะไรก็ตามหากมีคนยอมลงทุนกับสิ่งนั้นเยอะ
คนมักเข้าใจว่าสิ่งนั้นก็น่าจะเป็นของจริง(ของสำคัญ)

เช่นเดียวกับกรณีของ Duolingo การแสดงนั้นไม่ใช่เรื่องจริง แต่ความมุ่งมั่นที่จะสร้างความบันเทิงให้ผู้ชมนั้นเป็นของจริง จึงทำให้ Duolingo กล้าลงทุนเพื่อให้ผู้ชมมีความสุข และ ความบันเทิงที่สุดในแบบฉบับของ Duolingo ค่ะ

#3 Understand your audience and keep them engaged. เข้าใจผู้ชม และ ทำให้พวกเขามีส่วนร่วม

Duolingo on Ice สามารถดึงดูดความสนใจได้มาก ไม่ใช่แค่เพราะมันตลกสำหรับคนทั่วไป แต่เพราะเป็นการเล่นมุกตลกยอดฮิตที่แฟนตัวจริงของ Duolingo คุ้นเคย

อย่าง ‘Spanish or Vanish’ ซึ่งเป็นเพลงฮิตจากละครเพลงนี้ เป็นมีมของ Duolingo ที่แฟน ๆ สร้างขึ้นมาในช่องคอมเมนต์ใต้โพสต์ เมื่อ 6 ปีก่อน มีผู้ใช้บางคนพิมพ์ว่า ‘Spanish or Vanish’ ซึ่งหมายถึง ถ้าคุณไม่ทำบทเรียนภาษาสเปน Duo (มาสคอตนกฮูก) จะมาตามล่าคุณ ซึ่งคำพูดนี้ก็ดังกระฉ่อนในช่องคอมเมนต์ และได้กลายเป็นแรงบันดาลใจให้เกิด Video Viral ตามมาอีกหลายตัว นี่ก็เป็นตัวอย่างของแบรนด์ที่เข้าใจและ ใช้ Social Listening ให้เป็นประโยชน์

ซึ่งทั้งหมดนี้มาจากแนวคิดของ Duolingo ที่ว่า ‘โซเชียลมีเดียต้องมาก่อน’ ทำให้ในการทำการตลาดของ Duolingo จะใช้แนวทางแบบนี้ และใช้แรงสนับสนุนจากแฟน ๆ ทำให้ผู้ใช้ หรือ แฟน ๆ กลายเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์หรือตัวแทนแบรนด์

เพราะพวกเขามักจะแชร์ประสบการณ์ที่มีกับผลิตภัณฑ์ของ Duolingo และมีส่วนร่วมบนโซเชียล รวมทั้งเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างโพสต์บนโซเชียล และบางครั้งเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นบน TikTok และ YouTube มีจำนวนการเข้าถึงมากกว่าโพสต์ของ Duolingo เองด้วยซ้ำค่ะ

@justanormaldayofashie

กะ กะ กลัวที่ไหน อย่าทำผมเลยครับพี่ ผมกลับไปเรียนแล้ว #duolingo #duolingothailand

♬ original sound – แอชชี่ – วันธรรมดาๆ ของแอชชี่

ทำให้การสื่อสารกับกลุ่มแฟน ๆ แบบนี้ ไม่เพียงแต่ทำให้ Duolingo มั่นใจว่า การตลาด April Fools Day จะมีมุกตลกที่สร้างความบันเทิงให้กับแฟน ๆ ได้ แต่ยังเปิดโอกาสให้แฟน ๆ นำแคมเปญนี้ไปต่อยอด และสร้างเนื้อหาหรือ Post ของตัวเองขึ้นมาได้อีกด้วย ซึ่งก็จะก่อให้เกิดกระแสการบอกต่ออีกด้วยค่ะ

และทั้งหมดนี้ก็คือ การตลาด April Fools Day ของ Duolingo ทำถึงทำดีจนคนติดตามทุกปี หวังว่าทุกคนจะได้ไอเดียสำหรับการทำการตลาดยังไงให้มีคนติดตามและชื่นชอบเหมือนกับ Duolingo นะคะ

ถ้าชอบ หรือ สนใจอยากอ่านบทความด้านการตลาดแบบนี้อีก ผู้เขียนฝากติดตามด้วยนะคะ หรือ ถ้าใครอยากให้ผู้เขียนนำมุมมองการตลาดแบบไหนมาเล่าให้ฟัง สามารถคอมเมนต์บอกกันได้เลยนะคะ 

สำหรับนักอ่านที่ชอบ และ อยากอ่านบทความเกี่ยวกับการตลาดเพิ่มเติม รวมถึงข่าวสารด้านการตลาดต่าง ๆ สามารถติดตามได้จาก เพจการตลาดวันละตอน รวมไปถึงเว็บไซต์ Twitter Instagram YouTube และ Blockdit ของการตลาดวันละตอนได้เลยนะคะ แล้วพบกันใหม่ในบทความหน้าค่ะヽ(•‿•)ノ

Source Source Source Source

อยากอ่านบทความการตลาดเพิ่มเติม ลองเลือกอ่านบทความด้านล่างนี้ได้เลยนะคะ

Mywmint

มิวมิ้น เรียก มิ้น ก็ได้ค่ะ ● ⋏ ● เป็น Junior Marketing Content Creator ของการตลาดวันละตอนค่ะ รับบท Marketer ฝึกหัด ٩(◕‿◕)۶ ตั้งใจสรรสร้างทุกบทความ หวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์ และ ชอบนะคะ ขอฝากเนื้อฝากตัวไว้ด้วยฮะ ʕっ•ᴥ•ʔっ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *